บทที่15 โกวหัว
บทที่15 โกวหัว
วิชาแรกคือคณิตศาสตร์ ผมเซ็งและเผลอหลับไป พอเลิกเรียน ผมก็ได้เจอเรื่องแปลกใหม่ จู่ๆก็มีคนส่งบุหรี่ให้ผม ถ้าผมจำไม่ผิด เหมือนเขาจะอยู่กับหวังเหล่ย ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหวังเหล่ยด้วย
“ขอบคุณ แต่ผมสูบบุหรี่ไม่เป็น ขอบคุณนะ……” ผมพูดกับเขา
“ไม่เป็นไร มาพี่เฉียง สูบสักมวนเถอะ ทุกอย่างก็ย่อมมีครั้งแรกเสมอ ตอนนี้นายชนะหวังเหล่ย ก็ถือว่าเป็นคนที่มีคนนับถือแล้ว ต้องเรียนรู้การสูบบุหรี่ ต่อไปมันจะเป็นประโยชน์ในโอกาสต่างๆ” คนคนนั้นพูดกับผม ถ้าจำไม่ผิด เขาน่าจะชื่อว่าโกวหัว
“ได้สิ ในเมื่อนายพูดขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่สูบก็คงเป็นการไม่ไว้หน้านายสินะ” ผมพูด แล้วรับบุหรี่ในมือมา เขารีบจุดให้ผม ผมลองสูบดูสองสามครั้ง แล้วก็สำลัก
“โทษทีนะ สูบเป็นครั้งแรก ทำให้นายเห็นเรื่องน่าตลกเลย”
“ไม่เป็นไร ใครสูบครั้งแรกแล้วไม่เป็นแบบนี้บ้าง ถ้านายสูบจนชินก็ไม่เป็นแล้ว” โกวหัวพูด
“ใช่แล้ว นายไม่ได้อยู่กับหวังเหล่ยหรอกหรือ นายเอาบุหรี่มาให้ฉันแบบนี้ ถ้าหวังเหล่ยรู้เข้า นายจะไม่แย่เอาหรือ” ผมคิดดูแล้ว ตัดสินใจพูดให้ชัดเจนเลยดีกว่า แม้ว่าเขาจะไม่เป็นอันตรายต่อผม แต่ผมก็ยังแปลกในกับการกระทำเขาอยู่
“เห้ นายเข้าใจผิดแล้ว ฉันอยู่ใกล้หวังเหล่ยเพราะว่าอยู่ห้องเดียวกัน เดิมทีฉันอยู่กับเฉินห้าว ตอนนี้นายมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่ห้าวแบบนี้ พี่ห้าวก็ยกให้นายเป็นเพื่อนแล้ว ฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายแล้วหวังเหล่ยจะกล้าทำอะไรอีก” โกวหัวพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ฉันเข้าใจแล้ว”
“ใช่แล้วพี่เฉียง ที่ฉันมาหาก็เพราะมีเรื่องที่สำคัญมากจะบอกกับนาย” จู่ๆโกวหัวก็เปลี่ยนเป็นท่าทางจริงจังขึ้นมา เขามองซ้ายมองขวา จากนั้นก็พูดกับผมเสียงเบา: “นายรู้หรือยัง เมื่อวานหลังจากที่นายต่อยหวังเหล่ย เขาไม่ยอมรับมาก ตอนที่ทำแผลก็ได้ให้คนไปตีนาย อีกฝ่ายก็มีภูมิหลังอยู่ไม่น้อย นายควรไปปรึกษากับพี่ห้าวสักหน่อย ไม่งั้นอย่างนั้นอาจจะสายเกินไป”
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ เขาเรียกใครมา เก่งขนาดนั้นเลยหรือ” ผมตกใจ รีบถามรายละเอียด รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
