บทที่14 ก็แค่สนุกๆ   1/    
已经是第一章了
บทที่14 ก็แค่สนุกๆ
บทที่14 ก็แค่สนุกๆ เขานิ่งอึ้งไป ขณะที่ห้อเทียนชินลุกขึ้นยืน มือหนึ่งก็คว้าสูทที่แขวนด้านข้าง และเดินออกจากห้องส่วนตัวไป …. พอซ่งเมียวออกมาจากกวนดิ่ง เธอรู้สึกมึนหัว จึงได้แต่เดินกลับไปที่ห้องโถงใหญ่อีกครั้ง เพื่อที่จะนั่งพักที่นั่น เธอแตะหน้าผากตัวเอง อย่างกับน้ำเดือด นั่งพักอยู่ครู่หนึ่งถึงได้เดินออกมา ขณะนั้นมีคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินเข้าไปในกวนดิ่ง คนที่เดินนำหน้าสวมสูทสีเทาควันบุหรี่ คมเข้มและดูดุนิ่ง รูปหน้างดงามไม่แสดงออกทางอารมณ์ใดๆ เป็นใบหน้าที่ซ่งเมียวคุ้นเคยกว่าใบหน้าไหนๆ คาดไม่ถึง ตอนนี้หชู่ซ่าวเหยนกับกลุ่มเพื่อนของเขาก็พากันมาที่กวนดิ่ง กลุ่มเขาล้วนเป็นลูกค้าประจำของกวนดิ่ง ทุกคนหิ้วสาวฮอตมากันคนละหนึ่งนาง หญิงสาวในอ้อมแขนของหชู่ซ่าวเหยนดูขี้อายกว่าคนอื่นอยู่เล็กน้อย หล่อนใส่ชุดคลุมสีขาว แต่งหน้าไม่จัด ซุกอยู่ในอ้อมแขนเขา ให้ความรู้สึกเหมือนนกน้อยที่ต้องพึ่งพาคนเลี้ยงดู ใจซ่งเมียวต้องเผชิญกับความเจ็บปวดที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เธอลุกขึ้นยืน “ปึง” ยังไม่ทันได้หันหนีไป ก็ถูกหนึ่งในคนกลุ่มนั้นเห็นเข้าก่อน ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกับหชู่ซ่าวเหยน สีหน้าหชู่ซ่าวเหยนบูดบึ้งขึ้นมา และปล่อยผู้หญิงในอ้อมแขนออก ก่อนจะเดินเข้าหาซ่งเมียวด้วยสีหน้าไม่พอใจ ซ่งเมียวคว้าหยิบกระเป๋าบนโซฟาขึ้นมา คิดที่จะออกไปอีกฝั่งหนึ่งของกวนดิ่ง แต่ทันใดนั้นแขนเธอก็ถูกดึงไว้จากทางด้านหลัง “คุณมาที่นี่ทำไม!” หชู่ซ่าวเหยนเดินถึงด้านหลังเธอ เสียงเขาเย็นชืด ซ่งเมียวรู้สึกว่าข้อมือตึงจนเจ็บ เธอหันไปโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เมื่อหันไปเห็นผู้หญิงเสื้อขาวซึ่งอยู่ไกลๆมองมาทางพวกเขาอย่างผิดหวัง เมื่อเห็นเช่นนั้น ดูเหมือนราวกับว่าเธอจะเป็นมือที่สามที่ไปทำลายการแต่งงานของพวกเขา ซ่งเมียวก็ยิ้มเยาะกับตัวเอง “แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่ล่ะ ฉันก็มาที่นี่ทำอย่างนั้นแหละ” หชู่ซ่าวเหยนหน้าถอดสี แววตามืดหม่นลง “ที่คุณบอกว่าตอนเย็นมีธุระ ก็คือการมาเที่ยวที่กวนดิ่งอะนะ” “เที่ยวเรอะ” ซ่งเมียวยิ้ม ด้วยสายตาอันอบอุ่น “ทำไม คุณยังมาดื่มและสำเริงสำราญที่นี่ได้เลย ฉันจะมาสนุกที่นี่บ้างไม่ได้หรือไง” “หชู่ซ่าวเหยน