บทที่15 ทานข้าวเสร็จแล้วไปแข่งรถกัน
1/
บทที่15 ทานข้าวเสร็จแล้วไปแข่งรถกัน
รักแรกกพบ ท่านประธานอ่อยเก่งจัง
(
)
已经是第一章了
บทที่15 ทานข้าวเสร็จแล้วไปแข่งรถกัน
บทที่15 ทานข้าวเสร็จแล้วไปแข่งรถกัน ยินเซิงเจ๋อรู้สึกว่าเธอโง่มาก ไม่รู้ว่ายี่สิบกว่าปีเธอใช้ชีวิตมายังไง “ผมคีบให้คุณคุณก็คิดว่าไม่มีก้าน?เชื่อใจผมอย่างนี้?ถ้าผมได้วางยาในนั้นคุณก็จะกินเหมือนกันใช่ไหม?”ยินเซิงเจ๋อรู้สึกว่าเธอดีเกินไป ความคิดของเธอคงไม่สามารถสังเกตการกระทำของคนอื่นได้ ถ้ามีความเอาเธอมาข่มขู่เธอจะทำยังไงยินเซิงเจ๋อรู้สึกเจ็บปวด คิดว่าตัวเองต้องปกป้องเธอดีๆ หลินโย่ยีรู้สึกดีขึ้นเยอะแล้ว ยังดีที่ก้านปลาเล็กตกลงไปแล้ว หลินโย่ยีไม่กล้ากินเนื้อปลาต่อ แต่มองไปแวบหนึ่ง ยินเซิงเจ๋อยังนึกว่าเธออยากจะกินอีก ก็พูดว่า “ยังอยากกินใช่ไหม?”ยินเซิงเจ๋อไม่รอเธอพูดก็คีบเนื้อปลาที่สดมาชิน รู้สึกว่าไม่มีก้านจึงอยากให้เธอกิน หลินโย่ยีรู้คร่าวๆว่าเขาจะทำอะไร รีบปฏิเสธทันควัน “คุณทำอะไร ฉันขอบอกคุณว่าฉันไม่เอาที่คุณกินแล้ว มันขยะ……แหวะ……” หลินโย่ยียังทันพูดคำว่าขยะแขยงจบ ยินเซิงเจ๋อก็ใช้ปากหยุดคำพูดของเธอ หลินโย่ยีรู้สึกกลืนยากเล็กน้อย นึกว่าเธอเป็นยัยซื่อ บื้อหรือไง?เมื่อกี้แค่ไม่ได้ระวัง ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยกินปลามาก่อน หลังจากที่ยินเซิงเจ๋อปล่อย หลินโย่ยีรู้สึกว่าอึดอัดขยะแขยงจึงไม่แคร์ความรู้สึกของยินเซิงเจ๋ออ้วกใส่บนโต๊ะเลย สีหน้ายินเซิงเจ๋อเปลี่ยน“หลินโย่ยี คุณกล้ารังเกียจผม?”ยินเซิงเจ๋อยักคิ้วขึ้นสูง ทำหน้าตาไม่น่าเชื่อ หลินโย่ยีไม่กล้าพูดอะไร “เอ่อ……ฉันจะกล้ารังเกียจคุณได้ไง?ฉันแค่โดนก้านติดคอตอนกินปลาเมื่อกี้ ไม่อยากจะกินแล้วเพราะรู้สึกกลัวนิดหน่อย” ยินเซิงเจ๋อรู้ว่าเธอหาข้อแก้ตัว แต่ก็ไม่ได้ตำหนิอะไรเธอ ยินเซิงเจ๋อไม่ค่อยกินอะไรมาก ตักซุปหนึ่งถ้วยให้หลินโย่ยี หลินโย่ยีรู้สึกครั้งแรกว่ากินข้าวยุ่งยากเหลือเกิน ไม่เคยมีใครที่ดูแลเธอตอนกินข้าวมาก่อน หลินโย่ยีพูดอย่างมีพิรุธว่า “ยินเซิงเจ๋อ วันหลังคุณอย่าทำอย่างนี้อีก มันไม่ดี วันข้างหน้าพวกเราต่างต้องใช้ชีวิตของตนเองอยู่”หลินโย่ยีมองเขาอย่างระมัดระวัง “ต่างคนต่างใช้ชีวิต?