ตอนที่ 476 เขาต้องปกป้องคนของเขาอยู่แล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 476 เขาต้องปกป้องคนของเขาอยู่แล้ว
ตอนที่ 476 เขาต้องปกป้องคนของเขาอยู่แล้ว ตอนนี้เขาถูกแฉว่าเป็นมือที่สามของดาราหญิงรุ่นเดียวกันซึ่งส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของเขาเป็นอย่างมากจนถึงขั้นดับอนาคตของเขาได้เลยทีเดียว เพราะตอนนี้เขายังไม่ได้โด่งดังเหมือนจิดาภา ข่าวแบบนี้ร้ายแรงเพียงพอที่จะทำให้เขาสูญเสียทุกอย่าง ความจริงวันนี้เขามีอีเว้นท์ต้องไปแต่เนื่องจากมีข่าวออกมากะทันหันทำให้งานถูกเลื่อนออกไป เขานั่งดูข่าวและคำพูดกล่าวโทษของฝ่ายตรงข้ามในมือถือก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น “ช่างน่าสนใจจริงๆ” โรศนีที่อยู่ด้านหลังก็เดินมาบอกกับเขา “เรื่องนี้ต้องได้รับการคลี่คลายแน่” “ผมไม่ได้สนใจว่าภาพลักษณ์ของผมจะเป็นยังไง ผมแค่...” “ไม่พอใจที่ถูกหลอก” โรศนีเอ่ยได้ตรงใจเขามาก “ฉันเคยเตือนคุณแล้วว่าให้ระวังตัวในฐานะศิลปินให้ดี เพราคุณคือคุณชายสี่ของตระกูลตระกูลวีรภัทรเมธีอีกทั้งยังเป็นน้องชายของคุณจิดาภา คุณจึงมีความลับที่ไม่อาจเปิดเผย” “คุณวางใจเถอะ ฉันไม่ยอมให้คุณสูญเสียอะไรทั้งนั้น” พรยศเงียบไป ณ วินาทีนี้ไม่อยากจะเชื่อว่าคำพูดของโรศนีจะทำให้จิตใจของเขาสงบลงได้ “ถ้าคุณอยากไปเป็นผู้ช่วยของศิลปินคนอื่นผมแจ้งทางบริษัทให้ได้นะ” “คุณไม่ต้องกังวลเรื่องของฉัน ฉันยังไม่หมดสัญญากับคุณ ฉันไม่มีทางทำตัวเหมือนคนขี้ขลาด” โรศนีกลั้วหัวเราะ “เรื่องนี้คุณเหมือนพี่สาวคุณมาก ชอบคิดแทนคนอื่นแต่สิ่งนี้ดันเป็นสิ่งที่วงการบันเทิงไม่ต้องการที่สุด ความจริงพวกคุณไม่เหมาะกับวงการนี้ด้วยซ้ำแต่ก็สามารถฝ่าฟันจนประสบความสำเร็จได้” “พี่สาวผมทำได้ผมก็ต้องทำได้!” พรยศเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ค่ะ ฉันเชื่อในตัวคุณ” ไม่รู้ว่าทำไมตอนที่โรศนีพูดประโยคนี้ออกมาพรยศถึงรู้สึกว่าเธอไม่ได้พูดปลอบใจหรือหลอกลวงเขาแต่เธอพูดออกมาจากใจจริงๆ …… เนื่องจากข่าวฉาวที่เกิดขึ้นพรยศจึงถูกขังอยู่ในบริษัทจนดึกดื่น เขาจำเป็นต้องออกไปดังนั้นโรศนีจึงทำหน้าที่ปกป้องเขาเพื่อให้เขาฝ่าวงล้อมนักข่าวออกไปได้ แต่นักข่าวพวกนี้ล้วนเป็นคนที่ถูกส่งมาจากสำนักพิมพ์ใหญ่ถ้าไม่บรรลุเป้าหมายพวกเขาไม่มีทางหยุดแน่ นักข่าวแต่ละคนไม่ให้เกียรติโรศนีจนถึงขั้นมีการกระชากแขนของเธอ พรยศมองผู้หญิงที่บังเขาอยู่ด้านหน้าก็รู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองตัวเล็กแค่ไหน? ในที่สุดเขาก็ทนไม่ได้อีกต่อไปจึงโอบโรศนีเข้ามาในอ้อมแขนต่อหน้านักข่าวแล้วรีบพาเธอเดินออกจากวงล้อมนักข่าว