บทที่3 ค่ำคืนที่ไร้ตอนต่อไป   1/    
已经是第一章了
บทที่3 ค่ำคืนที่ไร้ตอนต่อไป
บทที่3 ค่ำคืนที่ไร้ตอนต่อไป “อะไรนะ?? ฉันบอกตอนไหนว่าฉันโดนขืนใจ!” สีหน้าของถังหน่วนเวยเข้มขึ้น “แล้วเธอร้องไห้เป็นเผาเต่าขนาดนี้ทำไมฮะ?” หลินเถาเยาก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด เอ่ยอย่างเขินอายว่า “ก็เมื่อคืนนี้ฉันเสียตัวจริงๆแล้วนี่” ถังหน่วนเวยเต้นเร่าขึ้นมาอีกรอบ “เสียตัวขนาดนี้แล้วยังไม่เรียกว่าขืนใจอีกรึไง??” “แต่ว่า… ฉันเป็นฝ่ายยั่วเขาก่อนนะ…” “อะไรนะ?!” ถังหน่วนเวยสาบานได้ว่าเรื่องที่เคยทำแล้วรู้สึกเสียดายที่สุดไม่ใช่เรื่องที่เธอเลิกกับเดือนโรงเรียนโดยไม่ได้เป็นฝ่ายบอกเลิกก่อน หรือใส่กระโปรงทรงเอแล้วลืมรูดซิปแล้วไปยืนต่อล้อต่อเถียงอยู่หน้าศาลหลายชั่วโมง แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่ใส่ชุดนอนโดราเอม่อนไปออฟฟิศด้วย หากแต่เป็นเรื่องที่เธอรู้จักยัยโง่ตรงหน้าที่ปกติเชื่องเหมือนลูกหมาน้อยและไม่รู้จักทิศทางอย่างหลินเถาเยา หนำซ้ำยังกลายเป็นเพื่อนสนิทกันอีกด้วย! นี่มันเหมือนเป็นการหยามเกียรติผู้หญิงอย่างเธอที่เป็นถึงยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งสาขากฎหมาย!!! โดยเฉพาะหลังจากที่เธอเข้าใจเรื่องทั้งหมด ถังหน่วนเวยยิ่งคิดอยากผ่าหัวของหลินเถาเยาออกมาดูไม่รู้ว่าคุณน้าลืมใส่สมองมาให้ยัยนี่ตอนคลอดหรือเปล่า หลังจากที่ฟังหลินเถาเยาเล่าเรื่องที่เธอเจอมาจบแล้ว ถังหน่วนเวยจึงเดินไปเปิดโทรทัศน์ หยิบแอปเปิ้ลมาโต๊ะมากัดอีกหนึ่งคำ งึมงำถามอีกฝ่ายว่า “เถาเยา ทำไมเธอถึงนึกอยากจะนอนไปกับผู้ชายขึ้นมา? ไม่ใช่ว่าเธอกำลังรอพี่เสิ่นสีอยู่เหรอ?” หลินเถาเยาก้มหน้าลง ผมหน้าม้าจึงปิดดวงตาคู่สดใสของเธอ เวลานั้นถังหน่วนเวยเห็นความเศร้าของหลินเถาเยาผู้ที่ทั้งบื้อและน่ารัก เธอยังนึกว่าตัวเองมองผิดไปด้วยซ้ำ ระหว่างที่หลับตา หลินเถาเยายิ้มแบบไม่คิดอะไรมสก “เสิ่นสีหายตัวไปตั้งกี่ปีแล้ว เขาจะกลับมาได้ยังไง? คนเราก็ต้องเดินไปข้างหน้าสิ” ถังหน่วนเวยมองหลินเถาเยาราวกับเจอสิ่งแปลกปลอม “คำพูดแบบนี้นี่ไม่เหมือนคนที่พูดถึงพี่เสิ่นสีอยู่ทุกวันเลยนะ เธอพูดถึงเขาตลอด แล้วจู่ๆมันเกิดอะไรขึ้น?” “เรื่องเมื่อคืน…” หลินเถาเยาจู่ๆก็จับขาของถังหน่วนเวยเข้าอย่างแรง เอ่ยออกมาสามคำอย่างเลื่อนลอย “เหลวไหล ฉันรู้แล้วแหละว่าเมื่อคืนเกืดอะไรขึ้น!” ถังหน่วนเวยที่ถูกหญิงสาวจับขาไว้แน่นก็รู้สึกเจ็บไม่น้อย ทำได้เพียงตบมือเธอเบาๆแล้วเอ่ยแทรกเธออย่างไม่ลังเล “ฉันหมายถึง