บทที่ 3 ถูกตี
บทที่ 3 ถูกตี
จ้าวชิงชิงเป็นคนที่สวยมาก เป็นดาวประจำห้องที่ทุกคนยอมรับ ผู้ชายทุกคนในห้องต่างชอบเธอ ความจริงแล้วผมไม่มีโอกาสได้เกี่ยวข้องอะไรกับสาวสวยอย่างเธอด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากผลการเรียนของเธอไม่ดีนัก จึงมาถามคำถามผมเป็นประจำ
หวังเหล่ยก็กำลังตามจีบจ้าวชิงชิงอยู่ และผมคิดว่าที่หวังเหล่ยมาหาเรื่องผมเป็นประจำ นั่นก็เพราะจ้าวชิงชิงมาถามคำถามผมบ่อยๆ
ผมเกรงว่าการที่จ้าวชิงชิงออกหน้าแทนผม มันจะยิ่งทำให้หวังเหล่ยรังแกผมมากยิ่งขึ้น จึงได้ลุกขึ้นและเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย จ้าวชิงชิงกลับดึงแขนผมไว้ไม่ยอมให้ไป
และในขณะนี้หวังเหล่ยก็เอ่ยขึ้นอย่างดูถูก“ชิงชิง มันเป็นไอ้ขี้ขลาด ต่อให้เธอช่วยมันก็ไม่มีประโยชน์หรอก”
จ้าวชิงชิงก็โมโหขึ้นมาเช่นกัน พูดใส่หวังเหล่ย“หวังเหล่ย ถ้านายยังรังแกเขาอีก ฉันจะไปฟ้องครู”เธอหันมาพูดกับผมอีก“เฉินเฉียง นายเป็นเหมือนผู้ชายหน่อยไม่ได้หรือไง อย่าให้ใครรังแกนายบ่อยๆสิ”
คำพูดนี้ของเธอได้จี้ใจดำผมมากเหลือเกิน ผมแอบกำหมัดแน่น ผมอยากจะใช้กำลังนี้ชกหวังเหล่ยให้หมอบราบไปเลย แต่ผมไม่กล้า หวังเหล่ยพาคนมาตั้งหลายคน
ทีนี้หวังเหล่ยหันมาพูดกับผม“เฉินเฉียง กูรอมึงที่ห้องน้ำนะ ถ้านายไม่ไป กูเอามึงตายแน่”หลังพูดจบเขาก็เดินออกไปอย่างโอหังสุดๆ
“ขอโทษนะ ฉันไปล่ะ”ตอนที่ผมพูดประโยคนี้ออกไป ผมไม่กล้าสบสายตาจ้าวชิงชิงเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้เธอคงผิดหวังต่อผมมากแน่ๆ ความรู้สึกแบบนี้มันทรมานเหลือเกิน แต่ผมก็จำต้องไปรับมัน
ในวินาทีที่ผมหันหลังไปนั้น จ้าวชิงชิงร้องเรียกผมไว้ เธอเอ่ย“เฉินเฉียง ฉันมองนายผิดไป นายมันไอ้ขี้ขลาดจริงๆ”
ร่างของผมกระตุกขึ้นเล็กน้อย เคียดแค้นในใจสุดๆ
ทันทีที่ก้าวเข้าไปในประตูห้องน้ำ ผมก็ถูกลูกน้องคนหนึ่งของหวังเหล่ยกระชากคอเสื้อและลากไปตรงหน้าเขาทันที ซึ่งขณะนี้หวังเหล่ยกำลังสูบบุหรี่อยู่ ผมได้กล่าวสวัสดีเขาไป และถามว่ามีเรื่องอะไรกับผมหรือเปล่า
หวังเหล่ยกระตุกปากยิ้มอย่างเยือกเย็น ก่อนจะฟาดฝ่ามือลงมาบนใบหน้าของผม ผมไม่กล้าขัดขืน ได้แต่กัดฟันและยอมรับมัน
“รู้ไหมว่าทำไมกูถึงตบหน้ามึง”หวังเหล่ยถาม
ผมส่ายหน้าพร้อมกับพูดไปว่าไม่รู้ และใครจะไปคิดว่าทันทีที่คำว่า“ไม่รู้”ออกจากปาก ฝ่ามือของหวังเหล่ยก็ฟาดลงมาบนหน้าผมอีกครั้ง ผมเจ็บจนอุทานขึ้น ส่งผลทำให้หวังเหล่ยและลูกน้องของเขาต่างพากันหัวเราะเยาะผม
หวังเหล่ยยิ่งตบก็ยิ่งนึกสนุก จนสุดท้ายจึงค่อยบอกเหตุผลที่แท้จริงมา เขาบอกว่าสองทีแรกหลูเสเป็นคนฝากมา หลูเสบอกให้เขาตบผมวันละสองทีทุกวัน เพื่อไม่ให้ผมลืม
