Chapter 2 : เมลล์...ยัยเด็กตัวแสบ   1/    
已经是第一章了
Chapter 2 : เมลล์...ยัยเด็กตัวแสบ
กลุ่มพวกเขาทั้งกลุ่มหันมามองฉันอย่างสนใจ ก่อนจะหันไปมองทางไบรอันสลับกับมองฉันประมาณว่า ‘คู่กรณีมาเจอกันแบบนี้อะไรจะเกิดขึ้น’ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นแหละ ฉันจะหนี!! สายตาคมกริบจากเขาที่มองมาไม่ละสายตาทำให้ฉันขนลุกยังไงก็บอกไม่ถูก เมื่อเห็นว่าฉันอาการดีขึ้นลูกตาวจึงกลับไปนั่งที่เดิม “นั่นพี่ไบรอันใช่รึเปล่า?”ลูกตาวยื่นหน้าเข้ามาถามทันทีที่ก้นสัมผัสเก้าอี้ “ใช่ ฉันว่าบรรยากาศไม่ค่อยดีอ่ะ เรารีบไปกันเถอะ”ฉันบอกอย่างลนลานก็อีตานั่นมองหน้าฉันตลอดเวลาเลยนี่นา ถึงฉันจะไม่ได้มองหน้าเขาตรงๆ แต่ฉันก็รู้ได้จากความรู้สึกว่าเขามองอยู่นะ “คนที่เธอไปทำเรื่องไว้นั่นน่ะเหรอ?” “ใช่ คนนี้แหละ” ลูกตาวหันกลับไปมองไบรอันอีกครั้งเมื่อได้รับคำยืนยันจากฉันว่าเป็นเขา “พี่ไบรอันมองมาทางนี้ไม่วางตาเลยอ่ะเมลล์” “ก็นั่นแหละ ฉันถึงบอกว่าบรรยากาศไม่ค่อยดีไง เรารีบไปกันเถอะนะลูกตาว O “แต่ถ้าเราออกไปตอนนี้เราก็ต้องเดินผ่านพี่เขานะ” “เราก็ทำเป็นมองไม่เห็นเขาสิ ดีกว่านั่งอยู่เฉยๆ ให้เขาปั่นประสาทแบบนี้” ไม่รอช้าฉันรีบเก็บขนมต่างๆ ใส่ถุงตามเดิม ลูกตาวเห็นแบบนั้นจึงเข้ามาช่วยเก็บด้วยอีกแรง จริงอย่างที่ลูกตาวบอกว่าพวกเราต้องเดินผ่านเขา เพราะทางเข้าทางออกมีทางเดียว แถมอีกตานั่นก็ยังนั่งปั้นหน้านิ่งอยู่ใกล้ๆ ทางออกด้วย ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง วันนั้นไม่ใช่ว่าฉันไม่กลัวเขาที่บังอาจปาหนังสือใส่หลังเขาไปเต็มๆแบบนั้นนะ แต่ถ้าคุณโดนหักหน้าคุณจะโกรธไหมล่ะ แล้วตอนนั้นเขายังกล้าเหยียบดอกกุหลาบจากร้านแม่ฉันอีกนะ (แม่ฉันมีธุรกิจเล็กๆคือเปิดร้านดอกไม้สด) เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นแหละ ฉันเดินนำลูกตาวออกมาเพราะต้องการที่จะไปให้พ้นๆหน้าเขาสักที แต่พอจะเดินผ่าน ไบรอันกลับยื่นขายาวๆของเขามาขัดขาฉัน ยังผลให้ร่างทั้งร่างของฉันล้มหน้าคะมำ โชคดีที่ลูกตาวมีสติเร็วพอที่จะดึงแขนฉันไว้ได้ทันก่อนที่ฉันจะล้มลงไปกองกับพื้นให้อายใครต่อใคร หน็อย!! มันจะมากไปแล้วนะ!! พอฉันทรงตัวได้และลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเท่านั้นแหละ โทสะที่สมอยู่ในอกก็ระเบิดออกมาทันที “นี่นาย!!”