ตอนที่ 10   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 10
“สวัสดีคะคุณอา...คุณอา...ชาครินทร์” หนูน้อยยกมือพุ่มไหว้พร้อมย่อตัวลงตามที่แม่จ๋าเคยสั่งสอน อากัปกิริยาน่ารักน่าเอ็นดูของเด็กหญิงไม่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสะดุดใจเท่ากับเค้าโครงใบหน้าที่เมื่อมองใกล้ ๆ นั้นยิ่งกว่าถอดแบบมาจากผู้ให้กำเนิด หัวใจของชาครินทร์ไหวยวบลงด้วยความไหวหวั่นชั่วขณะ เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าได้ทิ้งอะไรไว้เบื้องหลังนับจากวันนั้นที่เขาหักดิบทุกอย่างด้วยการผลักอัยย์ญาดาลงกลางทางและหันหลังมุ่งหน้าไปตามวิถีที่ตั้งมั่นเพียงผู้เดียว ร่างสูงใหญ่อดไม่ได้ที่ต้องจ้องมองนัยน์ตาเป็นประกายสุกใสและช่างไร้เดียงสาของเด็กน้อยที่เขารู้เต็มอกแล้วว่าอรินลดาเป็นเลือดเนื้อของใคร รอยยิ้มอ่อนจุดประกายบนมุมปากหยักได้รูป “สวัสดี...ยังจำ...อาได้สินะ” “จำได้คะ...ก็คุณอาชื่อเหมือนป๊ะป๋าของน้อยเอ๋ยนิคะ” “น้องเอ๋ยยังไม่เข้าโรงเรียนเหรอคะ” เด็กหญิงส่ายหน้าไปมา “ยังคะ...น้องเอ๋ยกำลังจะเข้า...แม่จ๋าบอกว่า...จะซื้อชุดให้น้องเอ๋ย” “น้องเอ๋ยคงน่ารักมากเวลาใส่ชุดนักเรียน” “คุณชาครินทร์...ไม่มีธุระอะไรแล้วใช่ไหมคะ” อัยย์ญาดาแทรกขึ้นขณะสองคนคุยกันทำให้ชาครินทร์ต้องชะงัก เขาหันมาด้วยแววตาเครียดขึ้งเล็กน้อย หญิงสาวแทบไม่กล้าสบนัยน์ตาคู่นั้น แววตาคมปลาบราวปลายมีดเชือดเฉือนหัวใจเธอตลอดเวลา และยิ่งอยู่ท่ามกลางสถานการณ์บีบคั้นเช่นนี้เธอคิดเพียงว่าเขาไม่ได้มาดี ไม่นึกว่าวันหนึ่งต่างต้องมาเผชิญหน้ากัน ทำเหมือนไม่รู้จักกัน เป็นความเหินห่างที่อัยย์ญาดายิ่งกว่าเจ็บปวด เธอแทบไม่อยากมองหน้าลูกน้อยที่ยังเยาว์นัก อรินลดาไม่รู้เลยว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือผู้ก่อร่างสร้างเลือดก้อนนั้นมาก่อนทิ้งขว้างไม่เคยเหลียวแล ก่อนหญิงสาวจะเอ่ยปากชายหนุ่มกลับพูดขึ้นว่า “ที่ผมตามมาก็ไม่ใช่เพื่อเหตุผลอะไร แค่ให้แน่ใจเท่านั้น” “เรื่องอะไรคะ” “เรื่องของคุณ” “จริง ๆ แล้วคุณควรจะแน่ใจได้แต่แรก เพราะถ้าไม่แน่ใจคุณคงไม่...” “ผมจะไม่พูดเรื่องที่มันผ่านไปแล้ว สิ่งที่ผมจะพูดคือตอนนี้ เวลานี้...น้องเอ๋ย...จะเป็นไรไหมคะถ้าป๋าโอมจะขอเข้าไปนั่งในบ้านของน้องเอ๋ย” ชาครินทร์ตัดบทอย่างแยบยลด้วยการหันไปพูดกับลูกสาวของอัยย์ญาดาแทน อรินลดายิ้มกว้างอวดฟันขาวเรียงตัวเป็นระเบียบ “ได้ค่ะ ได้ค่ะ...เข้ามาสิคะ...มานั่งตรงนี้ค่ะ” เด็กหญิงเข้าไปจูงมือชายหนุ่มให้เดินตามเข้าไปนั่งในห้องรับแขกขณะอัยย์ญาดามองตามด้วยความอัดอั้นหัวใจ เธออยากกรีดร้อง อยากให้เขาออกไปจากบ้านเพราะชาครินทร์แทบไม่อยากเปิดเผยความสัมพันธ์อันแท้จริงระหว่างเขากับอรินลดาแม้แต่น้อย ลูกสาวของเธอน่าสงสารเป็นที่สุด ถูกทิ้งขว้างไม่พอยังต้องมาเผชิญกับความตลบตะแลงของคนเป็นพ่อที่แสร้งแสดงตัวเป็นคนอื่นทั้งที่ไม่ยอมรับลูกตัวเอง หญิงสาวกลืนความเจ็บช้ำเข้าไปในอก เธอเดินตามเข้าไปและเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ทราบว่า...คุณอยากจะรับกาแฟสักแก้วหรือเปล่าคะ” “ก็ดี...ขอบคุณ” เขาตอบสั้นห้วนด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ร่างแน่งน้อยเดินดุ่มเข้าไปในครัวและขณะหยิบแก้วชงกาแฟก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักระหว่างทั้งสองดังแว่วเข้ามา หญิงสาวอึดอัดเหมือนมีบางอย่างจุกอก ขณะยังไม่ทันเปิดฝาขวดกาแฟกลับต้องชะงักเมื่อไหล่บางถูกกระชากให้หันกลับไปข้างหลัง “ชาครินทร์!” อัยย์ญาดาร้องตระหนกเมื่อถูกร่างสูงใหญ่ดันตัวเธอจนหลังชนผนังห้องครัวโดยไม่ทันตั้งตัว “ชาครินทร์...นี่คุณจะทำอะไร...แล้วลูก...ลูกฉันล่ะ” “ผมให้คนพาลูกไปแล้ว” “ว่ายังไงนะคะ! น้องเอ๋ย...คุณทำอะไรกับลูกของฉัน!” “ลูกของเรา!” ชาครินทร์ตอกย้ำความเจ็บปวดลงไปใต้บึ้งของอัยย์ญาดาอีกครั้งด้วยการยืนยันเสียงหนักแน่นทว่าเบาโหวงในความรู้สึกของหญิงสาว เธอแค่นหัวเราะทั้งน้ำตา “ลูกของเราเหรอคะ...น้องเอ๋ยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อของแกเป็นใคร” “แต่คุณก็บอกลูกนี่ไม่ใช่หรือว่าพ่อของแกชื่ออะไร” “แค่ชื่อไม่สำคัญหรอกค่ะ มันสำคัญที่ว่าคนคนนั้นมีตัวตนอยู่บนโลกนี้หรือเปล่า” “มีสิ...ตัวตนของคนคนนั้นยังอยู่ แค่จิตวิญญาณของคนคนนั้นได้ตายไปแล้ว มองหน้าผมสิอัยย์...มองหน้าผมให้ชัดๆ”
已经是最新一章了
加载中