Chapter 11: ศึกชี้ชะตา III
1/
Chapter 11: ศึกชี้ชะตา III
Hello!! My Girl ถอยไป ถ้าไม่อยากเจอดี เพราะเธอคนนี้...ผู้หญิงของผม
(
)
已经是第一章了
Chapter 11: ศึกชี้ชะตา III
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป... ฉันวิ่งเข้าไปหากล่องสีดำยังห้องๆหนึ่ง เหงื่อไหลย้อยลงคางหยดลงพื้นติ๋งๆบอกว่าได้ดีว่าฉันทั้งเหนื่อยและร้อนแค่ไหน เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงสำหรับการทำภารกิจ ครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาเหล่าสมาชิกของแต่ละทีมถูกประกาศชื่อออกเสียงดังระงมจากที่ฉันลองคำนวณในใจตอนนี้ทีมของฉันเหลืออยู่ 3 คนส่วนอีกทีมเหลือ 2 คน ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่าฉันจะมาได้ไกลขนาดเป็นถึง 3 คนสุดท้ายของทีมฉันอยากได้ยินเสียงประกาศตามสายว่าเป็นชื่อไบรอันออกจากเกมไปแล้วบ้าง แต่ก็ได้แค่หวัง ใช่แล้วล่ะ เขายังอยู่ ฉันมองไปรอบๆห้อง และหาของที่ต้องการทุกตารางนิ้ว...และนั่น มันอยู่ตรงนั้น!! กล่องสีดำวางหลบขาโต๊ะอยู่ตรงพื้นกลางห้อง ฉันรีบวิ่งเข้าไปหยิบมันมาเปิดออกด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยม สิ่งที่อยู่ในนั้นเป็นชื่อของใครบางคนที่ถูกเขียนด้วยปากกาสีแดง ฉันเดินเอามันไปโชว์ให้กล้องดู ชื่อที่โชว์หราอยู่นั้นคือ ‘เปตอง คณะ ICT ปี 4’ ไม่นานเสียงตามสายก็ประกาศชื่อของคนที่อยู่ในกระดาศออก ตอนนี้ก็เหลือแค่ไบรอันคนเดียวแล้วสินะ ครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาฉันเจอกล่องสีดำเปล่าๆเยอะมาก มันทำให้ฉันอดที่จะหงุดหงิดไม่ได้จริงๆนะ แต่ไม่ใช่ว่าฉันไม่เจออะไรเลย ฉันเจอตัวเลข ‘16’ ภายในกล่องๆหนึ่ง มันต้องเป็นเลขของภารกิจแน่ๆ แต่มันเป็นเลขอะไรกันนะ... ฉันจะเอาไงกับชีวิตต่อไปดี (_ _); ขืนอยู่คนเดียวแบบนี้ฉันก็คงจะทำภารกิจไม่สำเร็จแน่ ฉันต้องไปหาเพื่อนในทีมที่เหลือ สามหัวดีกว่าหัวเดียวกระเทียมรีบแบบนี้ ใช่!!