ตอนที่ 9 นางเอกกับลูกมะพร้าว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 9 นางเอกกับลูกมะพร้าว
ฉันกลับจากสปาหลังจากที่อากิโตะคนเลวผละจากร่างของฉัน ทิ้งแต่สัมผัสที่คุกคามและร้อนราวกับไฟนั้นไว้ บ้าชะมัด...ทำราวกับขืนใจฉันไปแล้วแบบนั้น...! ฉันไม่อยากโดนเหมือนเมื่อบ่ายอีกแล้ว...อากิโตะร้ายกว่าที่ฉันคิดไว้ เหนือหัวใจยังเจ็บแปลบอยู่เลย...มือร้อนแม้เพียงครู่เดียวที่รุกเร้า...หากแต่ยังฝังอุณหภูมิสูงจนน่าหงุดหงิดไว้ทั่วร่าง อากิโตะ เจ้าชายน้ำแข็งที่แสนชั่วร้าย! ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนกลุ่มนี้อีกแล้ว ทั้งเซยะและอากิโตะ เกลียดที่สุด...! ทันใดนั้นผิวร่างสัมผัสถึงสายลมที่พัดแรง ห่างออกไปเห็นยอดต้นมะพร้าวแกว่งไกว ดูอันตรายเหมือนคุณแม่ลูกดกที่โงนเงนตามสายลม พลันสายตาฉันสะดุดเข้ากับคนที่เห็นแล้วไม่สบอารมณ์ เซยะมาเดินป้วนเปี้ยนอะไรแถวนี้? โทรศัพท์อยู่เหรอ เหนือหัวคือลูกมะพร้าวที่แกว่งไกว แกรก... ซวยแล้ว มะพร้าวลูกหนึ่งแกว่งแล้วปลิดจากขั้วลงมา...! ฉันวิ่งสุดผีเท้า กระโจนผลักเขาหลบระเบิดที่ทำให้หัวเละได้เลยล่ะ “เซยะระวัง...!” ตุ้บ...! มะพร้าวหล่นลงบนผืนทราย เขาและฉันปลอดภัย แต่ทว่า... ซวยซ้ำซวยซ้อนเมื่อรู้ตัวว่าฉันล้มทับใส่ร่างสูงของเซยะอย่างจัง...! บ้าเอ๊ย...! ใกล้ชิดกันจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน เซยะอึ้งไปเลย นัยน์ตางดงามสีทไวไลท์มองฉันในฐานะฮีโร่ที่ช่วยเขา “มิกะ ขอบคุณนะ” แล้วนั่นอะไร...!? ไม่ทันลุกหนีทันมือใหญ่ก็โอบร่างฉันไว้เสียแล้ว...! “ถ้าไม่ได้เธอฉันอาจจะหัวแหลกไปแล้วก็ได้” “อย่าคิดมาก ปล่อยฉันเหอะ...” จุ๊บ... ไม่ทัน ไม่ทันจริงๆ ให้ตาย…!! ริมฝีปากร้อนของเซยะทับข้างริมฝีปากของฉันแล้วอย่างอ่อนหวาน และฉันสาบานเลยว่าฉันไม่ได้ให้ท่าเขา ไม่...!! เย็นวันเดียวกัน ตลอดวันฉันได้แต่ภาวนาให้อากิโตะไม่เห็นฉากเลิฟซีนที่แท้จริงแล้วก็แค่การผลักคนซุ่มซ่ามพ้นลูกมะพร้าว ว่าแต่ที่จริงโรงแรมหกดาวทำไมไม่สอยมะพร้าวลงก่อนบ้าง หรือเพื่อสุนทรียะอันสูงส่งบางอย่าง...? บางทีไฮโซอาจไม่เคยเห็นลูกมะพร้าวคาบนต้นถึงต้องเลี้ยงไว้ให้ชื่นชม คงจะใช่... ดนตรีบีทหนักเร้าใจ ท่ามกลางแสงสีวูบวาบฉันขยับร่างตามจังหวะเพลง “ว้าว มิกะ เธอแดนซ์เก่งจัง” ฮานาเอะเอ่ยปากชม “ฉันอยากเต้นเก่งอย่างเธอบ้าง” “ไม่ยากหรอก ฉันจะสอนให้” เกือบทั้งผับมองเราเป็นตาเดียว ทว่าฉันไม่ใส่ใจ หลายคนบอกว่าฉันแดนซ์เก่ง ทั้งที่ฉันไม่เคยแดนซ์อย่างตั้งใจ ก็แค่สนุกกับมัน ไกลออกไปฉันเห็นอากิโตะมองมา บ้าจริง เขามาทำอะไรแถวนี้ วันนี้ฉันได้ยินจากชินจิว่าเขาต้องไปส่งแขกที่เป็นผู้ร่วมหุ้นคนสำคัญของโรงแรมที่สนามบิน แต่ก็คงใกล้ไปแล้วมั้ง... แล้วก็เป็นเช่นนั้น ดวงตาดุดันเขม็งมองฉันแวบเดียวก่อนหันหลังเดินลับตา เขาไปแล้วสินะ...