โรศนีชะงักไป มองเขาด้วยแววตาสับสนจากนั้นก็สะบัดแขนเขาออก “คุณบ้าไปแล้วหรือไง! คุณยังอยากอยู่ในวงการบันเทิงไหม!” “ผมอยากอยู่ในวงการแต่ผมจะไม่ยอมให้ผู้หญิงมาปกป้องผม” “ฉันบอกคุณกี่ครั้งแล้วว่าฉันเป็นผู้ช่วยของคุณ? ปกป้องคุณก็ถือเป็นงานของฉัน! ตอนนี้จะทำยังไงต่อไปล่ะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้นักข่าวจะเขียนข่าวอะไรออกมาอีก” พรยศมองเขานิ่งๆ “ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไร คนของผมผมต้องปกป้องอยู่แล้ว” โรศนีเงยหน้ามองเขาเงียบๆเป็นเวลาเนิ่นนาน รถพี่เลี้ยงก็ขับมุ่งออกนอกเมืองบรรยากาศบนรถก็ค่อยๆสงบลง โรศนีถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “เมื่อกี้ฉันพูดแรงไปหน่อย ฉันขอโทษแต่คุณก็ใจร้อนเกินไปจริงๆ” “โรศนี ผมชอบร้องเพลงถึงได้อยากเข้าวงการ ผมไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนขนาดนั้น” “และผมไม่มีทางไปทำลายคนอื่นเพียงเพราะต้องการชื่อเสียงแน่ ผมทำไม่ได้” “ฉันทราบค่ะ” โรศนีมองออกไปนอกหน้าต่างพลางถอนหายใจเงียบๆ “ฉันจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าคุณไม่ผิดไม่ว่าต้องใช้วิธีไหนก็ตาม” พรยศก้มหน้าลงทำให้คนอื่นไม่รู้ว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร บางครั้งท่าทางที่เขาคิดทบทวนอย่างเงียบๆนั้นก็เหมือนจิดาภามาก และในตอนนั้นเองที่โรศนีก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ รถพี่เลี้ยงจอดลงที่หน้าบ้านตระกูลวีรภัทรเมธี พรยศก็ลงจากรถทันที ขณะนั่งรถกลับโรศนีก็ได้รับสายจากจิดาภา เธอจึงรีบขับรถไปพบจิดาภาที่วิลล่ากรีนเฮ้าส์ “ฉันได้ข่าวว่าตอนนี้เรื่องราวเริ่มจะบานปลายแล้ว ยังควบคุมได้อยู่ไหม?” ความจริงเรื่องแบบนี้แค่เธอโทรถามคนที่เค.เอฟก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว แต่เธอเรียกโรศนีมาพบต้องมีเรื่องฝากฝังแน่ โรศนีพยักหน้ารับ “ยังอยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้ค่ะ ฉันจะดูแลเขาให้ดีที่สุด” “ฉันเชื่อเธอแต่บางเรื่องให้เจ้าของเรื่องออกหน้าเองจะเป็นวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด กนกอรก็เป็นคนของบริษัท มีข่าวแบบนี้ออกมาฝ่ายนั้นก็ลำบากไม่แพ้กัน กนกอรจะไม่ใส่ใจสักนิดเลยเหรอ? ” “พี่จิดาภาหมายความว่า?” “ตอนนี้เธอเป็นตัวแทนของธวลย์บอกกนกอรให้ออกมาพูดความจริง ชื่อเสียงของคุณชายสี่แห่งตระกูลวีรภัทรเมธีไม่ใช่ว่าใครจะมาทำให้เสียหายได้ ถ้ากนกอรยังอยากรักษาทุกสิ่งไว้ก็ต้องตัดสินใจ โอกาสมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ” ฟังจิดาภาพูดจบโรศนีก็ชะงักค้าง