สรุปแล้วเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้เธอเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ หรือเรื่องอะไรทำให้เธอตาสว่างขึ้นมา?” พระเจ้าก็รู้ว่าเถาเยาเพื่อรอพี่เสิ่นสีอะไรนั่นแล้วถึงกับยอมปฏิเสธผู้ชายดีๆในมหา’ลัยไปตั้งเท่าไหร่ “ไม่ใช่ ฉันหมายถึงผู้ชายคนที่ฉันนอนด้วยเมื่อคืนนี้กำลังออกทีวีอยู่” หลินเถาเยาชีหน้าจอทีวีอย่างตื่นเต้น แม้แต่นิ้วที่กำลังชี้ก็สั่น ดวงตาลุกวาว “เขาไง! นั่นผู้ชายคนเมื่อวานนี้นี่!” ใบหน้าหล่อเหลาเกินคนทั่วไปแม้จะแต่งหน้าเทาไปนิดแต่หลินเถาเยาก็จำได้แม่น นอกจากนี้เธอยังต้องการผู้ชายของเธอ! ถังหน่วนเวยหันกลับไปดู พอเห็นหน้าจอทีวีว่าผู้ชายคนนั้นคือใครแอปเปิ้ลในปากก็พลันร่วงลงพื้น เธอหันกลับมามองหลินเถาเยาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ “เธอกำลังบอกว่า เมื่อวานนี้เธอขึ้นเตียงไปกับหนุ่มโสดที่มีค่าที่สุดในเมืองC? แถมยังเป็นวันไนต์สแตน?” หลินเถาเยาดูสับสนขึ้นมาทันที “ชายโสดที่มีค่าที่สุดงั้นเหรอ? เขาไม่ได้ขายตัวหรอกเหรอ?” ถังหน่วนเวยเกือบจะพ่นลมหายใจใส่หน้าหลินเถาเยา เธอรู้สึกว่าเพื่อนสนิทของเธอคนนี้จัดเป็นคนประเภทน่ารักโดยธรรมชาติไม่ประดิดประดอย “นี่เธอคิดว่าผู้ชายที่ดูดีกว่าหนุ่มหล่อในฝันทุกคนๆขายตัวงั้นเหรอ? หลินเถาเยา นี่ตอนแม่คลอดเธอออกมาเนี่ยเอาเธอไปทิ้งแล้วเลี้ยงรกให้โตแทนหรือไงยะ?!” ถังหน่วนเวยที่ด่าออกมาโต้งๆ ดูเหมือนว่าหลินเถาเยาจะไม่ทันได้สังเกตเห็นสักนิด เธอถูนิ้วตัวเองพัลวันแล้วพึมพำออกมาหนึ่งประโยค “ถ้ารู้ว่าเขามีเงินขนาดนี้ ก็คงไม่ให้เงินเขาไปตั้งพันหยวนหรอก…” คราวนี้ถังหน่วนเวยปรี๊ดจนแทบอยากจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด ทิ้งตัวลงเป็นโซฟาเนิ่นนานแทบไม่หายใจ ในโทรทัศน์ ซ่างซิวจื๋อถูกนักข่าวรุมล้อมจนเหงื่อไหล ใบหน้าหล่อเหลาแต้มยิ้มอ่อนๆทว่าคิ้วคู่นั้นกลับไร้ความอ่อนโยนแม้แต่น้อย เมื่อเผชิญหน้ากับนักข่าวคล้ายกับว่าเขาจำเป็นต้องตอบทุกคำถามอย่างเป็นมิตร “ขอโทษนะคะ การร่วมงานคราวนี้ระหว่างบริษัทซ่างซื่อกับบริษัทY.F.เกี่ยวข้องกับซ่างยู่จู้ที่วางมือจากธุรกิจหรือเปล่าคะ?” “ประธานซ่าง คุณอายุยังน้อยก็ต้องมารับช่วงต่อบริษัทซ่างซื่อ รู้สึกกดดันบ้างไหมครับ?” “ได้ยินมาว่าบริษัทY.F.