ตอนที่ 471 แสดงว่าเธอกลับสู่ตระกูลวีรภัทรเมธีได้แล้วใช่ไหม   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 471 แสดงว่าเธอกลับสู่ตระกูลวีรภัทรเมธีได้แล้วใช่ไหม
ตอนที่ 471 แสดงว่าเธอกลับสู่ตระกูลวีรภัทรเมธีได้แล้วใช่ไหม เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อวงการบันเทิงไม่น้อยเลยทีเดียวอีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับดาราศิลปินของหลายบริษัท ในช่วงที่เรื่องราวกำลังใหญ่โตมีดาราหลายคนถึงกับบล็อคช่องแสดงความคิดเห็นหน้าหลักของตนเองและยังลบทุกความเคลื่อนไหวที่เคยโพสต์ แต่ในโลกแห่งอินเทอร์เน็ตยังไงก็ต้องมีร่องรอยเหลืออยู่ แฟนคลับของจิดาภาไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปแน่ ทว่ายังมีดาราหลายคนของบริษัทเล็กๆทั้งหลายที่ออกมาแสดงตัวว่าตนนั้นทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบและจะไปขอโทษจิดาภาเป็นการส่วนตัว ขอโทษงั้นเหรอ? ไม่ต้องการหรอก! “ คุณจิดาภาไม่ต้องการคำขอโทษของพวกคุณหรอก เธอให้อภัยกับความผิดของพวกคุณ พวกคุณยังคิดที่จะใช้วิธีการแบบนี้เพื่อขอความเห็นใจหรือไง? ” “คนพวกนี้อยู่คนละบริษัทมาอยู่รวมกันแบบนี้เพราะความคิดของตัวเองเหรอ? หรือว่าจะมีคนคอยชักนำอยู่เบื้องหลัง? ” “ในอนาคตฉันไม่มีทางติดตามผลงานของดาราที่มีรายชื่อบนนี้แน่นอน” บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเค.เอฟก็ไม่เคยทำให้บรรดาแฟนคลับผิดหวัง เช้าวันรุ่งขึ้นฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทก็ออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่งโดยมีเนื้อหาชัดเจนว่าเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของแฟนคลับจิดาภายอมควักกระเป๋าตัวเองเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลของพวกเขาแต่แฟนคลับกลุ่มนี้กลับไม่เข้าใจและคิดว่าเธอตั้งใจทำให้อับอาย! และยังมีเนื้อหาในแถลงการณ์ฉบับที่สองว่าจะเอาเรื่องดาราทุกคนที่มีส่วนร่วมในการก่อความวุ่นวายให้ถึงที่สุด! ไมว่าจะมีกี่บริษัทที่เกี่ยวข้อง เค.เอฟจะไม่มีทางยอมแพ้แน่นอน! และคนที่ลงชื่อกำกับก็คือจิรภาสประธานบริหารบริษัทเค.