ฉันตะโกนออกไปอย่างโกรธจัดพร้อมกับชี้หน้าคนทำอย่างเอาเรื่องไทยมุงเริ่มเดินเข้ามาดูเราอย่างอยากรู้อยากเห็น ไบรอันลุกจากเก้าอี้มาอย่างใจเย็น เขาเดินเข้ามาหาฉันอย่างช้าๆ ด้วยใบหน้านิ่งๆ ก่อนจะหยุดลงตรงหน้าฉันแล้วถามเสียงเรียบ “มีอะไรเหรอ” ท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อนของคนตรงหน้าทำให้ฉันถึงกับเดือด ดูที่เขาถามสิ ‘มีอะไรเหรอ’ อย่างนั้นน่ะเหรอ เหอะ!! “คิดว่าเป็นรุ่นพี่แล้วจะรังแกรุ่นน้องยังไงก็ได้อย่างนั้นน่ะเหรอ?!!” “ฉันทำอะไรเธอรึไง” “นายขัดขาฉันจนเกือบล้มเมื่อกี้นี้ไง” “แล้วยังไง” “...!!” ฉันถึงกับสะอึกกับคำพูดของเขา ลูกตาวได้แต่ยืนสติแตกอย่างไม่รู้จะทำยังไงดีที่ฉันโกรธจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ขนาดนี้ เมื่อเห็นฉันยืนกำหมัดแน่นเพราะพูดอะไรไม่ออก รอยยิ้มเย้ยหยันก็ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา ยิ้มให้มันได้นานๆก็แล้วกัน หึ!! ฉันมองไปรอบๆ เพื่อหาอาวุธมาเอาคืนเขา แล้วฉันก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังกัดกินไอศกรีมรสชอคโกแลตอย่างเอร็ดอร่อยขณะชมการวิวาทเหมือนกับการแสดงละคร นั่นทำให้ฉันกระตุกยิ้มขึ้นมาทันที “แล้วยังไงน่ะเหรอ”ฉันทวนคำเขาซ้ำแล้วเดินไปแย่งไอศกรีมจากผู้ชายคนนั้นมาละเลงใส่เสื้อนิสิตสีขาวของเขาอย่างไม่กลัวตาย โกรธจนหน้ามืดฉันก็ทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ เสียงกรีดร้องจากสาวๆ ดังระงมไปทั่วอย่างคิดไม่ถึงว่าฉันจะใจกล้าบ้าบิ่นขนาดทำกับคนที่มีอิทธิพลอย่างไบรอันได้ ลูกตาวที่เพิ่งได้สติรีบวิ่งมาดึงตัวฉันให้ออกห่างจากเขาโดยเร็ว “ลูกตาวขอโทษแทนยัยเมลล์ด้วยนะคะพี่ไบรอัน ขอโทษนะคะ ( “จะไปขอโทษเขาทำไมลูกตาว”ฉันหันไปดุเพื่อนที่ไปก้มหัวให้คนผิด ไบรอันกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจ เสื้อเขาตอนนี้เลอะคราบชอคโกแลตไปทั้งแถบดวงตาคมมีเสน่ห์วาวโรจน์ด้วยความโกรธอย่างไม่ปิดบัง เหอะ! มาถึงขนาดนี้แล้วฉันจะไม่กลัวเขาอีกต่อไป “เป็นไงล่ะ เย็นมั้ยคะพี่ไบรอัน หึ!”ฉันพูดแหย่ รอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฏขึ้นบนใบหน้า “ไม่เอาน่าเมลล์”ลูกตาวหันมาปรามฉัน “ต้องขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะคะ คราวหน้าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้วค่ะ” ลูกตาวไม่พูดเปล่าๆ สิ้นประโยคขอโทษเธอก็ลากฉันออกจากไทยมุงทันที ไม่รู้ว่ายัยเพื่อนคนนี้เอาแรงที่ไหนมาลากฉันออกมา