ตอนที่ 477 ยังไงก็ต้องมีคนออกมาอธิบาย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 477 ยังไงก็ต้องมีคนออกมาอธิบาย
ตอนที่ 477 ยังไงก็ต้องมีคนออกมาอธิบาย คำถามของโรศนีทำให้กนกอรรู้สึกลนขึ้นมา เธอจึงฝืนยิ้มพลางเอ่ยขึ้น “คุณเป็นแค่ผู้ช่วยของธวลย์ คุณไม่มีสิทธิ์มาแทนเขา มีเรื่องอะไรให้เขามาพบฉันด้วยตัวเอง” “ คนที่หลอกลวงคือคุณ คนที่เหยียบเรือสองแคมก็เป็นคุณ ตอนนี้ใส่ร้ายเขาว่าบังคับให้ผู้หญิงที่มีคู่หมั้นอยู่แล้วอย่างคุณให้คบหาด้วย คุณไม่รู้สึกผิดบ้างหรือไง? ” ตอนนี้ไม่มีคำที่สามารถอธิบายสีหน้าของกนกอรได้ คำพูดแต่ละประโยคของโรศนีเหมือนมีดที่ปักลงกลางใจของเธอทำให้เธอไม่สามารถตอบโต้ได้ “คุณคิดดีๆนะ ตัวตนที่แท้จริงของธวลย์ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะแตะต้องได้ ถ้ายังอยากอยู่ในวงการบันเทิงต่อไปก็รีบออกมาแก้ข่าวและบอกความจริงทั้งหมดให้ทุกคนได้รู้!” “ไม่อย่างนั้นล่ะก็สุดท้ายที่คนสูญเสียทุกอย่างจะเป็นตัวคุณเอง” กนกอรสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่พลางส่ายหัว “ไม่มีทาง ถ้าฉันออกมาพูดชีวิตของฉันก็จบน่ะสิ เขาไม่เป็นดาราศิลปินยังกลับไปเป็นคุณชายได้ แต่ฉันไม่เหมือนเขา! ” “ฉันต้องปกป้องรักษาสิ่งที่ฉันทุ่มเทมาทั้งหมดเพื่อที่จะใช้ชีวิตต่อไป” “ช่างน่าขำ เพราะเขาเป็นคุณชายสี่แห่งตระกูลวีรภัทรเมธีจึงสมควรที่จะถูกพวกเธอหลอกใช้งั้นเหรอ? กนกอรเธอยังมีความเป็นคนอยู่ไหม!” “พอเถอะ ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ” กนกอรหมุนตัวไปอีกด้านพลางกดทับความรู้สึกผิดในใจไว้ “เรื่องทั้งหมดนิเวศน์เป็นคนทำ ถ้าคุณอยากช่วยธวลย์จริงๆก็ไม่ควรมาเสียเวลากับฉัน คุณไปหาเขาอาจจะจัดการได้เร็วกว่า” คำพูดง่ายๆของเธอเพียงไม่กี่ประโยคเพื่อผลักภาระทั้งหมดให้พ้นตัว โรศนีได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะมาเธอก็คิดไว้แล้วว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้แต่เธอก็ยังตัดสินใจที่จะมา ถ้ากนกอรเคยจริงใจกับพรยศจริงๆ... แต่ทว่าเพื่อชื่อเสียงที่อยู่ตรงหน้ากนกอรเลือกที่จะทอดทิ้งพรยศ เรื่องราวมาถึงจุดนี้ก็ดีจะได้จัดการได้ง่ายขึ้น “ฉันเข้าใจแล้ว คุณไม่ต้องเป็นห่วง ฉันและธวลย์จะไม่มารบกวนคุณอีก” โรศนีกอดอกพลางมองหน้าโรศนีด้วยสายตาเยือกเย็นจากนั้นก็เปิดประตูเดินออกไป กนกอรได้ยินเสียงปิดประตูก็หลับตาลงด้วยความตกใจ เธอรู้ดีกว่าใครว่าพรยศดีขนาดไหน รู้ว่าเขายอมเปลี่ยนแปลงตัวเองมากมายเพื่อเธอ แต่เธอกลัวนิเวศน์ กลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะเปิดโปงอดีตของเธอ ดังนั้นเธอจึงยอมพนันกับความรู้สึกดีๆที่พรยศเคยมีให้เธอ เพียงแค่เธอไม่เข้าไปยุ่งเรื่องนี้พรยศคงจะให้อภัยเธอได้ แต่ความฝันที่จะแต่งเข้าบ้านเศรษฐีก็ดับสลายไปแล้ว อย่างน้อยเธอก็ยังสามารถอยู่ในวงการบันเทิงต่อไปได้... แต่ทว่าผ่านไปไม่นาน กนกอรก็พบว่าความคิดของเธอในตอนนี้นั้นน่าขำขนาดไหน …… หลังจากไปพบกนกอร โรศนีก็รีบรายงานท่าทีของกนกอรให้จิดาภาทราบ หลังฟังจบจิดาภาเงียบไปพักหนึ่งจึงได้ข้อสรุป “ถ้าเธอเลือกแล้วก็ไม่จำเป็นต้องคิดถึงจุดยืนของเธอแล้ว” “พี่จิดาภาคะ ถ้าธวลย์รู้เขาจะ...” “อาจจะเสียใจแต่นี่เป็นประสบการณ์ที่เขาต้องเจอ คนที่ตัดสินใจจะไปยังไงก็รั้งไม่อยู่ อีกอย่างฉันเชื่อว่าเขาจะไม่หันกลับไป” จิดาภารู้จักนิสัยของพรยศดีรู้ดีกว่ากนกอรเสียอีก “สิ่งที่คุณต้องทำต่อไปก็คือไปจัดการเนื้อหาที่จะแถลงข่าว บอกให้ทุกคนได้รู้ว่ากนกอรคบกับพรยศได้ยังไง เรื่องทั้งหมดต้องพูดไปตามความจริง” “สิ่งที่ต้องจำไว้ก็คือความจริงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถลบล้างได้” “เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะรีบไปจัดการ” ถ้ากนกอรยังดึงดันที่จะไม่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพรยศก็ปล่อยให้พวกเขาได้เป็นคนพูดออกมาเอง พอถึงตอนนั้นกนกอรก็จำเป็นต้องออกมาพูดอยู่ดี.... ภายใต้การจัดการของRick แถลงการณ์เรื่องความสัมพันธ์ของกนกอรและธวลย์ก็ถูกเปิดเผยอีกทั้งยังเน้นย้ำว่าพรยศไม่ทราบถึงความสัมพันธ์ของกนกอรและนิเวศน์ ในความสัมพันธ์นี้เขาคือผู้เสียหาย เพียงแต่เรื่องจริงเท็จในวงการบันเทิงนั้นมักไม่ได้รับความสนใจจากผู้ชม พวกเขาไม่ได้สนใจว่าใครคือผู้เสียหาย คนส่วนใหญ่มักจะติดตามเพื่อความสนุกเท่านั้น สรุปก็คือถ้าไม่มีมูลเรื่องก็ไม่เกิด ถ้าธวลย์ไม่คบกับกนกอรก็คงไม่ถูกคู่หมั้นของเธอกล่าวโทษ “ธวลย์เคยคบกับกนกอรจริงเหรอ? ตาต่ำจริงๆ” “ความสัมพันธ์ของพวกเขาไปถึงขั้นไหนแล้วจนถึงขนาดที่คู่หมั้นอีกฝ่ายทนไม่ได้จนต้องออกมาเรียกร้องความยุติธรรมแบบนี้” “แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วไม่เห็นกนกอรออกมาแถลงข่าว มีแต่ทางเค.เอฟที่บอกว่ากนกอรหลอกลวงธวลย์แต่ไม่ได้บอกเรื่องที่เธอมีคู่หมั้นไม่รุ้ว่าจริงหรือเปล่า?” “ทั้งกนกอรและธวลย์เป็นคนของเค.