เท่าที่รู้จักจิดาภามาน้อยครั้งมากที่จิดาภาจะเป็นฝ่ายตอบโต้ก่อนเพราะเธอมักจะอดทนกับทุกเรื่องแต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามมายุ่งกับคนในครอบครัวเธอ เธอไม่มีทางนั่งดูอยู่เฉยๆแน่ ความโหดเหี้ยมของเธอถูกฝังลึกอยู่ในกระดูก ถ้าไม่ตอบโต้ก็รอดไป ถ้าเธอได้ตอบโต้ละก็ฝ่ายตรงข้ามจะต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส “ได้ค่ะ ฉันจะรีบจัดการ” “ระวังอย่าให้พวกเธอมีโอกาสแว้งกัด ฉันรู้สึกว่ายัยกนกอรนั่นไม่ได้ธรรมดาเหมือนที่เห็น ไม่อย่างนั้นธวลย์คงไม่ถูกเธอหลอกมาโดยตลอด” “เข้าใจแล้วค่ะพี่จิดาภา ฉันจะจัดการให้ดี” โรศนีเป็นคนฉลาดเธอรู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป หลังจากโรศนีจากไป จิรภาสก็ถือผ้าห่มมาห่มตัวจิดาภาไว้พลางเอ่ยชิดใบหูเธอ “คุณนายจิดาภาตอนนี้คุณพักงานแล้ว บางเรื่องปล่อยให้ผมเป็นคนจัดการเอง คุณพักผ่อนเถอะ” จิดาภาอิงแอบอยู่ในอ้อมกอดของเขาพลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฉันทำทุกวันนี้ก็เพื่อคุณเพื่อฉันและคนรอบข้าง ของฉันตอนนี้ฉันมีกำลังมากพอจะปกป้องคนในครอบครัวแล้ว” “ฉันไม่คิดว่าพรยศจะต้องผ่านประสบการณ์ที่ถูกหักหลังอย่างเจ็บปวดแบบนี้ ความรู้สึกแบบนั้นฉันเข้าใจดี” “เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่แต่คุณช่วยดูแลตัวเองและลูกดีๆได้ไหม? ไม่อย่างนั้นผมจะห้ามคุณจริงๆแล้วนะ” จิรภาสลูบเบาๆลงบนหน้าท้องของเธอ “ถ้าคุณลงมือเองกนกอรจะเหลือทางออกหรือไง? ฉันกลัวว่าเธอจะรับไม่ไหว” จิดาภารู้จักวิธีการจัดการของเขาเป็นอย่างดี ถ้าเขาออกโรงเองเขาจะต้องถอนรากถอนโคนแน่ๆ “เรื่องแบบนี้ฉันจัดการได้ค่ะ” “ก็ได้ เอาตามที่คุณว่า” จิรภาสซุกหน้าบริเวณซอกคอของเธอพลางสูดดมกลิ่นหอมๆจากร่างกายเธอ จิดาภาก็ซึมซับความรู้สึกปลอดภัยของการพึ่งพาซึ่งกันและกันฉันท์สามีภรรยา เธอจะไม่มีทางเบื่ออ้อมกอดของเขา อ้อมกอดของเขาเป็นสถานที่พักพิงที่อบอุ่นที่สุดสำหรับเธอ เธอจะเป็นแมวน้อยในอ้อมกอดของเขาไปตลอดชีวิต …… หลังออกจากวิลล่ากรีนเฮ้าส์ ตอนบ่ายเธอจึงนัดพบกนกอรเสียเลย เนื่องจากโรศนีเคยเป็นผู้ช่วยของจิดาภาดังนั้นผู้ช่วยของกนกอรค่อนข้างจะเห็นแก่หน้าเธอจึงรีบตอบตกลงทันที สถานที่นัดพบของพวกเธอคือห้องพักนักร้องในบริษัท พอกนกอรรู้ว่าจะต้องไปพบโรศนีเธอก็รีบคิดหาข้ออ้างมากมายเพราะรู้ว่าจุดประสงค์ของโรศนีคืออะไร พอเห็นหน้าโรศนีเธอก็รีบเอ่ยขึ้น “ฉันรู้ว่าคุณมาหาฉันเพราะอะไรแต่เรื่องนี้ฉันไม่สามารถช่วยคุณได้” โรศนีก้มหน้าลงพลางลากเก้าอี้ออกแล้วนั่งลงด้วยรอยยิ้ม “ถ้าคุณรู้คุณจะยังนั่งอย่างสงบอยู่แบบนี้เหรอ?”
已经是最新一章了
加载中