สายฟ้าไงล่ะ สายฟ้ายังอยู่ (_ คิดได้อย่างนั้นแล้วฉันก็ออกตามหาเพื่อนในทีมทันทีโดยไม่ลืมที่จะระวังตัวด้วย ไบรอันยิ่งเหลือคนเดียวแบบนี้ ถ้าเขาเจอฉันรับรองว่าเขาไม่มีทางปล่อยฉันไปแน่ๆ ฉันวิ่งขึ้นบันไดหนีไฟไปยังชั้น 5 เรี่ยวแรงที่มีแทบไม่เหลือ แข่งขาอ่อนล้าไปหมดT^Tก็วิ่งขึ้นลงๆ ตั้ง 6 ชั้นนี่นา อ๊ะ! นั่น ฉันเห็นหลังของคนที่ใส่เจ๊กเก็ตสีชมพูไวๆ เขาเดินเข้าไปในห้องๆหนึ่ง ฉันจึงรีบวิ่งตามเขาไปทันที “เฮ้ย!! ตกใจหมด” อะตอมนั่นเองคือผู้ชายที่ฉันเห็น เขาสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจเมื่อฉันเปิดประตูโผล่พรวดเข้าไปในห้องโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง “โทษทีๆ”ฉันเอ่ยขอโทษทั้งๆที่ยังยืนหอบไม่หาย “ฉันไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงรอดในเกมนี้ด้วย เธอนี่ซ่อนตัวเก่งชะมัด” “ฉันก็ไม่คิดว่าฉันจะรอดมาจนถึงตอนนี้” “ช่างเรื่องนั้นก่อนดีกว่า ว่าแต่เธอได้คำใบ้อะไรมาบ้างรึเปล่า??”อะตอมเข้าเรื่องทันที “ฉันได้ไอ้นี่มา” ฉันยื่นกระดาษที่มีเลข 16 ไปให้เขา อะตอมรับไปก่อนจะเดินนำไปนั่งเก้าอี้ใกล้ๆ เขาวางกระดาษแผ่นนั้นลงบนโต๊ะแล้วล้วงเอากระดาษที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตของเขาออกมาวางไว้บนโต๊ะเช่นกัน “ฉันมีสองหมายเลข” อะตอมได้หมายเลข 18 กับ 20 เขาเอาตัวเลขทั้งสองมาวางต่อจากของฉัน “เธอคิดว่ามันคืออะไร?”อะตอมหันมาถามฉันที่นั่งอยู่ข้างๆเขา “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” ในขณะที่ฉันกำลังสุมหัวอยู่กับอะตอมก็มีใครบางคนเปิดประตูเข้ามาทำเอาฉันกับเขาตกใจจนหัวใจเกือบวาย สายฟ้านั่นเอง นึกว่าเป็นไบรอันซะแล้ว... “พวกเธอมาอยู่ที่นี่กันนี่เอง ฉันตามหาซะทั่วเลย”สายฟ้าบอกพลางเหนื่อยหอบ เขาเดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆฉัน “นายได้อะไรมาบ้างมั้ยสายฟ้า”ฉันถามทันที “ได้สิ” สายฟ้าล้วงเอาแผ่นกระดาษจากกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตของเขามาวางบนโต๊ะ เขาได้เลข 90 ตัวเลขพวกนี้คืออะไร โอ๊ย! เวลาคับขันแบบนี้ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย “ตัวเลขพวกนี้มันอะไรกัน”สายฟ้าถามขึ้นเมื่อเขานั่งพักจนหายเหนื่อยแล้ว “นายคิดอะไรออกมั้ยอะตอม?”