ทันทีที่ผมได้ยินว่าเป็นแผนการของหลูเส ก็เกรี้ยวโกรธขึ้นมาทันที
แม่งเอ้ย ผมยังไม่ได้ไปหาเรื่องเธอเลย แต่เธอกลับมาทำผมก่อนสักแล้ว เดิมทีผมแค่คิดจะใช้คลิปขู่ไม่ให้เธอมารังแกผม แต่ใครจะไปคิดว่าเธอกลับส่งคนมาทำร้ายผม
ในเมื่อเป็นแบบนี้หลูเส เธอร้ายมาก่อน งั้นก็อย่าหาผมใจร้ายก็แล้วกัน
สุดท้ายหวังเหล่ยถีบผมอีกสองที และยังกำชับให้ผมอยู่ให้ห่างจากจ้าวชิงชิงหน่อย ไม่อย่างนั้น ต่อไปจะไม่ใช่แค่ตบสองที
เมื่อเผชิญต่อความแข็งกร้าวของหวังเหล่ย สิ่งที่ผมทำได้ในตอนนี้ก็คือก้มหน้าก้มตายอมรับ ณ ขณะนี้ยังไม่มีวิธีการที่ดีกว่านี้ที่จะมารับมือกับเขา
ตอนที่กลับไปยังห้องเรียน จ้าวชิงชิงเหลือบมองผมแว๊บหนึ่ง แต่ทว่าสุดท้ายกลับไม่ได้สนใจผม อาจเพราะความอ่อนแอของผม ทำให้เธอรู้สึกว่าผมเป็นคนไร้ประโยชน์มั้ง
ผมรู้สึกล้มเหลวมาก จึงนั่งลงบนที่นั่งและอ่านหนังสือ ทว่าจ้าวชิงชิงกลับแย่งหนังสือผมไปโยนลงกับพื้น และยังต่อว่าผมอีกว่า“นายจะอ่านหนังสืออีกทำไม นิสัยแบบนี้อย่างนาย ต่อให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยชิงหวา มหาวิทยาลัยปักกิ่งก็ถูกรังแกอยู่ดี”
คำพูดนี้ได้ทิ่มแทงทำร้ายจิตใจผมอย่างแรง แต่ผมก็รู้ดี ว่าเธอก็หวังดีกับผม ไม่ได้จะด่าผมจริงๆ
หลูเส หวังเหล่ย ฝากไว้ก่อนเถอะ
หลังเลิกจากการศึกษาด้วยตัวเองในภาคค้ำแล้ว ผมก็ส่งข้อความไปหาหลูเส ให้เธอไปรอผมที่ห้องเก็บของ คราวนี้กูจะยำเธอให้เละไปเลย
ไม่นาน หลูเสก็ตอบข้อความผมมา เธอบอกว่าไม่ไป แถมยังถามผมอีกว่าเมื่อกลางวันถูกตบไปสองทีเป็นไงบ้าง สบายไหม ผมตอบกลับเธอไปทันทีว่า“แม่งเอ้ย” เธอคิดว่าเอาหวังเหล่ยออกมาแล้วฉันจะกลัวจนหัวหดงั้นหรือ กูไม่เชื่อเว้ย หากเธอไม่ไปรอผมที่ห้องเก็บของแล้วล่ะก็ แม่งก็รอให้คลิปของเธอกับตาเฒ่าขี้เหร่นั้นแพร่ออกไปละกัน
หลูเสกลัวแล้ว บอกผมไม่ให้วู่วาม ใจเย็นๆ และยังบอกอีกว่าเธอจะรีบไปรอที่ห้องเก็บของเดี๋ยวนี้แหละ
ผมพูดในใจว่าทำแบบนี้แต่แรกก็สิ้นเรื่อง ผมกลัวหวังเหล่ยก็จริง แต่ผมไม่กลัวหลูเส ถ้าวันนี้เธอไม่ปรนนิบัติจนผมพอใจ ผมไม่มีทางปล่อยเธอไปเด็ดขาด
และเป็นไปตามคาด ตอนที่ผมเดินไปยังห้องเก็บของ หลูเสได้รอผมอยู่ที่นั่นตั้งนานแล้ว วันนี้หลูเสแต่งตัวมีเสน่ห์เป็นพิเศษ ใส่กระโปรงสีดำหุ้มก้นแนบเนื้อ กระโปรงตัวนั้นสั่นจนแทบจะเห็นแก้มก้นอยู่แล้ว บนขาสวยเรียวยาวคู่นั้นคือถุงน่องสีเนื้อ
ผิวสวยขาวเนียนกับกระโปรงหุ้มก้นเซ็กซี่สีดำประสานรวมกัน เกิดการเปรียบเทียบที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง กระตุ้นให้ผมแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่
