บทที่ 18 เยือนห้องหนังสือยามดึก   1/    
已经是第一章了
บทที่ 18 เยือนห้องหนังสือยามดึก
บทที่ 18 เยือนห้องหนังสือยามดึก คืนที่เงียบสงัด อากาศร้อนอบอ้าว คาดว่าฝนน่าจะตกภายในสองวันนี้ หมิงเยว่นั่งอยู่ริมหน้าต่างด้วยท่าทีขี้เกียจ ใช้พัดพัดลมพลางอ่านหนังสือไปพลาง ทันใดนั้นก็มีเงาสีขาวปรากฏขึ้นที่บริเวณหน้าต่าง หมิงเยว่หยุดพัดแล้วเงยหน้าขึ้นมอง ฉู่จื่อเย่นเดินผ่านริมหน้าต่างที่นางนั่งอยู่มา หมิงเยว่ยังคงคิดว่าตัวเองตาฝาด หลังจากนั้นเงานั้นก็มาปรากฏอยู่ที่หน้าประตุ แล้วเดินเข้ามาข้างใน เป็นเขาจริงๆด้วย? ! จ้าวหมิงเยว่รีบวางหนังสือลงแล้วทำความเคารพ: “ดึกป่านนี้แล้ว อ๋องเย่นมาที่ห้องหนังสือ มีอะไรให้ข้าน้อยรับใช้พ่ะย่ะค่ะ?” “อากาศร้อนอบอ้าว ข้านอนไม่หลับ จึงมาหาหนังสืออ่านสักเล่มหนึ่ง” นายคนนี้ ดึกดื่นค่อนคืนไม่รู้จักพักผ่อน ยังจะมาหาเรื่องสนุกอะไรทำอีก? หมิงเยว่รีบจุดไฟแล้วเดินเข้าไปหา: “อ๋องเย่นต้องการจะอ่านหนังสืออะไรพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยจะรีบไปหามาให้เดี๋ยวนี้” “ไม่ต้องหรอก เจ้าอ่านหนังสือต่อเถอะ ข้าหาเอง” เขารับโคมไฟมาจากมือของหมิงเยว่ “ข้าน้อยไม่ได้กำลังอ่านหนังสือ แต่กำลังไล่แมลง......” ทันใดนั้น ฉู่จื่อเย่นที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้าชั้นหนังสือก็หันหัวมามองเขา แล้วหัวเราะเบาๆ “หนังสือเหล่านี้ถ้าหากวางไว้ก็มีแต่จะถูกแมงแทะ มีคนเปิดอ่านบ้างก็เป็นเรื่องที่ดี หมิงเยว่เองก็เพียงแค่ยืมอ่านเท่านั้น” คำพูดนี้ฟังดูมีความหมายลึกซึ้ง แล้วถ้าหากเขาคิดจะหลอกนางล่ะ? หมิงเยว่หัวเราะอย่าอึดอัดแล้วพูดว่า: “ข้าน้อยรู้จักตัวหนังสือไม่มากเท่าไหร่ อ่านไปก็เปลืองแรงเปล่า ไม่รบกวนท่านอ๋องอ่านหนังสือแล้ว” “หมิงเยว่อย่าไป” ฉู่จื่อเย่นเรียกนางไว้ “อ่านหนังสือคนเดียวน่าเบื่อ เจ้าอยู่เป็นเพื่อนข้า” “......พ่ะย่ะค่ะ” วันนี้เขาทั้งนัดประชุม อีกทั้งมาดูนางทำงานที่ห้องหนังสือ แล้วยังจะให้เก็บลูกแพร์ให้เขาอีก มาตอนนี้ยังต้องอ่านหนังสือเป็นเพื่อนเขาอีก? ทำไมจึงรู้สึกแปลกๆเช่นนั้น? ฉุ่จื่อเย่นหยิบหนังสือมาจากชั้นหนังสือแล้วเดินไปที่หน้าต่าง จ้าวหมิงเยว่ลากเก้าอี้ให้เขา แล้วรับโคมไฟจากมือของเขามาวางไว้บนโต๊ะ เขานั่งลง แล้วมองดูหนังสือที่หมิงเยว่เปิดเอาบนโต๊ะ “ประวัติประเทศฉู่ หมิงเยว่ชอบอ่านหนังสือประเภทนี้หรือ?” “แค่น้อยก็เพียงแค่เปิดผ่านๆ” “นั่งลงอ่านต่อสิ” เขาไม่ได้ถามอะไรมาก แล้วจึงเปิดหนังสือขึ้นอ่าน จ้าวหมิงเยว่คิดไปคิดมาแล้วจึงนั่งลงข้างๆเขา เขาเงียบมาก นอกจากเสียงไอแล้วเขาก็ไม่ได้พูดอะไรเลย เปิดหนังสืออ่านทีละหน้าๆอย่างละเอียด นั่งหลังตรง ผมที่ดำขลับพาดไปทางด้านหลังที่ตั้งตรง ผมช่างอ่อนนุ่มละสวยจริงๆ คนผู้นี้มีทั้งความอ่อนโยนและความสง่างามที่ฝังอยู่ลึกเข้าไปในกระดูก หมิงเยว่ไม่รู้ว่าควรจะประเมินเขาเช่นไรดี เขาสามารถทำให้คนจิตใจสงบและไม่สงบได้ เวลายามค่ำคืนผ่านพ้นไปในขณะที่ทั้งสองนั่งอ่านหนังสืออยู่ด้วยกัน จนกระทั่งถึงตอนที่เจ้าแมวน้อยสีขาวกระโดดขึ้นมาบนหน้าต่างอย่างเงียบๆ มีท่าทางอ่อนโยนและร้องเรียกออกมาหนึ่งครั้ง แล้วสองจึงเงยหน้าขึ้นดูแมงพร้อมกัน ถึงตอนนี้หมิงเยว่จึงพูดว่า: “ท่านอ๋อง นี่ก็ดึกมากแล้ว ท่านควรจะกลับไปพักผ่อนได้แล้ว” ฉู่จื่อเย่นเงยหน้าขึ้นไปดูแสงสว่างบนท้องฟ้า แล้วถอนหายใจอย่างเงียบๆลงบนหนังสือ เสียงถอนหายใจนี้ทำให้รับรู้ได้ว่าเขาไม่ชอบเวลากลางคืนที่ยาวนาน และไม่ชอบเวลากลางวันที่ยสวนานเช่นกัน แต่เขาก็ยังคงตอบกลับอย่างสุภาพ “ถ้าอย่างนั้นข้ากลับก่อนล่ะ” ว่าแล้วก็ลุกขึ้น ยังไม่ทันจะได้ก้าวเท้า ร่างกายของเขาก็อ่อนแรงและทรุดลง จ้าวหมิงเยว่มือไวตาไวจึงคว้าเขาเอาไว้: “ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?” “แคกๆๆ......” เขาไออยู่พักหนึ่ง ปากเริ่มซีด “ไม่เป็นไร อาจเป็นเพราะรีบลุกไปหน่อยจึงยังทรงตัวไม่ได้” มือของหมิงเยว่สัมผัสที่มือของเขาเบาๆ ยังคงร้อนเล็กน้อย เมื่อคืนเขาคนนี้เป็นไข้ทั้งคืน พอเช้าก็เอาแต่เดินไปเดินมา กลางคืนก็ยังอดนอนอีก แล้วจะหายได้อย่างไร? “ให้ข้าน้อยส่งอ๋องเย่นกลับไปพักผ่อนดีกว่า” “ลำบากเจ้าแล้ว” จ้าวหมิงเยว่ประคองเขากลับตำหนักจิ้นอัน แล้ววางเขานอนลง: “ข้าน้อยจะไปเรียกพ่อบ้านโจวมาให้ท่าน เพื่อให้เขาไปเรียกหมอหลวงมาที่นี่” ฉู่จื่อเย่นดึงแขนเสื้อของนางแล้วลุกขึ้น: “ไม่ต้อง ไม่มีประโยชน์” พูดว่าไม่มีประโยชน์อีกแล้ว? แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนเขาจะพูดค่อนข้างชัดเจน หมิงเยว่ได้ยินดังนั้นจึงตอบกลับไปเพียงว่า: “พ่ะย่ะค่ะ” แววตาของฉู่จื่อเย่นแสดงออกถึงความเหนื่อย แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความฉลาดที่เปล่งประกายออกมา เขานั่งพิงอยู่ข้างเตียงด้วยการช่วยเหลือของหมิงเยว่ “ข้าคิดว่าเจ้าจะขัดขืนเสียอีก” “หมิงเยว่ไม่กล้า” หมิงเยว่คำนับแล้วถอยออกไปยืนข้างๆ แล้วก้มหน้าลง ตอนนี้ฉู่จื่อเย่นมองนางอย่างเงียบๆ จ้าวหมิงเยว่เดาความคิดของคนผู้นี้ไม่ออก แต่ว่า มีคำกล่าวว่าทำเรื่องใหญ่ต้องระมัดระวัง ทำเรื่องเร่งรีบต้องค่อยๆทำช้าๆ ไม่ว่าสถานการณ์จะเร่งรีบเพียงใด ถึงแม้ว่าฉู่จื่อเย่นอาจจะกำลังหยั่งเชิงนาง แต่นางเองก็ห้ามทำตัวผิดปกติออกมาให้เห็น จ้าวหมิงเยว่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน “ถ้าหากท่านอ๋องไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ข้าน้อยขอทูลลา......” “หมิงเยว่?” “พ่ะย่ะค่ะ” “วันนี้เจ้ากลัวไหม?” เขาพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? ไม่เดาแล้ว แสร้งทำไม่รู้น่าจะดีที่สุด “กลัวอะไรพ่ะย่ะค่ะ?” “ข้า”
已经是最新一章了
加载中