บทที่ 8 ได้รับผลประโยชน์
1/
บทที่ 8 ได้รับผลประโยชน์
ชายาหยินหยาง
(
)
已经是第一章了
บทที่ 8 ได้รับผลประโยชน์
บทที่ 8 ได้รับผลประโยชน์ จ้าวหมิงเยว่ออกมาพร้อมกับอาหารที่เหลืออยู่ และพูดอย่างกังวลกับซูหวั่นหรงว่า “พี่ซู ท่านอ๋องไม่ยอมกินข้าวอีกแล้ว แต่ยอมกินยาไปหนึ่งเม็ด” ซูหวั่นหรงไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เพียงแค่พูดว่า “รู้แล้ว เจ้าไปได้แล้ว” “พี่ซู เจ้านายไม่ยอมกินอะไรเลย จะไม่สนใจหน่อยหรือ?” “นี่เป็นเรื่องที่คนชั้นล่างอย่างพวกเราเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้หรือ? คำสั่งของเจ้านาย จะเข้าไปยุ่งไม่ได้” ถึงแม้จุดประสงค์ของจ้าวหมิงเยว่คือการเสาะหาที่อยู่ของไท่ยิงหลินซี แต่โดยสามัญสำนึกแล้ว นางรู้ดีว่าไม่ควรจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่คนป่วย ชีวิตยังไม่จบสิ้นจะอารมณ์เสียไปทำไม? อีกทั้งหากฉู่จื่อเย่นไม่มีชีวิตอยู่แล้ว องค์ฮ่องเต้ก็คงจะไม่ส่งคนออกไปตามหาไท่ยิงหลินซีอีกต่อไป “พี่ซู ในห้องครัวมีของราคาแพงมากมายที่สำรองไว้ใช้สำหรับท่านอ๋อง หรือว่าเราลองมาทำอาหารเป็นยาให้รสชาติแปลกใหม่ดูบ้างไหม?” “ท่านอ๋องไม่กินอาหารที่เป็นยา” “หมิงเยว่รู้จักตัวยาอยู่หนึ่งชนิด เรียกว่าหญ้าหรงหยิน ไม่มีกลิ่นของตัวยามากนัก อีกทั้งรสชาติยังอร่อย พี่สาวไปถามหมอหลวงก็น่าจะรู้” ทันใดนั้นซูหวั่นหรงก็มองไปที่จ้าวหมิงเยว่ ก่อนหน้านี้ยาแก้ไอก็คือเด็กคนนี้ที่เป็นคนคิดขึ้นมา ตอนนี้เขาพูดถึงการทำอาหารเป็นยาด้วยท่าทีที่ดูตั้งใจแน่วแน่ นางจึงลูบหัวของหมิงเยว่โดยไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร “หมิงเยว่ บอกพี่หน่อยสิ เมื่อก่อนเจ้าเป็นแค่เพียงขอทานหาเลี้ยงชีพ ทำไมจึงได้รู้เรื่องพวกนี้?” “หมิงเยว่เคยตามท่านหมออาวุโสท่านหนึ่งเข้าไปเก็บสมุนไพรในภูเขาเป็นเวลาหนึ่งปี เขาคือคนที่บอกข้า” “ดังนั้นเจ้าจึงรู้สูตรโจ๊กที่เป็นยา” “ใช่ครับ” “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็เขียนใบสั่งยาที่ต้องการออกมา แล้วข้าจะไปถามหมอหลวงให้” ไม่กี่วันต่อมาก็มีกลิ่นที่คุ้นเคยลอยออกมาจากในครัว เป็นกลิ่นของหญ้าที่เป็นสมุนไพร หมิงเยว่เดินตามกลิ่นเข้าไปที่ห้องครัว “น้าจาง กำลังต้มอะไรหรือ?” “เป็นซุปตามใบสั่งที่แม่นางจูเขียนมาให้ เรียกว่าโจ๊กหรงหยิน