Chapter 16 : ออกค่ายฯ สุดหรรษา (เสียที่ไหน)   1/    
已经是第一章了
Chapter 16 : ออกค่ายฯ สุดหรรษา (เสียที่ไหน)
ไบรอันคนที่อยู่ต่อหน้าฉันต่างกับไบรอันคนที่อยู่ต่อหน้าแม่ฉันอย่างกับคนละคน -_-** แม่ออกอาการปลื้มเขาอย่างปิดไม่มิด รอยยิ้มประดับบนใบหน้าสวยตลอดเวลาตั้งแต่เห็นหน้าเขาตอนที่มารับฉันหน้าบ้าน ส่วนไบรอันน่ะเหรอ ฉันถือว่าเขาเป็นคนที่เข้ากับผู้ใหญ่ได้ดีคนหนึ่งเลยล่ะ ไม่งั้นแม่ฉันจะหลงนิสัยเขาตั้งแต่เจอกันครั้งแรกอย่างนี้เหรอ “ไปอยู่ที่โน่นอย่าดื้อนะลูก อย่าไปสร้างปัญหานะรู้มั้ย” “แม่เห็นเมลล์เป็นคนยังไงเนี่ย -_____-”ฉันว่าอย่างงอนๆ “กลางค่ำกลางคืนก็อย่าออกไปไหนคนเดียวนะ ดึกๆก็อย่าลืมห่มผ้าด้วยล่ะลูกเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”แม่กำชับอีกครั้ง สายตาที่มองมายังฉันบ่งบอกว่าคนเป็นแม่ห่วงลูกสาวมากๆ “รับทราบค่า แม่ไม่ต้องห่วงหรอก รับรองเมลล์ไม่ดื้อ ไม่สร้างปัญหา แล้วก็จะห่มผ้าหนาๆไม่เอาหวัดมาปล่อยแม่นอนนอน” “ดีมากจ้ะ^^” ฉันเดินไปกอดแม่แล้วหอมแก้มฟอดใหญ่ ก่อนจะผละออกมา “เมลล์ไปแล้วนะ” “ดูแลตัวเองด้วยนะลูก แม่ฝากดูแลน้องด้วยนะจ๊ะไบรอัน ^__^”ประโยคหลังแม่หันไปบอกไบรอันอย่างอารมณ์ดี เห็นคนหน้าตาดีหน่อยไม่ได้นะแม่ (-_-)* “ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลให้อย่างดี” ไบรอันรับคำเสียงนุ่ม แม้ประโยคนี้เขาจะพูดไปตามมารยาทก็เถอะ แต่ฉันว่าเขาเหมือนจะแฝงประสงค์อะไรบางอย่าง ดูจากสายตามีเลศนัยที่เขาหันมามองฉันสิ ฉันยกมือไหว้และโบกมือลาแม่แล้วขึ้นรถไปนั่งยังที่นั่งข้างคนขับ ไบรอันยกมือไหว้ลาแม่ฉันแล้วจึงตามมานั่งประจำที่คนขับ ไม่นานรถก็เคลื่อนที่ออกไปจากหน้าบ้านฉัน “ไหนล่ะมือถือฉัน”ฉันรีบทวงของทันที ไบรอันล้วงเอามือถือฉันจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ยื่นให้ อย่างน้อยฉันก็รู้ว่าเขาเป็นคนรักษาคนพูดล่ะนะ ความเงียบเริ่มก่อตัวขึ้นภายในรถ ไบรอันมองไปยังถนนเบื้องหน้าโดยไม่พูดอะไร ฉันก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้แต่มองออกไปยังหน้าต่างข้างกาย “เธอหน้าไม่เหมือนแม่เลยนะ” ไบรอันพูดขึ้นทำลายความเงียบเมื่อต่างคนต่างก็มาพูดอะไรกันอยู่นาน เราหันมามองหน้ากันแว๊บหนึ่งก่อนที่ไบรอันจะหันกลับไปมองยังท้องถนนต่อ “ฉันหน้าเหมือนพ่อ” “ถึงว่า แม่ออกจะสวย แต่ลูกสาว...” ไบรอันละคำพูดไว้ในฐานที่เข้าใจ เอ๊ะ! เหมือนเขาจะว่าฉันไม่สวยรึเปล่า แต่ช่างเถอะ ฉันไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่ “ฉันมั่นใจว่าฉันก็สวยระดับหนึ่ง” นี่ขนาดไม่ใส่ใจนะ เอาเถอะๆ ฉันเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนก็ต้องคิดว่าตัวเองหน้าตาดีในแบบของตัวเองทั้งนั้น =_=; “หึๆๆ เธอนี่หลงตัวเองเป็นบ้า”ไบรอันขำพรืดกับคำพูดของฉัน “แล้วครอบครัวเธอทำงานอะไรกันบ้างล่ะ” “แม่เคยเป็นครูแต่ตอนนี้ลาออกมาเป็นแม่บ้านแล้ว พี่ชายก็เป็นหมอ ส่วนฉันก็กำลังเรียนหมออยู่” “แล้วพ่อเธอล่ะ” คำถามของไบรอันทำให้ฉันถึงกับชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะรีบตอบเพื่อไม่ให้เขาผิดสังเกต “พ่อก็เป็นหมอ” “ท่านคงไปเข้าเวรสินะ ถึงไม่เห็นมาส่งเธอเลย” คำพูดของเขาเหมือนเข็มเล็กๆ ที่กำลังทิ่มแทงใจฉันอย่างช้าๆ “ท่านจากพวกเราไปนานแล้ว...”ฉันตอบเสียงเบา ความรู้สึกหลากหลายอัดแน่นจนฉันรู้สึกบีบคั้นหัวใจไปหมด ความเงียบเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ไบรอันคงรู้ตัวว่าตัวเองเผลอถามอะไรที่ไม่ควรออกไป แต่ฉันก็ไม่ได้โกรธเขาหรอกนะ ก็เขาไม่รู้นี่นา “ฉันขอโทษที่พูดไปแบบนั้น” ในที่สุดเสียงทุ้มนุ่มหูจากคนข้างๆก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ไบรอันหันมามองหน้าฉันบ่อยๆเพื่อดูอาการฉันอย่างเป็นกังวล “ไม่เป็นไรหรอก นายไม่รู้สักหน่อย”ฉันตอบโดยที่ยังมองออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อซ่อนใบหน้าที่เผยความรู้สึกออกมาชัดเจนว่าฉันค่อนข้างรู้สึกแย่ _________________________________________ บริเวณหน้าตึกคณะบริหารธุรกิจ... ที่หน้าตึกคณะบริหารฯตอนนี้เต็มไปด้วยชาวค่ายอาสาที่อยู่ในชุดทะมัดทะแมงพร้อมเดินทาง หน้าตาของแต่ละคนแสดงออกมากว่าง่วงเอาการและไม่อยากลุกจากเตียง แต่พอมาเจอเพื่อนหลายๆคน หน้าตาก็ยิ้มแย้มกันดี จะว่าไปฉันก็แอบตื่นเต้นนิดหน่อย (^^); ฉันนั่งที่เก้าอี้ยาวใต้ต้นไม้ โดยมีสัมภาระของฉันและไบรอันวางไว้อยู่ใกล้ๆ เรียกง่ายๆว่านั่งเฝ้าของนั่นเอง=_= ส่วนไบรอันก็แยกไปช่วยพี่มดดำจัดการเรื่องลงทะเบียนรายงานตัว เราตกเป็นเป้าสายตามาก ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าไบรอันถือเป็นคนดังคนหนึ่งของมหา’ลัยนี้ แล้วการที่ฉันมาพร้อมกับเขาก็ไม่พ้นเรื่องซุบซิบนินทา เฮ้อออ~ เอาเถอะ ฉันชินแล้วล่ะกับการถูกนินทาเพราะอีตาไบรอัน แต่มันก็อดไม่ได้ที่ฉันจะรู้สึกอึดอัดกับสายตาหลายๆคู่ที่มองมา “หวัดดี ^^”เสียงทักทายอย่างร่าเริงดังขึ้นใกล้ๆ พอหันไปดูฉันต้องเบิกตาโพลงด้วยความดีใจที่เห็นเขา “สายฟ้า!! มาได้ไง นายก็มาออกค่ายอาสานี้ด้วยเหรอ”ฉันถามเขาน้ำเสียงตื่นเต้น โชคชะตาไม่ใจร้ายกับฉันเกินไปที่ยังส่งเพื่อนมาให้ฉันเพื่อจะได้ไม่เหงา “ใช่แล้วล่ะ ฉันเป็นเด็กทุนน่ะ เลยออกค่ายเก็บชั่วโมงกิจกรรม ก็อย่างว่าแหละ ฉันมันเป็นบ้านนอก ที่บ้านไม่ค่อยมีตังค์ แต่โชคดีที่ฉันหัวดีอยู่บ้างเลยสอบชิงทุนมาเรียนที่นี่ได้น่ะ” “งั้นเหรอ มานั่งก่อนสิ”ฉันพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเชิญเพื่อนให้มานั่งข้างกายซึ่งยังว่างอยู่ สายฟ้าเดินมาทิ้งตัวนั่งข้างๆฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขามีเพียงแค่กระเป๋าใบใหญ่มาแค่ใบเดียว ฉันว่าผู้ชายไม่มีของใช้ส่วนตัวเยอะเหมือนของผู้หญิง เขาเลยไม่ได้ขนอะไรไปมากเหมือนฉัน (ส่วนใหญ่เป็นของกิน) มันน่าอิจฉาก็ตรงนี้แหละ “ไม่ยักรู้ว่าเธอก็ไปออกค่ายนี่ด้วยเหมือนกัน” “อ่อ พอดีมีเหตุให้ต้องไปนิดหน่อยน่ะ=[]=;” “เมื่อวานฉันเห็นเธอเข้าประชุมด้วย พอเลิกประชุมว่าจะเข้าไปทักซะหน่อย แต่สีหน้าเธอเหมือนมีเรื่องกลุ้มใจเลยไม่กล้าเข้าไปทัก” “เฮ้ย ทักได้ ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย” “ฮ่าๆๆ งั้นคราวหน้าถ้าเจอเธอที่ไหนฉันจะเข้าไปทักเลยแล้วกัน”สายฟ้าจ้องหน้าฉันยิ้มๆ เขาเงียบไปสักพักแล้วพูดขึ้น “ฉันดีใจนะที่รู้ว่าเธอก็ไปออกค่ายด้วย” “ฉันก็ดีใจที่เจอนาย นายรู้มั้ยว่าฉันไม่มีเพื่อนไปที่นั่นเลย” “มัวแต่คุยกันจนไม่สนใจเลยรึไงว่าคนอื่นเขาขนของไปเก็บใต้ท้องรถหมดแล้ว”เสียงเข้มๆของใครบางคนดังขึ้นใกล้ๆ น้ำเสียงเขาบอกอย่างชัดเจนว่าไม่สบอารมณ์ ดวงตาคมคู่สวยจ้องหน้าฉันเขม็งอย่างไม่พอใจ นี่เขาไปโกรธอะไรมาเนี่ย ประจำเดือนไม่มารึไง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ฉันล่ะตามอารมณ์เขาไม่ทันจริงๆ สายฟ้าเอากระเป๋าของตัวเองไปไว้ใต้ท้องรถแล้วเดินกลับมาช่วยฉัน สัมภาระของฉันมีเพียงแต่กระเป๋าเป้แบบสะพายสองใบ ส่วนกล่องของบริจาคฉันก็เอาไปรวมกับคนอื่นก่อนแล้ว “ฉันจัดการเอง” ในขณะที่สายฟ้าเอื้อมมือมาจะช่วยฉันยกกระเป๋า ไบรอันกลับคว้ากระเป๋าของฉันใบนั้นไปไว้ในมือแล้วบอกสายฟ้าเสียงเย็น ฉันได้แต่ยืนมองหน้าพวกเขาสลับกันไปมาเพราะความงงเริ่มเข้ามารับประทาน “ไบรอัน คุณอยู่นี่เอง โรสตามหาคุณแทบแย่” เสียงแหลมแสบแก้วหูของยัยพี่โรสดังเข้ามาก่อนตัวเป็นเครื่องระงับศึกทางสายตาได้เป็นอย่างดี เจ้าของเสียงเดินเข้ามากอดแขนไบรอันไว้เหมือนเช่นทุกครั้ง “โรสรอคุณที่บ้านตั้งนาน ทำไมคุณไม่เห็นไปรับโรสเลยล่ะ”โรสพูดท่าทางกระแหนะกระแหน แหม น่าหมั่นไส้จริง! ไม่อยากจะเชื่อว่าลุคคุณหนูอย่างยัยพี่โรสจะไปบุกป่าฝ่าดงกับเขาด้วยฉันมองสาวเปรี้ยวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า โรสสวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ลายสวยสะดุดตาแบบฟิตเปรียะแนบเนื้อกับรองเท้าส้นเข็มสูงสี่นิ้ว เหอะ! คิดได้ไง นี่ชุดออกค่ายของเธอเรอะ นี่ถ้าไม่บ้าก็ปัญญาอ่อนล่ะ(=_=;) “ผมไม่ได้บอกคุณว่าผมจะไปรับ”ไบรอันกรอกตาขึ้นลงอย่างรำคาญ พลางแกะมือของโรสออก “ผมขอเตือนอะไรคุณอย่างหนึ่งนะว่าให้ไปเปลี่ยนรองเท้าซะ” “ทำไมล่ะคะ สวยดีออก คู่นี้มีคู่เดียวในโลกนะคะเนี่ย ^O^”โรสพูดอย่างภาคภูมิใจพร้อมกับยิ้มหน้าบาน นำเสนอสินค้าแบรนด์เนมเต็มที่ “ก็ตามใจคุณ” “โรสให้คนใช้เอาของไปเก็บให้แล้ว แล้วไหนกระเป๋าของคุณล่ะคะ เดี๋ยวโรสจะเอาไปเก็บให้ นี่เหรอ”โรสพูดเองเออเองเสร็จสรรพก็คว้ากระเป๋าของฉันที่ไบรอันถืออยู่ไปโดยไม่รอให้เขาได้พูดอะไร “นั่นกระเป๋าฉัน”ฉันรีบบอก ได้ยินอย่างนั้นโรสก็รีบปล่อยกระเป๋าของฉันลงพื้นอย่างรวดเร็วราวกับรังเกียจมันมาก “นี่! เธอปล่อยกระเป๋าฉันลงพื้นแบบนั้นได้ไง ไม่กลัวข้าวของของคนอื่นเสียหายเลยเหรอ”ฉันว่ายัยนางร้ายหน้าสวยเสียงเข้ม “ช่วยไม่ได้”โรสเบ้ปากใส่ฉันแบบไม่แคร์ หน็อยยยยย!! สายฟ้าเดินเข้ามาใกล้ฉันเพื่อจะห้ามเพราะกลัวว่าฉันจะเข้าไปตบโรสล่ะมั้ง ก็น่าหมั่นไส้ซะขนาดนั้นนี่ แต่ฉันไม่ใช่คนที่ชอบใช้กำลังแบบนั้นหรอกนะ “ตอนแรกฉันก็เห็นว่าเธอดูเหมือนเป็นคนฉลาดคนหนึ่งเลยนะแต่ตอนนี้เธอทำให้ฉันรู้แล้วล่ะว่าฉันคิดผิด” “นี่แกหมายความว่ายังไงยะ”โรสหน้าตึงขึ้นทันที “เธอคงจะใช้ต่อมไร้ท่อทำงานแทนสมองจริงๆ ถึงไม่รู้ว่าการจะไปออกค่ายในที่ๆแบบนั้นเนี่ยควรจะแต่งตัวยังไง”ฉันเหยียดยิ้มเย้ยหยันให้ดูร้ายที่สุด แล้วมองโรสตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเพื่อยั่วโมโห “แต่งตัวแบบนี้แต่งไปให้ต้นไม้ในป่าดูรึไง” “กรี๊ดดดดดดดดดดด ยัยเด็กบ้านี่ ปากดีนักนะ!”โรสเงื้อมือขึ้นทำท่าจะตบฉาดเข้ามาที่หน้าฉัน แต่คิดเหรอว่าฉันจะกลัว “โรส ถ้าคุณอยากมีเรื่องทะเลาะวิวาทแบบนี้คุณก็กลับบ้านไปเลยไป”ไบรอันขึ้นเสียงใส่หญิงสาวข้างกาย แล้วดูเหมือนว่าเธอจะกลัวเขาอยู่มากเหมือนกันจึงยอมสลัดมือลง ถึงแม้จะไม่พอใจมากก็ตาม ฉันคว้ากระเป๋าของตัวเองขึ้นมาถือไว้ สายฟ้าเห็นอย่างนั้นเลยเข้ามาช่วยด้วยฉันเดินกระแทกไหล่โรสไปทางรถทัวร์ที่จอดอยู่เพื่อเอาสัมภาระไปเก็บ บนรถทัวร์ทั้งสองคันมีคนขึ้นไปจับจองที่นั่งกันและมันก็ใกล้เต็มหมดแล้ว “ไบรอันคะ เราไปขึ้นรถกันเถอะค่ะ นี่ก็ใกล้เวลาจะออกเดินทางแล้วด้วย”โรสว่า แล้วลากแขนไบรอันขึ้นรถไป เขาก็ยอมเดินตามไปโดยดี อาจจะเพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาอะไรอีก ฉันเดินนำสายฟ้าไปขึ้นรถอีกคันหนึ่ง แยกกันไปคนละคันกับยัยพี่โรสก็ดี ฉันจะได้นั่งสงบๆหน่อย
已经是最新一章了
加载中