ตอนที่ 6 แฟน?
ฉันตอบคำถามของเซยะ “แฟนเหรอ มีมั้ง หรือไม่มีก็ไม่รู้สิ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร”
“ตอบแปลกจัง หมายความว่าไงเหรอ”
“ฉันมีคนคนหนึ่งชื่อคุณหมีน่ะ”
“คุณหมี...?” เซยะประหลาดใจ
ชื่อเหมือนสัตว์ขนฟูเรียกรอยยิ้มจากฉัน ทุกครั้งที่เอ่ยชื่อนี้ฉันจะรู้สึกอบอุ่นหัวใจ “ใช่ คุณหมีนั่นล่ะ”
คุณหมีก็คือคุณหมีที่น่ารัก....
“เขาเป็นเพื่อนออนไลน์ของฉัน เจอกันในโปรแกรมแชทโปรแกรมหนึ่ง เจ็ดปีมาแล้วมั้ง เป็นคนตลก ร่าเริง บ้าๆ บอๆ สบายๆ”
“อ้วนหรือหน้ามอมเหมือนหมีเหรอถึงต้องเรียกแบบนั้น...?”
ฉันหัวเราะคิก แล้วความทรงจำก็ย้อนกลับไป ความทรงจำระหว่างคุณหมีกับฉัน
หลายปีก่อน...
‘สวัสดีดาเระ’ ฉันพิมพ์ทักเพื่อนออนไลน์ และบางทีเขาอาจเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของฉันถึงแม้ไม่เคยพบกันมาก่อน สนิทยิ่งกว่าฮานาเอะเสียอีก ในวันนั้นฉันยังไม่ได้เรียกเขาว่าคุณหมีหากแต่เรียกว่าดาเระที่แปลว่า “ใคร” นั่นเพราะเราไม่รู้จักกัน
แล้วฉันจะบอกทีหลังว่าเปลี่ยนชื่อเรียกเขาทำไม
‘สบายดีไหม’
‘ไม่รู้สิ’
จริงๆ เลย ถามง่ายๆ แค่นี้ยังตอบไม่ได้ แต่อาจเพราะแบบนี้เราถึงคุยกันรู้เรื่อง
‘ทำไม?’ ฉันถาม
‘เมื่อกี้มีข่าวหมีหลุดออกมา หมีตัวเมีย’ เขาพิมพ์ตอบ
‘แล้วไง...?’
‘เดี๋ยวมันเห็นฉันแล้วจับไป นึกว่าพวกเดียวกัน’
…หมีตัวเมียอาจลากเขาไปทำสามี...!?
คำถามของเซยะเรียกฉันกลับจากความทรงจำ “เพื่อนสนิทสินะ...?”
“เราอาจรักกันอยู่ก็ได้”
“แต่เธอสองคนไม่เคยเจอกันนี่”
“แต่เราหลงรักกันนิดๆ จริงๆ นะ” ฉันหัวเราะสบายๆ “ฉันกับคุณหมีจีบกันไปกันมาถึงจะไม่จริงจัง จนกระทั่งวันหนึ่งที่เรารู้สึกรักกันมาก เพราะอย่างนั้นถึงได้อยากลองนัดพบกันสักครั้ง”
“น่าตื่นเต้นดีนะ แล้วเกิดอะไรขึ้นอีก”
“เราสองคนนัดพบกันที่งานคอนเสิร์ตกีต้าร์อะคูสติกงานหนึ่ง เราชอบเพลงอะคูสติกเหมือนกัน นัดกันอย่างดีว่าจะหากันอย่างไรในงาน”
“แล้วเธอก็หาเขาเจอ...?”
“เจอที่ไหนล่ะ”
“อ้าว”
“คืนนั้นฉันกลับบ้านตัวเองเฉยๆ เขาก็เหมือนกัน ระหว่างคอนเสิร์ตก็แชทกันทางโทรศัพท์บ้าง”
“แชทกันแต่ไม่ได้เจอกันเนี่ยนะ...!?”
“ไม่รู้สิ บางที...คุยกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่เห็นตัวจริงกันอาจจะสนุกกว่า ไม่อยากรู้ความจริงมั้ง บางทีมันก็ดีกว่าหากจะอยู่ห่างกัน หรือรู้จักกันแค่บางมุมเท่านั้น เหมือนการอ่านนิยาย ทันทีที่นิยายเล่มโปรดทำเป็นหนัง ทันทีที่พระเอกที่เราชอบตามตัวหนังสือถูกคาสติ้ง ต่อให้เป็นดาราชื่อดังก็ “หมดกัน” เพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่เหมือนกับที่เคยคิดฝันหรอก...”
