บทที่ 26 เจ้ายั่วยวนเราก่อน
1/
บทที่ 26 เจ้ายั่วยวนเราก่อน
เทพบุตรเงา
(
)
已经是第一章了
บทที่ 26 เจ้ายั่วยวนเราก่อน
เจ้าชายหันไปมองบริเวณรอบๆ ให้แน่ใจว่าทั้งม้าและคนมิได้มองมาแล้ว จึงค่อยๆ ทอดกายลงเคียงข้างหญิงสาว รวบผมยาวสลวยไปข้างหลังเพื่อมิให้มันระคายถูกผิวของเธอ แล้วดึงผ้าขึ้นมาคลุมร่างเขาและเธอจนถึงคอ ขาของเขายาวเลยขาเธอออกไปมาก เมื่อได้มาอยู่ใกล้ๆ จึงเห็นว่าเธอสูงเพียงอกเขาเท่านั้น แถมยังผอมลงกว่าตอนที่อยู่ในวังตั้งเยอะ ตัวของเธอเย็นลงบ้างแล้ว จึงทรงพลิกตัวนอนตะแคงอย่างว่องไว แล้วก็ต้องตกใจเมื่อจมูกโด่งคมเฉียดแก้มเธอไปนิดเดียว “เย็นไว้...นี่แก้มของเสด็จพ่อ” ทรงบอกกับตัวเอง แล้วขยับพระพักตร์ให้ห่างออกมาเล็กน้อย “อืม...” “ยัยบ้า...หันกลับไปนะ” เจ้าชายเอ็ดอยู่ในใจเมื่อจู่ๆ เธอก็เอียงหน้ามาหาจนหน้าเกือบจะชนกัน แต่พอรับรู้ได้ว่าเธอตัวสั่นก็จำต้องขยับตัวเข้าชิด พร้อมวาดแขนผ่านลำตัวของเธอเพื่อกอดให้ความอบอุ่นอย่างเสียไม่ได้ เขาหลับตา สำนึกว่านี่เป็นการกอดผู้หญิงครั้งแรก และยังเป็นผู้หญิงที่เกลียดแสนเกลียด “นี่ก็จะเป็นของเสด็จพี่” แขนของเขาสัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่ม ไม่คิดว่าร่างกายผู้หญิงจะเปราะบางถึงเพียงนี้ หากเขาออกแรงกอดอีกนิด กระดูกของเธอก็คงจะแตกหักได้อย่างง่ายดาย “แล้วอะไรล่ะที่เป็นของเรา?” ทรงลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แพขนตาของเขาเกือบจะชนกันกับขนตาของเธอ ลมหายใจที่เป่ารดมาร้อนผ่าว ริมฝีปากเกือบจะแตะกันรอมร่อ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ปฏิสัมพันธ์ของหญิงชาย หลายครั้งที่ปลอมตัวออกหาความสำราญตามประสาชายหนุ่ม กระบวนท่าลีลารักที่เคยเห็นในตำราก็ได้เห็นมาแล้วกับตาตัวเอง แต่เห็นเจ้าหล่อนพวกนั้นแล้วก็รับไม่ได้ เงาของท่านหญิงคาร์เรห์ซ้อนทับขึ้นมาทุกที คงทนไม่ได้แน่ หากจะให้ใครมาเลื้อยเหมือนงูส่งเสียงครวญครางประหลาดบนร่างของเขา กุลสตรีที่แวะเวียนเข้ามาทักทายก็มาก ท่านหญิงจากเมืองต่างๆ ที่เขากับแม่ทัพฮูร์เร็มไปตีมาเป็นเมืองขึ้น มีแต่รูปโฉมสะคราญงามพร้อมกันทุกคน แต่พวกหล่อนก็ยัง “ธรรมดา” เกินไป เขาต้องการคนที่ทำให้ใจเต้นแรง คนที่ควรค่าแก่การแย่งชิงไขว่คว้า ท้าทายให้เขาต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้เธอมา ปัลจีเคยค่อนแคะว่า เขาเป็นพวกชอบความเจ็บปวด และอัลเลส...