บทที่ 20 ความอยากรู้อยากเห็นจนเกินไปอาจเป็นภัยต่อตนเอง   1/    
已经是第一章了
บทที่ 20 ความอยากรู้อยากเห็นจนเกินไปอาจเป็นภัยต่อตนเอง
บทที่ 20 ความอยากรู้อยากเห็นจนเกินไปอาจเป็นภัยต่อตนเอง ถังหน่วนเวยยิ้มและดึงนามบัตรจากกระเป๋าของตัวเอง แล้วส่งไปให้ตู้เยว่เซิน \"ถ้าคุณมีข้อสงสัยเรื่องที่ถูกตบเมื่อครู่นี้ ฉันยินดีให้คำปรึกษานะคะ ฉันจะบริการให้คุณอย่างถึงที่สุด และจะทำให้ดีที่สุดเลยค่ะ\" จากนั้นเธอก็ปิดปากตัวเอง แกล้งทำเป็นตำหนิตัวเอง \"ตายแล้ว ขอโทษจริงๆ นะคะ ฉันลืมไปว่าคุณก็เป็นทนายความเหมือนกัน\" กงหยู่ยิ้มอยู่ภายใน: ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยั่วยุจริงๆ ก่อนที่ตู้เยว่เซินจะตะโกนกลับมา ถังหน่วนเวยก็พากงหยู่ออกมาแล้ว ทันใดนั้นเมื่อเขาก้าวออกจากประตูร้าน ในที่สุดรอยยิ้มจอมปลอมก็หายไปทันที และแทนที่ด้วยความเงียบ ในฐานะที่เขาเชี่ยวชาญเรื่องรักๆ ใคร่ๆ นี้กงหยู่ก็รับรู้ว่าช่วงเวลานี้ หัวใจของผู้หญิงนั้นอ่อนแอที่สุด เพียงแค่ล่อลวงนิดหน่อย ก็สามารถพาขึ้นเตียงได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้เขาไม่มีความคิดเช่นนั้น เพราะนัยน์ตาว่างเปล่าของถังหน่วนเวยทำให้หัวใจเขาเจ็บปวด คงจะเจ็บปวดที่ถูกแฟนหักหลัง \"ขึ้นรถ ผมจะไปส่งคุณที่บ้าน\" กงหยู่เปิดประตูให้ถังหน่วนเวยอย่างสุภาพบุรุษ \"วันนี้ขอบคุณคุณมากนะคะ\" เสียงของถังหน่วนเวยอ่อนลง ราวกับเทปที่ยืดแล้ว ที่ฟังดูเฉื่อยชา \"และก็ ขอโทษเรื่องครั้งก่อนด้วยค่ะ\" กงหยู่ถูใบหน้าซ้ายเบาๆ และยิ้มขึ้น \"ชกผมแล้ว คุณคิดว่าแค่ขอโทษมันเพียงพอแล้วเหรอ?\" \"วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะทะเลาะด้วย ฉันจะให้คุณชกกลับในภายหลังแน่นอนค่ะ\" เมื่อถังหน่วนเวยพูดจบ ก็หัวตัวเดินไปในทิศทางตรงกันข้าม กงหยู่รีบจับมือเธออย่างรวดเร็ว และพาเธอไปที่รถสปอร์ของตัวเอง \"ผมไม่ได้ชกผู้หญิงเป็นงานอดิเรกนะ ในเมื่อคุณอกหัก งั้นผมจะพาคุณไปดื่มเอง\" รถสปอร์ตสีแดงส่งเสียงเครื่องยนต์ และออกจากร้านกาแฟไป ทิ้งเพียงรอยดำอยู่ตรงที่จอดรถ ถังหน่วนเวยที่อยู่ในรถ ดูเหมือนกำลังดูทิวทัศน์ด้านนอก แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ กงหยู่ไม่ชอบบรรยากาศนิ่งเงียบแบบนี้เป็นที่สุด จึงถามออกไปว่า \"ฝ่ามือเมื่อครู่นี้คุณสามารถหลบเลี่ยงได้ ทำไมคุณถึงไม่หลบ?