Chapter 18 : อยากอยู่ใกล้เธอ...   1/    
已经是第一章了
Chapter 18 : อยากอยู่ใกล้เธอ...
[::Brian’s Part::] หลับอย่างนี้ก็ดูไม่มีพิษสงอะไร... ผมคิดกับตัวเองขณะที่มองคนตัวเล็กข้างกายซึ่งกำลังหลับตาพริ้มซบไหล่ผมอยู่ ผมไล่มองตั้งแต่หน้าผากมนลงไปยังดวงตากลมโตที่มีแผงขนตางอนยาว จมูกโด่งเชิดรั้นขึ้นนิดๆ และไล่ลงไปยังริมฝีปากจิ้มลิ้มสีเชอร์รี่น่ามอง...ริมฝีปากที่ผมไม่เคยได้สัมผัสมันสักครั้ง เมลล์หลับไปเกือบชั่วโมงแล้ว แต่กว่ายัยเด็กนี่จะหลับก็พักใหญ่เหมือนกัน ผมเห็นเมลล์หลับสนิทก็เลยแอบเอนหัวเธอให้มาซบไหล่ผมเพื่อให้นอนสบาย ผมเอื้อมมือไปดึงเสื้อเจ็กเก็ตของผมที่ถอดไปห่มให้เมลล์ขึ้นนิดหน่อย แต่แล้วยัยตัวดีก็ทำผมชะงักไปเมื่อร่างบางข้างกายเอื้อมมากอดแขนผมแน่นเพื่อหาไออุ่น ดีแล้วล่ะที่ยัยนี่หลับไม่รู้เรื่อง เธอจะได้ไม่รู้ว่าทำให้ผมใจเต้นแรงไม่น้อยเลย... ตลอดทางที่ผมนั่งมากันโรส ยัยนั่นก็พูดนั่นพูดนี่จนผมรำคาญเลยทำเป็นแกล้งหลับซะ พอรถทัวร์จอดให้พักผมก็ชิ่งหนีตอนที่โรสลงไปเข้าห้องน้ำ ผมลืมบอกไปสินะว่าที่โรสไปออกค่ายครั้งนี้ด้วยเพราะอะไร ก็เพราะผมไปยังไงล่ะ =__=; เมื่อปีที่แล้วผมแอบหนีเธอมาออกค่ายโดยที่ไม่ให้เจ้าตัวรู้ พอโรสรู้ทีหลังก็โวยวายใหญ่เลย แต่ผมก็ไม่แคร์หรอก พอมาปีนี้โรสจึงไม่พลาดโอกาสที่จะตามมาสร้างความรำคาญให้ผม แต่ผมจะทำอะไรเธอได้ ถ้าไม่เห็นแก่คุณแม่ที่ขอไว้ถ้าเธอไม่ได้เป็นลูกสาวของเพื่อนรักท่านล่ะก็ อย่าหวังเลยว่าจะได้มาอยู่ใกล้ผมแบบนี้ =_= ทุกคนคงสังสัยกันใช่มั้ยว่าอย่างผม ไอ้ดีแซมและไอ้คอปเตอร์มีจิตสาธารณะอะไรแบบนี้กับเขาด้วยเหรอ สาเหตุมาจากการที่ไอ้ดีแซมเป็นหลานรักของท่านอธิการบดีของมหา’ลัยเรา ท่านอยากให้ไอ้ดีแซมไปออกค่ายดีเด่นอย่างค่ายอาสาค่ายนี้ด้วย แต่จากนิสัยไอ้ดีแซมแล้วมันไม่ยอมมาลำบากคนเดียวแน่นอนมันเลยลากพวกผมไปเป็นคณะผู้ดูแลค่ายด้วยกันยังไงล่ะ บอกตรงๆนะว่าตอนแรกที่ผมรู้เรื่องก็เคืองมันเหมือนกัน ปีแรกเราสามคนเลยไม่ไปออกค่ายอะไรกับเขา แต่พอไปปีที่แล้วพวกผมก็เริ่มเปลี่ยนทัศนะคติที่มีต่อค่ายไปโดยปริยาย ผมว่าถ้าผมมีโอกาสก็อยากจะมาออกค่ายนี้ด้วยเหมือนกันไม่ว่าผมจะเรียนจบไปแล้วก็ตาม ยังไงผมก็อยากให้มีค่ายดีๆแบบนี้อยู่คู่มหา’ลัยของเราไปนานๆ แต่วันนี้เมลล์ทำผมหงุดหงิดบ่อยมาก