ก็บอกว่าเขาเป็นพวกชอบเอาชนะ เจ้าชายนึกแปลกใจตัวเองครามครัน ว่าทำไมจึงไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้เมื่อต้องสัมผัสอาเซน่า แล้วก็ให้เหตุผลกับตัวเองว่า นั่นเพราะเขาไม่ต้องการแพ้ผู้หญิงคนนี้ เพราะเธอคือศัตรูหมายเลขหนึ่ง แต่เจ้าศัตรูหมายเลขหนึ่ง กลับกลายเป็นของคนที่เขารักและเทิดทูน กลายเป็นคนที่อยู่ไกลเกินเอื้อมไปเสียแล้ว “อือ...” เธอส่งเสียงครางออกมาอีกแล้ว แถมยังนิ่วหน้าเหมือนเจ็บปวด ก่อนจะหันหน้ากลับไปอีกทาง ไมเซรินุสจึงได้เห็นแต่ซอกคอและลาดไหล่ที่โผล่พ้นผ้าคลุม ครั้นเมื่อนึกถึงคำพูดของปัลจีที่ว่าหนาวเนื้อต้องห่มเนื้อ จึงทรงขยับตัวเข้าชิดแนบแน่นแล้วซุกหน้าลงที่ซอกคอร้อนผ่าวของเธอแล้วข่มตา “ท่าน...อเม...โนฟิส” เจ้าชายตัวแข็งไปชั่วขณะ เมื่อเธอละเมอเรียกชื่อเสด็จพ่อออกมา ครั้นพอเคลื่อนตัวเองขึ้นแล้วผงกศีรษะขึ้นมอง ก็เห็นริมฝีปากของเธอหยักขึ้นยิ้มทั้งๆ ที่ยังหลับตา แล้วสติก็ขาดผึงในบัดดล! เจ้าชายไม่สนใจว่าเธอกำลังป่วย มือข้างหนึ่งจับใบหน้าเธอแหงนหงาย ก่อนจะประคองไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วก็ก้มพระพักตร์ลงไปรวดเร็วปานงูฉก ริมฝีปากบดเคล้ากลีบปากนุ่มของเธออย่างถนัดถนี่! เปรี้ยง!! เจ้าชายรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า หัวใจเต้นถี่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเดินหลงทางอยู่ในเขาวงกตหาทางออกไม่เจอ ยิ่งเดิน...ก็ยิ่งไกล ยิ่งสัมผัสได้ถึงความหอมหวานอ่อนนุ่ม แม้ว่าคนที่อยู่ใต้ร่างเขาจะเริ่มขัดขืน เฮือก! ทรงผงะถอนจุมพิตกะทันหัน แล้วก็ลุกขึ้นมานั่งอย่างงงๆ นิ้วเรียวสวยแตะที่ริมฝีปากตัวเอง นี่เขา...จูบไปแล้ว! จูบทั้งๆ ที่เธอยังหลับอยู่ด้วยซ้ำ ไม่อยากเชื่อเลย เขาจูบอาเซน่า! คนรักของเสด็จพ่อ! “ไม่น่าเลย...จุมพิตแรกของข้า...ต้องเสียให้ยัยขี้เหร่นี่หรือ?” ทรงรำพันกับตัวเอง แล้วก็ยกมือกุมที่หน้าอก หัวใจยังเต้นตุ้บๆ ไม่หยุด ผู้หญิงบ้า! นอนละเมอถึงเสด็จพ่ออยู่ได้ นี่กับเสด็จพ่อก็คง.... โอ๊ยๆๆๆ กับเสด็จพ่อเธอคงไม่นิ่งเฉยอย่างนี้หรอก แล้วก็คงไม่ขัดขืนทั้งๆ ที่กำลังหลับด้วย นี่เธอรังเกียจเขาถึงขนาดนี้เชียวหรือ “เป็นความผิดของเจ้านะ...ที่ยั่วยวนเราก่อน” ทรงขึงตาใส่คนเจ็บ แล้วตัดใจทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง ช่างเธอปะไร ไม่รู้สึกตัวนั่นล่ะดีแล้ว เหมือนจะนึกขึ้นได้ เจ้าชายผงกศีรษะขึ้นมองรอบๆ ตัวอีกครั้ง เจ้าม้ายังนอนอยู่ที่เดิม อัลเลสก็เหมือนจะเข้าฝันแล้ว ส่วนปัลจี...นั่งพิงผนังถ้ำในท่าเดิม ไม่รู้แอบหลับหรือเปล่า เจ้าชายถอนหายใจโล่งอก พลิกตัวตะแคงหันไปหาเธอพร้อมวาดแขนกอดร่างบางเหมือนเดิม แล้วซบหน้าลงกับเรือนผมนุ่ม หลับตาลงไม่รู้ไม่ชี้ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างแนบเนียน ฮี้ๆๆๆๆๆ กุบๆๆๆๆๆๆ ฟ้าว! เคร้งๆๆๆๆ อาเซน่าผวาลืมตาตื่นกลางดึก เธอไม่แน่ใจว่านั่นใช่เสียงม้าจริงๆ หรือไม่ เพราะจำได้ว่าเหลือม้าอยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่นี่...