บทที่ 12 สนธิสัญญาที่เกี่ยวข้อง   1/    
已经是第一章了
บทที่ 12 สนธิสัญญาที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 12 สนธิสัญญาที่เกี่ยวข้อง ทนายความท่องสนธิสัญญาที่เกี่ยวข้องทางกฏหมายอย่างชำนาญ เหงื่อผุดขึ้นมาภายในมือของโล่ยิ่งส่วย อย่างไม่หยุดหย่อน เกือบไปแล้วเชียว ถ้าหากปล่อยให้พวกตำรวจไปตรวจสอบลายนิ้วมือ และพบว่าผู้กระทำผิดที่แท้จริงคือน้องสาวเข้าละก็ น้องสาวของเธอคงไม่มีโอกาสได้ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดเสียแล้ว คุณหนานกงที่ว่านี่ช่วยเธอเอาไว้ได้มากเหลือเกิน “จากการสืบสวนของทางเรา คุณไม่เพียงแต่ขับรถฝ่าไฟแดง ซ้ำยังขับรถที่ควรแจ้งว่าชำรุดตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนด้วย ดังนั้น คุณจึงต้องรับผิดชอบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทั้งหมด” โล่ยิ่งส่วยพยักหน้าขอโทษ ถ้าหากเธอยืนหยัดต่อไปอีกสักหน่อย และไม่ยอมให้น้องสาวขับรถขนสินค้าแทนเธอ บางทีเรื่องราวแบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น เธอควรจะเปลี่ยนรถยนต์คันนั้นตั้งนานแล้ว เพียงแต่ว่าเธอยังต้องชดใช้เงินที่กู้ยืมมาตอนที่แม่ของเธอป่วย และยังต้องจัดเตรียมเงินค่าเล่าเรียนให้น้องสาวอีกด้วย ทำให้ในช่วงหลายปีมานี้ เธอไม่มีเงินเก็บเลยแม้แต่นิดเดียว จึงไม่สามารถซื้อหารถและเปลี่ยนเป็นคันใหม่ได้ แต่ทว่าธุรกิจของเธอก็ยังคงต้องทำต่อไป เธอจึงทำได้แต่เพียงเสี่ยง และใช้รถขนสินค้าคันเก่าที่ชำรุดแล้วต่อไปเท่านั้น ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอคนเดียว ทนายความนำเอกสารออกมาจากกระเป๋าอย่างเป็นการเป็นงาน และจัดเรียงวางไว้ตรงหน้าของโล่ยิ่งส่วย “นี่คือหนังสือสัญญาส่วนตัว คุณโล่สามารถอ่านได้ครับ ถ้าหากยอมรับข้อตกลงทั้งหมดได้ โปรดเซ็นชื่อของคุณลงในเอกสารด้วย ถ้าหากคุณไม่เห็นด้วย คุณสามารถร้องขอให้ผู้มีอำนาจเข้ามาจัดการกับเรื่องนี้ได้” “ฉันตกลง!” โล่ยิ่งส่วยไม่คิดอะไรทั้งนั้น และเซ็นชื่อของตัวเองลงไปในตำแหน่งฝ่าย ข ทันที “ดีมากครับ คุณโล่ยังต้องการอ่านรายละเอียดของเนื้อหาข้างต้นอีกไหมครับ” ทนายความมองดูโล่ยิ่งส่วยเซ็นชื่อของตัวอย่างพึงพอใจ และกล่าวเตือนเธอขึ้นมา ดูเหมือนว่าเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าจะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเซ็นสนธิสัญญาแบบไหนกันอยู่ และยิ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่เธอเซ็นสัญญาตกลงด้วยนั้นเป็นคนแบบไหนกัน เขารู้สึกใจอ่อนเล็กน้อยขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง และกล่าวเตือนเธอด้วยความหวังดี หวังว่าจะช่วยดึงดูดความสนใจของเธอได้ โล่ยิ่งส่วยมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับความปิติยินดีที่น้องสาวของเธอไม่ต้องมาแบกรับภาระในเรื่องนี้เท่านั้น และไม่ได้สนใจกับเนื้อหาที่ระบุไว้ในสนธิสัญญามากเท่าไหร่นัก “ดีครับ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณโล่จะเริ่มปฏิบัติตามสัญญา และย้ายไปอยู่ที่ตระกูลหนานกง จะมีคนบอกคุณเกี่ยวกับรายละเอียดสำคัญต่อไปครับ” ทนายความเก็บสัญญากลับไป และผายมือด้วยท่าทางเชื้อเชิญ เร็วขนาดนี้เชียวหรือ โล่ยิ่งส่วยยืนขึ้นด้วยความลังเล เธอรู้ดีว่าน้องสาวของเธอยังคงรอฟังข่าวคราวของเธออยู่ ถึงแม้ว่าจะมีพี่เชาหย่วนอยู่ข้างกาย ไม่ต้องกลัวว่าเธอจะวิ่งมามอบตัวที่สถานีตำรวจได้แน่นอน แต่ทว่ายังไงก็ต้องอธิบายให้เธอฟังอยู่ดี ถึงจะใช้ได้ เมื่อดูจากอุปนิสัยของเธอแล้ว ถ้าหากเรื่องนี้ไม่ได้จบลงอย่างสวยงาม เธอไม่มีทางเดินต่อไปเพียงคนเดียว และยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ที่เธอจะบินไปยังสหราชอาณาจักรเพื่อสำเร็จการศึกษาของตัวเอง เธอจะต้องทำให้น้องสาวไปต่างประเทศโดยเร็วที่สุด! เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอจึงรวบรวมความกล้าขึ้นมา และเรียกทนายความคนนั้นเอาไว้ “ฉันขอโทรศัพท์ไปหาที่บ้านหน่อยได้ไหม” เมื่อเห็นว่าทนายความไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ตอบกลับมา เธอจึงขอร้องอีกครั้ง “ฉันขอล่ะค่ะ ฉันเหลือแต่เพียงน้องสาวคนเดียวที่เป็นญาติสนิทของฉันเท่านั้น ฉันไม่ต้องการให้เธอเป็นห่วงฉัน” ในที่สุด ทนายความก็ตกลงกับคำร้องขอของเธอ และเดินถอยออกไปเพียงคนเดียว หยิบโทรศัพท์มือถือที่เก่าคร่ำครึเครื่องหนึ่งออกมา โล่ยิ่งส่วยไม่กล้าต่อสายโทรหาน้องสาวโดยตรง เธอจึงกดต่อสายโทรหาหวงเชาหย่วนแทน “พี่เชาหย่วน” เมื่อเรียกชื่อของเขาออกไป ปลายสายก็มีเสียงคำถามที่เต็มไปด้วยความกังวลของเชาหย่วนดังขึ้นมาในทันที “ตอนนี้เธอยังสบายดีใช่ไหม เรื่องมันจบยังไง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอสั่งให้ฉันดูแลยิ่งเยว่ ฉันคงรีบไปที่สถานีตำรวจโดยเร็วแล้ว......” “พี่เชาหย่วน ฉันสบายดีค่ะ” เธอหัวเราะ และขัดจังหวะบทสนทนาของเชาหย่วน พร้อมกับเปลี่ยนหัวข้อในทันที “แล้วยิ่งเยว่ล่ะ เธอเป็นยังไงบ้าง” “ไม่ดีเลย เอาแต่ตะโกนว่าตัวเองจะไปมอบตัว เกือบจะทะเลาะกับพี่เข้าแล้วด้วย ไม่มีทางเลือก พี่เลยต้องขังเธอเอาไว้ข้างในห้อง ตอนนี้ยังตะโกนด่าไม่หยุดเลย เธอลองฟังดูสิ”
已经是最新一章了
加载中