บทที่ 10 สารภาพรัก   1/    
已经是第一章了
บทที่ 10 สารภาพรัก
บทที่ 10 สารภาพรัก เมื่อเสิ่นจิงได้ยิน ก็เงยหน้าขึ้นมองไปทางจี้เฟยหวั่น ในสายตาราวกับมีการสำรวจแอบแฝงด้วยนิดหน่อย เขาไม่ค่อยให้ความสนใจกับนักศึกษาฝึกงานมากนัก สำหรับจี้เฟยหวั่นก็มีเพียงความประทับใจเล็กน้อยเท่านั้น...... เสิ่นจิงได้ข่าวมาจากพนักงานบางคนใน บริษัท ว่าจี้เฟยหวั่นขยันมาก และยังเป็นคนที่ฉลาดอีกด้วย และยังคิดบวกในดานการทำงานมาก ในด้านของการออกแบบ ดูเหมือนว่าจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน เพียงแต่ว่า ในกลุ่มนักออกแบบของบริษัทเฟิงลุ่ย ความสามารถของจี้เฟยหวั่นนี้ได้ถูกกดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากคนที่มีพรสวรรค์ และความสามารถของ บริษัท มีเป็นจำนวนมาก เยอะมากจนเธอเองก็ตาลาย ดังนั้นจี้เฟยหวั่นก็ไม่ได้ดีเกินกว่าจะถูกแทนที่ไม่ได้ แต่ก็เพราะว่าเป็นบุคคลเช่นนี้ วันนี้ตอนเช้าท่านประธานได้ออกคำสั่ง ว่าจะถ่ายโอนให้เธอเป็นพนักงานประจำ แม้ว่าในใจของเสิ่นจิงจะสงสัยอยู่บ้าง แต่ก็ได้เอ่ยปากออกไปแล้ว อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นคำสั่งจากเบื้องบน “จี้เฟยหวั่น เนื่องจากคุณมีประสิทธิภาพที่โดดเด่น บริษัท ตัดสินใจที่จะส่งเสริมให้คุณได้เป็นพนักงานประจำ และที่สำคัญ ยังย้ายให้คุณไปเป็นผู้ช่วยที่แผนกของนักออกแบบลู่ชิง อีกด้วย” เมื่อฟังถึงตรงนี้จี้เฟยหวั่นไม่กล้าเชื่อหูของตัวเองเลยจริงๆ ชะงักอยู่กับที่ทันที อะไรกัน? เธอได้เลื่อนตำแหน่งล่วงหน้าเหรอ? แต่เมื่อดูระยะเวลาแล้ว มันก็ไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบ ในใจของจี้เฟยหวั่นรู้สึกไม่น่าเชื่อเล็กน้อย “ได้ยินหรือเปล่า?” เมื่อเสิ่นจิงเห็นว่าจี้เฟยหวั่นไม่พูดไม่จาครึ่งวัน จึงถามอีกประโยคหนึ่ง “ได้ยินแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะผู้อำนวยการ ขอบคุณค่ะผู้อำนวยการ!” จี้เฟยหวั่นรีบดึงสติกลับมาทันที โค้งคำนับไปด้วย กล่าวขอบคุณไปด้วย ลู่ชิงเป็นหัวหน้านักออกแบบที่รู้จักกันดีภายในประเทศ สามารถได้ทำงานภายใต้อำนาจของเขา แน่นอนว่าต้องมีความสุขเป็นธรรมดา ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมผู้อำนวยการถึงได้เลื่อนให้ตัวเองเป็นพนักงานประจำล่วงหน้า แต่ว่าจี้เฟยหวั่นก็รู้สึกขอบคุณมากจริงๆ “จะต้องตั้งใจให้มากๆ อย่าทำให้ บริษัท ผิดหวังในตัวคุณ!” เสิ่นจิงพยักหน้า และกล่าวย้ำ “ฉันจะทำให้ดีที่สุดค่ะ!” จี้เฟยหวั่นตอบกลับอย่างมีความสุข หลังจากออกมาจากห้องทำงานของผู้อำนวยการแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะหัวใจเต้นแรงจนจะกระโดดออกมาจี้เฟยหวั่นก็ยังคงคิดว่าตัวเองกำลังฝันไปเสียอีก ความสุขมาได้กะทันหันเกินไปแล้วมั้ง! เธอจะต้องรักษาโอกาสนี้ไว้ให้ดี จี้เฟยหวั่นรู้สึกว่าตัวเองเข้าใกล้ความฝันได้หนึ่งก้าวแล้ว