เอฟทั้งคู่ ถ้าไม่ได้มีหลักฐานชัดเจนคงไม่ออกมาปกป้องศิลปินเพียงฝ่ายเดียว? ดูจากท่าทีแล้วกนกอรคงไปทำอะไรไว้จริงๆ...” “ถ้าเป็นผู้ชายไม่มีทางทนได้แน่นอน ถ้าฉันเป็นคู่หมั้นของกนกอรฉันไม่มีทางปล่อยธวลย์ไปแน่” “หรือว่ามีคนเห็นกับตา? ฉันว่านะวงการบันเทิงไม่มีใครดีเลย ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณของแฟนคลับ” “ฉันคิดว่าจะมีแต่ดาราหญิงที่วุ่นวาย คิดไม่ถึงว่าดาราชายจะวุ่นวายกว่า” เรื่องราวดำเนินไปความคิดเห็นด้านลบที่มีต่อธวลย์ก็มากขึ้น งานมากมายของเขาจึงถูกเลื่อนออกไปบางงานถึงขั้นยกเลิกสัญญา หลังคิดพิจารณาแล้วจิดาภาจึงต่อสายหารุจาภา “คุณแม่รอข่าวของพรยศเงียบลงก่อน คุณแม่ค่อยไปสัมมนานะคะ” “ได้ เดี๋ยวฉันหาข้ออ้างเลื่อนออกไปปล่อยให้ญาณิดาร้อนใจต่ออีกสักสองวัน ตอนนี้ที่บริษัทก็มีคนเริ่มพูดถึงพรยศแล้ว ฉันก็เป็นห่วงเขามาก” จิดาภารับคำแล้วจึงวางสาย จิตใจเธอสงบมาก ในที่สุดก็ถึงตอนจบเสียที …… ช่วงนี้เสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความสัมพันธ์ของธวลย์และกนกอรยังมีมากมาย พวกเขาต่างกล่าวโทษว่าธวลย์เป็นถึงไอดอลชายแต่ไม่มีศีลธรรม งานและชื่อเสียงของเขาล้วนได้รับผลกระทบ ทางด้านกนกอรก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้รับผลกระทบเลย งานอีเว้นท์ของเธอหลายงานก็ถูกยกเลิก เช้าวันนี้ผู้ช่วยของเธอได้รับสายจากเบื้องบนจากนั้นก็มาแจ้งเธอด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “บริษัทจัดงานแถลงข่าวไว้ให้คุณเพื่อให้คุณออกไปพูดความจริง” “ไม่ต้องฝันหวานไป ที่นี่คือเค.เอฟไม่ใช่บริษัทเล็กๆพวกนั้น ที่นี่ถ้าใครทำผิดก็ต้องได้รับโทษ คุณเป็นคนฉลาดคงเข้าใจว่าฉันหมายถึงอะไร” “เพื่อควบคุมสถานการณ์ตอนนี้คุณมีทางเลือกนี้ทางเลือกเดียว คุณออกไปพูดความจริงของเรื่องทั้งหมดเพื่อคืนความบริสุทธิ์ให้ธวลย์ก่อนจากนั้นค่อยว่ากันต่อไป” กนกอรได้ยินดังนั้นก็นิ่งไป ผ่านไปสักพักก็ย้อนถามผู้ช่วยพลางยิ้มหยัน “เค.เอฟจะช่วยเขา แล้วฉันล่ะ?” “เพราะว่าธวลย์เป็นน้องชายของจิดาภาดังนั้นเขาเลยไม่เป็นไร แต่มาบีบบังคับให้ฉันออกจากวงการแบบนี้ใช่ไหม?” ผู้ช่วยมองกนกอรคนที่อยู่ตรงหน้าฉับพลันก็รู้สึกเหมือนเธอไม่เคยรู้จักกนกอร “กนกอร ไม่มีใครบังคับเธอ เรื่องมันบานปลายขนาดนี้เป็นความผิดของใคร? ในใจเธอไม่มีความรู้สึกผิดสักนิดเลยเหรอ?” “ธวลย์ดีกับเธอ พวกเราทุกคนก็รับรู้ได้ เธอกลับใจตอนนี้ยังไม่สาย” ผู้ช่วยที่เห็นความแตกต่างราวกับเป็นคนละคนของกนกอรก็รู้สึกว่าสิ่งที่ธวลย์เคยดีกับเธอนั้นสูญเปล่า “ก็ได้ ฉันรับปากว่าจะแถลงข่าว” กนกอรยอมเห็นด้วยราวกับถูกบังคับทว่าจิตใจเธอกลับเย็นชา เธอยอมแถลงข่าวก็ได้แต่ว่า... เธอก็ต้องการทางรอดเหมือนกัน
已经是最新一章了
加载中