หลินโย่ยี ยังไม่ได้หย่าก็อยากจะใช้ชีวิตเป็นของตัวเองแล้วเหรอ?ยังคิดที่จะไปหาผู้ชายสักคนอีกใช่ไหม?ผมขอบอกคุณว่า ผมจะไม่ให้คุณสมหวังแน่” ยินเซิงเจ๋อเหมือนเด็กผู้ชายที่ก้าวร้าวไม่มีเหตุผล “ฉันออกมาเที่ยวนะไม่อยากจะทะเลาะกับคุณ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น การกระทำเมื่อกี้ของคุณมันเหมือนแม่ที่ค่อยป้อนข้าวลูก ท่านประธานอย่างคุณไม่รู้สึกอึดอัดอะไรเลยเหรอ ”ยินเซิงเจ๋อถูกคำพูดของเธอหยอกจนหัวเราะ เผยภาพหัวเราะที่หาดูได้ยาก “เหมือนแม่?”ในที่สุดยินเซิงเจ๋อก็แสดงท่าทางที่เวอร์วัง “หลินโย่ยี คุณมัน……ผมยอมคุณจริงๆ ถ้าเหมือนพ่อก็ยังดีหน่อย”ยินเซิงเจ๋อทำตาเหล่ใส่เธอ ยินเซิงเจ๋อคิดไม่ตกว่าเขาเหมือนแม่ได้ยังไงกัน?ยินเซิงเจ๋อไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ดี เห็นเธอกินได้พอสมควรแล้ว ยินเซิงเจ๋อจับไฟแช็กไว้พลางพูดแบบเสียงต่ำที่เสนาะหูว่า “พอแล้ว พวกเราไปสถานที่ต่อไปกันเถอะ”หลินโย่ยีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ตอนนี้ก็มีแล้วเหรอ? “คุณยังไม่ค่อยได้กินอะไรเลยไม่ใช่หรือค่ะ ฉันรอคุณได้ถือเป็นการย่อยไปภายในตัว” พูดเสร็จยังยิ้มอย่างโง่เขลามองไปยังเขา ยินเซิงเจ๋อยืนขึ้นแล้วพูดแบบได้ใจความว่า “ไม่กิน” หลินโย่ยีเห็นเขาจะไปแล้ว จึงลุกขึ้นเดินตามเขาออกไป ในใจแอบคิดว่า “เป็นคนที่ประหลาดจริงๆ เมื่อกี้ยังทำเป็นใส่ใจอยู่เลย ตอนนี้กลับเย็นชาใส่” เขาว่ากันว่าใจของผู้หญิงนั้นเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร แต่ใจของยินเซิงเจ๋อเดายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก แถมยังแปรปรวนเร็วอีกด้วย หลินโย่ยีเดินตามหลังเขา ตอนใกล้จะเดินเข้าใกล้ตัวเขา เขาก็หันหลังมาอุ้มเธอทันควัน หลินโย่ยีชนหน้าอกเขาจึงรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย แล้วรู้สึกไม่คุ้นเคยกับการเข้าอุ้มอย่างกะทันหัน หลังจากดึงสติกลับมา หลินโย่ยีพูดเสียงเบาว่า “คุณมาอุ้มฉันกระทันหันทำไม?