Chapter 17 : พบคนหน้ามึน 1 อัตรา   1/    
已经是第一章了
Chapter 17 : พบคนหน้ามึน 1 อัตรา
ณ จุดพักรถ... หลังจากที่เดินทางมาได้เกือบสองชั่วโมง รถทัวร์ของชาวค่ายอาสาก็เข้าไปจอดยังจุดพักรถเพื่อให้ทุกคนได้ทำธุระส่วนตัวกันเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ตลอดการเดินทางที่มาที่นี่ สายฟ้าพูดจ้อไม่ไหยุด ฉันไม่ได้รู้สึกรำคาญหรืออะไรนะ ดีซะอีกที่มีคนชวนคุยแล้วเขาก็เป็นคนที่คุยสนุกด้วยแหละ สายฟ้าเพิ่งจะหยุดพูดแล้วหลับไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วนี่เอง ฉันนอนไม่หลับเพราะแปลกที่เลยได้แต่มองดูวิวนอกหน้าต่างไปเงียบๆ มาตลอดทาง ตอนนี้ฉันกำลังเดินดูของใช้ส่วนตัวที่ยังขาดที่มินิมาร์ช สายฟ้าแยกไปเข้าห้องน้ำแล้วจะมาเจอฉันที่นี่ตามที่เราได้นัดแนะกันไว้ เขาขำใหญ่เลยตอนที่ฉันบอกว่าจะซื้อไอศกรีมรสชอคโกแลตคืนเขา ฉันยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของร้าน บริเวณนี้เป็นพวกของใช้ในห้องน้ำซึ่งมีวางให้เลือกซื้อกันเยอะแยะละลานตา “อ้าวเมลล์” เสียงหวานใสประดุจแก้วเนื้อดีเอ่ยทักขึ้น เมื่อเห็นเจ้าของเสียงนั้นฉันก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจสุดๆ “พี่มะลิ หวัดดีค่ะ ^O^” พี่มะลิคือคนที่เข้ามาทักฉัน เธอเป็นคนหน้าตาน่ารักมากๆคนหนึ่งเลยล่ะเพียงแต่ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองเท่าไหร่ พี่มะลิเป็นคนนิสัยดีมากๆ ขยันแล้วก็เรียนเก่งด้วย เธอแก่กว่าฉันหนึ่งปี ตอนนี้ก็กำลังเรียนอยู่คณะพยาบาล เจ้าของเสียงหวานคนนี้เธอมีชีวิตที่ค่อนข้างลำบาก เพราะพ่อแม่และยายได้จากเธอไปจึงเหลือแค่พี่มะลิตัวคนเดียว ทุกวันตอนเช้ามืดพี่มะลิจะไปเก็บดอกมะลิจากสวนหลังบ้านมาร้อยเป็นพวงมาลัย และเอาไปขายให้แม่ฉันที่ร้าน เราจึงค่อนข้างสนิทกัน ฝีมือการร้อยมาลัยของเธอเรียกได้ว่าไม่มีที่ติเลยล่ะ ผู้หญิงคนนี้ใครได้อยู่ใกล้แล้วเป็นอันต้องหลงรักในนิสัยของเธอ พร้อมด้วยเสียงที่หวานใสเมื่อฟังแล้วอบอุ่นใจ และถ้าได้อยู่ใกล้ๆก็จะได้กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกมะลิ “หวัดดีจ้ะ ว่าแต่เมลล์ก็ไปออกค่ายนี้ด้วยเหรอ O.O?” “ใช่ค่ะ เมลล์ก็เพิ่งรู้นะว่าพี่มะลิก็ไปด้วย ดีใจจัง (^-^)” “พี่เป็นเด็กทุนน่ะจ้ะ ก็ต้องมาเก็บชั่วโมงกิจกรรม แล้วพี่ก็อยากมาช่วยเหลือน้องๆด้วย แล้วนี่เมลล์มาคนเดียวเหรอจ๊ะ พี่ไม่เห็นพี่หมอเลย” “พี่แมกซ์ติดประชุมสำคัญน่ะค่ะ ปีนี้เลยไม่ได้มาด้วย” “มะลิ!” อยู่ๆก็มีผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งเดินเข้ามาขัดบทสนทนา ผู้หญิงคนนั้นคงเป็นเพื่อนพี่มะลิ เราไม่เคยเจอกันแน่ๆ แต่ทำไมเธอถึงมองฉันตาเขียวปั๊ดแบบนั้นล่ะ “ว่าไงน้ำใส” “เธออยู่นี่เอง ได้ของรึยัง รีบไปจ่ายตังค์ จะได้ไปซะที” “เอ่อ จ้ะๆๆ” พี่มะลิรับคำอย่างเสียไม่ได้ พี่น้ำใสเดินออกไปก่อนแล้วแต่ไม่แคล้วหันมาจ้องหน้าฉันอย่างไม่ชอบขี้หน้า พี่มะลิหันมายิ้มแห้งๆให้ฉันแล้วเดินตามเพื่อนไป “อะไรกัน เฮ้อออ~” ฉันถอนหายใจยาวเพราะระอากับชะตาชีวิตตัวเองที่มีแต่คนไม่ชอบขี้หน้า ฉันเลิกสนใจคนประเภทนั้นก่อนจะหยิบแชมพูกลิ่นกุหลาบที่ใช้เป็นประจำออกมาจากชั้นและเดินไปยังตู้ไอศกรีมซึ่งอยู่ไม่ไกลกันสักเท่าไหร่ ฉันเลื่อนเปิดประตูกระจกของตู้ไอศกรีม ตัดสินใจหยิบไอศกรีมรสชอคโกแลตอย่างที่ตั้งใจ “อ่ะ ฉันซื้อคืนนายแล้วนะสายฟ้า”ฉันบอกพร้อมกับยื่นไอศกรีมไปให้คนที่เพิ่งเดินมาหยุดอยู่ช้างกายเพราะคิดว่าเป็นสายฟ้าที่นัดกันไว้ แต่กลับเป็นว่า... “รวยนักรึไง เที่ยวซื้อของให้คนอื่น” คนที่ฉันคิดว่าเป็นเพื่อนพูดเสียงเหี้ยม ไบรอันกระชากไอศกรีมที่อยู่ในมือฉันไปถือไว้อย่างรวดเร็ว ฉันมองหน้าผู้มาใหม่นิดๆแล้วทำเป็นไม่สนใจก่อนจะหยิบไอศกรีมรสเดิมมาอีกแท่ง แต่ผลก็เป็นอย่างเดิม คือไบรอันแย่งไอศกรีมในมือฉันไปอีก “ไปโมโหอะไรมาเนี่ยฮะ แล้วก็กรุณรอย่างมาลงที่ฉันด้วย”ฉันว่าพร้อมกับจ้องหน้าไบรอันเขม็ง ฉันละสายตาจากใบหน้าหล่อเหลา ก้มลงไปหยิบไอศกรีมรสเดิมหวังจะหยิบแล้วรีบไปจ่ายตังค์ จะได้ไปพ้นๆหน้าคนยิ่งยโสคนนี้ซะที แต่แล้วไบรอันก็ทำให้ฉันของขึ้นจนได้เมื่อเขากระชากไอศกรีมจากมือฉันไปเป็นอันที่สาม “นี่! อยากกินก็หยิบเองสิ”ฉันบอกเขาอย่างอารมณ์เสียแล้วเอื้อมมือไปหวังจะแย่งไอศกรีมจากเขามาเพราะในตู้ไม่เหลือรสที่ฉันต้องการแล้ว แต่ไบรอันก็ชูมันขึ้นสุดแขนเพื่อไม่ให้ฉันแย่งมันไปได้ “เอามานะ”ฉันสั่งเสียงเข้ม ชักสีหน้ามองเขาอย่างไม่พอใจ ไบรอันไม่นำพาในสิ่งที่ฉันต้องการ ริมฝีปากสวยเหยียดยิ้มตรงมุมปากอย่างกวนบาทาเป็นที่สุด “ได้! อยากเล่นแบบนี้นักใช่มั้ย” “เธอจะทำไร”ไบรอันถามขึ้นเมื่อเห็นฉันมีท่าทีที่เปลี่ยนไปเหมือนมีแผนการอะไรอยู่ในใจ “ทุกคนคะ! ฟังทางนี้ค่ะ”ฉันตัดสินใจตะโกนออกไปกลางร้าน ทุกคนที่อยู่ในนี้มองมาทางเราเป็นตาเดียวกันพร้อมกับทำหน้าสงสัย “วันนี้รุ่นพี่คนนี้ใจดีจะเป็นคนจ่ายเงินให้ทั้งหมด เชิญทุกคนเลือกซื้อกันได้ตามสบายเลยนะคะ เอาเยอะๆเลยยิ่งดีค่ะ เพราะรุ่นพี่คนนี้ชอบ” ไร้ซึ่งเสียงตอบรับและการเคลื่อนไหวแม้แต่ยุงก็ยังหยุดบินเมื่ออยู่ในสถานการณ์อย่างนี้ ทุกคนหันไปมองหน้าไบรอันเป็นเชิงถามว่า ‘จริงเหรอ?’ ซึ่งเขาได้แต่ทำหน้านิ่งๆเหมือนยอมรับกลายๆอย่างเสียไม่ได้ ขืนปฏิเสธไปเสียหน้าแย่เลย “มัวแต่ยืนงงอะไรกันล่ะคะ โอกาสดีๆแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆนะ เอ้ เอาอะไรดีน้า” ฉันบอกทุกคนแล้วทำทีเป็นเดินเลือกซื้อของอย่างสบายใจหายห่วงเรื่องเงินเพราะมีเสี่ยกระเป๋าหนักเป็นคนจ่าย เมื่อเห็นฉันเลือกหยิบของโน่นนี่เหมือนเป็นแกนนำ ทุกคนก็เลยเอาบ้าง หยิบของกันใหญ่เลย เอาน่า แค่นี้ขนหน้าแข้งไบรอันไม่ร่วงหรอก เขาน่ะรวยจะตายไป เหอะ! เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับเมลล์ “ยัยเด็กบ้านี่”ไบรอันกัดฟันพูดอย่างโกรธๆ เขายืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่าโกรธแค้น ฉันกับไบรอันยืนมองผู้คนในร้านหยิบของกันอย่างสนุกมือด้วยอารมณ์ที่ต่างกันลิบลับ ฉันยืนยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี เขาน่ะเหรอ ยืนกัดฟันจนกรามปูดเพราะทำอะไรไม่ได้และไบรอันต้องจำใจยื่นบัตรเครดิตสีทองให้พนักงานของร้านเพื่อชะรำเงิน ฉันเดินหอบขนมออกมาจากมินิมาร์ชอย่างอารมณ์ดีเพราะไม่ได้เสียเงินแม้แต่บาทเดียว เหมือนว่าคนหมดเงินจะยังแค้นฉันไม่หายเขาจึงเดินตามฉันขึ้นรถมาด้วย ไม่พอแค่นั้นไบรอันยังถือวิสาสะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆฉันด้วย “ลงไปเลยนะ นี่ไม่ใช่ที่ของนาย ที่นายอยู่โน่น”ฉันว่าแล้วพยักพเยิดไปทางรถทัวร์อีกคันที่จอดอยู่ข้างๆ “จะที่ไหนก็เหมือนกันนั่นแหละ” “จะเหมือนกันได้ยังไง นี่มันที่นั่งของสายฟ้านะ”ฉันแย้งเต็มที่ “งั้นเหรอ งั้นฉันก็จะนั่งนี่แหละ หึ!”