บทที่ 16 รายงานตัว   1/    
已经是第一章了
บทที่ 16 รายงานตัว
บทที่ 16 รายงานตัว เป็นนางที่มองเขา? หรือว่าเขาต้องการมองนาง? คงไม่ใช่ว่าถูกจำได้แล้วนะ? ที่นางวางแผนเอาไว้ไม่ใช่การพบหน้ากันด้วยวิธีเช่นนี้ อย่างน้อยก็ต้องให้ฉู่จื่อเย่นรู้สึกขอบคุณนางจากใจจึงจะพบกัน แต่ว่า เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็คงต้องไปตามน้ำ นางเงยหน้าขึ้นด้วยความเคารพแต่ก็แฝงไปด้วยความขี้ขลาด สายตาที่อบอุ่นของฉู่จื่อเย่นมองไปที่ใบหน้าของนาง หมิงเยว่รีบก้มหัวลงทันที ฉู่จื่อเย่นยิ้มจนมุมปากเผยอขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดว่า: “ช่างเป็นเด็กที่ขี้อายจริๆ อืม คนต่อไป” เช่นนี้หรือ? เช่นนี้ก็พ้นผิดแล้วหรือ? คนที่อยู่ด้านหลังก็ค่อยๆรายงานตัวอย่างต่อเนื่อง ฉู่จื่อเย่นก็ยังคงฟังอย่างอดทนเช่นกัน และไม่ได้หันมามองนางอีกเลยตั้งแต่ต้นจนกระทั่งทุกคนแนะนำตัวจบ ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อผู้อื่นและปฏิบัติต่อนางไม่ได้ต่างกัน แต่ทำไมนางจึงยังรู้แปลกๆในใจ” ซูหวั่นหรงก็พลอยโล่งใจไปด้วย แต่พอถึงตอนนี้ ฉู่จื่อเย่นที่ใจเย็นกลับตะโกนเรียก: “นางกำนัลซู” ซูหวั่นหรงรู้สึกเหมือนหัวใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม แล้วจึงพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย หัวใจของนางเต้นแรงมาก แล้วนางจึงก้าวเท้าออกไปเพื่อแสดงความเคารพ “ข้าน้อยอยู่นี่เพคะ” “เมื่อคืนนี้......” ฉู่จื่อเย่นพูดมาถึงตรงนี้แล้วก็หยุด พ่อบ้านโจวเดินออกไปข้างหน้า แล้วยกน้ำชาที่อยู่บนโต๊ะ ยื่นไปวางไว้ในมือของเขา เขาค่อยๆจิบชาอย่างช้าๆ ดวงตาจ้องมองอยู่ที่ถ้วยชา ไม่ได้มองที่ซูหวั่นหรง แต่การที่เขาหยุดพูดเช่นนี้ ทำให้ซูหวั่นหรงรู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก พยายามคาดเดาถึงสิ่งที่เขากำลังจะพูดต่อไป มือจับกระโปรงไว้แน่น ร่างกายเริ่มสั่นเทาเล็กน้อย “เมื่อคืนนางกำนัลซู......” เมื่อเห็นหน้าผากชองซูหวั่นหรงมีเหงื่อไหลอาบ ฉู่จื่อเย่นจึงพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ลำบากเจ้าแล้ว” ซูหวั่นหรงที่กำลังต่อสู้กับความคิดของตัวเองเรื่องที่จะเปิดโปงหมิงเยว่ ตัวสั่นเล็กน้อย: “เป็นหน้าที่ของหม่อมฉันอยู่แล้ว ไม่ลำบากเลยเพคะ” ฉู่จื่อเย่นวางชาที่อยู่ในมือลง แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า: “ตั้งแต่สมัยโบราณ หากไม่มีกฎเกณฑ์ก็จะไร้ซึ่งระเบียบ ดังนั้นข้าจึงได้กำหนดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการเข้าออกตำหนักจิ้นอันขึ้น......” เขาพูดอย่างชัดเจนทุกถ้อยทุกคำ ด้วยน้ำเสียงที่ดังก้องกังวานอยู่ภายในห้องโถงใหญ่ คนอื่นเมื่อฟังดูแล้วก็รู้สึกเพลิดเพลิน แต่สำหรับซูหวั่นหรงแล้วเหมือนกับมีดอาบน้ำผึ้งที่กำลังเฉือนลงบนแนวป้องกันในใจของนาง ซุหวั่นหรงเดาไม่ออกเลยว่าเขาพูดเช่นนี้เพื่อต้องการที่จะฆ่าหรือเพียงแค่ตักเตือน ยิ่งฟังยิ่งกลัว ด้านหลังตอนนี้เปียกไปด้วยเหงื่อ เสียงที่ฟังดูสดใสของฉู่จื่อเย่นยังคงพูดต่อไปว่า “เกี่ยวกับกฎเกณฑ์การเข้าออกตำหนักจิ้นอัน......” “ท่านอ๋อง!” ซุหวั่นหรงคุกเข่าลง แนวป้องกันในใจของนางกำลังถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์ จนลืมแม้กระทั่งวิธีทำความเคารพ นางพูดขัดจังหวะฉู่จื่อเย่นด้วยความตกใจ “ข้าน้อย ข้าน้อยถูก......” “นางกำนัลซู” ฉู่จื่อเย่นขัดจังหวะซูหวั่นหรงอย่างนุ่มนวล แต่กลับทำให้ซูหวั่นหรงกลัวจนหน้าซีดพูดอะไรไม่ออก เขาจึงยิ้มเล็กน้อย “ข้ายังไม่ได้ตกรางวัลให้เจ้าเลย ทำไมนางกำนัลซูจึงรีบคุกเข่าเช่นนี้?” เมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเผือดและดูเศร้าหมองของซูหวั่นหรง ฉู่จื่อเย่นก็พยายามใช้ความใจดีมีเมตตาของเขาทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่น แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อแล้วมองไปรอบๆ โจวฉวนพยักหน้าด้วยความเคารพแล้วพูดว่า “ช่วงที่ผ่านมานี้ นางกำนัลซู ได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อจวนของเรา เมื่อคืนที่ผ่านมาก็ได้สร้างผลงานอีกหนึ่งอย่าง อ๋องเย่นจึงอยากตกรางวัลให้แก่นางเป็นทองคำหนึ่งร้อยเหรียญเพื่อเป็นการให้กำลังใจ” ตกรางวัล? อ๋องเย่นเพียงต้องการที่จะตกรางวัลให้แก่นาง ไม่ได้คิดที่จะมาเอาผิดนาง? ซูหวั่นหรงรู้สึกตกใจ ถ้ารู้ว่าเรื่องจะเป็นเช่นนี้ นางก็คงจะยืนหยัดต่ออีกสักหน่อย! เมื่อกี้นางพูดออกไปเพียงแค่ “ใส่ร้าย” สองคำใช่หรือไม่? ซูหวั่นหรงอยากจะกลับไปอุดช่องโหว่ในคำพูดของนางก่อนหน้านี้เหลือเกิน “ทูลท่านอ๋อง ข้าน้อยรู้สึกละอายใจเหลือเกิน” ฉู่จื่อเย่นมีสีหน้าที่อ่อนโยน แต่อย่างไรก็ตามซุหวั่นหรงก็ยังมีความรู้สึกว่าตัวเองถูกปฏิเสธมาจากระยะไกลอยู่ดี ในเวลาเดียวกันก็สังเกตเห็นว่า ดูเหมือนตัวเองจะถูกอ่านออกอย่างหมดสิ้นแล้ว นางจึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์ของตนเองต่อหน้าอ๋องเย่น “นี่ไม่ใช่รางวัลของหวั่นหรงคนเดียว แต่ควรแบ่งให้แก่ทุกๆคนด้วย” “เห็นได้ชัดว่านางกำนัลซูเป็นคนใจกว้าง แต่วันนี้ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้หรอก” พ่อบ้านโจวยิ้มกว้างและบอกกับทุกคนว่า “เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณต่อทุกคน ท่านอ๋องได้ส่งของขวัญสำหรับการพบหน้ากันให้แก่ทุกคน ทุกคนล้วนได้รับหมด” เมื่อทุกคนได้ยินก็โห่ร้องไชโย: “ขอบพระทัยอ๋องเย่น!” ฉู่จื่อเย่นยังคงไม่พูดไม่จา ทำเพียงแค่ยิ้มและมองดูทุกคนอย่างเงียบๆ และปิดปากไอเป็นครั้งคราว โจวฉวนที่ทำหน้าที่เป็นโฆษกได้กล่าวต่ออีกว่า: “ตราบใดที่ทุกคนทำงานให้แก่จวนอ๋องเย่นอย่างสุดความสามารถ อ๋องเย่นไม่มีทางละทิ้งอย่างแน่นอน” “พวกเราจะยอมบุกน้ำลุยไฟเพื่อจวนท่านอ๋อง!” ฉู่จื่อเย่นลุกขึ้นแล้วเดินจากไป ทุกคนรู้สึกตื่นเต้น “หงเหมินเยี่ยน” จบลงแบบนี้หรือ? ก่อนที่จ้าวหมิงเยว่จะกลับเข้าห้องหนังสือก็อดไม่ได้ที่จะหันหน้ากลับไปมองตำหนักจิ้นอัน คงจะไม่ได้มีอะไรไม่ชอบมาพากลหรอกใช่ไหม?
已经是最新一章了
加载中