เพราะปกติแล้วฉันจะแรงเยอะกว่าเธอมาก ฉันถูกลากออกมา ปากก็บ่นไม่หยุดที่ยัยเพื่อนตัวดีไปเข้าข้างคนผิด ฉันหวังว่าคราวนี้คงจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะที่เราจะได้เจอกัน... ______________________________________________________________________ [::Brian’s Part::] “เฮ้อออ~” ผมถอนหายใจครั้งที่ร้อยขณะที่ขับรถมุ่งหน้ากลับบ้าน ไฟที่สุมอยู่ในอกไม่อาจระบายออกไปได้ ผมคิดว่าการถอนหายใจอาจจะช่วยได้...แต่ไม่เลย ยัยเด็กบ้านั่นหักหน้าผมครั้งที่สองแล้ว และมันก็ทำให้ผมเจ็บใจมากกว่าครั้งแรกที่เราเจอกันอีก ตอนแรกผมก็จะไม่เอาคืนยั่ยนั่นแล้วล่ะผมก็ไม่รู้จะผูกใจเจ็บไปทำไมเพราะเราก็ไม่ได้เจอกันบ่อย หรืออาจจะไม่เจอเลย บางทีผมก็แอบคิดนะว่าเมลล์จงใจหลีกเลี่ยงที่จะเจอกับผมซะมากกว่า วันนี้คงเป็นวันซวยของผมจริงๆที่เห็นเมลล์เข้าพอดี ตอนแรกผมก็ไม่เห็นเธอหรอกแต่เสียงไอที่เหมือนสำลักน้ำของใครบางคนมันเสียงดังมากจนผมยังคิดว่าใครบางคนต้องการเรียกร้องความสนใจ แต่พอมองไปก็เห็นเธอนั่งไอน้ำหูน้ำตาไหลจากการที่พยายามจะหยุดสำลัก แต่ยิ่งทำก็ยิ่งเป็นหนักไปอีก ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวผมทันทีเมื่อเห็นใบหน้ารั้นๆนั่น ผมจงใจแกล้งปั่นประสาทเธอด้วยการมองเธอไม่วางตา สงครามประสาทที่ผมสร้างขึ้นทำให้เจ้าตัวรู้สึกตัวด้วยสัญชาตญาณ เธอจึงเดินหนีไป แต่ผมยังไม่สะใจเท่าไหร่เลยจงใจยื่นเท้าไปขัดขาจนทำให้เมลล์เกือบล้มหน้าคะมำ แต่โชคยังดีที่เพื่อนเธอช่วยรั้งแขนไว้ได้ทัน การที่ทำให้ยัยเด็กนั่นโมโหได้มันทำให้ผมพอใจมากเลยทีเดียว แต่ใครจะคิดล่ะว่าเมลล์จะบ้ากว่าที่ผมคิด เธอเอาไอศกรีมชอคโกแลตมาป้ายเสื้อสีขาวของผมจนเลอะจนดูไม่ได้ตอนแรกผมจะตอบโต้เธอไปบ้าง แต่พอเพื่อนเมลล์ขอโทษผมเพราะรู้สึกผิดแทนเพื่อน ผมเลยได้แต่กัดฟันข่มอารมณ์โกรธเอาไว้จนเธอลากเมลล์ออกไปไงล่ะ โชคดีที่วันนี้ผมมีเรียนแค่ครึ่งวันเลยไม่ต้องขายขี้หน้านาน (- -*) ความจริงแล้วผมเป็นคนมีความอดทนสูงมากนะ แต่พอมาเจอเมลล์ความอดทนผมทำไมมันช่างต่ำนัก หลายคนอาจจะมองว่าผมหยิ่ง แต่ความจริงแล้วผมก็แค่ไม่ชอบทักใครก่อนเท่านั้นเอง หรือถ้าไม่สนิทกันจริงๆผมก็ไม่ค่อยพูดอะไรมาก เอาเถอะ ใครจะมองผมยังไงก็ช่างเพราะผมก็ไม่ค่อยแคร์สายตาใครสักเท่าไหร่ มันจะมีครั้งหน้าแน่ๆเมลล์ที่เราจะได้เจอกัน...