ถ้างั้น... “อ๊ะ...” ฮานาเอะสะดุ้งเมื่อฉันรวบเอวเธอและจับหมุน ทำเหมือนตัวฉันเองเป็นชายหนุ่มและเธอเป็นหญิงสาวในอ้อมแขน ก่อนนำเธอแดนซ์เหมือนผู้ชายที่กำลังบอกรักผู้หญิงด้วยท่าที่ชิดใกล้จนเสียดสี ...ก็แค่สนุกๆ เท่านั้น... “ม...มิกะฉันเขินนะ...!” ฮานาเอะหน้าแดง น่ารัก... ได้แกล้งให้เธอเขินอายแล้วสนุกจัง “หัวใจเต้นแรงไปหมดแล้ว...!” เสียดายที่ฉันมีแค่ฮานาเอะเป็นเพื่อน ในเวลาแบบนี้หากมีชายคนรักให้แดนซ์ด้วยก็ดีสิ จะได้บอกรักผ่านภาษากาย ความแนบชิด การขยับแบบร่างแนบร่าง...อย่าสนใจเลย ฉันก็พูดไร้สาระไปอย่างนั้น... ไม่นานฉันปล่อยฮานาเอะเป็นอิสระ แล้วโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังแดนซ์โดยที่หลายคนในคลับมองอย่างสุดทึ่งนั้นเองฉันสัมผัสถึงฝ่ามือใหญ่ที่เคลื่อนเข้ารั้งเอว ร้อน... เมื่อเงยหน้าก็เห็นว่าร่างสูงที่เพิ่งเข้ามาเบียดชิดคือเซยะ ดูสง่างามราวกับเจ้าชายจนสาวๆ ทั้งผับฮือฮา ไม่เอาน่า...ค่ำนี้ชินจิบอกว่าเซยะมีนัดคุยกับนามิทั้งคืนไม่ใช่หรือไง เพราะงั้นฉันถึงได้กล้ามาแดนซ์ในค่ำคืนนี้...! “นายไม่ได้ต้องคุยโทรศัพท์กับนามิเหรอ...?” ฉันประหลาดใจ “นามิติดงาน บอกว่าค่ำกว่านี้จะโทรกลับ” ทำไมฉันโชคร้ายขนาดนี้...!? “ขอแดนซ์คู่กับเจ้าหญิงผู้กล้าหาญที่ช่วยชีวิตฉันไว้จากลูกมะพร้าวหน่อยนะ” “เสียใจ ฉันมีคู่เต้นแล้ว ฮานา...?” เอ๋...? ฮานาเอะหายไปไหน...? และเมื่อมองไปอีกฟากของฟลอร์ก็เห็นว่าเธอกำลังแดนซ์กับชินจิ หนำซ้ำแดนซ์แนบชิดราวกับประกาศตัวเป็นแฟนกันแล้วอย่างไรอย่างนั้น...! “ไม่อนุญาต” ฉันยันหน้าเซยะเมื่อเขาทำท่าจะจับมือฉัน แต่กลับถูกมือใหญ่อีกข้างที่เร็วกว่าคว้าข้อมือไว้เสียงั้น อีกมือเคลื่อนอ้อมโอบเอวของฉัน…! “แต่ฉันไม่อยากแดนซ์กับนาย” ฉันแกะมือใหญ่ แต่กลับยิ่งถูกรั้งชิดร่างสูงร้อนจัด…! “อ๊ะ...!” “อย่าใจร้ายสิครับ” เซยะยิ้มหล่อเหลา ดูราวเสือร้ายที่อากิโตะเคยพูดถึง ร้อนแรงและอันตราย ในขณะที่สาวๆ ทั้งฟลอร์มองฉันอย่างอิจฉา หายใจขาดห้วงเมื่อเรียวนิ้วของเซยะจิกแผ่วเหนือแผ่นหลังของฉันก่อนลากลงต่ำอย่างยั่วเย้า “บางที...