“เรื่องนั้นฉันก็ไม่แน่ใจ หวังเหล่ยโทรศัพท์อยู่ข้างฉัน แต่ฉันไม่ได้ยินชื่อของเขา แต่จากน้ำเสียงของเขา อีกฝ่ายต้องเป็นคนที่สำคัญมากแน่ๆ ตอนนี้พี่เฉียงอาจไม่สามารถรับมือได้” โกวหัวพูด
“โอเค ฉันรู้แล้ว ขอบคุณที่มาบอกฉันนะ เดี๋ยวฉันจะไปหาเฉินห้าว” ผมพยักหน้า แล้วเดินกลับห้องเรียนไปพร้อมกับเขา เพราะใกล้ถึงเวลาเรียนแล้ว ดังผมจึงรอให้หมดคาบเรียนวิชาต่อไปก่อน แล้วค่อยไปห้องเรียนของเฉินห้าว ที่ผมคาดไม่ถึงก็คือ เฉินห้าวไม่มา
ผมถามเพื่อนร่วมห้องสองสามคนของเขา ขนาดคนที่สนิทกับเฉินห้าวยังไม่รู้เลยว่าเขาไปไหน ผมทำได้แค่หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเขา โชคดีที่ก่อนหน้านี้ฉู่เจียวเจียวเคยให้เบอร์โทรศัพท์ไว้
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นสองสามครั้ง เฉินห้าวรับสายอย่างรวดเร็ว ผมบอกเรื่องที่หวังเหล่ยจ้างคนมาจัดการผมให้เฉินห้าวฟัง เฉินห้าวพูดขอโทษกับผม แล้วบอกว่าตอนนี้เขามีธุระยุ่งอยู่ ปลีกตัวออกมาไม่ได้เลย ให้ผมไปหาคนที่ชื่อหลิวฉี เป็นคนในโรงเรียนเรา เขาสามารถช่วยผมจัดการได้
ไม่มีทางเลือก ผมทำได้แค่กลับมาที่ห้องเรียนก่อน กลับมาที่ห้องก็พบว่าจ้าวชิงชิงตามหาผมอยู่ ผมถามเธอว่ามีเรื่องอะไร ไม่คิดเลยว่าเธอจะพูดอะไรที่น่าตกใจออกมาแบบนี้ เธอบอกว่าหวังเหล่ยจะจ้างคนมาจัดการผม ให้ผมรีบไปหาเฉินห้าวให้เขาช่วย
ผมตกใจ ทำไมเธอถึงรู้ว่าหวังเหล่ยจะจ้างคนมาจัดการผมนะ ขนาดตัวผมเองยังเพิ่งจะรู้เลย และที่ทำให้ผมแปลกใจยิ่งกว่านั้นคือ เธอรู้จักเฉินห้าว ดูแล้วภูมิหลังของเฉินห้าวจะมีมากกว่าที่ผมจินตนาการไว้เสียอีก
จ้าวชิงชิงยังพูดไม่ทันจบ เสียงระฆังเข้าเรียนก็ดังขึ้น พวกเราต้องกลับไปนั่งที่ของตัวเองเพื่อเรียนหนังสือ วิชานี้เป็นคาบเรียนของพี่สะใภ้ ผมต้องตั้งใจเรียนอย่างแน่นอน
พี่สะใภ้ใส่กระโปรงรัดรูปที่ยั่วยวนมาสอนอีกแล้ว พอเธอเดินเข้ามาในห้องเรียน นักเรียนชายในชั้นเรียนก็พากันตื่นเต้น กระโปรงรัดรูปตัวนั้นทำให้สะโพกผายของเธอดูโดดเด่นขึ้นมาอย่างน่าเย้ายวน
นักเรียนชายทุกคนต่างกันจ้องไปที่กระโปรงรัดรูปของพี่สะใภ้ แต่ผมก็อดคิดถึงเรื่องที่เธอเปลือยกายต่อหน้าผมในคืนนั้นไม่ได้ ผู้ชายพวกนี้ได้แต่มองกระโปรงของพี่สะใภ้แล้วเอาไปจินตนาการ แต่ว่าผมแม้แต่ตอนร่างเปลือยก็เคยเห็นมาแล้ว
ตอนเลิกเรียนพี่สะใภ้เรียกผมไปหา ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่ตรงทางเดิน ใบหน้าของพี่สะใภ้ค่อนข้างจริงจัง ผมคิดว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอีกแน่