คนหน้ามึนเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ “ไม่ได้...” “เมื่อกี้มีเรื่องอะไรกันเหรอ ฉันเห็นคนเต็มมินิมาร์ชเลยไม่ได้เข้าไป” ก่อนที่จะมีการวางมวยระหว่างฉันกับไบรอัน สายฟ้าก็เดินเข้ามาถามขัดจังหวะซะก่อน “ไม่มีอะไรหรอกสายฟ้า ขอโทษทีนะที่ไม่ได้ซื้อไอศกรีมให้นาย พอดีมันหมดน่ะ( -_-)*”ประโยคสุดท้ายฉันพูดพร้อมกับจิกตามองคนที่นั่งแผ่รังสีอำมหิตอยู่ข้างๆอย่างค้อนๆ “ไม่เป็นไร”สายฟ้าตอบแล้วส่งยิ้มแห้งๆมาให้ “กรุณาเช็คคนที่นั่งอยู่ข้างๆตัวเองด้วยนะคะว่ามากันครบรึยัง รถของเราจะออกเดินทางต่อแล้วค่าทุกโค๊นนนน” ในขณะนั้นเองพี่มดดำก็ประกาศขึ้นพอดี นี่คงเป็นโอกาสที่ฉันจะไล่ผู้ชายนิสัยไม่ดีไปซะที เพราะนี่ก็หมดเวลาพักครึ่งชั่วโมงแล้ว “สายฟ้ามานั่งสิ”ฉันเอ่ยชวนเพื่อน เป็นการไล่ไบรอันทางอ้อม หวังว่าเขาคงฉลาดพอที่จะรู้ตัวว่าโดนไล่นะ -O- “แต่ว่า...”สายฟ้าอ้ำอึ้งแล้วมองไปทางไบรอัน “นี่เป็นที่ของนาย ไม่ใช่ที่ของเขา”ฉันบอกเสียงเข้มขึ้น “ไม่เห็นเหรอว่ามีคนนั่งแล้ว ไปนั่งที่อื่นสิ”ผู้ชายหน้าหนาพูดขึ้นอย่างไม่สำนึก ‘ที่อื่น’ ที่เขาพูดน่ะหมายถึงรถอีกคัน เพราะว่ารถคันนี้เต็มแล้ว “ไม่ต้องไปสายฟ้า” “เร็วสิ คนอื่นเขาขึ้นรถกันหมดแล้ว จะให้ทุกคนรอนายคนเดียวรึไง” “ว่าไงคะ สุดหล่อ หาที่นั่งไม่เจอเหรอ”พี่มดดำเดินมาถามเมื่อเห็นว่าสายฟ้ายังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม นั่นเป็นตัวกดดันชั้นดีให้สายฟ้ารีบไปหาที่นั่งได้แล้ว “งั้นไว้เจอกันนะเมลล์”สายฟ้าบอกแค่นั้นก็รีบเดินลงรถไปเลย พี่มดดำก็เดินจากไปยังรถอีกคันเพื่อทำหน้าที่เช็คจำนวนคนต่อ “สายฟ้า รอฉันด้วย”ฉันทำท่าจะลุกขึ้นแล้วตามสายฟ้าไป แต่ร่างสูงข้างกายก็กดไหล่ฉันให้นั่งลงตามเดิม “จะตามมันไปทำไม”ไบรอันขึ้นเสียงใส่ ดวงตาคมมองมาอย่างไม่สบอารมณ์ “แล้วนายมายุ่งอะไรด้วย”ฉันเถียงแล้วจ้องหน้าเขาตอบอย่างไม่ยอมแพ้ ให้เขารู้บ้างก็ดีว่าที่เขาทำแบบนี้ฉันก็ไม่พอใจเหมือนกัน “ทำไมจะยุ่งไม่ได้ ก็ในเมื่อแม่เธอบอกให้ฉันดูแลเธอ” “แล้วมันเกี่ยวกับที่นายไล่เพื่อนฉันไปนั่งที่อื่นด้วยรึไง” “ทำไม ก็ฉันพอใจที่จะทำแบบนี้” “นี่!!”ฉันตวาดใส่หน้าเขาเพราะหมดความอดทน ทำไมเขาถึงหน้าด้านหน้าทนแบบนี้นะ ฉันเอื้อมมือไปหวังจะตะกุยหน้าหล่อๆนั่นให้หายคันไม้คันมือ แต่ก็โดนมือหนารวบไว้ได้ทัน ไม่พอแค่นั้นไบรอันยังยื่นหน้าเข้ามาชิดฉันอย่างรวดเร็ว ถ้าฉันเอนหัวหนีไม่ทันล่ะก็ ปากเราคงจะสัมผัสกันแน่ๆ “นั่งไปเงียบๆ ถ้าคิดจะเถียงอีกล่ะก็ ฉันจะจูบเธอโชว์บนรถนี่แหละ” “นาย...”