มันขึ้นรถไม่สะดวก” หลินโย่ยีพูดถูก รู้สึกว่าเขาน่าแปลกมาก เดินอย่างเย็นชาอยู่ข้างหน้าแล้วมาอุ้มเธอกะทันหัน มันคาดเดาความคิดเขาไม่ได้จริงๆ ยินเซิงเจ๋ออุ้มเธอขึ้นรถ ปกป้องหัวเธอให้เธอขึ้นรถอย่างปลอดภัยด้วยความมั่นคง แล้วจึงปิดประตูไปขึ้นรถอีกด้านหนึ่ง หลินโย่ยีรู้สึกถูกยกยอจนแปลกใจ หลังจากที่ยินเซิงเจ๋อขึ้นรถ เขาก็ไม่ได้สั่งการคนขับรถ รถก็เริ่มเคลื่อนไหวไป หลินโย่ยีก็ไม่อยากซักถาม เขาพาเธอไปไหนเธอก็ไปนั่น รถโรลส์รอยซ์สีดำจอดอยู่ตรงสถานที่แข่งรถที่มีระดับของเขตวีไอพี หลินโย่ยีมองผ่านหน้าต่างรถเห็นสถานที่แข่ง รถที่มีระดับ หลังยินเซิงเจ๋อลงจากรถ หลินโย่ยีเดินตามหลังเขาไม่พูดจาอะไรเหมือนเดิม ยินเซิงเจ๋อหันหัวมองพูดแนวตำหนิว่า “ทำไมคุณถึงชอบแอบอยู่ด้านหลังผมจัง?เร็วเข้า!”ยินเซิงเจ๋อพูดเสร็จพลางดึงเธอมาอยู่ข้างกาย หลินโย่ยีรู้สึกเดินโยกเยก มองเขาด้วยสายตากังวลและไม่พอใจ หลังลงจากรถยินเซิงเจ๋อก็จับมือเธอไว้แน่นตลอด ความอบอุ่นที่จับมือไว้แน่นทำให้เธอคิดไปเองว่าเป็นสามีภรรยากันขึ้นมา ใช่ คือการคิดไปเอง เดินมาถึงห้องรับรองแขก หลินโย่ยีเห็นทางแข่งรถผ่านกระจกบานใหญ่ รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย แววตาฉายดาวระยิบระยับ ยินเซิงเจ๋อกำลังพูดกับพนักงานอะไรอยู่ หลินโย่ยีฟังคร่าวๆแล้วน่าจะเป็นการจัดทางแข่งและปัญหาความปลอดภัยต่างๆ หลินโย่ยีกำลังคิด จะไปเกิดเรื่องอะไรกันแค่เล่นนิดหน่อยก็ทำท่าซักน่ากลัว ที่จริงมันไม่มีปัญหาสำหรับยินเซิงเจ๋อ เขาได้ประสบการณ์อันโชกโชนมาหลายครั้งแล้ว แต่ประเด็นคือยินเซิงเจ๋อเป็นห่วงเธอว่าระหว่างที่เล่นจะได้รับบาดเจ็บ เขาพาเธอมาเล่นไม่ใช่พามาให้เธอบาดเจ็บ หลินโย่ยีไม่อยากอยู่ฟังเขาพูด ก็เดินไปข้างกระจก เห็นทางแข่งในระยะอันใกล้ชิดยิ่งทำให้เกิดความตื่นเต้นอยากจะเล่นทันทีจนรอม่ไหวแล้ว ยินเซิงเจ๋อพูดได้พอสมควร ยินเซิงเจ๋อหลังไปเห็นผู้หญิงโง่มองซ้ายแลขวาท่าทางน่ารักยิ่งนัก ยินเซิงเจ๋อเดินมาแต่ไกล แต่เสียงเท้าเบามากไม่ให้เธอรู้สึกตัว พนักงานรอบข้างเห็นยินเซิงเจ๋อยกเท้าเดินไปทางโน้นถึงเข้าใจว่ายินเซิงเจ๋อกำลังจะทำอะไร พนักงานบางคนมองอย่างแปลกใจว่าประธานยินจะทำยังไงกับผู้หญิงคนนี้ บางคนก็หลบสายตาไปอย่างรู้ตัว หลินโย่ยียังมองด้านนอกอยู่ ไม่รู้เลยว่ายินเซิงเจ๋ออยู่ข้างหลังเธอ จนเธอจะก้าวขยับที่ก็รู้สึกด้านหลังมีบางสิ่งมาชนก้นเธอ รู้ได้ชัดเจนว่าเป็นคน หลินโย่ยีรู้สึกอับอาย และรู้สึกโมโหที่ถูกคนอื่นฉวยโอกาส หันหลังก็เคลื่อนไปอยู่ข้างๆอย่างมีไหวพริบ แล้วถีบยินเซิงเจ๋อโดยอัตโนมัติ เธอได้ทิ้งรอยเท้าไว้ที่เสื้อสูทและเนคไทของยินเซิงเจ๋อ หลินโย่ยีถีบเสร็จถึงรู้ว่าคนใส่เสื้อตัวนี้คุ้นตาจัง พอมองดู อ้าวจบกัน จบกัน เธอต้องตายแน่เลย!