บทที่ 9 มีโอกาสพบอ๋องเย่น   1/    
已经是第一章了
บทที่ 9 มีโอกาสพบอ๋องเย่น
บทที่ 9 มีโอกาสพบอ๋องเย่น ยิ่งไปกว่านั้น ตอนแรกที่นางมาถึงที่นี่ก็ไม่รู้อะไรเลย ดังคำกล่าวที่ว่าอ่านหนังสือเป็นหมื่นเล่ม ก็ไม่เท่ากับออกไปเดินทางด้วยตนเองหมื่นก้าว แต่หนังสือก็เป็นสมบัติล้ำค่า ที่ช่วยให้ผู้คนเข้าใจข้อมูลได้เร็วที่สุด ดังนั้นก่อนที่นางจะออกเดินทางหมื่นก้าว หมิงเยว่เลือกที่จะอ่านหนังสือก่อน เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งแวดล้อมโดยรอบของตนเอง ซูหวั่นหรงคิดว่าทำงานในห้องหนังสือไม่เหนื่อย ที่หมิงเยว่ขอเช่นนี้ก็ดูจะสมเหตุสมผล อีกทั้งฝั่งตรงข้ามกับห้องหนังสือก็คือตำหนักจิ้นอัน เช่นนี้การที่นางจะให้หมิงเยว่นำอาหารไปส่งในตำหนักจิ้นอันก็ยิ่งสะดวกขึ้น ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ซูหวั่นหรงจึงรีบจัดแจงให้หมิงเย่วไปอยู่ที่ห้องหนังสือใหญ่ ห้องหนังสือใหญ่ตั้งอยู่ตรงหน้าตำหนักจิ้นอัน ปกติแล้วก็มีคนเดินผ่านไปผ่านมาไม่มาก งานประจำวันของหมิงเยว่ก็คือ กวาดลาน เช็ดทำความสะอาดชั้นหนังสือไม่ให้มีแมลงมากัดกินหนังสือและภาพวาด เมื่อถึงจุดที่จะส่งอาหารก็เปลี่ยนมือกับซูหวั่นหรง แล้วนำอาหารเข้าไปส่งในตำหนักจิ้นอัน เป็นงานที่สบายกว่างานอย่างเช่น ผ่าฟืน ขนน้ำ และล้างห้องน้ำที่สกปรกๆมากนัก ตอนนี้ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงที่ร้อนที่สุดของฤดูกาลแล้ว รับรู้ได้ถึงความร้อนอบอ้าวที่มากขึ้นในช่วงบ่าย จ้าวหมิงเยว่ยืนถือไม้กวาดอยู่ในลานของห้องหนังสือ เงยหน้ามองผ่านกำแพงสูงขึ้นไปยังต้นแพร์เก่าแก่ที่อยู่ในตำหนักจิ้นอัน ลมเย็นพัดใบแก่สีเหลืองให้ค่อยๆร่วงหล่นลงมา ผลที่สุกเต็มที่เริ่มส่งกลิ่นที่น่าดึงดูดออกมา...... สำหรับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในศตวรรษใหม่ เกิดอยู่ในยุคที่มีผลไม้หลากหลายให้กินอย่างท่วมท้น ลูกแพร์ต้นใหญ่ๆเหล่านั้น ก็ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่คอยเข้ามารบกวนจิตใจนางตลอดทั้งวัน พอดีกับที่ซูหวั่นหรงบอกว่าสองวันนี้เจ้านายจะเข้าวัง พรุ่งนี้จึงจะกลับจวน เจ้าขี้โรคไม่อยู่ ทหารลาดตระเวรก็เพิ่งเดินผ่านไป รอให้ถึงเวลาอาหารเย็นก็จะไม่มีใครเข้ามาอีก นางวางแผนมาเป็นอย่างดีกับงานที่เห็นเป็นประจำเช่นนี้ นางโยนไม้กวาดเข้าไปในห้องหนังสือ แล้วเดินจากห้องหนังสือเข้าไปยังตำหนักจิ้นอัน จ้าวหมิงเยว่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้และเงยหน้าขึ้นมอง แสงอาทิตย์ที่ส่องประกายผ่านใบของต้นแพร์ลงมากระทบที่ลูกแพร์สีเหลือง สะท้อนเป็นประกายสีทองอร่าม ว่ากันว่าผลของต้นแพร์เก่าแก่นั้น หวานเป็นพิเศษ! เมี้ยว...... จ้าวหมิงเยว่ผู้ซึ่งกำลังมองดูลูกแพร์อยู่เพียงอย่างเดียว ตอนนี้เพิ่งจะพบว่า มีลูกแมวตัวหนึ่ง นอนอยู่บนลำต้นที่พาดอยู่ระหว่างห้องของเจ้านายกับห้องเซียงฝางตะวันตก อุ้งเท้าทั้งสองข้างเป็นสีขาวและมีขนาดพอๆกับก้อนหิมะเล็กๆ จมูกและปากเล็กๆเป็นสีชมพู ดวงตาส่องประกายเป็นสองแต่แฝงไปด้วยความสิ้นหวัง