ฉันหันไปถามเขาเมื่อเห็นว่าอะตอมนิ่งไปนานเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ “นายชื่ออะตอมเหรอ ใช่แล้ว อะตอม”อยู่ๆสายฟ้าก็พูดเองเออเอง น้ำเสียงของเขาฟังดูมีความหวังขึ้นมาทันที “อะไรของนาย”อะตอมถามสายฟ้า “ตัวเลขพวกนี้อาจจะเป็นพวกมวลอะตอมอะไรเทือกๆนั้นก็ได้” “แล้วยังไง”อะตอมถามต่อเหมือนเขาไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่สายฟ้าต้องการจะสื่อออกมา “ก็มวลอะตอมของธาตุอะไรที่เท่ากับ 16?” “ออกซิเจน” “ไม่สิ เอาสัญลักษณ์ของธาตุดิ” “O” เราสามคนหันไปมองหน้ากันอย่างตื่นเต้นกับคำตอบที่หาได้มันอาจจะใช่ก็ได้นะ “แล้วเลขที่เหลือล่ะ”สายฟ้าถามต่อ “18 คือ F20 คือ Neส่วน 90 ก็คือ Zr”อะตอมพูดพร้อมกับเขียนสัญลักษณ์ของธาตุไว้อีกด้านของกระดาษด้วยดินสอของใครไม่รู้ที่ลืมไว้ในห้องนี้ “เจ๋ง!” “แล้วไงต่อ”ฉันถามบ้าง “ถ้าเราธาตุพวกนี้มารวมกันมันจะเกิดอะไรขึ้น??” “เอามารวมกันงั้นเหรอ...”ฉันทวนประโยคของสายฟ้าเบาๆ ก่อนจะเอาสัญลักษณ์ของธาตุมารวมกัน ไม่ว่าจะวางสลับตำแหน่งกันยังไง ฉันก็ยังรวมตัวอักษรพวกนี้เป็นคำไม่ได้ “ฉันว่ามันไม่น่าจะใช่มวลอะตอมหรอก” “เธอหมายความว่าไง”อะตอมกับสายฟ้าหันมาถามฉันพร้อมๆกัน “ฉันว่ามันน่าจะเป็นพยัญชนะภาษาอังกฤษมากกว่า” “แต่พยัญชนะภาษาอังกฤษมีแค่ 26 ตัวนะ แล้วตัวเลข 90 นี่มาได้ไง”อะตอมค้าน “มันเป็นเลข 06 ต่างหาก”ฉันตอบแล้วจัดการพลิกตัวเลข 90 ให้กลายเป็น 06 ซะ “จริงด้วย!”สองหนุ่มโพล่งขึ้นมาพร้อมกันอย่างคาดไม่ถึง “06 คือ F 16 คือ P 18 คือ R ส่วน 20 ก็คือ T”ฉันพูดไปมือก็เขียนพยัญชนะภาษาอังกฤษไปยังหลังกระดาษ “เธอนี่ฉลาดเป็นบ้าเลยว่ะ ฮ่าๆ”ไม่ว่าเปล่า สายฟ้ายังโยกหัวฉันไปมาอย่างอารมณ์ดี “แล้วพยัญชนะพวกนี้หมายถึงอะไรล่ะ มันผสมเป็นคำไม่ได้เลยนะ มันไม่มีสระ”อะตอมออกความเห็น “จะเป็นไปได้มั้ยที่เพื่อนของเราที่อยู่ในคุกจะเจอหมายเลขตัวอื่นๆ”ฉันถามในสิ่งที่คิด คุกที่ฉันหมายถึงนี้คือห้องกักตัวคนที่ออกจากเกม ซึ่งอยู่ชั้น 1 ของตึกคณะนั่นเอง “ฉันว่ามีแน่ เวลาก็เหลือไม่มากแล้ว เรารีบไปกันเถอะ ก่อนที่พี่ไบรอันจะตามตัวเราเจอ” ไม่ต้องรอให้ใครได้ออกคำสั่งซ้ำสอง เมื่อสายฟ้าพูดจบเราก็ลุกจากที่แล้วมุ่งหน้าไปยังคุกทันที แต่ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวขาไปไหนก็ต้องชะงักอยู่กับที่ด้วยความตกใจอย่างถึงที่สุด ไบรอัน... ไบรอันเปิดประตูเข้ามาอย่างใจเย็น ดูจากท่าทางแล้วเขาคงมาได้สักพักและซุ่มฟังเราคุยกันอยู่เงียบๆ เขานี่มันร้ายกาจชะมัดฮึ่ย!! “เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วเมลล์ เธอต้องไปต่อนะ”อยู่ๆสายฟ้าก็หันมาพูดอะไรแปลกๆกับฉัน ฉันได้แต่มองหน้าเขาอย่างงงๆ “ใช่ เธอคือความหวังของพวกเรา”อะตอมเสริมอีกคน นั่นทำให้ฉันยิ่งงงกว่าไก่ตาแตกซะอีก ช่วยพูดอะไรที่ทำให้ฉันเข้าใจหน่อยได้มั้ย O[]O* ทันใดนั้นสายฟ้ากับอะตอมก็หันไปสบตากัน ก่อนที่พวกเขาจะพยักหน้าเป็นเชิงให้สัญญาณกันและกันแล้วเพื่อนร่วมทีมทั้งสองคนพุ่งเข้าหาไบรอันในขณะที่เขาก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัว “รีบไปสิ เร็ว!!”สายฟ้าหันมาสั่งฉันเสียงเข้ม เหตุการณ์มันเกิดเร็วมากจนฉันได้แต่ยืนนิ่ง ทำอะไรไม่ถูก “เร็วเซ่!!ก่อนที่พวกฉันจะถ่วงเวลาเอาไว้ไม่ได้”อะตอมหันมาตะคอกใส่ ฉันวิ่งผ่านพวกเขาทั้งสามคนที่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ถึงแม้ไบรอันจะโดนรุมแต่ดูเหมือนว่าคนที่ชนะจะเป็นเขา ฉันต้องรีบแล้ว ก่อนที่เพื่อนในทีมทั้งสองจะหมดแรงต่อสู้กับปีศาจจอมวายร้ายอย่างไบรอัน _________________________________________ [::Brian’s Part::] แคว้กกกก!! ผมใช้มือข้างที่สามารถสะบัดหลุดจากคนที่ชื่อสายฟ้าได้ แล้วใช้มือข้างนั้นคว้าเข้าที่ป้ายชื่อของอะตอมที่จับแขนอีกข้างผมไว้ก่อนจะออกแรงกระชากมันออกอย่างรวดเร็ว ผ่านไปหลายนาทีแล้วที่เมลล์วิ่งหนีไปแต่ผมก็ยังถูกสองคนนี้จับตัวไว้ ผมหาจังหวะที่จะดึงป้ายชื่อพวกนี้ออกแต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายนักในเมื่อผมโดนรุมแบบนี้ และเมื่อผมได้โอกาสตอนที่สายฟ้ายืนหอบด้วยความเหนื่อยจากการสู้กับความพยศของผม ผมก็ใช้โอกาสนั้นสะบัดมือออกแล้วดึงป้ายชื่ออะตอมออกยังไงล่ะ ผมดันอะตอมให้ออกห่างซึ่งเขาก็ยอมถอยแต่โดยดีเพราะรู้ตัวว่าตัวเองออกจากเกมแล้ว จากนั้นผมก็หันมาสู้กับสายฟ้าซึ่งๆหน้า สายฟ้าพุ่งเข้ามาโดยไม่ให้ผมได้ตั้งตัว พอตั้งสติได้ผมก็เอื้อมมือข้างหนึ่งอ้อมมาด้านหลังเขา พอสัมผัสถึงป้ายชื่อด้านหลังเท่านั้นแหละ ผมก็ออกแรงดึงมันทันที แคว้กกก!! คนตรงหน้าอึ้งไปกับความเร็วในการโจมตีของผม แต่ตอนนี้ผมจะมัวสนใจอะไรไม่ได้แล้ว เหลือแค่เมลล์คนเดียวแล้วสินะ... ผมวิ่งออกจากห้องนี้ไปด้วยความเร็วเท่าที่จะสามารถเร็วได้ ผมรู้ว่าเมลล์ไปไหน...