ฉันอ้าปากจะเถียง แต่ไบรอันก็พูดขัดขึ้นมาก่อนที่ฉันจะทันได้พูดจบด้วยซ้ำ “อย่าคิดว่าฉันไม่กล้า เพราะถ้าฉันจะทำจริงๆฉันก็ไม่ได้แคร์อยู่แล้วว่าใครจะมองยังไง” ฉันพูดไม่ออก ได้แต่มองหน้าหล่อเหลาที่กำลังกระตุกยิ้มอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า ไบรอันปล่อยมือฉันให้เป็นอิสระ ฉันได้แต่กัดฟันกรอดเพราะไม่มีทางสู้ก่อนจะสะบัดหน้าหนีเขามองออกไปทางหน้าต่าง ไม่อยากจะมองหน้าเขาให้เสียสายตา จะมีสักครั้งมั้ยนะที่อยู่ด้วยกันแล้วเขาจะไม่ทำให้ฉันอารมณ์เสียแบบนี้... _________________________________________ กลางคืนวันหนึ่ง... บนถนนสายหนึ่งในจังหวัดตากมีรถตู้คันหนึ่งกำลังเดินทางมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานครฯ ภายในรถมีผู้โดยทั้งหมดสิบคนและแปดคนที่อยู่ในรถคันนี้มีอาชีพเป็นหมอทั้งสิ้น หลังจากที่พวกเขาทั้งหมดเดินทางไปเยี่ยมชาวไทยภูเขาชนเผ่าหนึ่งที่อาศัยอยู่ในจังหวัดตาก ชาวบ้านที่นั่นมีคุณภาพชีวิตค่อนข้างต่ำ พวกเขาที่เป็นหมอจึงเข้าไปช่วยให้การรักษาชาวบ้านที่ป่วยแต่ไม่สามารถมารักษาได้ในเมือง การที่จะเป็นแพทย์อาสาส่วนหนึ่งต้องมาจากใจรักที่จะช่วยเหลือโดยไม่ต้องการผลตอบแทน แค่ได้เห็นคนที่ตนเองรักษามีชีวิตที่ดีขึ้น หายป่วยและมีสุขภาพแข็งแรงนั่นคือผลตอบแทนที่ดีที่สุดของการเป็นแพทย์ ดังนั้นพวกเขาจึงมาอยู่ที่นี่ยังไงล่ะ เมื่อปฏิบัติหน้าที่เสร็จทุกคนจึงเดินทางกลับ ชายวัยกลางคนหน้าตาและท่าทางใจดีคนหนึ่งนั่งมองวิวจากหน้าต่างรถตู้ เขาขยับแว่นตาที่หล่นลงมาตรงจมูกนิดหน่อยให้เข้าที่ก่อนจะก้มลงดูมือถือที่อยู่ในมือ ขณะที่กำลังจะโทรออกไปยังชื่อ ‘ที่รัก’ เขาก็เป็นอันต้องชะงักมือเพราะเสียงๆหนึ่ง รถบรรทุกคันหนึ่งขับมาด้วยความเร็วสูงบีบแตรเสียงดังสนั่นพุ่งเข้ามาทางรถตู้คันนี้อย่างไม่อาจควบคุมทิศทางได้ คนขับรถบรรทุกหลับในแล้วตกใจแสงไฟจากรถตู้ที่ขับพ้นโค้งมา แสงจากรถตู้แยงตาเขาทำให้ตกใจตื่นขึ้นมา และเขาไม่สามารถบังคับทิศทางรถได้อีกต่อไป... ปรื้นๆๆๆ ปรื้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน~
已经是最新一章了
加载中