และฉันคงไม่โดนเธอหักหน้าเป็นครั้งที่สามแน่!! [::End:Brian’s Part::] ______________________________________________________________________ “กลับมาแล้วค่าาาาา~-O-” ประโยคนี้ฉันตะโกนบอกเป็นประจำตั้งแต่เด็กจนโตเมื่อกลับมาถึงบ้าน... ทันทีที่เข้ามาในบ้านฉันก็ได้กลิ่นหอมๆของอาหารเย็นลอยมาแตะจมูก แม่คงกำลังทำอาหารเย็นเหมือนอย่างเช่นทุกวัน ฉันวางกระเป๋าเป้คู่กายไว้ที่โซฟาหน้าทีวีในห้องนั่งเล่นแล้วเดินเข้าครัวไป “ทำไมเสียงเราดูเซ็งๆล่ะวันนี้”แม่พูดอย่างรู้ทันขณะคนแกงในหม้อไปด้วย ฉันเดินเข้าไปกอดแม่จากด้านหลังอย่างอ้อนๆ แม่ยังรู้เลยว่าฉันเซ็ง ขนาดแม่ได้ยินแค่เสียงยังไม่ได้เห็นหน้าฉันนะเนี่ย ฉันเงียบ มันเป็นการยอมรับกลายๆว่าฉันกำลังอยู่ในสภาวะจิตใจที่กำลังเรียกว่าเซ็งสุดขีด ก็วันนี้ฉันไปก่อเรื่องไว้อีกแล้ว และฉันก็โดนยัยเพื่อนตัวดีสวดยับไปเป็นที่เรียบร้อยT_T “แสดงว่ามีเรื่องอะไรมาอีกแล้วใช่มั้ย”แม่แกะมือฉันออกก่อนจะหันหน้ามาพูดกับฉันตรงๆ แม่ฉันเป็นผู้หญิงร่างบางตัวเล็กๆเหมือนฉัน ใจดี สวยและมีคุณสมบัติดีๆหลายอย่างที่ผู้ชายคนอื่นเห็นแล้วต่างก็อยากจะมาขายขนมจีบให้ ส่วนพ่อฉันเสียได้ 5 ปีแล้วจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะไปปฏิบัติหน้าที่ (พ่อฉันเป็นแพทย์อาสาน่ะ) นั่นถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในครอบครัวเรา แม่ที่ทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนชื่อดังลาออกทันทีเมื่อพี่แมกซ์เรียนจบตามคำขอร้องของเขา พี่แมกซ์ไม่อยากให้แม่ทำงาน เขาจึงรับหน้าที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ตอนแรกแม่ก็อยู่บ้านเฉยๆ เป็นแม่บ้าน แต่ก็อย่างว่าแหละเนอะอยู่เฉยๆมันก็เบื่อ แม่เลยเปิดร้านขายดอกไม้สดเล็กๆ อยู่ใกล้ๆกับโรงเรียนเก่าฉัน ร้านแม่ฉันขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยล่ะ วันไหนที่ฉันมีเรียนครึ่งวันหรือไม่มีเรียน ฉันก็จะไปอยู่ที่ร้านช่วยแม่ขายดอกไม้ร้านเราเปิดทุกวัน เริ่มเปิดตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น เพราะระดับการเรียนที่ดีเยี่ยมพี่แมกซ์จึงถูกอาจารย์หมอที่คณะดึงไปเป็นอาจารย์และตอนนี้พี่แมกซ์ก็กำลังใช้ทุนอยู่ ตอนนี้ก็เข้าปีที่สามแล้วล่ะ พี่ชายฉันคนนี้ถึงจะจบได้ไม่นานแต่ก็มีชื่อเสียงเรื่องการผ่าตัดเคสยากๆ และเขายังเป็นหมอที่กำลังมาแรงที่สุดในขณะนี้ นี่ฉันพาออกทะเลไปไกลแค่ไหนแล้วเนี่ย... “ก็ประมาณนั้น”ฉันยอมรับแต่โดยดี