คุกหรือที่กักตัวผู้เล่นที่ออกจากเกมยังไงล่ะ ตอนที่ผมตามหาทีมสีชมพูเพื่อกำจัดให้ออกจากเกม ในจังหวะที่ผมเปิดประตูบันไดหนีไฟมายังชั้นนี้ผมก็เห็นสายฟ้าเดินเข้ามาในห้องนี้พอดีผมจึงรีบวิ่งมาโดยที่พยายามให้กระดิ่งเกิดเสียงเบาที่สุดเพื่อไม่ให้ไก่ตื่น และดูเหมือนโชคจะเข้าข้างผมไม่น้อย เพราะประตูห้องดันปิดไม่สนิทและผมก็ได้ยินบทสนทนาทุกประโยคที่พวกนั้นคุยกัน “อะตอม คณะวิทยาศาสตร์ ปี 1 ออก...สายฟ้า คณะวิศวะกรรมศาสตร์ ปี 1 ออก...” เสียงประกาศตามสายดังขึ้นตอนที่ผมอยู่ในลิฟต์ซึ่งกำลังมุ่งหน้าลงสู่ชั้น 1 ลิฟต์ค่อยๆ เปลี่ยนหมายเลขชั้นอย่างช้าๆ 5...4...3 ถ้าเทียบกับใจผมแล้วลิฟต์มันช่างทำงานได้ช้ามาก พอลิฟต์มาถึงชั้นที่หมายและประตูลิฟต์เปิดเท่านั้นแหละ ผมก็พุ่งออกจากลิฟต์แล้ววิ่งหน้าตั้งไปยังห้องที่ใช้เป็นคุกทันที ผมวิ่งไล่เปิดประตูห้องเรียนทุกห้องแต่ก็ไม่เห็นใคร พอมาถึงห้องที่สามที่เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของชั้นนี้ผมก็เห็นคนเล่นเกมคนอื่นๆนั่งอยู่เต็มไปหมดโดยมีสตาฟฟ์ประมาณห้าคนยืนเฝ้าอยู่ เสียงฮือฮาจากเพื่อนร่วมทีมและทีมสีชมพูดังขึ้นเมื่อเห็นผมพรวดพราดเข้ามา โดยไม่ต้องให้ผมได้ถามอะไร เพื่อนในทีมก็ช่วยกันตะโกนแข่งกันแทบฟังไม่รู้เรื่องว่าเมลล์เพิ่งจะวิ่งออกไปเมื่อกี้ ฮึ่ย!! ยัยเด็กบ้านี่เร็วชะมัด!! [::End:Brian’s Part::] _________________________________________ “อะตอม คณะวิทยาศาสตร์ ปี 1 ออก...สายฟ้า คณะวิศวะกรรมศาสตร์ ปี 1 ออก...” พวกเขาออกแล้ว!! O.O!! เสียงประกาศตามสายเป็นสิ่งที่ทำลายสติในการใช้ความคิดของฉันได้เป็นอย่างดี ทำใจเย็นๆเมลล์ เขายังไม่มาตอนนี้หรอก เธอยังมีเวลา... ฉันคิดให้กำลังตัวเอง สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพ่นลมหายใจออกมาทางปากเพื่อระบายความกดดันที่เกิดขึ้นในใจ ตอนที่ฉันวิ่งเข้าไปในคุก เหมือนเพื่อนๆก็กำลังรอว่าต้องมีคนมาเอาคำใบ้แน่ๆ พวกนั้นจึงรีบเอาคำใบ้ให้ฉันโดยที่ฉันไม่ได้พูดหรือถามอะไรสักคำ หลังจากที่วิ่งออกมาจากห้องนั้นฉันก็ขึ้นลิฟต์มายังชั้น 4 แล้วเข้ามาในห้องๆหนึ่งเพื่อที่จะได้รวบรวมคำศัพท์ ตัวเลขที่ฉันได้จากเพื่อนๆ รวมกันแล้วมีทั้งหมด 7 ตัวเลข คือ 06 15 15 15 16 18 20 ตำแหน่งของอักษรภาษาอังกฤษซึ่งก็คือ F O O O P R T ฉันพยายามวางตำแหน่งของอักษรภาษาอังกฤษแต่ละตัวว่าสามารถประกอบเป็นคำไหนได้บ้าง ถ้าเป็น FOOTแล้วก็ไม่ได้มันไม่มี OPR