ชั่วพริบตาก็ขยันราวกับเลือดไก่ ...... บริษัทจ้างซื่อ ประสิทธิภาพในการทำงานของกู้เหยียนสูงมาก ตั้งแต่เช้าตรู่ ก็ได้ส่งประวัตของจี้เฟยหวั่นไปให้ตามที่ท่านประธานสั่งได้ไว้แล้ว จ้างเฟิงเหยารับไว้ หลังจากอ่านอย่างละเอียดไปหนึ่งรอบ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เดิมทีเขาคิดว่าจี้เฟยหวั่นน่าจะเป็นนักเรียนที่ยากจนคนหนึ่ง มีครอบครัวที่ไม่ร่ำรวย แต่สิ่งที่คิดไม่ถึงก็คือจี้เฟยหวั่นคนนี้กลับเป็นคุณหนูของบริษัทแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า ‘บริษัทจี้ซื่อ’ ! ทว่าจี้เฟยหวั่นไม่ได้รับความสนใจเท่าไหร่ เธอมีคุณพ่อ แม่เลี้ยง และน้องสาวต่างแม่ ไม่ใช่คนที่ได้ใช้ชีวิตที่มีเกียรติ หลายปีก่อน เหมือนว่าจี้เฟยหวั่นจะแตกหักกับคนตระกูลจี้ หลังจากออกจากบ้านมา ก็ย้ายมาอยู่คนเดียว จากข้อมูลดังกล่าว เธอเคยทำงานในหลายๆ ที่ ดูเหมือนไม่ว่าจะทำอะไรก็พึ่งแต่ตัวเองเท่านั้น จ้างเฟิงเหยาอ่านไปด้วย และใช้นิ้วเคาะโต๊ะไปด้วย หลังจากอ่านจบ เขาเงยหน้าขึ้น ถามกู้เหยียน “บริษัทจี้ซื่อ คือบริษัทเกี่ยวกับอะไร ทำไมรู้สึกเหมือนไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย?” “ครับคุณชาย เป็นเพียงบริษัทเล็กๆ เท่านั้น” กู้เหยียนตอบกลับอย่างรวดเร็ว จ้างเฟิงเหยาพยักหน้า ในเมื่อเป็นแค่ บริษัท เล็กๆ ที่ไม่คู่ควรให้พูดถึง เขาก็จะไม่เอามาไว้ในสายตา เมื่ออ่านประวัติจบแล้วจ้างเฟิงเหยาก็เก็บเอกสาร จากนั้นก็ออกคำสั่งกู้เหยียน “ช่วงนี้ช่วยสังเกตสถานการณ์ของจี้เฟยหวั่นไว้หน่อย ให้รายงานผมตลอด” กู้เหยียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ท่านประธานกลับให้ตัวเองช่วยเขาไปสังเกตผู้หญิงคนหนึ่ง นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนใจชีวิต! ความสงสัยภายในใจ เกิดขึ้นอีกครั้งกู้เหยียนอดไม่ได้จนถามออกมา “คุณชายครับ สำหรับคุณจี้คุณคงจะไม่ได้......” ตกหลุมรักเข้าแล้วใช่ไหม? แต่ว่ายังไม่ทันที่จะพูดจบ ก็ถูกจ้างเฟิงเหยาขัดเสียก่อน “คุณกลายเป็นคนพูดมากแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? คืนนี้อยู่ทำโอทีดีไหม?” เมื่อกู้เหยียนได้ยินอย่างนั้น ก็รู้ได้ทันทีเลยว่าท่านประธานไม่อยากจะพูดอะไรมาก จึงไม่กล้าถามอะไรมากความ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเงียบ ล้อเล่นหรือไง! แค่วันธรรมดาก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ยังจะให้ทำโอทีอีก ท่านประธานไม่ใช่คนจริงๆ! ...... ถึงแม้ว่าจี้เฟยหวั่นจะได้เป็นพนักงานประจำแล้ว แต่ปริมาณงานนั้นมากกว่าปกติถึงสองเท่า หลังจากผ่านวันที่วุ่นวายไปได้ จี้เฟยหวั่นก็เหนื่อยล้ากับอาการปวดหลังแล้ว แต่ใจกลับมีความสุขมาก เธอตัดสินใจแล้วว่า ตอนเย็นหลังจากเลิกงานแล้ว ก็จะไปที่โรงอาหารแห่งที่สองของโรงเรียนกินฉลองมื้อใหญ่! อาหารของที่นั่นไม่เพียงแต่ราคาถูกเท่านั้น