ที่คุณยังเปลี่ยนผู้หญิงได้ไม่ซ้ำหน้าทุกวัน แล้วฉันยังจะต้องซื่อสัตย์กับการแต่งงานของเราด้วยอย่างนั้นเรอะ ตอนที่คุณอยู่กับผู้หญิงคนอื่น เคยคิดถึงความรู้สึกของฉันบ้างไหม” ไม่รู้ว่าเพราะคำพูดวันนี้ของหล่นชิงไปแตะเส้นประสาทของเธอเข้ารึเปล่า ซ่งเมียวไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อีกต่อไป เธอนึกถึงว่าตัวเองรอคอยเขาเงียบๆอยู่สองปี เขาก็ยังคงใช้สายตารังเกียจจ้องมองเธออยู่ เธอชักทนไม่ไหวแล้ว หชู่ซ่าวเหยนคิดว่าเธอหึงเพราะว่าผู้หญิงเสื้อขาวที่เขาโอบ สีหน้าเขาก็เลยอ่อนลงโดยไม่รู้ตัว แต่เสียงก็ยังแข็งอยู่ ผู้หญิงคนนั้น...ก็แค่สนุกๆเท่านั้น ผมไม่ได้รู้จักหล่อน” “เรื่องของคุณ…” หัวสมองเธอทั้งปวดทั้งวิงเวียน ซ่งเมียวอยู่ๆก็รู้สึกสิ้นหวัง เธอสลัดมือหชู่ซ่าวเหยนที่คว้าจับเธอเอาไว้ออก เธอเวียนหัวจนเกือบจะล้ม ถูกหชู่ซ่าวเหยนคว้าเอาไว้ เมื่อเห็นหน้าเธอแดงก่ำ เขาจึงขมวดคิ้ว “คุณเป็นไข้เรอะ เดี๋ยวผมไปส่งกลับบ้าน” “ไม่ใช่เรื่องของคุณ!” สีหน้าหชู่ซ่าวเหยนบูดบึ้ง “ซ่งเมียว อย่าทำตัวมีปัญหาน่า!” ซ่งเมียวสลัดมือหชู่ซ่าวเหยนออกอีกครั้ง เธอทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ “ฉันก็เป็นผู้หญิงเอาแต่ใจอย่างนี้แหละ!คุณรีบไปปลอบใจผู้หญิงของคุณซะดีกว่า หล่อนน่าจะรอจนน้อยใจแล้วล่ะ” ไม่รู้ว่าเพราะเป็นเพราะว่าสายตาสาปส่งหชู่ซ่าวเหยนของซ่งเมียวรึเปล่า ทำให้ลมหายใจเขาฮึดฮัดขึ้นมา และยังคิดที่จะไปคว้าแขนเธอกลับมาอีก แต่เขากลับได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้นมาพอดี ซ่งเมียวไม่มองเขาอีกต่อไป เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา และรับเลยโดยไม่ดูอะไรทั้งนั้น “ฮัลโหล ใครคะ” เสียงของเธอปนเสียงสะอื้นเล็กๆ แต่เธอพยายามทำเสียงปกปิดมันไว้ เธอหยิบกระเป๋าขึ้นมา ในขณะที่สายตาหชู่ซ่าวเหยนสงบนิ่ง เธอก็เดินออกไปด้านนอกกวนดิ่ง … “คุณหนูส้ง ผมเองเฉินเหล่น เลขาของประธานห้อ เราเคยเจอกันแล้ว” ที่ปลายสายนั้น เฉินเหล่นในการจับจ้องของหัวหน้าตัวเองรู้สึกหวาดกลัวนิดหน่อย เขาแกล้งทำเป็นอย่างกระวนกระวายและพูดกับซ่งเมียวว่า “เลขาเฉิน มีเรื่องอะไรหรอคะ” ซ่งเมียวสะกดเก็บอารมณ์ตัวเองอย่างรวดเร็ว และถามเสียงเข้ม คืนอากาศเย็นสบาย เธอกำลังเดินไปยังลานจอดรถชั้นบนสุด ทันทีที่รับสายจากเลขาห้อเทียนชิน เธอยังคงคิดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงการเทียนฉิง
已经是最新一章了
加载中