FO แปลว่า นายทหารที่มียศระดับนายพันขึ้นไป ส่วน TROOP แปลว่า กลุ่มคน รวมกันเป็นกลุ่มของนายทหารที่มียศระดับนายพันขึ้นไป หือ (-_-); ฟังดูเข้าท่านะ แต่มันเกี่ยวอะไรกับภารกิจล่ะ โอ๊ะ O.O…O[]O!! เหมือนฉันจะเห็นอะไรเข้าสักอย่าง!! ถ้ามองดีๆ จาก FOTROOP ถ้าเอา F สลับกับ P แล้วตัด T ออกก็จะได้ ROOF ที่แปลว่าหลังคาส่วนทีเหลือคือ POT แปลว่าหม้อ คำใบ้นี้ต้องการจะบอกอะไร...หม้ออยู่บนหลังคางั้นเหรอ @_@ เดี๋ยวนะ... ฉันลองสลับที่ระหว่าง P กับ T จาก POT กลายเป็น TOP ที่แปลว่าสูงสุด พอรวมกันกับ ROOF ก็จะกลายเป็น ROOF TOP ดาดฟ้า!! ใช่แล้ว คำใบ้นี่ต้องบอกที่อยู่ของอะไรสักอย่างที่อยู่บนดาดฟ้าแน่ ไม่ต้องรอให้เทวดามากระซิบบอกว่าฉันต้องทำยังไง ฉันรีบวิ่งออกจากห้องนี้ก่อนจะวิ่งไปทางบันไดหนีไฟ ฉันว่าทางนี้ปลอดภัยที่สุด แม้ว่าฉันจะหาคำตอบจากคำใบ้ได้แล้วแต่ก็ไม่ควรประมาทใช้ลิฟต์แม้นั่นจะเป็นทางที่เร็วที่สุดก็ตาม เกิดไบรอันอยู่ในลิฟต์รอฉันก็จ๊ะเอ๋กับเขาพอดีน่ะสิ มีหวังตายศพไม่สวยแน่ ฉันผลักประตูทางหนีไฟเข้าไปดูให้แน่ใจว่าแถวๆนี้ไม่มีใคร หรือมีเสียงกระดิ่งมหาภัยอยู่ใกล้ๆรึเปล่า กรุ้งกริ้งๆๆๆ~ เสียงกระดิ่งไม่ได้ดังมาจากฝั่งบันไดหนีไฟที่ฉันกำลังยืนอยู่ แต่มันดังมาจากข้างหลังฉันต่างหาก!! ฉันหันขวับไปมองยังที่มาของเสียงก็เห็นไบรอันวิ่งมาทางฉันด้วยความเร็วปานฮายีน่า เขาคงขึ้นบันไดมาจากอีกฝั่งแล้วเห็นฉันเข้าแน่ๆ บอกตรงๆ นะ เสียงกระดิ่งในเกมนี้มันน่ากลัวมากจนฉันคิดว่าชีวิตนี้ฉันไม่อยากได้ยินมันอีกแล้ว ไม่แน่ว่าคืนนี้ฉันจะเก็บไปหลอนต่อที่บ้านรึเปล่า ฉันใส่เกียร์หมาวิ่งขึ้นบันไดอย่างไม่คิดชีวิต เรี่ยวแรงที่โรยราไปในตอนแรกกลับเข้าร่างอีกครั้งเมื่อคิดว่า...เกมกำลังจะจบลงแล้ว ฉันต้องวิ่งไปที่ดาดฟ้า ที่นั่นมีอะไรสักอย่างรอฉันอยู่ มันอาจจะเป็น ‘ความสงบสุข’ ในการใช้ชีวิตในรั้วมหา’ลัยแห่งนี้ที่ฉันจะได้จากไบรอันก็ได้ “หยุดนะเมลล์!”ไบรอันตะโกนสั่งไล่หลังมา เขาวิ่งเข้ามาใกล้ฉันแล้ว “ถ้าหยุดก็เอาฉันไปไถนาแทนควายเถอะ” ฉันตั้งหน้าตั้งตาวิ่ง...