เอฟ! เนื่องจากจิดาภาเป็นดาราคนเดียวที่เขาดูแลอยู่ เขาไม่มีทางปล่อยให้คนที่ทำลายชื่อเสียงของเธอลอยนวลแน่ …… คนในตระกูลวีรภัทรเมธีก็ได้ข่าวเรื่องที่จิดาภาจะพักการแสดง ท่านจิรชยาที่นั่งอยู่บนโซฟาค่อยๆคลายคิ้วที่ขมวดออกจากกันพลางพยักหน้า “ก็ถึงเวลาที่ควรพักแล้วล่ะ” “คุณปู่ครับตอนนี้พี่สามพักการแสดงแล้ว ความต้องการของคุณปู่ก็บรรลุผลแล้ว” พรยศได้ข่าวจากที่บริษัทก่อนแล้วจึงตั้งใจกลับมาเพื่อดูท่าทีของท่าน “แต่ครั้งนี้เธอถูกแกล้งไม่เบาเลยไม่รู้ว่าจะหาตัวคนที่อยู่เบื้องหลังเจอหรือไม่” ตอนนี้พรยศเริ่มเข้าใจสถานการณ์ในวงการบันเทิงบ้างแล้วจึงแสดงความไม่พอใจแทนพี่สาวออกมาโดยไม่รู้ตัว “เรื่องของเธอเดี๋ยวพี่เขยแกก็จัดการเองแหละ แกไม่ต้องห่วงหรอก ฉันได้ข่าวว่าว่าช่วงนี้แกมีข่าวฉาวเหรอ” ท่านจิรชยาหันไปมองพรยศเห็นท่าทีตกอกตกใจของเขาจึงหรี่ตามอง “ข่าวก็ออกอยู่ทุกวัน ถึงแม้ฉันจะแก่แล้วแต่ฉันก็ไม่ได้เลอะเทอะนะ” พรยศเกาศีรษะสองสามทีพลางหัวเราะแหะๆ “นักข่าวเขียนข่าวมั่วน่ะครับ” “มั่วหรือไม่แกรู้ดีอยู่แก่ใจ ถ้าสถานะชัดเจนแล้วก็พากลับมาดูตัวหน่อย” ท่านจิรชยาเอ่ยขึ้น พรยศกระแอมขึ้นมาพลางเปลี่ยนเรื่องสนทนา “คุณปู่ครับ ตอนนั้นพี่สามต้องออกจากบ้านหลังนี้เพราะเข้าวงการบันเทิง ตอนนี้เธอพักการแสดงแล้วแสดงว่าเธอกลับมาได้แล้วใช่ไหมครับ?” ท่านจิรชยาเห็นแววตาคาดหวังของพรยศก็ไม่ได้ตอบออกมาโดยตรงแต่ตอบเป็นนัยเพียงประโยคหนึ่ง “ไม่ว่าเธอจะพักการแสดงหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับการกลับบ้านวีรภัทรเมธี” ญาณิดาที่แอบฟังอยู่ตรงโถงทางเดินได้ยินบทสนทนาทั้งหมดของพวกเขาในห้องรับแขก ญาณิดาได้ยินคำตอบของท่านจิรชยาก็ใจกระตุกครั้งหนึ่ง! ถึงแม้เขาจะไม่ยอมรับโดยตรงแต่คำพูดที่แปลความหมายได้สองแบบนั้นก็ทำให้ญาณิดารู้สึกไม่ปลอดภัยราวกับว่าจิดาภาสามารถกลับมาได้ทุกเมื่อ! เธอคิดที่จะทำลายจิดาภาอยู่ทุกวันแต่เนื่องจากจิดาภาพักการแสดงแล้วจึงไม่สามารถใช้เรื่องราวในวงการทำอะไรเธอได้อีก ตอนแรกกะจะใช้ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ทำลายชื่อเสียงของจิดาภาไปเสียเลย คิดไม่ถึงว่าจะเป็นการดึงจิดาภาออกจากจอ ถ้าเกิดจิดาภาใช้โอกาสนี้ในการกลับมายังวีรภัทรเมธี แผนการที่เตรียมมาอย่างยาวนานก็สูญเปล่า ไม่ได้ จะให้ผลออกมาเป็นแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด! ญาณิดากลับเข้าห้องแล้วหยิบมือถือสำรองอย่างร้อนรน ในมือถือเครื่องนี้ถูกบันทึกไว้เพียงรายชื่อเดียว “ฉันต้องการตารางงานทั้งหมดของรุจาภาในช่วงนี้ ฉันกลัวว่าจิดาจะกลับเข้าสู่วีรภัทรเมธี ฉันรอไม่ได้แล้ว ตอนนี้ต้องรีบจัดการแม่ของมัน” ปลายสายตอบรับแล้วจึงวางสายไป ญาณิดานั่งสูดหายใจเฮือกใหญ่อยู่บนเตียง โอกาสที่เธอได้กลับเข้าบริษัทในครั้งนี้มันไม่ง่ายเลย ถึงแม้รุจาภาจะแก้แค้นเธอให้เธอไปเป็นแค่ผู้ช่วยของเลขานุการแต่เธอก็ต้องทน