อีกครู่เดียวเธออาจเริ่มชอบขึ้นมาก็ได้” เซยะแดนซ์กับฉัน แล้วโดยยังไม่ทันป้องกันตัวร่างสูงแดนซ์พาฉันมาที่ผนังอีกด้าน มุมอับ...!? “ขอบคุณนะที่ช่วยฉันไว้ ไม่ได้เธอฉันอาจตายก็ได้ และนั่นก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าเธอยิ่งสวยน่ารักขึ้นอีก” “พูดอะไร ฉันก็แค่ช่วยตามสัญชาตญาณ” ฉันหายใจขาดห้วงเมื่อสัมผัสของเซยะเปลี่ยนไป ร้อนแรงและคุกคามเมื่อเรียวนิ้วเคลื่อนแทรกชายเสื้อของฉัน สัมผัสแผ่นหลังเปล่าว่าง...! “อ๊ะ ปล่อยนะ...อื้อ...!” ริมฝีปากร้อนของเซยะหยุดคำพูดทั้งหมดของฉัน จูบฉันอย่างเร่าร้อนในมุมที่ไม่มีใครสนใจใครทั้งนั้น…! “เธอหวานจัง...” ฉันเกร็งทั้งร่างเมื่อริมฝีปากร้อนสูงผละจากริมฝีปากของฉันเพียงแค่เซนเดียวเพื่อเอ่ยบอก ฉันผลักแรงสุด! แต่ก็เพื่อที่คนไวกว่าจะฉวยโอกาสคว้าข้อมือทั้งสองข้างของฉัน กดริมปากลงอีกครั้ง ครอบครองริมฝีปากของฉันอย่างรุนแรงก่อนเคลื่อนต่ำสู่ลำคอที่เส้นผมถูกเขี่ยออกไปแล้ว...!? “อื๊อ...ย...อย่า...!” ฉันดิ้นขืน ทว่ามือใหญ่ยิ่งเหนี่ยวรั้ง สะท้านไปทั้งร่างเมื่อริมฝีปากร้อนมอบรอยจูบที่เจ็บแปลบให้กับฉัน...! พลั่ก...! เงียบ... รู้ตัวอีกทีมือของฉันก็ถูกปล่อยเป็นอิสระแล้ว...!? เห็นใบหน้าของเซยะหันตามแรงอัดของกำปั้นใครคนหนึ่ง ริมฝีปากปรากฏเลือดสายเล็กรินหลั่ง...! เสียงฮือฮาเรียกให้ฉันเงยมองร่างสูงอีกร่างที่อยู่ติดกัน นิ่งและดุดันราวกับปีศาจ! “อากิโตะ...?” ฉันเสียงหาย ทำไมต้องเป็นเขาที่ช่วยฉันและเห็นทุกอย่าง...!? “แก...สารเลว” อากิโตะเอ่ยราบเรียบ ขัดกับดวงตาสีออบซิเดียนที่ดูราวเปลวไฟอันโกรธคลั่งนั้น...! เซยะเพียงหันกลับมา สีหน้าราวกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดจากหมัดด้วยซ้ำ “ก็อย่างที่นายเห็น ฉันชอบมิกะ และฉันจะไม่ปิดบัง” ฉันนิ่งค้าง “และฉันจะไม่ล้มเลิกง่ายๆ” “แล้วนามิล่ะ” อากิโตะกัดฟัน “ห่วงกันนักก็ไปคบกับเธอแทนสิ และปล่อยให้ฉันทำตามใจ ยัไงซะฉันก็เปลี่ยนใจแล้ว ฉันไม่ควรค่ากับความรักของนามิ หัวใจของฉันไม่ใช่ของเธออีกแล้ว” “...” “และนายก็ไม่มีสิทธิ์ห้ามฉันหรอกนะ อากิโตะ” คนทั้งงานฮือฮา ฉันอายแทบตาย ทว่าทั้งที่ฉันนึกว่าอากิโตะจะอาละวาดผับแตกและรวดทำโทษฉันไปด้วยเขากลับเลิกง่ายๆ เพราะเสียงฮือฮาและคนมากมายที่มุงล้อมเหรอ? ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องจะจบลงแค่ที่การต่อยกันไหม หรือบางทีอาจเพราะอยู่ๆ เขากลายเป็นคนใจเย็นขึ้นมา ทว่านั่นไม่น่าเป็นไปได้เพราะฉันรู้ว่าคนอย่างเขาจะไม่แคร์ใคร ...แปลก... ...