บทที่3 เพื่อนสนิทหซิวหชูเฉียว   1/    
已经是第一章了
บทที่3 เพื่อนสนิทหซิวหชูเฉียว
บทที่3 เพื่อนสนิทหซิวหชูเฉียว เสียงผู้ชายในโทรศัพท์พูดอย่างกระตือรือร้น “ซูซีมู่ ทุกคนรอนายอยู่นะ” ซูซีมู่ก้มหน้ามองต่ำ มีความกระวนกระวายใจเล็กน้อย “ไม่ว่าง” พูดสองคำนี้เสร็จ เตรียมจะกดวางสาย ผลลัพธ์คือคำพูดที่ดังมาจากทางนั้น ทำให้การกระทำของเขาหยุดลง “ไม่ว่างเหรอ ซูซีมู่นายล้อเล่นหรือเปล่า ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้ว่าคู่หมั่นของนายหนีงานแต่งไปแล้ว หรือว่าคืนนี้นายยังยุ่งอยู่กับเตรียมเข้าหอเหรอ รีบมาที่คลับดี้เหา...” ลูกสาวของโล่ชิงไป๋คนนั้นหนีงานแต่งงานไปแล้วเหรอ ซูซีมู่เม้มปาก พูดอย่างจืดชืด “คืนพรุ่งนี้สองทุ่ม” พูดจบก็ตัดสายโทรศัพท์ สายตามองขึ้นมา โล่เฟยเอ๋อพบว่าซูซีมู่ว่างสายโทรศัพท์แล้ว ตกใจอยากจะละสายตาหนี ผลลัพธ์คือเธอยังไม่ทันจะละสายตาหนี สายตาของซูซีมู่ก็มองขึ้นมา ทั้งสองสบตากันผ่านกระจกมองหลัง ดวงตาเย็นชาของซูซีมู่ ราวกับทะเลตอนเที่ยงคืน แม้ว่าจะมีกระจกมองหลังกั้น แต่กลับทำให้ใจของโล่เฟยเอ๋อเต้นผิดจังหวะอย่างแรง เธอก้มหน้าลงอย่างใจหวิว สายตาของโล่เฟยเอ๋อเบือนหนี ทำให้ดวงตาของซูซีมู่ที่มีความหวังเหมือนน้ำนิ่งที่ถูกทำให้เกิดคลื่น แต่ทว่าในไม่ช้าคลื่นก็หายไปกลับคืนสู่ความเยือกเย็นก่อนหน้า ในรถเงียบสงบ รถค่อยๆหยุดลง “ถึงชุมชนไห่ปิงแล้ว” โล่เฟยเอ๋ออุทาน ‘อ๊า’ คำหนึ่ง ตอนที่สายตามองไปที่ถนนอันคุ้นตาด้านนอก ก็ได้สติกลับมา “ฉันมาถึงแล้ว ขอบคุณพวกคุณมาก” “ไม่ต้องเกรงใจ” โจวเฉิงส่ายหน้า โล่เฟยเอ๋ออดมองผ่านกระจกมองหลังไม่ได้ ชำเลืองมองซูซีมู่แวบหนึ่ง มือขวาของเขาวางไว้ในกระเป๋ากางเกง มือซ้ายกดเลื่อนโทรศัพท์ ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงเล็กน้อย มองไม่เห็นอารมณ์บนหน้าของเขา ประมาณว่าเยือกเย็นมั้ง โล่เฟยเอ๋อเบือนสายตาหนี จากนั้นพูดกับโจวเฉิง “คือ...ฉันไม่ได้เอากระเป๋ามาด้วย ดังนั้น... หรือว่าคุณทิ้งช่องทางการติดต่อของคุณไว้ให้ฉัน ฉันจะเอาเงินค่ารถให้พวกคุณ” ในน้ำเสียงของโล่เฟยเอ๋อ มีความรู้สึกอัดอัดเล็กน้อย โจวเฉิงชำเลืองมองซูซีมู่ที่ในกระจกมองหลังแวบหนึ่ง แล้วตอบ “ไม่ต้อง ไม่เป็นไร” “งั้นขอบคุณมาก ๆ” โล่เฟยเอ๋อขอบคุณอีกครั้ง จากนั้นลงจากรถ ในขณะที่โล่เฟยเอ๋อลงจากรถ ซูซีมู่เดิมทีกำลังจ้องโทรศัพท์ก็เงยหน้าขึ้น