ราวกับพวกมันพากันวิ่งมาเป็นฝูง “มีคนลอบเข้ามา! มีคนลอบเข้ามา! รายงานฟาโรห์ด่วน!” “ดับไฟเร็ว พวกมันตั้งใจเผาหมู่บ้านของเรา!” “แย่แล้ว! พวกมันลอบเข้าไปในกระโจมของพระองค์!” “พวกมันมาจากไหน!? ส่งคนไปที่เหมืองเร็วเข้า!” หญิงสาวหันซ้ายหันขวาด้วยความตื่นตระหนก! เธอไม่ได้อยู่ในถ้ำ! แต่อยู่ในหมู่บ้านใกล้เหมืองบารามอส! เหมืองแร่เหล็กที่ถูกขุดพบขึ้นใหม่ใกล้เมืองเมมฟิส ซึ่งฟาโรห์นำทหารกว่าพันนายเข้ามาตั้งอาณาเขตแสดงความเป็นเจ้าของ พร้อมกับช่างตีดาบอีกกว่าร้อยชีวิต รวมถึงบิดาของเธอด้วย “พ่อ! พ่อ! อยู่ที่ไหน!?” เธอวิ่งออกจากกระโจมร้องเรียกหาบิดา ครั้นเมื่อโผล่หน้าออกมา ดวงตาก็เบิกกว้างสุดขีด ชายฉกรรจ์บนหลังม้ากว่าสิบคนพร้อมอาวุธครบมือ ทั้งดาบ ธนู หอก กำลังควบม้าไล่ฆ่าผู้คนอย่างเหี้ยมเกรียม! อ๊ากส์!! ฮี้ๆๆๆๆๆๆ เสียงกรีดร้องของคนที่ไร้ทางสู้ ควันไฟที่ลอยขึ้นบนท้องฟ้ายามราตรี แสงสีแดงจากเปลวเพลิงที่ร้อนระอุจนทำให้ความเหน็บหนาวแรกสัมผัสมลายหายไป ปลุกประสาทสัมผัสทั้งห้าของเธอให้ตื่นขึ้นมา “อาเซน่า! หลบไปอยู่ในอุโมงค์เร็วลูก!” “พ่อ!” หญิงสาวโผเข้ากอดบิดาที่ถือดาบวิ่งเข้ามาด้วยเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยเขม่าขี้เถ้าควัน “พ่อจะไปไหน! ให้ข้าไปด้วยนะ!” “พ่อต้องช่วยพวกเขาดับไฟ อีกไม่นานฟาโรห์จะนำทหารมาช่วยเรา เจ้าต้องไปหลบอยู่ในที่ปลอดภัยก่อน ไม่อย่างนั้นพ่อจะต้องห่วงหน้าพะวงหลังแน่!” “แต่ข้ายิงธนูได้! ข้าจะยิงพวกมัน” “ไม่ได้! เจ้าเป็นเด็ก จะไปสู้ชายฉกรรจ์พวกนั้นได้อย่างไร ทำตามที่พ่อบอก ไปหลบอยู่ในอุโมงค์ ที่นั่นมีทหารคุ้มครองอยู่ แล้วพ่อจะตามไป!” “พ่อจะกลับไปหาข้าแน่นะ!?” เธอหวาดหวั่นเมื่อรอบๆ ตัว มีชาวบ้านบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก บ้างก็กำลังวิ่งหนี บ้างก็กำลังสู้กับศัตรูบนหลังม้าที่บุกเข้ามาใกล้กระโจมของเธอทุกขณะ พ่อไม่ตอบ แต่ดันหลังเธอออกจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว เธอได้แต่วิ่ง วิ่ง และวิ่ง! ด้วยความเจ็บใจ ที่ไม่สามารถเป็นกำลังให้พ่อได้เลย แขนขาสั้นๆ ผอมบาง เทียบไม่ได้กับบุรุษตัวโตเหมือนยักษ์ที่บุกเข้ามาเข่นฆ่าคนในหมู่บ้าน พวกมันลงมือกลางดึกโดยที่ไม่เกรงกลัวฟาโรห์และกองทหารนับพันที่ตั้งค่ายอยู่ที่เหมืองใกล้ๆ นี้เลย
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 26 เจ้ายั่วยวนเราก่อน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A