ค่อยๆวางแผนใส่ร้ายเลขาว่าต้องการทำร้ายเธอให้เธอแท้งบุตรแล้วกำจัดเลขานั่นให้พ้นทางจากนั้นก็ใช้เงินก้อนใหญ่ในการข่มขู่เลขาคนใหม่ของรุจาภา ตอนนี้เลขาใหม่นั่นเป็นคนของเธอแล้ว และเรื่องราวทั้งหมดนี้รุจาภาไม่รูเรื่องเลยสักนิด ญาณิดาตัดสินใจใช้โอกาสในครั้งนี้กำจัดสองแม่ลูกนั่น วันจันทร์หน้าคุณรุจาภาต้องไปสัมมนาที่เมืองทองแดง “รู้แล้ว” สัมมนางั้นเหรอ? งั้นก็อย่าได้กลับมาอีกเลย …… ตารางงานของรุจาภาเป็นแบบนี้จริงแต่ท่านจิรชยาและรุจาภารู้ถึงการกระทำทั้งหมดของญาณิดาในบริษัทอยู่ก่อนแล้ว รวมถึงเรื่องที่เธอวางแผนกำจัดเลขาคนเก่าและซื้อตัวเลขาคนใหม่ ดังนั้นรุจาภาก็คิดได้ตั้งแต่แรกว่าญาณิดาจะลงมือในช่วงนี้ ความจริงการเดินทางครั้งนี้เธอต้องไปคนเดียวแต่ยังไงเลขาใหม่คนนี้ก็เป็นสายของญาณิดา เธอจะให้พวกมันสมหวังโดยการพาเลขาคนใหม่ไปด้วย แต่ในแผนการครั้งนี้คนที่รุจาภาเป็นห่วงที่สุดคือจิดาภา “จิดาภา ช่วงนี้สุขภาพเป็นยังไงบ้าง?” “แข็งแรงดีค่ะแม่ แม่โทรมาดึกขนาดนี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?” “เรื่องมันเป็นแบบนี้นะ ตอนนี้เลขาคนใหม่ของฉันกลายเป็นหมากของญาณิดาไปแล้ว พวกมันร่วมมือกันคงเตรียมจะลงมือแล้ว ฉันเดาว่าที่ญาณิดาเลือกที่จะจะลงมือตอนนี้คงเกี่ยวกับที่แกประกาศพักการแสดง” “เธอคงกลัวว่าฉันจะกลับไปแย่งของเธอที่วีรภัทรเมธี!” จิดาภาตอบกลับอย่างขำขัน “คุณแม่คะแต่นี่ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเรานะคะ” ถึงเวลาชำระความกับญาณิดาแล้ว “ฉันก็คิดแบบนั้น เรื่องบางเรื่องจะยื้อต่อไปได้แล้ว” รุจาภารู้สึกว่าเธอและลูกสาวจะคิดเหมือนกัน “คุณแม่คะ ฉันจะกลับบ้านวีรภัทรเมธีเพื่อสงเคราะห์ความต้องการของญาณิดา” นี่เป็นเรื่องที่ญาณิดาเป็นกังวลและต่อต้านมาโดยตลอด จิดาภาจะทำให้เธอสมหวังเอง “แต่ว่าตอนนี้แกกำลังท้องอยู่” “ฉันจะดูแลตัวเองให้ดีค่ะแม่” จิดาภามีวิธีของตัวเอง เรื่องของญาณิดาปล่อยไปไม่ได้แล้ว ตอนนี้ท่านจิรชยาก็ไม่ได้บังคับเธอให้สืบทอดบริษัทLGDแล้ว ถ้าญาณิดายังทำเรื่องชั่วๆอยู่ในตระกูลวีรภัทรเมธี เธอคงนั่งดูเฉยๆไม่ได้อีกต่อไป ช่วงนี้ก็มีเวลาว่างพอดีจะได้จัดการปัญหาระหว่างพวกเธอเสียที หลังจิดาภาวางสาย จิรภาสก็อุ้มเธอไปวางลงบนเตียง “ถึงแม้ว่าตอนนี้คุณจะพักงานแล้วแต่คุณก็ต้องพักผ่อนแต่โดยดี!” “แต่ว่าเรื่องที่บ้าน…..” “คุณบอกว่าจะดูแลลูกของเราให้ดีไม่ใช่หรือไง?” “ฉันไม่ได้ไปนั่งทำงานที่บริษัทเป็นเวลานานๆไม่กระทบต่อลูกแน่นอน ฉันไม่อยากปล่อยให้ญาณิดาทำเรื่องแบบนี้อีกต่อไป”
已经是最新一章了
加载中