เป็นอาหารที่เตรียมไว้สำหรับท่านอ๋องในมื้อเย็น” แน่นอนว่าซูหวั่นหรงยังคงยกความดีความชอบในเรื่องนี้ให้แก่ตนเอง แต่หมิงเยว่ก็ไม่ได้สนใจ “น้าจาง เมื่อกี้พี่ซูสอนวิธีต้มโจ๊กหรงหยินให้แก่ข้าแล้ว ให้ข้าเปลี่ยนมือกับท่านเถิด” “เจ้าหนู เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าทำได้?” “พี่ซูอธิบายให้ข้าฟังอย่างละเอียดแล้ว น้าจางไม่ต้องเป็นห่วง” “ดี ถ้าอย่างนั้นเจ้ามาทำเถอะ” ถึงแม้จ้าวหมิงเยว่จะเคยเป็นเด็กที่ร่ำรวย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะทำอะไรไม่เป็น ก่อนที่นางจะได้มาเป็นหมอผียิงหยาง นางต้องผ่านการฝึกอย่างทรหด พลังชีวิต เพลงกระบี่ มนตรา ยาทิพย์ ล้วนต้องผ่านการฝึกฝนทั้งสิ้น นางต้องใช้ความพยายามและความทุ่มเทอย่างหนักจึงจะได้รับการยอมรับจากทุกคน นี่คือชีวิตจริงของนาง เพียงแต่ว่าตอนนี้ใช้ชีวิตผ่านมายี่สิบสี่ปีแล้วกลับต้องมาเป็นเด็กอีกครั้ง อีกทั้งสิ่งที่นางฝึกฝนมาอย่างยากลำบากก็ไม่ได้ติดตัวนางมาเลย หมิงเยว่ต้มโจ๊กหรงหยินด้วยตัวเอง แล้วเติมตัวยาแก้ไอเข้าไปในอาหารเล็กน้อย ตอนที่ส่งอาหารก็ยังคงวางยาเม็ดควบคู่ไปด้วย เข้าไปเก็บถ้วยครั้งนี้ โจ๊กกินไปครึ่งถ้วย ส่วนยากินจนหมด หมิงเยว่รู้ว่าโอกาสที่จะได้เข้าใกล้ฉู่จื่อเย่นใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว นางถือถ้วยเดินออกมาด้วยความสุข ครั้งนี้ซูหวั่นหรงเป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นเอง “เป็นยังไงบ้างหมิงเยว่ เจ้านายยอมกินไหม?” “พี่สาว ยอมกินแล้ว ยาก็ยอมกินแล้ว” หมิงเยว่เปิดกล่องไม้ให้นางดู ซูหวั่นหรงตาเป็นประกาย เห็นดังนั้นก็รู้แล้วว่าวิธีนี้ใช้ได้ผล จากนั้นก็หันไปมองที่หมิงเยว่แล้วยิ้ม “หมิงเยว่ สุดยอดจริงๆ เจ้าเป็นเด็กที่ฉลาดที่สุดในจวนของเราเลย” หมิงเยว่ก้มหน้าแล้วหัวเราะ “มิได้ มิได้......” ซูหวั่นหรงตบไหล่นาง: “แต่ว่า จริงๆแล้วตอนที่ข้านำใบสั่งยาไปให้หมอหลวงนั้น ก็ถูกซักถามว่าได้ใบสั่งยานี้มาจากไหน ข้าไม่กล้าบอกว่าได้มาจากเจ้า เพราะกลัวว่าหมอหลวงจะไม่ยอมใช้ จึงบอกว่าเป็นใบสั่งยาที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ หมอหลวงจึงยอมนำกลับไปพิจารณา หมิงเยว่เงยหน้าขึ้นมองนาง ซูหวั่งหรงจึงกล่าวขอโทษว่า “หมิงเยว่ เจ้าคงไม่โทษพี่หรอกใช่ไหม?” หมิงเยว่ส่ายหัวอย่างไร้เดียงสา “จะเป็นไปได้อย่างไร? หมิงเยว่แค่รู้สึกว่าพี่ซูฉลาดมากที่คิดวิธีเช่นนี้ออกมา