หลินโย่ยีรีบวางเท้าลง และรีบอธิบายว่า “ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันนึกว่าด้านหลังเป็นคนลามกไม่รู้ว่าเป็นคุณ”หลินโย่ยีอธิบายหมายความว่าถ้ารู้ว่าเป็นเขาก็จะไม่ถีบแล้ว ถึงแม้จะอธิบายแล้วยินเซิงเจ๋อก็ยังรู้สึกโกรธนิดหน่อย“หลินโย่ยี!ผมอยู่นี่แล้วยังจะปล่อยคนโรคจิตเข้ามาเหรอ?ถ้าปล่อยเข้ามาผมยังดูเขาลามกอนาจารใส่คุณเหรอ?คุณประเมินความสามารถของผมต่ำไปหรือเปล่า?และยังมีสิ่งที่ทำให้ผมโกรธมากก็คือ หลินโย่ยีถึงตอนนี้แล้วคุณยังไม่สามารถแยกกลิ่นกายผมได้!” “คุณ…กลิ่นประจำตัวของคุณอะไรกัน?ฉันนึกว่าเป็นโรคจิต ฉันขอโทษ!ทำไมต้องกดดันกันด้วย?”หลินโย่ยีก็รู้สึกโกรธอยากจะร้องไห้ ทำให้เธอเห็นผู้หญิงคนทำผิดก็มีคนคอยปกป้อง แถมรุนแรงกว่าเธออีก ก็ได้รับการให้อภัยจากคนรัก ทำไมเธอถึงไม่ใช่?ก็เพราะเธอไม่มีคนที่รักเธอจริง! หลินโย่ยีทนความโศกเศร้าไว้ เดินเข้าไปปัดรอยเท้าออก ปัดไม่ถึงไหน ยินเซิงเจ๋อก็ดึงแขนเธอลากมาไว้ในอ้อนกอด กอดเธอไว้พลางจับที่หัวเธอ ยินเซิงเจ๋อปิดตาพูด “ไม่มีอะไรแล้ว อย่าเสียใจเลย ผมไม่ได้โทษคุณ ผมแค่อยากให้คุณจำความรู้สึกที่ผมเข้าใกล้คุณ” เมื่อกี้ยินเซิงเจ๋อเห็นท่าทางเธอเสียใจและรู้สึกไม่เป็นธรรม เขาไม่สามารถทนไม่ให้กอดเธอได้ เขาไม่มีทางที่จะโกรธต่อ พนักงานที่ดูเมื่อกี้ทนไม่ไหวคิดว่า ประธานยินจะจู๋จี๋กับคนรักก็ไม่สนใจสถานที่เลย เขามันมีคุณสมบัตินั้นนิ ดูแล้วยินเซิงเจ๋อใส่ใจผู้หญิงคนนี้มากเลย พนักงานที่เป็นผู้ชายด้วยกัน ถึงแม้จะต่างชนชั้นกันก็ตาม แต่เรื่องการรักผู้หญิงคนหนึ่งและสายตาการมองไม่มีทางที่จะไม่เหมือนกัน ดูท่าแล้วผู้หญิงคนนี้ได้เข้าไปอยู่ในใจของประธานยินแล้ว ก็เป็นเพราะพนักงานที่แข่งรถเกือบเป็นผู้ชายทั้งหมด ดังนั้นหลินโย่ยีจึงคิดว่าเป็นผู้ชายคนอื่น หลินโย่ยีแปลกใจ การปลอบใจของเขาได้ผลอย่างน่าอัศจรรย์ อย่างน้อยก็ทำให้เธอรู้สึกว่าตอนอุ้มเธอไว้ไม่ใช่ว่าไม่มีคนชอบเธอ หลังยินเซิงเจ๋อปล่อยเธอ ก็จับมือเธอเดินเข้าไปไม่ได้มองคนรอบข้าง คนรอบข้างก็เหมือนอากาศที่ไม่มีตัวตน แต่คนรอบข้างกลับจ้องดูพวกเขาอย่างใจจ่อ ยินเซิงเจ๋อพาหลินโย่ยีไปห้องเปลี่ยนเสื้อส่วนตัว หลินโย่ยีเดินเข้าไปก็เห็นชุดแข่งรถหลายรูปแบบ ดูดีและมีราศีความหล่อมาก รู้สึกเหมือนเสื้อของนักบิน ยินเซิงเจ๋อมองท่าทางของเธอ เธอน่าจะชอบใจอยู่ ยินเซิงเจ๋อก็พูดอย่างดีใจว่า “คุณเลือกเองหนึ่งชุดแล้วเปลี่ยน เดี๋ยวผมจะไปเลือกหมวกกันน็อคให้คุณก่อน” หลินโย่ยีมองเขาอย่างดีใจ พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ค่ะ!” พูดเสร็จยินเซิงเจ๋อก็เดินออกไปเลือกหมวกกันน็อคให้เธอ พอยินเซิงเจ๋อเพิ่งออกไป หลินโย่ยีก็นึกได้ว่าควรถามเขาว่าเล่นไหม จะเล่นกับเธอไหม?ช่างเถอะ เดี๋ยวค่อยถามแล้วกัน! หลินโย่ยีเลือกชุดแข่งสีน้ำเงิน เปลี่ยนเสร็จแล้วส่องกระจกดู ตัวเองชอบสีน้ำเงินและชอบการออกแบบดีไซน์ของเสื้อตัวนี้มาก หลินโย่ยีเก็บเสื้อที่เปลี่ยนไว้ในตู้ เปลี่ยนเสร็จแล้วออกไปหายินเซิงเจ๋อ แต่ไม่เห็นเขา ตอนเธอมองซ้ายมองขวาอยู่นั้นก็เห็นยินเซิงเจ๋อปรากฏตัวขึ้น “เปลี่ยนเสร็จแล้วหรือ อืมไม่เลว ผมชอบ”พูดพลางมองทั้งตัวเธอ หลินโย่ยีฟังน้ำเสียงเขาแล้วรู้สึกว่าเหมือนกับจะใส่ให้เขาดูโดยเฉพาะเลย “อืม ฉันชอบเลยใส่ตัวนี้”ยินเซิงเจ๋อมองเธอด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดว่า “ออ ผมเลือกหมวกกันน็อคให้คุณแล้ว มาดูก่อนว่าเหมาะไหม” พูดจบ ยินเซิงเจ๋อก็เริ่มสวมให้เธอ ก่อนสวมยังไม่ลืมที่จะปัดเส้นผมออกเพื่อป้องกันหลังสวมแล้วรู้สึกเจ็บ ปัดเศษผมไปหลังหูก่อนแล้วจึงช่วยเอาผมหางม้าไปไว้ข้างในเสื้อ เพื่อป้องกันตอนแข่งรถผมถูกท่อน้ำมันเครื่องดูดเข้าไป หลินโย่ยีรู้สึกจากการกระทำทั้งหมดของยินเซิงเจ๋อ ใจก็เริ่มรู้สึกสั่นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ หน้าแดงหูแดงขึ้นมาทันที อยากจะรีบสวมหมวกกันน็อคโดยเร็วจะได้ไม่เห็นความเขินอายอีก ทุกครั้งที่เขากระทำในลักษณะนี้กับเธอ เธอก็กลับสู่สภาพเดิม ความคิดในใจก็จะแสดงบนใบหน้าออกมา
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่15 ทานข้าวเสร็จแล้วไปแข่งรถกัน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A