“ฉันไม่เข้าใจเธอเลยมิกะ”
“ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน” ฉันยิ้ม “แต่พอกลับมานึกดูคืนนั้นฉันคิดว่าทำถูกแล้วที่ไม่ได้พบเขา และดูเหมือนเขาก็คิดเหมือนกัน”
“นั่นมันแปลกมาก แล้วหลังจากนั้นเธอติดต่อเขาบ้างไหม”
“ก็นานๆ ครั้ง เร็วๆ นี้เราตกลงกันว่าถ้าหาใครแต่งงานด้วยไม่ได้อาจจะลองนัดพบกันใหม่ แล้วก็อาจจะลองคบกันหรือแต่งงานกัน”
“แล้วจะกล้าเจอกันเหรอเมื่อถึงวันนั้น”
“นั่นล่ะที่ฉันสงสัย แต่ไม่เป็นไรหรอก ทุกวันฉันภาวนาให้คุณหมีมีความสุข และเขาก็ภาวนาให้ฉันเหมือนกัน เราสองคนคล้ายกันเกือบทุกด้าน แม้แต่ตอนนั้นที่นัดเจอกันแล้วพอถึงเวลาจะเจอจริงๆ ก็ยังเปลี่ยนใจพร้อมๆ กัน บางทีความรักเก็บไว้ในใจก็สวยงามกว่า ปล่อยให้เป็นแค่ความฝันแบบนั้น...”
“โรแมนติกดีนะ”
“ไม่นี่ บ้าจะตาย”
“เพราะแบบนี้ฉันถึงคิดว่ามิกะน่ารักมากอย่างไรล่ะ”
คำพูดของเซยะทำให้ฉันลืมตา อะ...ดวงตาสีอ่อนแบบนั้นที่จ้องมองมา....
…ซวยแล้ว...หรือเรื่องที่อากิโตะขู่มาตลอดแต่ฉันไม่เชื่อเป็นความจริงที่ฉันควรรับฟัง...!? ทั้งที่แต่ก่อนฉันคิดแต่ว่าอากิโตะเอาแต่หาเรื่องและใส่ร้ายฉัน...!?
“เซยะ...?”
“ฉันเริ่มชอบมิกะขึ้นมาเสียแล้วล่ะ” ร่างสูงกระเถิบเข้ามาเกือบชิด และก่อนที่ฉันจะกระเถิบหนีทันมือใหญ่กลับเคลื่อนสัมผัสใบหน้าฉัน ปลายนิ้วหัวแม่มือลากไล้ริมฝีปากของฉัน
“อ๊ะ... จะทำอะไร...!?”
“ริมฝีปากเธอสวยดีนะ ฉันอยากจูบเธอ...ได้ไหม...?”
เพี้ยะ...!
ฉันปัดมือเซยะ ทว่าคนไวกว่ากลับถือวิสาสะจับมือฉัน อีกมือรั้งใบหน้าของฉันแถมยังโน้มลงมาจนร่างชิดร่าง...!
ข...เขาจะจูบฉันเหรอ…!? “ปล่อยนะ...”
“เซยะ นายทำอะไร” เสียงต่ำเยือกเย็นเบรคให้ใบหน้าคมคายที่เคลื่อนเข้ามาชะงัก ก่อนหันกลับไปยิ้มให้เพื่อนและตอบสบายๆ
“เมื่อกี้ทรายติดผมมิกะ ฉันเลยช่วยเขี่ยออก” เขาชูนิ้วที่ติดทรายตรงปลายให้เจ้าของดวงตาสีออบซิเดียนนิ่งแข็งดู “นี่ไง”
ทราย...? ทรายเนี่ยนะ...!?
“นามิโทรมา บอกว่านายไม่รับสายเธอตั้งแต่เมื่อคืน โทรกลับไปหาเธอเสียสิ” อากิโตะเอ่ยสั่งราบเรียบ น้ำเสียงฉาบความไม่พอใจ
“รู้แล้วน่า” อย่างแกมรำคาญเซยะรับโทรศัพท์จากมืออากิโตะก่อนเดินออกไปโทรหาว่าที่คู่หมั้นไกลๆ
ทว่าแทนที่จะหายใจโล่งที่เซยะไปเสียได้ฉันกลับต้องโชคร้ายกว่าเก่า
“ทราย...ใครเชื่อก็บ้าแล้ว” อากิโตะปรายตามองฉัน
ฉันเหมือนถูกตรึง ยอมรับว่าที่เขาขู่ฉันเมื่อวานเป็นจริงทั้งหมด เซยะเริ่มสนใจฉันจริงๆ และนั่นนับเป็นตราบาปที่ติดตัวฉัน ทั้งที่ฉันไม่เคยอยากให้เซยะที่ใกล้หมั้นอยู่แล้วไขว้เขวแบบนี้
“ขอโทษ” ฉันสะบัดเสียงถึงจะรับผิด
“ไม่รับ” คำปฏิเสธทำเอาฉันอึ้ง พลันรู้ซึ้งถึงฉายาเจ้าชายน้ำแข็งนั่นแล้วอย่างไร้ข้อสงสัย ฮาระ อากิโตะผู้ชายใจร้าย...!