เพื่อพูดโน้มน้าวหมอหลวงได้” “หมิงเยว่เข้าใจอะไรง่าย พวกเราล้วนแต่ทำงานให้เจ้านาย หลายครั้งที่เราไม่อาจทำตามใจตนเองได้ นี่ อันนี้ให้เจ้า” ซูหวั่นหรงหยิบหยกออกมาหนึ่งชิ้น แล้วยื่นให้แก่หมิงเยว่ “ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกพี่ซู ท่านให้ข้าหลายอย่างแล้ว” สำหรับซูหวั่นหรงแล้ว หากทำประโยชน์ให้แก่นาง เรื่องค่าปิดปากนั้น จะต้องมีให้อย่างแน่นอน “รับไปเถอะ ในเมื่อเจ้าเรียกข้าว่าพี่ การที่ข้าดีต่อเจ้านั้นก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว รีบรับไปซะ” “ขอบคุณพี่ซู” ต้องรับไว้แน่นอน เพราะเงินนั้นเป็นของดี เช่นนี้ จ้าวหมิงเยว่จึงยังคงสรรหาสารพัดวิธีเพื่อให้ฉู่จื่อเย่นกินยา หลังจากนั้นอาการไอก็ค่อยๆดีขึ้น ไม่ไอต่อเนื่องอย่างเช่นแต่ก่อน เนื่องจากอาการของเจ้านายค่อยๆดีขึ้น พ่อบ้านโจวจึงตกรางวัลให้แก่ซูหวั่นหรงอย่างงาม เมื่อหมอหลวงกลับเข้าวัง ก็ทูลต่อฮ่องเต้ว่า ซูหวั่นหรงมีส่วนช่วยในการสั่งยาและเปลี่ยนวิธีการรักษาให้แก่อ๋องเย่น เมื่อฮ่องเต้ได้ฟังก็รู้สึกพอพระทัยอย่างมาก ซูหวั่นหรงได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นเป็นนางกำนัล ในจวนอ๋องเย่น นอกจากพ่อบ้านโจวและแม่นมหลิวแล้ว ในบรรดาคนรับใช้ถือว่านางใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ยังมอบเงินและของมีค่าให้แก่นางเพื่อเป็นรางวัล ซูหวั่นหรงกล่าวว่า “ดูแลเจ้านายถือเป็นหน้าที่ของคนเราใช้อย่างเราอยู่แล้ว หากจะให้รางวัล คนใช้ทุกคนในจวนก็ควรจะได้รับด้วย” พูดจบนางก็แบ่งรางวัลให้กับบรรดาคนรับใช้เพื่อซื้อใจทุกคน หมิงเยว่รู้สึกว่า นี่คงเป็นความฉลาดเพียงอย่างเดียวที่ซูหวั่นหรงมี แน่นอนว่าซูหวั่นหรงจะต้องมอบ “ค่าปิดปาก” ให้แก่นางอย่างมหาศาล มิเช่นนั้นต่อไปจะยังหวังใช้ประโยชน์จากนางได้อย่างไร ดังนั้นหลังจากได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว ซูหวั่นหรงจึงเอ่ยปากถามนางว่า: “หมิงเยว่ เด็กดี เจ้าอยากได้อะไรหรือ?” “หมิงเยว่อยากทำงานในห้องหนังสือ” ห้องหนังสืออยู่ตรงข้ามกับจวนอ๋องเย่น คราวนี้ก็ได้อยู่ห่างจากฉู่จื่อเย่นเพียงแค่ช่วงทางเดินกั้น นี่คือก้าวที่สองที่นางเริ่มเข้าใกล้ฉู่จื่อเย่น
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 8 ได้รับผลประโยชน์
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A