แม้ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ผมต้องสะดุ้งตกใจเมื่อจู่ๆเมลล์ก็สะดุ้งตื่นนั่งตัวตรง เธอหายใจแรงเหมือนวิ่งมาหลายกิโลเมตร “เป็นอะไร”ผมหันไปถามอย่างเป็นห่วง แต่ที่ทำให้ผมตกใจมากกว่านั้นคือใบหน้าเนียนเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นทาง “เปล่าๆ ไม่เป็นไร”เมลล์รีบปฏิเสธปากคอสั่นพร้อมกับเช็ดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว “ฝันร้ายเหรอ” เมลล์เงียบไป ดวงตากลมโตก้มมองมือที่เต็มไปด้วยเหงื่อนิ่งๆ ก่อนที่เสียงใสจะพูดออกมาเสียงเบา “ก็...ทำนองนั้น” “มันก็แค่ฝัน เธออย่าเก็บไปคิดเลย”ผมพูดปลอบคนตัวเล็กเท่าที่คนอย่างผมจะคิดออก ผมเป็นคนปลอบคนไม่ค่อยเก่ง “ถ้ามันเป็นแค่ฝันก็ดีน่ะสิ”เมลล์พูดเสียงเศร้า แต่ผมไม่รู้ว่าเธอรู้สึกยังไงเพราะดวงตากลมโตกำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง “หมายความว่าไง”ผมถามอย่างไม่เข้าใจ “ไม่มีอะไรหรอก” อีกครั้งที่เมลล์ไม่ยอมบอกผมว่าเธอมีเรื่องอะไรในใจ ผมรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังรู้สึกแย่จึงไม่ได้ถามอะไรออกไป อีกเดี๋ยวก็คงจะถึงที่หมาย ปล่อยให้เมลล์คิดอะไรเงียบๆคนเดียวน่าจะดีกว่า [::End:Brian’s Part::] _________________________________________ ตั้งแต่สะดุ้งตื่นจากฝันร้ายฉันก็ไม่หลับอีกเลยจนเดินทางมาถึงที่หมาย... เพราะไบรอันหนียัยพี่โรสมาอยู่กับฉัน นางเลยวีนฉันยกใหญ่ แต่เมื่อเธอโดนไบรอันตำหนิเรื่องพฤติกรรมความขี้วีนขี้เหวี่ยงของเธอ เจ้าตัวจึงยอมสงบศึกลง แต่ก็ยังไม่วายส่งคำด่าทอมาทางสายตาซึ่งฉันแกล้งทำเป็นไม่เห็นมันเพราะไม่อยากเสวนาด้วย เนื่องจากทางขึ้นหมู่บ้านเรียกได้ว่าเป็นทางวิบาก รถทัวร์ไม่สามารถขึ้นไปได้ตามที่พี่มดดำได้บอกไว้ก่อนแล้ว พวกเราทุกคนจึงลงจากรถมาสูดอากาศบริสุทธิ์บริเวณรอบๆที่รถจอด บริเวณนี้มีแต่แมกไม้สีเขียวขจีสบายตา ฮ้าาาาาา~ ฉันชอบบรรยากาศแบบนี้จัง เย็นสบายมากๆเลยล่ะ ^______^ ฉันเดินถือกล่องข้าวไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลและยังไม่มีใครนั่ง ฉันก้าวฉับๆลงไปนั่งตรงนั้นอย่างสบายใจ ได้ทานข้าวเช้าซะที ฉันหิวมากๆ เลยล่ะ _ อีกหนึ่งชั่วโมงต่อจากนี้ เราก็ต้องเดินเท้าขึ้นเขาเป็นเวลาสองชั่วโมง