\" ถังหน่วนเวยดูเหมือนไม่ต้องการจะพูดอะไรมากนัก แต่เขาก็เป็นคนที่ช่วยเธอไว้ ถ้าเธอเย็นชาเกินไปคงดูไม่ค่อยมีมารยาทเท่าไหร่ และอีกอย่าง ถ้ายั่วยุคุณชายสามบ้านกง เธอคงอยู่ไม่ถึงแก่แน่ๆ \"จากมุมนั้น ถ้าเธอตบฉัน กล้องสามารถบันทึกได้อย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นฉันก็สามารถฟ้องเธอข้อหาทำร้ายร่างกายได้\" ก่อนที่เธอจะตบตู้เยว่เซิน เธอได้วางแผนแผนทั้งหมดไว้แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองจะไม่เป็นไร และยังสามารถคุกคามตู้เยว่เซินได้ เธอจะเป็นดาวเด่นของนักกฎหมายในอนาคต เธอจะถูกทำลายได้อย่างง่ายดายแบบนี้ได้อย่างไร? \"อ่า แผนนี้ช่างร้ายจริงๆ\" กงหยู่ไม่ได้อ่านคำสรรเสริญของเธอ \"ขอโทษด้วย ที่ทำลายแผนการของคุณ\" ถังหน่วนเวยหันไปมองผู้ชายที่ละอายใจตัวเองเกินผู้หญิง และพูดอย่างมีเหตุผล \"เมื่อเทียบแล้ว ดูเหมือนตู้เยว่เซินจะหัวเสียเรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับคุณมากกว่านะคะ\" อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน สอนบทเรียนให้กับผู้หญิงคนนั้นโดยที่เธอไม่ต้องออกแรงอะไร และอีกอย่าง คนอกหักอย่างเธอก็ไม่มีกะจิตกะใจจะจัดการอะไรอยู่แล้ว \"ยืมมือคนอื่นจัดการ แต่คุณก็ใช้จนคุ้มเลยนะ\" ไม่รู้ว่าที่กงหยู่พูด เป็นการชมหรือการเสียดสี ถังหน่วนเวยไม่ต้องการเจาะลึก และพูดเรียบๆ \"ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ\" เธอไม่ต้องการข้องเกี่ยวใดๆ กับคุณชายสามบ้านกง ผู้หญิงที่เขานอนด้วย แม้เอารถบรรทุกขนาดใหญ่หลายร้อยคันมาก็อาจจะใส่ไม่หมดด้วยซ้ำ ขนาดผู้หญิงที่ไม่ได้นอนและต้องการจะนอนกับเขานั้น ยังต้องต่อคิวกันเหยียดยาว ในโลกที่รักสนุกแต่ไม่มีความรักแบบนั้น เธอไม่มีทางยุ่งเกี่ยวอย่างแน่นอน แม้จะเหลือแต่กระดูกก็ตาม และวิธีที่ปลอดภัยที่สุดคืออยู่ให้ห่างจากชายคนนี้ไว้ เพราะเสน่ห์ของผู้ชายแบบนี้ช่างแพรวพราว ตราบใดที่อยู่ใกล้ อาจถูกย้อมได้ เมื่อลองนึกภาพ จะมีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ชอบผู้ชายที่ดูดี เป็นสุภาพบุรุษ อ่อนโยนและครอบครัวร่ำรวยบ้างกัน? เมื่อถังหน่วนเวยตัดสินใจที่จะอยู่ห่างจากกงหยู่ แต่คุณชายสามบ้านกงกลับไม่คิดเช่นนั้น กงหยู่และ ซ่างซิวจื๋อมีความคล้ายคลึงกันมาก นั่นคือผู้หญิงที่ตัวเองสนใจไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ก็จะต้องมาเป็นของพวกเขาให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีที่ดีหรือไม่ดี พวกเขาก็ไม่สนใจ หลินเถาเยาถือเรซูเม่ของเธอ และนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความหงุดหงิด คู่แข่งทั้งหมดของเธอเต็มไปด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้ มีเพียงเธอเท่านั้นที่เหมือนเป็นลูกสุนัขที่ถูกรังแก เธอส่งเรซูเม่ไปกว่าหนึ่งร้อยที่ แต่กลับเหมือนหายไปในทะเล ไม่ง่ายเลยที่บริษัทใหญ่จะเรียกสัมภาษณ์เธอ เธอไม่ได้สนใจว่าบริษัทนั้นจะทำอะไร เธอก็ลุกขึ้นเตรียมตัวตั้งแต่เช้า เพื่อให้การสัมภาษณ์ออกมาดีที่สุด แต่เมื่อมาถึง พอเธอเห็นคู่แข่ง ความมั่นใจของเธอก็เหมือนลูกโป่งที่ถูกเจอะแตก \"โป๊ะ!