และนั่น ประตูดาดฟ้าอยู่ข้างหน้าฉันแล้ว ผลัวะ!! ฉันเปิดประตูดาดฟ้าออกไปทันทีที่ขึ้นมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย สายลมพัดโชยเข้ามาปะทะร่างที่ชุ่มเหงื่อของฉันจนฉันรู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ฉันวิ่งออกมาหาสิ่งที่จะทำให้เกมนี้จบลงสักที ไม่ไกลกันนั่นเองมีอะไรบางอย่างวางไว้บนโต๊ะที่ถูกจัดแต่งไว้อย่างยิ่งใหญ่และสวยงาม มันคือถ้วยรางวัลสีทองที่กำลังล้ออยู่กับแสงไฟหลากสีซึ่งเหล่าทีมงามนำประดับไว้ ฉันวิ่งไปยังตำแหน่งที่ถ้วยรางวัลวางอยู่ แต่วิ่งไปได้ไม่ไกลก็ถูกมือใหญ่ของไบรอันรวบต้นแขนฉันของไว้แล้วออกแรงกระชากเข้าหาตัวอย่างรวดเร็วแต่ฉันก็ผลักเขาออกให้ห่างอย่างรวดเร็วเช่นกัน “เกมกำลังจะจบแล้วไบรอัน เพียงแค่ฉันได้ถ้วยรางวัลนั่นมา นายก็จะแพ้เดิมพันแล้วฉันก็จะได้ชีวิตสงบสุขคืน”ฉันหันไปพูดกับร่างสูงอย่างซึ่งๆหน้าพร้อมกับหอบจนตัวโยน โดยเว้นระยะห่างพอสมควร สองเท้าฉันก้าวถอยหลังอย่างช้าๆ ไปยังตำแหน่งของถ้วยรางวัลพร้อมๆกับมองคนตรงหน้าอย่างหยั่งเชิงและประเมินสถานการณ์ “แค่พูดก็ง่ายน่ะสิ หึ”ไบรอันกระตุกยิ้มเหยียดตรงมุมปากเขาหายใจแรงด้วยความเหนื่อยไม่แพ้กัน ใบหน้าขาวเนียนและเส้นผมสีดำขลับของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ ขนาดเหงื่อท่วมตัวแบบนี้เขายังไม่ลดดีกรีความหล่อลงเลยสักนิด “ฉันรู้ว่ามันไม่ง่าย และที่ฉันรู้คือฉันต้องชนะเกมนี้ให้ได้” “ฉันยอมรับนะว่าเธอเก่งที่รอดมาเป็นคนสุดท้ายได้ แต่ขอโทษทีนะที่เธอต้องโชคร้ายหน่อยเพราะฉันก็รอดเป็นคนสุดท้ายเหมือนกัน และฉัน...ก็ไม่ปล่อยให้เธอชนะเด็ดขาด” “ก็ลองดูสิ!” สิ้นประโยคเท่านั้นฉันก็หันหลังวิ่งไปยังตำแหน่งของถ้วยรางวัลอีกครั้ง แต่ฉันก็ยังช้ากว่าไบรอันหลายขุมเมื่อเขากระชากแขนฉันไว้ ร่างทั้งร่างของฉันจึงปลิวไปกระแทกกับอกกว้างของเขาเข้าอย่างจัง ไม่รอให้ฉันได้ตั้งตัว มืออีกข้างของเขาเอื้อมมาทางด้านหลังฉันหวังจะดึงป้ายชื่อออก ไม่ได้นะ!! จากประสบการณ์ที่เป็นแฟนคลับรายการรันนิ่งแมนและดูรายการนี้มานาน ฉันจึงใช้วิธีทิ้งตัวลงนอนราบกับพื้นเพื่อป้องกันการดึงป้ายชื่อออกพร้อมกับทิ้งน้ำหนักไปเต็มที่ การที่ฉันนอนลงกะทันหันแบบนี้ยังผลให้ร่างสูงเสียหลักล้มลงมาทับฉันเต็มตัว ตอนนี้เหมือนไบรอันกำลังนอนกอดฉันอย่างหลวมๆ เพราะมือข้างหนึ่งของเขายังไม่ปล่อยป้ายชื่อฉันให้เป็นอิสระ “นายนี่มันตัวหนักชะมัด ออกไปนะ”ฉันโวย สองมือดันใบหน้าหล่อเหลาให้ออกห่างเพราะหน้าเราอยู่ใกล้กันมาก