“ฉันไม่ต้องการคำขอโทษ ฉันสั่งให้เธอแก้ไข เคยบอกแล้วว่าห้ามเธอเข้าใกล้เพื่อนฉันอีก แล้วทำไมเธอยังอยู่ที่นี่ ถ้าหากฉันมาไม่ทันห้ามอาจจะเห็นคิสซีนแล้วก็ได้”
“ฉันไม่ได้เริ่มก่อนนะ...!” ฉันขว้างทรายใส่คนที่อยู่เกินระยะอย่างเจ็บใจ
“ต่างกันตรงไหน...? เธอทำให้เซยะรวนเร และนั่นก็เป็นความผิดของเธอพอๆ กัน”
ฮึ…! เพื่อนเขาเป็นฝ่ายเริ่มก่อนตลอดไม่ใช่หรือไง...?! และทั้งที่ฉันพยายามใจเย็นแล้วแท้ๆ !
“คนอย่างนายคุยไม่รู้เรื่อง” ฉันลุกขึ้น ชักสีหน้า ก่อนเดินหนีลงน้ำไปหาฮานาเอะที่ยังเล่นกับชินจิไม่เลิก จะไปบอกเธอว่าฉันจะไปสปา ไม่อยู่มันแล้วกับชายหาดที่มีเจ้าของบ้าๆ
แต่อากิโตะกลับตามมาอีกจนได้...!
-อากิโตะ-
ผมก้าวลงน้ำและตรงเข้าคว้าข้อมือเล็กบางของผู้หญิงที่พูดไม่รู้เรื่องเอาไว้
“เพิ่งบอกว่าอย่าอยู่ใกล้เซยะให้ฉันเห็นอีก แล้วเดินลงมาตรงนี้ทำไม หรือจะให้มันอุ้มเล่นน้ำอีก?”
“เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ นายไล่เขาไปคุยกับว่าที่คู่หมั้นไม่ใช่หรือไง อีกอย่างฉันแค่จะมาบอกฮานาเอะว่าฉันจะไปไหน”
“เดินมาแบบนี้เดี๋ยวก็ได้เรื่องอีก บอกตามตรงวิธีแก้ปัญหาของเธอห่วยแตก ถ้าเซยะกลับมาขาแบบนี้คิดว่าจะหนีมันทันหรือไง”
“แต่ฉันต้องบอกเพื่อนก่อน”
“ฉันไม่ให้เธอลงน้ำ” บ้าชิบ ร่างเปียกน้ำของเธอคงยิ่งทำให้เซยะคลั่งเอาง่ายๆ
“ทะเลนี่ของนายหรือไง...!?”
“ฉันเป็นเจ้าของที่นี่” เมื่อเธอสลัดมือหลุดผมคว้าข้อมือเล็กบางไว้อีก และน่ารำคาญใจที่ทุกครั้งเมื่อเธอดิ้นมันทำให้เธอน่าสัมผัสหรือไม่ก็กดลงกับพื้นแล้วทำเรื่องแบบนั้นเข้าไปใหญ่ เชื่อเลยว่าเซยะไม่รอดแน่...!
“แบบนี้เธอคงพลาดซ้ำซากอีก ถึงบอกว่าเปล่าเธอก็เหมือนให้ท่ามันตลอดเวลาอยู่ดีไม่ใช่หรือไง”
“อากิโตะ!”
“ไม่ว่าจะเป็นมันหรือเธอที่เริ่มก่อนฉันก็ไม่สนใจ” ผมรั้งมือเธอเข้ามาจนร่างชิด ให้แน่ใจว่าเธอได้ยินผมชัดทุกคำ
“นามิเป็นเพื่อนสมัยเด็กของฉัน ฉันรักเธอเหมือนน้องสาวแท้ๆ เป็นเด็กดี ใสซื่อ เปราะบาง โชคร้ายที่รักเพลย์บอยอย่างเซยะหมดใจ แต่หมอนั่นเปลี่ยนไปแล้วเพราะการรอคอยอย่างอดทนของนามิ ถอดเขี้ยวเล็บและกลายเป็นเสือเชื่องๆ มาตลอดหลายปีนี้ จนมันพบเธอ...\"” ผมเขม็งมองหญิงสาวตรงหน้า ใบหน้าที่สวยทว่าไร้เดียงสา ยิ่งมองก็ยิ่งแค้นใจ
“และฉันไม่มีวันยอมให้มันเสียคนเพราะผู้หญิงอย่างเธอ”
“แต่เมื่อกี้ฉันไม่ได้เริ่มก่อนนะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพื่อนนายผิดล้วนๆ !”
“ผิดเพราะเธอยั่วมันก่อนไง คออ่อน ทรุดลงในแขนของมันให้กอดทั้งตัวแบบนั้น”
เพี้ยะ!