ถ้าเทียบเป็นระยะทางแล้วก็น่าจะประมาณสิบกว่ากิโลเมตรได้มั้ง แค่คิดฉันก็หอบแล้วอ่ะ สายฟ้าหน้ายุ่ง คิ้วเรียวสวยผูกกันเป็นปม เขาเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆฉันอย่างเซ็งๆ เขาต้องมีเรื่องรบกวนจิตใจมากแน่ๆ ปกติสายฟ้าเป็นคนอารมณ์ดีจะตายไป “เป็นอะไรไป”ฉันกลั้วหัวเราะถามคนเป็นเพื่อน สีหน้าเขาตอนนี้มันตลกสุดๆไปเลยล่ะ “ก็ยัยป้าที่ชื่อโรสนั่นน่ะสิ พูดมากจะตายชัก นี่ขนาดฉันแค่ไปนั่งข้างๆยัยนั่นเองนะ ไม่ได้ไปทำอะไรให้สักหน่อยยังบ่นขนาดนี้ ถ้าฉันเผลอไปเหยียบโดนรองเท้าแบรนด์นงแบรนด์เนมที่เธอใส่อยู่ล่ะก็ เหอะ! ไม่อยากจะคิดเลย” ฉันฟังเหตุผลที่ทำให้สายฟ้าทำหน้ายุ่งแล้วก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ก็สมน้ำสมเนื้อแล้วนี่”ฉันว่า “หมายความว่าไง” “ก็หมายความว่า นายก็พูดเก่งเหมือนกันไง” “มันก็จริงที่ฉันพูดเก่ง แต่ยัยป้านั่นบ่นเก่ง”สายฟ้าบอกเสียงเซ็ง เขาเน้นคำว่า ‘บ่น’ เสียงดังขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์สุดๆ “นายก็อย่าไปใส่ใจกับคนแบบนี้มากสิ คิดมากไปก็หนักหัวเปล่าๆ -[]-“ “ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก แค่เซ็งๆน่ะ =__=” “เอ่อ ขอโทษนะคะ พี่ขอนั่งด้วยคนได้มั้ย ^____^” อยู่ๆก็มีใครบางคนเดินเข้ามาทักก่อนที่ฉันกับสายฟ้าจะทันได้คุยอะไรกันต่อ พอหันไปดูก็เห็นว่าเป็นพี่น้ำว้านั่นเอง เธอมีกล่องกับข้าวติดมือมาด้วย “เชิญค่ะ (^^)”ฉันบอกด้วยความเต็มใจ พี่น้ำว้าจึงนั่งลงใกล้ๆ ยังไม่ทันที่เราจะได้พูดอะไรกันต่อ ฉันก็เห็นพี่คอปเตอร์เดินมาทางนี้ แน่นอนว่าแฟนเขาอยู่ที่ไหนเขาก็ต้องตามมาประกบอยู่แล้ว จากข่าวลือที่ปลิวมาเข้าหูฉันบ่อยๆ ว่าเขาหวงแฟนมากเขาก็ไม่อยากจะปล่อยให้แฟนสุดสวยอยู่ไกลสายตานักหรอก พี่ดีแซมก็เดินตามมาด้วย เขามาพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวที่สาวๆคนไหนเห็นเป็นอันต้องละลาย ไบรอันจอมหยิ่งมียัยพี่โรสติดสอยห้อยตามเหมือนสัตว์ชนิดหนึ่งนามว่า ‘ชะนี’ ก็เดินมาทางนี้ด้วยเช่นเดียวกัน หลังจากที่ไปประชุมกับพวกคณะผู้ดูแลค่าย พวกเขาก็เดินมานั่งสมทบเป็นวงกลมขนาดย่อมๆ โดยมีนายจอมหยิ่งแสนกวนประสาทนั่งอยู่ตรงข้ามกับฉันคอยส่งสายตาอาฆาตไปให้เพื่อนฉันเป็นพักๆ สายฟ้าไปทำอะไรให้ไบรอันโกรธกันนะ “ว้าว กับข้าวน้องเมลล์น่าทานจัง *O*” ฉันละสายตาจากใบหน้าหล่อเหลาของคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม หันไปมองร่างบางข้างๆ ซึ่งกำลังจ้องกับข้าวฉันอย่างสนใจ วันนี้แม่ฉันทำหมูเปรี้ยวหวานกับหน่อไม้ฝรั่งผัดแฮมให้ ขออวดหน่อยว่ากับข้าวฝีมือแม่ฉันอร่อยที่สุดในโลกเลยนะ (^^) “ลองชิมดูสิคะ”ฉันบอกแล้วยื่นกล่องกับข้าวไปให้พี่น้ำว้า พอเธอได้ชิมเท่านั้นแหละก็ตาโตเลย “โห อร่อยมากเลย เมลล์ทำเองเหรอ” “แม่เป็นคนทำน่ะค่ะ เมลล์ทำกับข้าวไม่ค่อยเก่งเลยได้แต่เป็นลูกมือให้แม่เท่านั้นแหละค่ะ”ฉันบอกไปตามความจริง ฉันเป็นพวกชอบกินมากกว่าชอบทำน่ะ “กับข้าวพี่น้ำว้าก็น่าทานมากๆเลย พี่น้ำว้าทำเองเหรอคะ” “ใช่จ้ะ เมลล์ของชิมดูสิ”ไม่ว่าเปล่า พี่น้ำว้ายังคีบกุ้งตัวโตจากเมนูบร็อคโคลี่ผัดกุ้งมาวางบนข้าวฉันอย่างใจดี มันก็น่ากินอยู่หรอกนะ แต่ฉันแพ้กุ้ง... “เอ่อ พี่น้ำว้าคะ คือเมลล์แพ้กุ้ง”ฉันพูดเสียงเบาแล้วยิ้มแห้งๆให้เธอ “อ้าว พี่ไม่รู้ๆ ขอโทษทีจ้ะ”พี่น้ำว้าพูดแล้วรีบคีบกุ้งตัวนั้นออกห่างฉันโดยเร็ว “งั้นเมลล์ขอชิมผัดผักรวมมิตรได้มั้ยคะ” “ได้แน่นอนจ้ะ” พอได้รับอนุญาตแล้วฉันก็ไม่รอช้ารีบชิมกับข้าวฝีมือพี่น้ำว้าเพื่อไม่ให้เธอเสียใจที่ฉันกินบร็อคโคลี่ผัดกุ้งฝีมือเธอไม่ได้ พอกับข้าวเข้าปากเท่านั้นแหละ ฉันก็รู้เลยว่าฝีมือทำกับข้าวพี่น้ำว้าไม่ใช่เล่นๆเลย ถึงว่าสิ พี่คอปเตอร์ทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้ “อร่อยมากเลยค่ะ”ฉันเอ่ยชมจากใจจริง “ไม่เห็นจะน่ากินเลย จะอร่อยได้ยังไง” ฉันกับพี่น้ำว้าหันไปมองคนพูดพร้อมกันทันทีก็เห็นยัยพี่โรสเบ้ปาก ดวงตาคู่สวยที่กรีดด้วยอายไลน์เนอร์เส้นคมมองกับข้าวเราสองคนอย่างเหยียดๆ พี่น้ำว้าส่ายหน้านิดๆ ด้วยความเอือมระอา ฉันว่าพี่น้ำว้าก็คงจะปลงกับนิสัยคนๆนี้แล้วล่ะ ฉันก็ควรต้องทำด้วยใช่มั้ยเพราะเราต้องอยู่ด้วยกันหลายวันเลยนี่นา=_=* แรงกระตุกเบาๆบนหัวฉันเหมือนมีใครหยิบอะไรสักอย่างออกจากเส้นผม พอฉันหันไปมองสายฟ้าก็เหลือบไปเห็นใบไม้ในมือเขา “ใบไม้ติดหัวเธอน่ะ ฉันเลยหยิบออกให้”สายฟ้าตอบโดยที่ฉันไม่ต้องถาม กร็อบ! ทันใดนั้นเสียงบีบขวดน้ำก็ดังขึ้น ฉันหันไปมองตามเสียงนั้นก็เห็นว่าไบรอันกำลังมองมาทางเราตาแข็ง