“คืนนี้พี่ชายของนายอาจจะกลับมาอีก ฉันกลัวว่าเขาจะมาก่อกวนฉัน ครั้งนี้ถ้าเขามา เขาต้องเอาอุปกรณ์มางัดประตูแน่” พี่สะใภ้พูดขึ้นด้วยใบหน้ากังวลใจ
อย่างที่คิดไว้ ไอ้สารเลวเฉินจู้นคนนี้ไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจจริงๆด้วย ไม่นานก็มาคิดหาวิธีทำอะไรกับพี่สะใภ้อีกแล้ว ผมจะไม่ยอมให้แผนชั่วของเขาสำเร็จแน่ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าที่จริงพี่สะใภ้กับเฉินจู้นไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรกันเลย ดังนั้นผมจะปกป้องพี่สะใภ้ให้ถึงที่สุด แล้วสักวันผมต้องเอาพี่สะใภ้มาเป็นของผมให้ได้
“พี่วางใจเถอะ ผมจะไม่ให้แผนชั่วของเขาสำเร็จแน่นอน” ผมพูดพร้อมกำหมัด
“ฉันรู้ แต่หลังจากนายไปพี่จะทำยังไงล่ะ อาเฉียงตอนกลางคืนนายไปนอนกับพี่หน่อยได้ไหม มาอยู่เป็นเพื่อนพี่นะ”พี่สะใภ้พูดอย่างหวาดกลัว
“ได้สิครับ ถ้าเป็นความต้องการของพี่ ผมสามารถไปอยู่กับพี่ได้ทุกวัน พี่วางใจเถอะ” มีเรื่องดีๆแบบนี้ผมไม่ปฏิเสธแน่นอน ในขณะเดียวกันก็คิดว่าจะครอบครองพี่สะใภ้ได้อย่างไร โดยเฉพาะครั้งก่อนที่รู้ว่าพี่สะใภ้ยังบริสุทธิ์อยู่ มันทำให้ผมยิ่งอยากนอนกับพี่สะใภ้ สักวันผมจะทำให้เธอยอมเปลือยกายอยู่บนเตียงนอนรอผมไปร่วมสวาทให้ได้
พี่สะใภ้พยักหน้า เหมือนว่าวางใจลงเล็กน้อย แล้วก็กำชับผมว่าให้ระวังด้วย จากนั้นก็กลับห้องทำงานไป
ตอนบ่ายเรียนวิชาพละ ผมคิดว่าจะได้ออกกำลังกายผ่อนคลายสักหน่อย แต่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องที่ทำให้ผมตกใจขึ้น
ผมเล่นบาสอยู่กับเพื่อนอีกสองสามคน ผมแย่งบอลมาได้ แต่มันอยู่ค่อนข้างไกลจากห่วง ผมอยากลองเสี่ยงดู ด้วยการขว้างบอลลงห่วงจากที่ไกลๆ เป็นลูกสามแต้ม แล้วมันก็ดันบังเอิญเข้าห่วงพอดี
“พี่เฉียงเก่งจริงๆ ลูกอยู่ไกลขนาดนี้ยังโยนลงห่วงได้อีก เก่งเกินไปแล้ว” เพื่อนที่อยู่ข้างผมคนหนึ่งอดที่จะชมผมไม่ได้
“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่อยากจะเล่นเฉยๆ ถ้าอยากจะโยนจริงๆนะ เรื่องนี้มัน……” ผมยังไม่ทันพูดจบ ทันใดนั้นก็มีลูกบอลลอยมาจากไหนไม่รู้ มากระแทกหัวผมเข้าอย่างจัง เจ็บเป็นบ้า
“ใครมันไม่ดูตาม้าตาเรือเนี่ย กล้าโยนใส่แม้แต่พี่เฉียงของพวกเรา” คนในห้องรีบพูดขึ้นแทนผมทันที
“ผลัวะ” คนคนนั้นเพิ่งจะเอ่ยปากพูด ก็ถูกชกเข้าอย่างแรง