ปริมาณก็เหมาะสมกับราคามาก เป็นสถานที่ที่สมควรไปอย่างยิ่ง แต่ทันทีที่จี้เฟยหวั่นเพิ่งเดินมาถึงหน้าโรงเรียน ก็พบว่าบรรยากาศผิดปกติ...... ดูเหมือนว่าจะมีผู้คนมากมายมุมอยู่ที่รอบ ๆ โรงเรียน และเสียงก็ดังมาก ไม่รู้ว่ากำลังทำกิจกรรมอะไรกัน จี้เฟยหวั่นเป็นคนที่ไม่ชอบความวุ่นวายอยู่แล้ว เตรียมที่จะเดินอ้อม แต่ทันทีที่เธอเตรียมจะจากไป ก็ได้ยินใครบางคนกำลังเรียกชื่อของเธอ ใครกำลังเรียกเธอกัน? จี้เฟยหวั่นงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง จึงทำได้เพียงเดินเข้าไปในกลุ่มคนพวกนั้น ต้องการที่จะทราบ ฝูงชนคึกคัก เธอต้องแหวกเข้าไปทีละชั้น ในที่สุดก็เข้าไปใกล้ที่มาของเสียง เห็นเพียงแค่ว่าตรงกลางฝูงชนมีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ เขาโรยกลีบกุหลายบนพื้นให้กลายเป็นรูปหัวใจ ผู้ชายคนนั้นแต่งตัวเรียบร้อย ในแวบแรกก็รู้ได้ทันทีว่าตั้งใจแต่งตัวอย่างดี ในมือยังถือดอกกุหลาบอยู่หนึ่งช่อ รอบๆ มีผู้ชมมากมาย กำลังกระซิบกระซาบกัน “เฉาเจิ้นซวน มาหาจี้เฟยหวั่นเพื่อสารภาพรัก” “อ๋า เรื่องจริงเหรอ นี่มันเจ้าชายของฉันเลยนะ ทำไมถึงเป็นจี้เฟยหวั่นอีกแล้ว” “ฮาฮา เธอเป็นถึงดอกไม้แห่งแผนกออกแบบเลยนะ......” ตอนนี้ ไม่รู้ว่าใครกันที่ดวงตาแหลมคม มองมาที่จี้เฟยหวั่นทันใดนั้นก็ตะโกนขึ้นมา: “อ๋า คนที่อยู่ตรงนั้นก็คือจี้เฟยหวั่นไม่ใช่เหรอ?”ทุกคนพากันหันมามอง แม้แต่ผู้ชายที่ถือช่อดอกไม้คนนั้นก็หันมาด้วย ทันใดนั้นจี้เฟยหวั่นก็จำเขาได้ ผู้ชายคนนี้ ชื่อว่าเฉาเจิ้นซวน เป็นคุณชายรุ่นที่สองของแผนกการเงิน ครอบครัวโดดเด่น บุคคลก็หน้าตาดี เป็นเดือนของมหาวิทยาลัยจิ่นเฉิง และยังเป็น “เจ้าชาย”ในหัวใจของสาวๆ มากมายอีกด้วย เมื่อทุกคนมองเห็นจี้เฟยหวั่น ก็มีการสนทนากันขึ้นมามากมายทันที “จี้เฟยหวั่นคนนี้ ไปเอาเสน่ห์มาจากไหนมากมายขนาดนี้ มีเดือนตั้งสองคนที่สารภาพรักกับเธอแล้วนะ!” “ใช่ไหมหละ เธอจะโชคดีเกินไปแล้วมั้ง?” “มีประโยชน์อะไร? เธอไม่ชอบสักหน่อย กู้เฉินซีหล่อซะขนาดนั้น สุดท้ายก็ถูกเธอปฏิเสธอยู่ดี?” “ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้คนอื่นเกรดดีกันหละ หน้าตาก็สวย มีคนมาชอบเยอะก็เพราะว่าเขามีพรสวรรค์!” เพื่อนนักเรียนที่อยู่ข้างๆ แสดงความคิดเห็น น้ำเสียงสูงขึ้นมาหนึ่งเลเยอร์ เมื่อจี้เฟยหวั่นได้ยิน ก็อึดอัดสุดๆ ในตอนนี้เอง เฉาเจิ้นซวนก็รีบสาวเท้าเข้ามาหาเธอ พูดกับเธออย่างอบอุ่น: “นักเรียนจี้เฟยหวั่น ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว ผมรอคุณอยู่นานแล้ว” จี้เฟยหวั่นฉีกยิ้มอย่างอึดอัด ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี “ผมชอบคุณมานานแล้ว หวังว่าคุณจะยอมเป็นแฟนกับผมนะ!” เฉาเจิ้นซวนสารภาพรักออกมาในที่สาธารณะอย่างไม่เขินอาย
已经是最新一章了
加载中