รอก่อน พี่เก็บผลไม้เสร็จจะขึ้นไปช่วยเจ้าเอง ถ้าหากถูกคนมาพบเข้า ก็บอกว่ามาช่วยแมว ก็ดูจะเป็นข้อแก้ตัวที่ดี ลำต้นของต้นแพร์ค่อนข้างใหญ่ คนคนเดียวไม่สามารถโอบรอบได้ แต่ก็ไม่ได้สูงมาก สูงพ้นกำแพงไปก็แผ่กิ่งก้านออกรอบด้าน จ้าวหมิงเยว่ปีนขึ้นไปอย่างคล่องแคล่ว เมื่อปีนขึ้นไปถึงบริเวณที่มีกิ่งก้านเขียวชอุ่ม ถูกผลไม้กระแทกเข้าที่หัวรู้สึกดีมาก ยื่นมือออกไปเด็ดลูกแพร์มาหนึ่งลูกแล้วนำมาเช็ดกับเสื้อ แล้วกัดเข้าไปด้วยความรู้สึกที่มีน้ำผลไม้ชุ่มชื้นอยู่เต็มปาก หวาน! นางกินลูกแพร์ไปสบตากับเจ้าแมวน้อยไป “รอข้ากินเสร็จก่อนนะ เจ้าก็คอยเป็นแมวดูลาดเลาให้ข้าก่อนนะ” เมี้ยว จ้าวหมิงเยว่กินลูกแพร์ลูกใหญ่ที่อยู่ในมือเสร็จ ก็โยนเมล็ดลงบนหลังคา แล้วเด็ดลูกแพร์สองลูก แล้วเก็บใส่เข้าไปในอกเสื้อ เพราะเสื้อกว้างมาก เมื่อใส่เข้าไปในร่างที่ผอมแบน ก็ทำให้ดูอวบอึ๋มขึ้นมาทันที “ดูลาดเลาได้ดีมาก ข้าจะช่วยเจ้าเป็นการตอบแทนละกัน” เมื่อก่อนเวลาส่งอาหาร คิดว่าประตูห้องในเชื่อมต่อโดยตรงกับสวนช่างชวน แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เมื่อยืนอยู่บนต้นไม้จึงเห็นว่าตรงนั้นยังมีลานเล็กๆที่แยกตัวอยู่ด้วย ภายในลานมีน้ำไหลเวียนอยู่ น้ำไหลมาจากซอกหินที่ชิดอยู่กับฝาผนัง น้ำค่อยๆไหลผ่านก้อนหินขนาดใหญ่ที่ราบเรียบลงสู่ก้อนหินเบื้องล่าง จนกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดเล็ก เมื่อน้ำในแอ่งน้ำเต็มก็ไหลผ่านออกไปด้านนอก ไปยังทะเลสาบช่างชวนที่อยู่ในสวนช่างชวน ทางด้านผนังของลานปลูกไผ่หยกสีทองไว้ มีต้นพีชอยู่ท่ามกลางต้นไผ่ที่มีใบเขียวชอุ่ม ต้นแพร์เก่าแก่ก็เข้ามาร่วมด้วย แผ่กิ่งก้านสาขาเข้ามาด้านในลาน ส่วนกิ่งที่เจ้าแมวตัวน้อยสีขาวนอนอยู่นั้น อยู่เหนือสระชิงฉวนพอดี ทางด้านบ่อน้ำที่อยู่ใกล้กับห้องในของห้องเจ้านาย มีเก้าอี้หวายวางอยู่หนึ่งตัว มีหนังสือหนึ่งเล่มเปิดวางอยู่บนโต๊ะที่อยู่ถัดจากเก้าอี้หวาย ดูเหมือนว่าเพิ่งมีคนมานั่งอ่านหนังสือที่เก้าอี้หวายแล้วเพิ่งจะลุกออกไป นี่มัน ข้างๆหนังสือยังมีถ้วยชาวางอยู่ด้วย ซวยแล้ว มีชาวางอยู่! ในห้องด้านนั้นดูเหมือนว่า......มีคนอยู่นี่? นางสามารถเดาเส้นทางของคนรับใช้และองครักษ์ออก แต่เดาเส้นทางของคนที่อยู่ในห้องนี้ไม่ออก ต้องรีบพาแมวหนีออกไปแล้ว แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงไอเบาๆดังขึ้นมา จ้าวหมิงเยว่ทำได้แค่เพียงจับแมวขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมแขน มีร่างสีขาวเดินออกมาจากประตูห้องใน จ้าวหมิงเยว่ค่อยๆเหลือบตาขึ้นไปมองกิ่งไม้อย่างเงียบๆ อย่าสั่น อย่าสั่นอีกนะ...... ภายในลาน มีเพียงแต่เสียงลมเย็นที่พัดผ่านต้นไม้ภายในเท่านั้น นางอุ้มลูกแมวแล้วรออย่างเงียบๆเพื่อให้คนผู้นั้นเดินจากไป คนผู้นั้นน่าจะเป็นฉู่จื่อเย่น ถึงแม้ว่าจะไม่เคยพบหน้ากัน แต่นางก็พอจะจำเสียงไอได้ จะว่าไปแล้ว จริงๆก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขามีรูปร่างหน้าตาเป็นเช่นไร
已经是最新一章了
加载中