สายตามองไปที่เงาด้านนอกหน้าต่างรถที่ยิ่งไกลออกไป ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร โจวเฉิงคิดว่าซูซีมู่กำลังโกรธ ก็รีบอธิบาย “ประธานซู เธอก็คือโล่เฟยเอ๋อ” ตอนที่ได้ยิน‘โล่เฟยเอ๋อ’สามคำนี้ แม้ว่าสีหน้าของซูซีมู่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่มือที่กำลังถึงโทรศัพท์ ปลายนิ้วมือก็กระตุกเล็กน้อย เธอก็คือโล่เฟยเอ๋อ... ผ่านไปประมาณสองวินาที ซูซีมู่ก็พูดออกมาสองคำอย่างเย็นชา “กลับไป” “ครับ” ไม่เสียแรงที่เป็นประธานซู แม้จะรู้ว่าเมื่อกี้ผู้หญิงคนนั้นคือโล่เฟยเอ๋อคู่หมั่นของเขา แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร โจวเฉิงถอนหายใจในใจ จากนั้นขับรถจากไป หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อลงจากรถ ก็ตัวสั่นระริกๆ เดินเข้าไปในชุมชนปี้ไห เธอไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ คนที่อาศัยอยู่ที่นี่คือหซิวหชูเฉียวเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ ผ่านประตูและถนนที่คุ้นเคยมาถึงด้านหน้าที่พักของเพื่อนสนิทหซิวหชูเฉียว,โล่เฟยเอ๋อกดกริ่ง ตามด้วย ด้านหลังประตูมีเสียงฝีเท้าวิ่งออกมาอย่างรีบร้อน “มาแล้ว” ประตูถูกเปิดออก เป็นใบหน้าที่สวยงาม ผมยาวคุมหัวไหล่ มองดูเหมือนกับเด็กสาวที่อ่อนโยน ถ้าคิดว่าเธอเป็นคนอ่อนโยน งั้นคุณก็คิดผิดแล้ว หซิวหชูเฉียวคือผู้หญิงที่แข็งแกร่งและได้มาตรฐาน ตอนที่เธอเห็นโล่เฟยเอ๋อทั้งตัวดูไม่ได้และได้รับบาดเจ็บ เธอถามอย่างตะหนกตกใจ “เฟยเอ๋อ เธอไม่ใช่ไปร่วมงานแต่งของโล่หยิวชิวหรอกเหรอ ทำไมถึงเป็นสภาพนี้ได้” ได้ยิน ‘งานแต่ง’ สองคำ โล่เฟยเอ๋อก็หน้าเสีย “ไอ๊ คำเดียวไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้” “อย่าเพิ่งพูดเลย รีบเข้าข้างในก่อน” หซิวหชูเฉียวพูดแล้วดึงโล่เฟยเอ๋อจากด้านนอกประตูเข้ามา หลังจากที่หยิบรองเท้าแตะจากชั้นวางรองเท้าคู่หนึ่งให้โล่เฟยเอ๋อ ก็ปลีกตัวเข้าในห้องครัว โล่เฟยเอ๋อเดินเข้าไปในห้องรับแขก มองไปรอบ ๆ แวบหนึ่ง จากนั้นตัวอ่อนปวกเปียกลงบนโซฟา หซิวหชูเฉียวยกน้ำออกมาจากห้องครัว ส่งให้เธอ จากนั้นพูด “เธอไปอาบน้ำก่อนไป หลังจากนั้นฉันค่อยใส่ยาให้เธอ ถ้าแผลติดเชื้อขึ้นมาก็จะยุ่งยากเอา” หลังจากโล่เฟยเอ๋อดื่มน้ำในแก้วหมดก็ตอบกลับ “ติดเชื้อตายไปแล้วก็ดี” “พูดบ้าอะไร” หซิวหชูเฉียวหัวเราะและด่าว่าโล่เฟยเอ๋อประโยคหนึ่ง จากนั้นฉุดเธอลุกขึ้นจากโซฟา “รีบไปอาบน้ำ ฉันจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้เธอ” โล่เฟยเอ๋อเอนตัวไปซบตัวของหซิวหชูเฉียว ถอนหายใจแล้วพูด “ก็ยังเป็นที่รักที่ห่วงใยฉัน” “ฉันไม่เป็นห่วงเธอ แล้วฉันจะไปเป็นห่วงใคร” หซิวหชูเฉียวพูดแล้วผลักโล่เฟยเอ๋อเข้าไปในห้องอาบน้ำ หลังจากครึ่งชั่วโมง โล่เฟยเอ๋อก็ออกมาจากห้องน้ำ หซิวหชูเฉียวช่วยใส่ยาบนแผลบนแขนและขาของเธอ และโล่เฟยเอ๋อก็เริ่มพูดเรื่องที่เธอพบเจอคืนนี้ หซิวหชูเฉียวพูดอย่างโมโห “ให้เธอแต่งงานแทนโล่หยิวชิว นั้นใช่พ่อแท้ๆของเธอเหรอ” สายตาของโล่เฟยเอ๋อกระพริบตา ไม่พูดอะไร หซิวหชูเฉียวเคร่งขรึมอยู่สักพัก ถึงถาม “งั้นเธอยังจะกลับไปไหม” โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้า “รอให้เรื่องผ่านไปก่อนค่อยว่ากัน” หซิวหชูเฉียวสูดหายใจลึกๆ พยักหน้า “แบนนี้ก็ดี เธอก็ทำใจให้สบายอาศัยอยู่กับฉันที่นี่เถอะ” “อย่าพูดว่าอาศัยอยู่ แม้ว่าเธอจะเลี้ยงดูฉัน ฉันก็ยอม” โล่เฟยเอ๋อหน้าตาแอ๊บแบ๊วมองหซิวหชูเฉียว หซิวหชูเฉียวพูดอย่างสีหน้ารังเกียจ “เธอไปหารุ่นพี่กู้คนในใจของเธอให้เขาเลี้ยงดูเถอะ” ได้ยินหซิวหชูเฉียวพูดถึงรุ่นพี่กู้,โล่เฟยเอ๋อก็หน้าแดง หซิวหชูเฉียวเห็นท่าทางเขินอายของโล่เฟยเอ๋อ ส่ายหน้าพูด “ฉันว่าเธอไปสารภาพรักกับรุ่นพี่กู้ของเธอให้มันจบๆ ไปเถอะ พอดียังสามารถแก้ปัญหาตอนนี้ของเธอได้” “สารภาพเหรอ” โล่เฟยเอ๋อเงยหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ ในไม่ช้า หน้าก็แดง แล้วก้มหน้ามองล่าง หซิวหชูเฉียวตั้งใจวิเคราะห์แทนโล่เฟยเอ๋อ “ใช่สิ เธอสารภาพ ยืนยันความสัมพันธ์ จากนั้นก็พาเขากลับไป ถึงเวลาพวกเขายังบังคับให้เธอแต่งงานกับคนแปลกหน้าคนนั้นล่ะก็ จากนั้นเธอและรุ่นพี่กู้ของเธอก็สามารถอยู่ด้วยกันจนนิจนิรันด์ โล่เฟยเอ๋อไม่พูดอะไร หซิวหชูเฉียวเห็นเธอทั้งเขินอาย ทั้งราวกับว่าเต็มไปด้วยความคาดหวัง เพียงแต่ไม่มีความกล้าพอที่จะทำตามขั้นตอนนั้น และก็ไม่สนทนาปัญหานี้ต่อ หลังจากที่เธอใส่ยาบนแผลตามตัวของโล่เฟยเอ๋อ เสร็จแล้ว ก็เก็บกล่องปฐมพยาบาล แล้วก็ลากโล่เฟยเอ๋อไปนอนบนเตียง “ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องทำงาน รีบนอนเถอะ” เห็นโล่เฟยเอ๋อนิ่งไป หซิวหชูเฉียวก็พูดเสริมอีกประโยค “อย่าคิดมาก เรื่องราวมักจะผ่านไป” “อึม” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า แล้วหลบตา
已经是最新一章了
加载中