เพราะอากิโตะแค่กลับหลังหันและเดินจากไป… แต่แล้วฉันก็ได้รู้ว่าตัวเองคิดผิดถนัดเรื่องที่ว่าอากิโตะกลายเป็นคนใจเย็นขึ้นมา นิสัยของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ความซวยของฉันมาถึงในวันรุ่งขึ้นนั้นเอง เช้านั้นเรื่องที่อากิโตะฟาดเซยะกลางผับดังกระฉ่อนไปทั่ว ออกข่าววงการบันเทิงด้วยซ้ำ ส่วนฉันเรื่องนั้นทำให้เวลาอาหารเช้าของโรงแรมที่อร่อยและเลิศหรูที่สุดกลับกลายเป็นเรื่องน่าปวดหัวไป “ฮานาเอะมานั่งกับฉันเร็ว” ชินจิร้องเรียกฮานาเอะและฉันแต่เช้าทันทีที่ก้าวถึงห้องอาหาร ฉันมองทั่วแล้ว ดีที่อากิโตะไม่อยู่ที่นั่น ถึงอย่างนั้นก็ตาม... “ไม่ล่ะ” ฉันปฏิเสธ ไม่อยากมีเรื่องถึงตัวปัญหาจะไม่อยู่ที่นั่น “เธอไปนั่งกับพวกนั้นเหอะฮานาเอะ วันนี้ฉันอยากนั่งเงียบๆ คนเดียวบ้าง” “งั้นพวกเราจะย้ายมานั่งเป็นเพื่อน จะปล่อยให้มิกะเหงาคนเดียวได้อย่างไรกันครับ” ชินจิผู้แสนดีเป็นห่วงฉัน “ไม่เป็นไร ฉันนั่งคนเดียวได้จริงๆ” “ผมคงเป็นเพื่อนที่เลวมากถ้าหากปล่อยเธอทำแบบนั้น” “ไม่หรอก ฉันไม่ใช่เด็กอนุบาล ไม่ได้ติดเพื่อนขนาดนั้น” “อากิโตะไม่อยู่มานั่งเหอะ ไม่เป็นไรหรอกครับ” ขินจิอ้อนวอนซ้ำ “เมื่อคืนอากิโตะคงทำให้เธอตกใจ เซยะคงชอบเธอมากจริงๆ นั่นล่ะอากิโตะมันถึงโกรธขนาดนั้น อย่าคิดมากเลย มันสั่งสอนแต่เซยะ ไม่ได้โกรธอะไรเธอหรอกนะ” ผิดถนัด... “อีกอย่างเซยะคงไม่ยุ่งกับเธอแล้ว ที่จริงหมอนั่นบางครั้งพลาดบ้างแต่ก็เป็นคนดี” เรื่องนั้นฉันไม่มั่นใจ ให้ใบ้หวยยังง่ายกว่า! “เพราะงั้นมานั่งนี่สิ” แต่ชินจิยังทำตามความตั้งใจเดิมอย่างมุ่งมั่น จูงมือฉันไปถึงโต๊ะของเขา ฮานาเอะดึงฉันให้นั่ง “แล้วเซยะอยู่ไหน ไม่ลงมาเหรอ” ฮานาเอะถาม “โดนเพื่อนอัดน่าจะสลบอยู่นะ ฮะๆ” ชินจิหัวเราะร่วน “ไม่ต้องห่วงหรอกน่ามิกะ เซยะโดนขนาดนั้นคงไม่กล้าแตะต้องเธออีกแล้ว เชื่อสิ” ทันใดนั้นปลายสายตาของฉันสะดุดกับร่างสูงที่เดินเข้ามา เซยะ... “ฉันไปก่อนนะ” ฉันรีบลุกขึ้น หากแต่ฮานาเอะดึงมือฉัน เป็นเพราะเธอไม่เห็นเซยะ “อย่าเพิ่งสิ นั่งกับฉันก่อน” “ฉันบอกว่าจะไปอย่างไรล่ะ” โครม...! ฉันแค่สะบัดแขนเบาๆ เอง แต่สิ่งที่หล่นลงพื้นกลับทำให้ฉันและทุกคนอ้าปากค้าง “แย่แล้ว โน๊ตบุ๊คนั่น...” ชินจิผวา “หน้าจอร้าวเลย ของใครเหรอ” ฮานาเอะผวาตาม “ของอากิโตะ” ชินจิตอบ ฉันนิ่งค้าง “มิกะทำหล่น” ฮานาเอะโทษฉัน “แต่ฉันผิดเองที่ดึงมิกะก่อน ฮือ... ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” เธอบีบน้ำตา “ฉันขอโทษนะทุกคน ขอโทษมิกะด้วย ทำอย่างไรดีล่ะ” “ก็...เอาไปคืนเจ้าของไง แล้วบอกตามตรง” ชินจิตอบ “คงไม่มีอะไรหรอกน่า” “แต่ใครจะเอาไปให้” คำถามของฮานาเอะเป็นคำถามที่ดี และชินจิตอบกลับง่ายๆ “ก็คนที่ทำตกแตกไง”
已经是最新一章了
加载中