ที่มาของเสียงนั้นอยู่ในมือเขา ขวดน้ำก็ไม่ต่างจากกระดาษนักเมื่อไบรอันอยู่ในอารมณ์ที่คุกรุ่นแบบนี้ เขาบีบมันแค่ครั้งเดียวขวดนั้นก็แทบจะแหลกคามือ “ไอ้เวรนี่ก็แผ่รังสีอำมหิตอยู่ได้ ฉันจะกินข้าวไม่ลงอยู่แล้วนะโว้ย”พี่ดีแซมโพล่งขึ้นมากลางคัน ไบรอันที่นั่งใกล้เขาจึงผลักหัวเพื่อนไปทีหนึ่งโทษฐานที่พูดอะไรไม่เข้าท่า แล้วฉันก็เหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไปไม่ไกล ฉันมองเลยไหล่ไบรอันไปเห็นเธอกำลังเดินหาที่นั่งอยู่ “พี่มะลิ!”ฉันตะโกนเรียก จึงทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้หันมองตามไปด้วย “มานั่งด้วยกันสิคะ” พี่มะลิยิ้มกว้างให้ฉันก่อนจะหันไปมองเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างขอคำปรึกษา แต่พอเห็นสีหน้าเพื่อนเท่านั้นแหละ พี่มะลิก็ถึงกับหน้าเจื่อนลงไปทันที พี่น้ำใสกระชากข้อมือพี่มะลิเดินออกไปอีกทาง พี่มะลิได้แต่ส่งคำขอโทษมาทางสายตาที่เพื่อนทำท่าทางแบบนั้น แต่ก่อนที่พี่น้ำใสจะไป ถ้าฉันตาไม่ฝาดเห็นไม่ผิดเธอจิกตาใส่ฉันกับพี่น้ำว้าใหญ่เลยล่ะ ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าฉันเคยไปทำอะไรให้เธอโดยที่ฉันไม่ได้ตั้งใจรึเปล่า(-_-); “ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงมองหน้าพี่แบบนั้นด้วย”พี่น้ำว้าพูดขึ้นมากลางวงหลังจากที่สองคนนั้นเดินไปทางอื่นแล้ว “นั่นน่ะสิคะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมองหน้าเมลล์แบบนั้น”ฉันว่า “จะอะไรซะอีกล่ะ ก็เรียกร้องความสนใจเอาไว้เยอะ จะแปลกอะไรที่คนอื่นเขาจะหมั่นไส้เอาน่ะ” ยัยพี่โรสพูดทะลุกลางปล้องอย่างเจ็บๆแสบๆ ความอดทนฉันชักจะหมดเต็มทีแล้วนะ นี่อุตส่าห์ไม่ต่อปากต่อคำมาได้ตั้งนานสองนาน “เก็บปากไว้กินข้าวเถอะค่ะ”ฉันก้มลงกินข้าวแล้วพูดลอยๆเหมือนไม่ใส่ใจอะไรกับคนบ้านัก ฉันได้ยินเสียงสายฟ้า พี่คอปเตอร์และพี่ดีแซมหลุดขำด้วยนะ คงไม่คิดล่ะสิว่าฉันจะพูดอะไรแบบนี้ออกไป “อย่าไปใส่ใจเลย คงอยู่ในช่วงวัยทองน่ะ อารมณ์แปรปรวนปากเลยอยู่ไม่สุข”พี่น้ำว้าเสริมได้เจ็บแสบที่สุด นี่สินะ คนร่วมอุดมการณ์ที่ฉันตามหามานาน แล้วเสียงหวีดร้องอย่างเจ็บใจของยัยพี่โรสที่ถูกรุมกัดก็ดังขึ้นอย่างโหยหวนเป็นที่สุด ฉันกับพี่น้ำว้าจึงยิ้มให้กันเพราะสะใจ
已经是最新一章了
加载中