แต่ยังไม่ทันที่จะได้ตอบคำถามใดๆของแม่ที่ส่งมาทางสายตา เสียงรถยนต์ที่เข้ามาจอดยังโรงจอดรถก็ดังเข้ามาขัดซะก่อน พี่แมกซ์กลับมาแล้วสินะ... อ้อ เพราะพี่ชายฉันยุ่งๆ เวลาเราก็ไม่ตรงกันฉันจึงกลับบ้านเองทุกวัน จะมีบางวันที่ออกไปเรียนพร้อมกับเขาและกลับบ้านพร้อมกัน แต่ก็น้อยครั้งได้ล่ะมั้ง ก็พี่ฉันเป็นหมอนี่นา ต้องมีคนไข้เข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำอยู่แล้ว แถมเขายังเข้าเวรอีก ฉันวิ่งไปหาร่างสูงที่กำลังก้าวลงจากรถพร้อมกับของในมือ ฉันจึงเข้าไปช่วยเขาถือของเหมือนเช่นทุกครั้ง “ไงเรา”พี่แมกซ์ทักขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นเขาเอื้อมมือมาโยกหัวฉันไปมาอย่างเอ็นดูเหมือนฉันเป็นเด็กน้อย “พี่แมกซ์ชอบทำเหมือนเมลล์เป็นเด็กอยู่เรื่อย เมลล์โตแล้วนะ”ฉันพูดอย่างงอนๆ “เหรออออ”ผู้เป็นพี่ลากเสียงยาวเหมือนไม่เชื่อ “เราจะโตสักแค่ไหนกันเชียว” “ตอนนี้เมลล์อายุสิบแปดแล้วนะ (-O-)”ฉันบอกขณะเดินนำพี่ชายเข้าไปในครัวหลังจากที่เก็บข้าวของของเขาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว “สิบแปดแล้วควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้นี่ยังไม่ถือว่าโตนะพี่ว่า” ฉันชะงักมือที่กำลังช่วยแม่เตรียมอาหารนิดหน่อย ก่อนจะทำตัวให้เป็นปกติแล้วเดินเอาอาหารไปไว้ยังห้องรับประทานอาหาร พี่แมกซ์พูดแบบนี้แสดงว่าต้องไปรู้อะไรมาแน่เลย... “วันนี้เราไปก่อเรื่องอะไรมา” นั่น ฉันว่าแล้วเชียว T^T เสียงพี่แมกซ์เข้มขึ้นเหมือนกำลังดุฉันอยู่ในทีฉันนั่งลงประจำที่พร้อมกับที่ร่างสูงวางอาหารที่ช่วยแม่ยกมาลงบนโต๊ะแล้วนั่งลงตรงข้ามกับฉัน จากนั้นไม่นานแม่ก็ตามมานั่งประจำที่ตรงหัวโต๊ะ ท่านมองหน้าฉันอย่างต้องการฟังคำตอบ “ฮืออ ก็เมลล์พยายามไม่โกรธแล้วแต่มันก็ทำไม่ได้นี่นา TOT”ฉันโพล่งขึ้นเพราะทนแรงกดดันจากมหาอำนาจในบ้านทั้งสองคนไม่ไหวเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้จึงถูกถ่ายทอดออกไปอย่างไม่ปิดบัง ถึงฉันไม่เล่าพี่แมกซ์คงจะรู้เรื่องมาบ้างแล้วล่ะไม่งั้นเขาไม่พูดแบบนั้นหรอก แต่อาจจะอยากฟังเรื่องจริงจากปากฉันมากกว่าจากปากคนอื่นเลยมาคาดคั้นเอาความจริงจากฉันนี่ไงล่ะ “เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ” “นี่ต้องขอบคุณหนูลูกตาวนะ ไม่งั้นยัยตัวดีของแม่คงจะสร้างเรื่องไว้เยอะกว่านี้แน่” “ง่ะ แม่ก็ (-^-)” “ยังดีนะที่ผู้ชายคนนั้นไม่ตอบโต้อะไรลูก” “เมลล์ว่าตอนนั้นเขาคงโกรธจนทำอะไรไม่ถูก ครั้งหน้าคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ แต่ช่างเถอะค่ะ อย่าไปพูดถึงเขาเลยจะทำให้กินข้าวไม่อร่อยเปล่าๆ”ฉันบอก แล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวอย่างหิวโหย ใช่แล้วล่ะ คราวหน้าเราคงไม่ได้เจอกันอีก เพราะฉันจะพยายามหลีกเลี่ยงทุกทางที่จะเจอไบรอันอันนี้พูดเลย ชาตินี้เราอย่าเจอกันอีกเลยเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ป๊อก!! นิ้วเรียกยาวของคนตรงหน้าเอื้อมมาดีดหน้าผากฉันจนเกิดเสียงดังป๊อก ฉันลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ ด้วยความเจ็บปวดพลางมองหน้าผู้เป็นพี่ชายอย่างมีคำถาม “อ๊ะ! เจ็บนะพี่แมกซ์” “อนาคตเราจะเป็นหมอแต่ยังอารมณ์ร้อน โมโหง่ายแบบนี้เหรอ นิสัยเรานี่แก้ยังไงก็ไม่หายเลยนะตั้งแต่เด็กจนโต”แม้น้ำเสียงของพี่แมกซ์จะไม่ได้ดุแต่ก็ทำให้ฉันนิ่งได้ เพราะอายุที่ห่างกันถึงเก้าปีเขาจึงเป็นเหมือนพ่อและพี่ชายฉัน “นั่นนะสิ”แม่รีบผสมโรงอย่างเห็นดีเห็นงาม เห็นแบบนี้ฉันจึงได้แน่นั่งฟังเงียบๆ “ไหนบอกว่าเมลล์โตแล้ว แค่ข่มอารมณ์ตัวเองเมลล์ยังทำไม่ได้เลยพี่ถึงเห็นเมลล์เป็นเด็กไงล่ะ” “แม่เห็นด้วยกับพี่นะลูก” “แต่เมลล์อายุสิบแปดแล้ว โตแล้วจริงๆนะ(_ _)”ฉันเถียงเสียงอู้อี้ “ถ้าอยากให้พี่กับแม่เห็นว่าเมลล์โตแล้วเมลล์ก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเมลล์ทำได้ รับปากกับพี่สิ” “เมลล์รับปาก” “ถ้าพี่รู้ว่ามีครั้งต่อไปอีกล่ะก็ พี่จะไม่เตือนแล้วนะ พี่จะให้เมลล์คิดเอาเอง” “ค่าาาา” “ดีมาก ยัยลูกแมว” เมื่อฉันรับปากพี่แมกซ์ก็เอื้อมมือมาโยกหัวฉันไปมาอย่างเคยชิน และมันก็ตามมาพร้อมกับสายตาค้อนๆของฉันที่ส่งไปให้เขาเป็นประจำเมื่อเขาทำแบบนี้ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบนะ แต่คือฉันอยากให้พี่ชายฉันมองว่าฉันโตแล้ว แค่นั้นเอง... เย็นวันนี้ก็เหมือนทุกวันที่เราทานข้าวพร้อมหน้ากัน มันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงพูดคุยอย่างสนุกสนาน และเรื่องเล่าประจำวันที่เกิดขึ้น มากมาย ถึงแม้เราจะมีกันแค่สามคนแต่ความสุขที่มีก็ไม่ได้น้อยเลย... ฉันจะพยายาม...ฉันจะไม่อารมณ์ร้อน...ฉันจะไม่โมโหง่าย...ฉันจะมีความอดทนสูง...ฉันต้องทำให้ได้ แต่...ตอนนี้หิวมากอ่ะ ขอกินก่อนนะคะทุกคน
已经是最新一章了
加载中