ตอนที่ 9
“น้องเอ๋ย...บอกแม่จ๋าหน่อยได้ไหมคะว่าน้องเอ๋ยเจอ...เอ้อ...คนที่น้องเอ๋ยเรียกป๋าโอม...ที่ไหน”
อัยย์ญาดาตั้งคำถามเมื่อพาลูกน้อยเข้าไปในห้องและจับอรินลดานั่งบนตัก กอดลูกไว้ด้วยความรักสุดหัวใจ ทำอย่างกับว่ากลัวเลือดเนื้อของเธอจะลอยหายไปเสียตอนนี้ อรินลดากอดคอมารดาไว้และตอบด้วยเสียงใส
“น้องเอ๋ยเจอป๋าโอม...ตอนแม่จ๋าเข้าไปในห้องนั้น”
“ค่ะ...โอเค...แล้วเขาพูดอะไรกับน้องเอ๋ยบ้าง”
หนูน้อยทำท่าคิดก่อนตอบ “เขาถามว่าแม่จ๋าไปไหน น้องเอ๋ยบอกว่า แม่จ๋าเข้าไปในห้องนั้น”
“ค่ะ...แล้วเขาพูดอะไรอีกไหม”
“เขาบอกว่าน้องเอ๋ยอย่าซน”
“เหรอคะ...เขาพูดอะไรอีกไหม”
“เขาบอกว่า...เขาชื่อโอม...น้องเอ๋ยเลยบอกว่า ชื่อเหมือนป๊ะป๋าของน้องเอ๋ย”
“แม่จ๋าได้ยินน้องเอ๋ยเรียกเขาว่า ป๋าโอม”
“เขาให้น้องเอ๋ยเรียกป๋าโอมค่ะแม่จ๋า”
“ลูกแม่”
อัยย์ญาดาเผลอกอดลูกรักไว้แนบอกโดยเด็กหญิงไม่รู้เลยว่ามารดาน้ำตาหยดลงบนแก้ม หญิงสาวรู้สึกราวกับหัวใจดวงนั้นลอยหายและแทบกลั้นสะอื้นไม่อยู่หากไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นหน้าบ้านเสียก่อนพร้อมกันกับที่อรินลดาพูดขึ้นว่า
“แม่จ๋า...ใครมา?”
หญิงสาวรีบปาดน้ำตากลัวลูกสาวจะเห็น เธอยกหนูน้อยลงจากตักให้นั่งบนเตียง
“เดี๋ยวแม่จ๋าออกไปดูก่อนนะคะว่าใครมา”
ร่างเล็กบอบบางลุกขึ้นและเดินกลับออกไปที่ห้องรับแขก เธอไม่ได้ยินเสียงเคาะซ้ำแต่ก็รีบเปิดประตูเพราะคิดว่าอาจเป็นป้าเฟื่องฟ้าเอาของมาให้ทว่าเมื่อบานประตูเปิดออกทำให้หญิงสาวถึงกับชะงักตาเบิกกว้าง
“ชาครินทร์!”
อัยย์ญาดาผงะนิ่งเมื่อสิ่งที่ไม่คาดฝันและไม่คาดหวังให้เกิดขึ้นอุบัติตรงหน้า ไม่ใช่ป้าเฟื่องฟ้าแต่กลับเป็นร่างสูงใหญ่ของบุรุษนัยน์ตาสีสนิมเหล็กเข้มยืนค้ำร่างเล็กที่สูงแค่บ่าของเขา และเมื่อเห็นหญิงสาวชาครินทร์จึงเลิกมุมปากขึ้นคล้ายยินดีต่อความสำเร็จของตัวเองแต่สำหรับอัยย์ญาดามันคือการถากถางเย้ยเยาะมากกว่าเป็นอย่างอื่น เธอเกือบหลุดปากเรียกเขาดังที่เคยเรียกแต่กลืนเก็บมันเข้าไปในอกได้ทันและเพียงถามทั้งที่มือเย็นเฉียบเริ่มสั่นว่า
“คุณชาครินทร์...คุณมาที่นี่ได้ยังไง”
“ผมแค่อยากรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน ก็เลยตามมา”
ชายหนุ่มตอบเสียงราบเรียบทว่ากลับมองข้ามไหล่หญิงสาวเข้าไปด้านในซึ่งเป็นห้องรับแขกและกวาดสายตาไปทั่วเหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง
“คุณอยู่ที่นี่หรือ?”
“เอ้อ...ค่ะ”
“อยู่คนเดียวหรือ?”
“ค่ะ”
“เวลาตอบทำไมไม่มองตาผม”
“ฉันอยู่กับแม่ค่ะ แต่ตอนนี้แม่ไม่สบายอยู่ที่โรงพยาบาล”
“ใจคอจะให้ผมยืนตรงนี้ ไม่คิดจะเชิญให้ผมเข้าไปในบ้านคุณเลยหรือไง”
“แม่จ๋า...ใครมา”
เสียงเล็ก ๆ ที่ดังแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลังอัยย์ญาดาขณะเธอกำลังจะอ้าปากพูดทำให้ทั้งสองตั้องชะงัก ร่างเล็กบอบบางหันกลับไปทำให้ชาครินทร์เห็นเด็กหญิงตัวน้อยที่ยืนจ้องมองมาทางเขาชัดเจน ชายหนุ่มชะงักนิ่งและหนูน้อยก็จ้องมองเขาด้วยความประหลาดใจแต่คนที่ต้องตระหนกมากกว่าใครเพื่อนคืออัยย์ญาดา หัวใจของเธอราวกับหลุดหายไปในวินาทีนั้น วินาทีที่ลูกสาวเรียกบุรุษแปลกหน้าว่า
“ป๋าโอม!”
อรินลดาวิ่งปรี่เข้ามาหยุดข้างมารดาและเขย่ามือเรียวบางพลบางพูดด้วยเสียงใสแจ๋วว่า
“แม่จ๋า...นี่ไงป๋าโอม...ที่น้องเอ๋ยเล่าให้แม่จ๋าฟัง”
อัยย์ญาดาปากระริก ความหนาวเยือกแล่นวาบเข้าจับขั้วหัวใจ ตัวเธอสั่นเทาเล็กน้อยและสมองสั่งการเชื่องช้าลงกว่าเก่า นัยน์ตาพร่ามัวด้วยหยาดน้ำรื้นที่เพียรสะกดไม่ให้มันหยดลงบนแก้ม และขณะนั้นเองที่ชาครินทร์มองเด็กหญิงตัวน้อยซึ่งเขาจำได้ว่าพบเด็กคนนี้มาก่อนหน้า ลูกสาวที่ตามแม่จ๋าไปสมัครงานที่รอยัล ไพรด์ พอตั้งสติได้อัยย์ญาดาจึงก้มลงบอกลูกน้อยว่า
“น้องเอ๋ย...นี่เจ้านายแม่จ๋าเองนะลูก...สวัสดีสิคะ...นี่คือ...คุณอาชาครินทร์”