ลมหายใจร้อนๆของเขาเป่ารดหน้าฉันมันจั๊กจี๋มาก อย่าหวังกันเลยว่าจะมีฉากเหมือนในละครที่พระเอกกับนางเอกล้มทับกันแล้วจ้องตากันปิ๊งๆ อะไรอย่างนั้น (-.,-) สถานการณ์อย่างนี้คงจะมีเวลามาสบตากันหรอก แล้วอีกอย่างไบรอันไม่ใช่พระเอกของฉันเด็ดขาด “เธอไม่มีทางชนะหรอก”ไบรอันพูดในขณะที่อีกมือพยายามปัดมือฉันออกจากใบหน้าเขาพัลวัน “อย่าทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย” “ยอมแพ้ซะ”ดวงตาคมของคนที่นอนทับฉันอยู่สบมาพร้อมกับกำชับเสียงเข้ม “ไม่มีทางซะหรอก” พูดได้แค่นั้นฉันก็ใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเขาออกไปสุดแรงก่อนจะรีบลุกขึ้นหวังจะวิ่งไปคว้าถ้วยรางวัลให้เกมนี้มันจบลงสักที ทว่า... แคว้กกกกกก~ ฉันหันขวับกลับไปยังที่มาของเสียงก็เห็นไบรอันนอนท่าทางอิดโรยอยู่ที่พื้น ในมือเขามีป้ายชื่อของฉันอยู่ เขาคงใช้จังหวะที่ฉันลุกขึ้นรีบดึงป้ายชื่อออกสินะ เกมจบแล้ว...ชีวิตฉัน...ก็จบ... T_T…T^T…T[]T “ฉันบอกเธอแล้วว่าเธอไม่มีทางชนะหรอก หึ” ฉันเกลียดเขา...ฉันเกลียดเสียงหัวเราะในลำคอนั่น...ฉันเกลียดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาที่สุด ไบรอันลุกขึ้น แล้วเดินไปหยิบถ้วยรางวัลอย่างผู้ชนะ จากนั้นเขาก็เดินมานั่งยองๆตรงหน้าฉันที่นั่งกอดเข่าอยู่บนพื้น “เกมนี้สอนให้รู้ว่า...อย่าหันหลังให้ศัตรู”ไบรอันพูดเสียงเรียบขณะที่จ้องหน้าฉันนิ่งก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบที่ข้างหูฉันว่า “เธอแพ้เดิมพัน เพราะฉะนั้น...ความสงบสุขในชีวิตเธอ ฉันให้ไม่ได้” ความสงบสุขในชีวิตเธอ ฉันให้ไม่ได้... ประโยคนี้ของเขามันดังก้องในหัวฉันไม่หยุด จบจริงๆแล้วใช่มั้ยชีวิตฉัน(_ _) ไบรอันลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มือเรียวยาวยื่นมาตรงหน้าหวังให้ฉันจับเพื่อที่เขาจะฉุดฉันขึ้นฉันปัดมือเขาทิ้งอย่างไม่คิดจะใยดี เราจ้องหน้าฉันด้วยอารมณ์ที่ต่างกันสุดขั้ว เขายืนอมยิ้มอารมณ์ดี ส่วนฉันน่ะเหรอ อย่าถามเลย ทุกคนคงรู้ดี “ผู้ชนะในเกมนี้คือ ทีมสีฟ้า...” เสียงประกาศตามสายดังขึ้นตอกย้ำความพ่ายแพ้ของฉันอีกหน...
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
Chapter 11: ศึกชี้ชะตา III
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A