“ครูหลูสุดที่รักของผม รู้ไหมว่าผมเรียกครูมาที่นี่ทำไม”ผมเลียนแบบคำพูดของหวังเหล่ย ตั้งใจจะระบายความอัดอั้นตันใจทั้งหมดที่ผมได้รับมาจากเขามาลงที่เธอทั้งหมด
สีหน้าของหลูเสไม่สู้ดีนัก เธอไม่ได้ตอบคำถามของผมโดยตรง แต่เป็นการพูดกับผมด้วยน้ำเสียงของการปรึกษา“เฉินเฉียง เมื่อคืน นายได้ฉวยโอกาสฉันไปมากพอแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้นายควรจะปล่อยฉันไปได้แล้ว ลบคลิปในมือถือของนายไปได้แล้วมั้ง”
ทันทีที่ได้ฟังหลูเสพูดแบบนี้ ผมขำขึ้นมาทันที มองหน้าเธอพร้อมกับเอ่ยพูด“ครูหลูครับ ครูสามารถที่จะเลือกลืมเรื่องบางเรื่องได้ แต่ผมทำไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องที่ครูเพิ่งเอ่ยขึ้นเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ แถมยังใช้มันมาข่มขู่ผมอีก สนุกมากงั้นหรือ”
“เฉินเฉียง นายฟังฉันนะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ฉันแค่ให้......”
“พอได้แล้ว”ผมฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าหลูเสทันที ผมลงมือหนักมาก เพียงชั่วครู่ ใบหน้าที่ขาวเนียนของเธอก็ปรากฏรอยฝ่ามือหนึ่งขึ้นทันที ตบจนเธอมึนไปเลย
น้ำตาของหลูเสไหลลงมาติ๋งๆ มองหน้าผมอย่างเกรี้ยวโกรธ เอ่ย“เฉินเฉียง นี่นายกล้าทำร้ายฉันหรือ นายรู้ไหมแม้แต่พี่ชายนายยังไม่กล้าตบฉันเลย นาย.... ”
ผมขยี้หูเล็กน้อย ไม่ได้รอให้เธอพูดจบ ผมฟาดฝ่ามือลงไปบนหน้าเธออีกที ผมบอกว่าผมไม่มีพี่ชาย เมื่อก่อนไม่เคยมี ตอนนี้ก็ไม่มี อย่าคิดจะใช้เฉินจู้นมากดขี่ผม มันใช้ไม่ได้ผล
“แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง นายถึงจะยอมรามือ”
ผมกัดฟันพูด“พี่บอกว่าวันเสาร์จะให้ผมเอาพี่ไม่ใช่หรือไง ผมรอให้ถึงวันเสาร์ไม่ไหวแล้ว จะเอาเดี๋ยวนี้”
หลูเสปฏิเสธ“ไม่ได้ วันนี้..วันนี้ฉันไม่สะดวก”
“แม่งเอ้ย ไม่ได้ก็ต้องได้ ไม่งั้นกูจะปล่อยคลิปออกไป ให้ทุกคนได้เห็นความร่านของพี่”ผมโกรธจนตะคอกขึ้น พุ่งเข้าไปอย่างอดใจรอไม่ได้ กดทับร่างเธอไว้
“เฉินเฉียง นายว่าใครร่าน ฉันว่าแม่นายต่างหากที่ร่าน ทำไมถึงได้คลอดลูกที่หน้าด้านอย่างนายได้”
ทันทีที่ผมได้ฟังประโยคนี้ เปลวเพลิงในใจก็พุ่งขึ้นสมองทันที พุ่งเข้าใส่เธอและฉีกเสื้อผ้าเธออย่างบ้าคลั่ง
หลูเสขัดขืนสุดชีวิต เธอขอโทษผมไม่หยุด บอกว่าตนเองพูดผิดไป ผมบอกว่ากูไม่สน ไม่ว่ายังไงวันนี้ผมก็ต้องเอาเธอให้ได้
ฉึก... เสื้อในของหลูเสถูกผมกระชากลง ลูกท้อสวยสองลูกเด้งออกมาทันที เห็นแล้วผมรู้สึกคอแห้งผากขึ้นมาทันที มุดหัวลงไปและขบกัดไปทั่ว
ไม่ว่ายังไง วันนี้ผมก็จะจัดการนางผู้หญิงร่านคนนี้ให้ได้