\" และแฟบลง เมื่อลองนึกภาพ ก็เหมือนไก่ตัวเมียที่หลงไปอยู่ในหมู่หงส์ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เข้าพวก เธอคิดอยากเปรียบเทียบตัวเองกับอีกา แต่เห็นได้ชัดว่าเธอไม่มีรูปร่างเล็กเหมือนดั่งอีกา แต่เป็นไก่ตัวเมียถึงจะเหมาะกว่า หลินเถาเยาแอบดูเรซูเม่ของคนทางข้างขวาเธอ ให้ตายเถอะมหาวิทยาลัยซิงหัว?? เธอตกใจจนหดคอเข้าไป และเมื่อฟังคนทางซ้ายแนะนำตัวเอง สามารถพูดได้แปดภาษา?? ทำไมเธอถึงรู้หน่ะเหรอ? ก็เพราะเธอได้ยินภาษาที่แตกต่างกันถึงแปดภาษาไง และเธอ เมื่อมองประสบการณ์ของตัวเอง มีเพียงสิ่งเดียวที่เธอทำได้คือการได้รับรางวัลที่สามจากการแข่งขันเขียนบทความจากโรงเรียนมัธยมต้น เธอท้อแท้ใจ นี่เธอคิดจะเอาไข่ไปตีกับหินเหรอ? กลัวว่าผู้สัมภาษณ์เหล่านั้นจะตกใจเมื่อพวกเขาเห็นเรซูเม่ของเธอ และต้องส่ายหัว ก่อนเชิญเธอออกไป หรือว่า เธอไม่ควรมาที่นี่เพื่อให้ตัวเองขายหน้า เธอมองดูหมายเลขในมือตัวเอง แล้วดูคนนับสิบที่อยู่ข้างหน้าเธอ ดูแล้วกว่าจะถึงเธอก็คงอีกนาน ใช้เวลาตรงนี้ออกไปหาที่ผ่อนคลายสักหน่อยดีกว่า ถ้ายังนั่งอยู่ในหมู่หงส์ต่อไป อย่าว่าจะวางไข่เลย เกรงว่าเธอจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเรียกตัวเองว่าอะไร บนโลกมีคนประเภทหนึ่งที่น่ากลัว นั่นคือไม่สนใจทุกอย่างบนโลก และสิ่งที่ทำให้เธอต้องกัดฟันก็คือ รู้ว่าตัวเองไม่สนใจทุกอย่างบนโลก แต่กลับชอบคนที่โง่เง่าอย่างหลินเถาเยา ดังนั้น มันจึงมีเหตุผลที่ถังหน่วนเวยรู้สึกเสียใจที่ได้เป็นเพื่อนกับหลินเถาเยา เพราะเจ้าเพื่อนคนนั้น......ทึ่มจริงๆ! ถ้าพูดว่าไม่สนใจทุกอย่างบนโลกดูไม่ร้ายแรงเท่าไร งั้นก็คิดดูว่าในลิฟต์มีป้ายเขียนว่า ตั้งแต่ชั้น 50 ขึ้นไปไม่อนุญาตให้ขึ้นไปนอกจากเจ้าหน้าที่ระดับสูง แต่หลินเถาเยาก็กดขึ้นไปที่ชั้น 58 คุณคิดว่าเธอสมควรตายไหม หลินเถาเยาดวงตาบริสุทธิ์ เธอมีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับโครงสร้างของอาคารสูง ดังนั้นเมื่อเธอเดินผ่านทางเดินของชั้น 58 ก็ยังไม่สาแก่ใจ ความอยากรู้อยากเห็นจนเกินไปอาจเป็นภัยต่อตนเอง และถ้ามีความอยากรู้อยากเห็นไม่รู้จบ อาจจะเป็นภัยกับคนรอบข้าง!
已经是最新一章了
加载中