ยื่นข้อเสนอที่ดีมาก คุณสามารถบอกฉันได้ไหมคะว่าเงินลงทุนคราวนี้มีตัวเลขกี่หลัก?” “ประธานซ่าง ไม่กี่วันก่อนคุณกับคุณหนูจากตระกูลโจวทานมือเย็นด้วยกัน กำลังจะมีข่าวดีเร็วๆนี้หรือเปล่าครับ?” … คำถามแต่ละข้อค่อยๆผุดขึ้นมา ดวงตาเข้มคล้ายสีน้ำทะเลของซ่างซิวจื๋อค่อยๆสำรวจนักข่าวกลุ่มนี้ที่คำพูดทั้งหมดคล้ายเป็นแพทเทิร์นต่อๆกันมา “ความร่วมมือระหว่างบริษัทY.F.และบริษัทซ่างซื่อเป็นเรื่องธุรกิจล้วนๆ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพ่อของผมทั้งสิ้น ส่วนจำนวนเงินลงทุนนั้นเป็นความลับ ขอโทษด้วยที่ผมไม่สามารถบอกได้ ตอนที่พ่อผมรับช่วงต่อบริษัทซ่างซื่อยังเด็กกว่าผมมาก ดังนั้นผมถึงไม่มีความกดดันอะไรเลย แถมผมยังมีความสัมพันธ์ที่กับเพื่อนนักธุรกิจมากมาย ทานข้าวก็เป็นเพียงมารยาทระหว่างเพื่อนเท่านั้น” “ขอถามหน่อยครับว่าตอนนี้สุขภาพของคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง?” ซ่างซิวจื๋อยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยซึ่งเป็นรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ “พวกท่านสุขภาพแข็งแรงดี ขอบคุณที่เป็นห่วงนะครับ” … “กึก!” ถังหน่วนเวยปิดทีวีอย่างขุ่นเคือง ทุบรีโมตคอนโทรลบนโซฟาอย่างเหวี่ยงๆ “เดรัจฉานในคราบคน!” หลินเถาเยารู้สึกสับสน “เอ๋ ดูไปดูมาเขาก็เป็นสุภาพบุรุษอยู่นะ แถมเวลายิ้มยังดูดีมากอีกด้วยนะ” ถังหน่วนเวยหยิกหลินเถาเยาอย่างไม่เกรงใจแถมมองบนใส่เธอ “แล้วเธอคิดว่าเวลาอยู่บนเตียงเขาจะเป็นสุภาพบุรุษไหมล่ะ?” หลินเถาเยาถูกถังหน่วนเวยจี้จุดเข้าให้ก็ใบ้กินทันที “แล้วคราวนี้เธอจะทำยังไงต่อ?” ถังหน่วนเวยพอเห็นอีกฝ่ายห่อเหี่ยวลงก็ไม่คิดที่จะจี้ใจดำเพื่อนต่อ “หา?” หลินเถาเยาชะงัก อ้าปากค้างเป็นรูปตัวโออย่างน่ารัก “อะไรทำยังไงต่อ?” ถังหน่วนเวยแทบอยากจะบ้าตายเพราะชีวิตของยัยนี่เสียให้รู้แล้วรู้รอด เธอถามอีกฝ่ายเสียงแข็งทั้งยังเข้มงวดว่า “ฉันหมายถึงเรื่องเธอกับซ่างซิวจื๋อน่ะจะเอายังไงต่อไป?” หลินเถาเยาลืมตาโตแล้วมองกลับมาอย่างไร้เดียงสา “ไม่ใช่ว่าเป็นวันไนต์สแตนเหรอ ไม่น่าจะมีขั้นต่อไปแล้วล่ะ” “งั้นช่วงบ่ายฉันจะไปเตรียมตัวเรื่องคดีความละนะ” ถังหน่วนเวยคร้านจะพูดกับยัยซื่อบื้ออย่างหลินเถาเยาแล้ว เปลืองสมองชัดๆ! คนทั่วไปที่ได้ขึ้นเตียงกับซ่างซิวจื๋อต่อให้ไม่ใช่คนรวยอะไรก็ยังเป็นคนมีชื่อเสียง มีอำนาจอะไรแบบนั้น ส่วนยัยนี่กลับให้แค่พันหยวนแถมยังคิดว่าเขาเป็นผู้ชายขายตัว ใช้หัวแม่เท้าคิดก็ยังรู้เลยว่าคนหล่อระดับนั้นถ้าไม่ใช่คนที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยก็ต้องเป็นดารา จะมาเป็นโสเภณีชายได้ยังไง? เงินพันหยวนก็คงไม่พอจ่ายค่าข้าวในบาร์นั้นด้วยซ้ำไป
已经是最新一章了
加载中