บทที่ 19 มารับคุณชายเฉิน   1/    
已经是第一章了
บทที่ 19 มารับคุณชายเฉิน
บทที่ 19 มารับคุณชายเฉิน หยางฮุยรู้ดีว่าเฉินเกอเป็นคนซื่อสัตย์มาก เขาจะมีนิสัยฟุ่มเฟือยได้อย่างไร หลังจากรอให้คนออกไป แล้วโทรศัพท์โกหกพวกเพื่อนๆที่หอพักผู้แสนดี ทุกคนไม่เข้าใจว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น? หรือว่าพี่เฉินจะสามารถทำให้ทุกคนไปที่วิลล่าเวินฉวนได้? จะเป็นไปได้อย่างไร! หลังจากได้ยินข้อสงสัยของหยางฮุย เฉินเกอก็ได้แต่ยิ้ม ความหมายก็คือ เดี๋ยวพวกนายก็รู้เอง! “คุณลูกค้าคะ ขอรบกวนสักครู่ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจะยังรับอาหารที่สั่งไปไหมคะ หรือว่า..?” ในขณะนี้พนักงานสาวสวยของร้านคนหนึ่งเดินเข้ามาหาและถามพวกเขาอย่างสุภาพ แม้ว่าจะสุภาพ แต่เธอก็ไม่สามารถซ่อนความรู้สึกดูถูกเล็กๆน้อยๆไว้ในใจได้ เธอรู้ดีว่าวันนี้ใครเป็นคนเลี้ยง แต่ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เธอเห็นว่ามีทายาทเศรษฐีสองคนได้แย่งกลุ่มหญิงสาวพวกนั้นไปแล้ว ในเวลาเดียวกันคนอื่นๆที่กำลังรับประทานอาหารในล็อบบี้มองไปที่พวกเฉินเกอและหยางฮุยด้วยรอยยิ้มมีความหมาย นี่มันน่าอายพอๆกับการถูกแย่งแฟนในที่สาธารณะ ดังนั้นพนักงานสาวสวยจึงเดินเข้ามาสอบถามพวกเขาว่ายังรับอาหารอยู่ไหม ถ้าไม่รับก็จะได้รีบไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ “ไม่ต้องแล้ว แค่แพ็คอาหารให้เราและเดี๋ยวพวกเราจะไปกินที่วิลล่าเวินฉวน!” ทำไมเฉินเกอจะดูไม่ออกว่าพวกเธอกำลังมองพวกเขาด้วยสายตาดูแคลน เมื่อเห็นหยางฮุยเป็นเสียแบบนี้ ใครจะมีกระจิตกระใจกินลง ทว่าอาหารที่ทำมาใหม่ๆยังคงทิ้งไว้อยู่เต็มโต๊ะ มันก็น่าเสียดายจริงๆ และพนักงานสาวรวมไปถึงคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆก็แทบจะหัวเราะเมื่อได้ยินเฉินเกอพูดประโยคแบบนั้นออกมาเมื่อกี้ “ไอ้หมอนี่คงไม่ใช่คนโง่ใช่ไหม?” “คิดว่าตัวเองเป็นใคร? กินอาหารมื้อเดียวก็จะห่อกลับ ทั้งยังคิดจะเอาไปกินที่วิลล่าเวินฉวนอีกหรือ?” “ไม่รู้หรือไงว่าที่วิลล่าเวินฉวนมีอาหาร และต้องจองโต๊ะกันทั้งนั้น? ฮ่าฮ่า..” “คิดว่ากลุ่มสาวๆเมื่อกี้ที่พวกเขาเลี้ยงข้าวโดนคนอื่นฉกไปแล้วล่ะสิ ก็เลยอยู่ที่นี่ไม่มีตัวตน นักศึกษาสมัยนี้เพื่อที่จะได้หน้า ก็ไม่สนแม้กระทั่งความน่าอับอาย รู้จักแต่โอ้อวด!” ผู้คนที่อยู่รอบๆเริ่มซุบซิบนินทา หยางฮุยและเพื่อนๆอดไม่ได้ที่จะเกาหัวของเขา เขาก้มหน้าไม่กล้าพูด พนักงานสาวกลอกตามองเฉินเกอ “อย่างนี้...คุณลูกค้าท่านไหนจะเป็นคนชำระค่าอาหารคะ?” “ฉันเองๆ!” หยางฮุยรีบพูด อย่าดูถูกโต๊ะนี้เพราะมีราคามากกว่า 800 หยวน เป็นค่าครองชีพของหยางฮุยกว่าครึ่งเดือน เฉินเกอหยิบถุงพลาสติกสองสามถุงและบรรจุอาหารที่นั่น สำหรับการเยาะเย้ยของผู้อื่น เขากลายเป็นคนหูหนวก! “ฮูฮูฮู...” ในขณะนี้มีเสียงรถหรูสามคันผ่านหน้าประตู และหยุดอยู่ตรงหน้าร้าน “ว้าว! รถสามคันนี้คือโรลส์-รอยซ์ แฟนทอมนี่นา!” “ให้ตายเถอะ ใครกัน สุดยอดจริงๆเลย! คันหนึ่งตั้งหลายสิบล้าน” \"มันไม่ใช่แค่รถที่เจ๋ง แต่ดูป้ายทะเบียนสิ!\" “รถทั้งสามคันนี้มีป้ายทะเบียนเป็นหมายเลขประจำเครื่องห้าหลักติดต่อกันสามตัวเลข 689” แค่ตัวเลขเพียงอย่างเดียวก็มีค่าถึงหนึ่งหรือสองล้าน! ในขณะนี้คนที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ในล็อบบี้ทั้งหมดก็มองออกไป แม้แต่พนักงานเสิร์ฟยังตกใจ หากเจ้าของรถมาทานอาหารที่ร้าน แล้วเธอรีบออกไปต้อนรับข้างหน้าจะได้รับความเอ็นดูหรือไม่? เธอรีบจัดแจงเสื้อผ้าตัวเอง จากนั้นก็สาวเท้าไปที่หน้าประตู เพื่อดูว่าจะมาทานอาหารที่ร้านหรือไม่ มีคนสามคนลงจากรถแยกกัน ทั้งสามคนนี้แต่งกายด้วยชุดสูทสีดำเป็นทางการ สวมแว่นกันแดดและชุดหูฟังสีดำ ดูเหมือนบอดี้การ์ดที่คอยคุ้มกันคนใหญ่คนโตในทีวี ออร่าแข็งแกร่งและเคร่งขรึม “คุณผู้ชายทั้งสามท่าน รบกวนขอถามหน่อยค่ะว่า...” พนักงานสาวสวยรีบไปต้อนรับ แต่ไม่ว่ายังไงพวกเขาทั้งสามก็ไม่แม้แต่จะชายตามอง และเดินตรงไปตรงหน้าเฉินเกอที่กำลังเก็บของ “คุณชายเฉิน!!!” ชายทั้งสามโค้งตัวเก้าสิบองศาและพูดด้วยความเคารพ “อะไรนะ? คุณชายเฉิน?” “คนโง่ที่พูดมากก่อนหน้านี้ พวกเขาเรียกเขาว่าคุณชายเฉินงั้นหรือ?” ทุกคนในล็อบบี้ตะลึง หยางฮุยและเพื่อนคนอื่นๆก็ตกตะลึงยิ่งกว่า นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมพี่เฉินถึงเจ๋งได้ขนาดนี้? ตอนนี้เฉินเกอแพ็คอาหารที่เหลือเสร็จแล้ว “เอาล่ะพี่ฮุย พวกเรานั่งรถไปวิลล่ากันเถอะ?” “คุณชายเฉิน ให้ผมช่วยถือของให้เถอะ!” บอดี้การ์ดหลายคนเดินเข้ามาและรีบถือของที่อยู่ในมือเฉินเกอ จากนั้นหยางฮุยและเพื่อนคนอื่นๆก็ออกไปพร้อมกับเฉินเกอราวกับว่าพวกเขากำลังฝันอยู่ “คุณชายเฉิน...เดินระวังครับ!” เมื่อเดินไปที่ประตู ใบหน้าของพนักงานสาวสวยก็หน้าซีดเผือด เธอรีบพูดอย่างนอบน้อม เฉินเกอได้แต่พยักหน้า ในเวลาเดียวกันหน้าก็แดงขึ้นเล็กน้อย เป็นเรื่องน่าอายจริงๆที่ถูกฝูงชนจ้องมอง! พวกเขารีบขึ้นไปบนรถหรูและมุ่งตรงไปยังวิลล่า ระหว่างทาง หยางฮุยถามเฉินเกออย่างอดไม่ได้ “พี่เฉิน นี่...นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เฉินเกอรู้สึกว่ายังเร็วเกินไป จึงพูดแค่ว่า “พี่ฮุย วันหลังฉันจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง แต่ตอนนี้นายแค่จำไว้ว่าพวกเราเป็นพี่น้องกัน เรื่องของนายก็คือเรื่องของฉัน วันนี้ฉันจะช่วยนายกู้หน้ากลับมาให้ได้!” หยางฮุยและพวกเพื่อนๆจึงไม่ถามอะไรมาก แต่ก็ยังคงพยักหน้าด้วยความประหลาดใจ! ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงวิลล่า เดิมทีคนขับรถเหล่านี้ได้รับมอบหมายให้พาเฉินเกอและพวกเพื่อนๆของเขาไปที่ห้องอาหารเพราะได้เตรียมกิจกรรมบันเทิงเอาไว้ให้อย่างดี แต่เฉินเกอเห็นว่าพวกหยางฮุยและบอดี้การ์ดยังอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ไม่สามารถผละตัวออกมาได้ จริงๆแล้วเฉินเกอเองก็ผละตัวออกมาไม่ได้เช่นกัน เมื่อมาถึงหน้าประตูก็ขอให้คนขับทิ้งพวกเขาไว้ที่นี่แล้วกลับไป และบอกว่าจะขอเที่ยวเล่นอย่างอิสระที่วิลล่าก่อนสักพัก จากนั้นค่อยไปกินข้าว! “ให้ตายเถอะ! พี่เฉิน นายมันเกินไปแล้ว นี่มันวิลล่าเลยนะ อยากเข้าก็เข้าได้!!” หลี่ปิน กำลังเดินเล่นรอบๆในวิลล่าและเขาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมเขา “แหะแหะ ฉันรู้จักกับผู้จัดการใหญ่ของที่นี่น่ะ! วันนี้พวกนายอยากเที่ยวอะไรก็เที่ยว! เที่ยวแบบไหนสนุกก็เที่ยวแบบนั้น!” เฉินเกอหัวเราะและพูด “อ๊า! ฉันเข้าใจแล้ว เสี่ยวเกอ นายรู้จักกับผู้จัดการใหญ่ของที่นี่ หรือว่าจะเป็นลูกสาวของคนที่นายช่วยไว้ และเพื่อเป็นการขอบคุณ ผู้จัดการใหญ่คนที่มอบบัตรช้อปปิ้งใบนั้นให้...” “มันก็ถือว่าเกี่ยวข้องอยู่บ้าง...” เนื่องจากบัตรพวกนี้ แท้ที่จริงแล้วพี่สาวให้หลี่เจิ้นกั๋วส่งมาให้เขา หยางฮุยและพวกเพื่อนๆต่างก็รู้ ตอนนี้จะเที่ยวเล่นอะไรๆก็ง่าย พื้นที่วิลล่าค่อนข้างกว้างใหญ่ครอบคลุมภูเขาเกือบครึ่งลูก แม้ว่าวิลล่าจะมีวิวทิวทัศน์โดยรอบที่สวยงามมาก แต่ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย จริงๆแล้วบ่อน้ำพุร้อนและพื้นที่รับประทานอาหารจะอยู่ในบริเวณจุดศูนย์กลาง เฉินเกอค่อนข้างคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ “พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ ไปกินข้าวก่อนแล้วค่อยไปแช่น้ำพุร้อน!” “ข้างในหรือ ฉันดูในเน็ตบอกว่ามีการเก็บค่าใช้จ่ายไม่ใช่หรือ ไม่อย่างงั้นไม่ให้เข้า?” หลี่ปินถามด้วยความแปลกใจ ความจริงได้เดินเล่นเที่ยวเล่นด้านนอกวิลล่า เขาก็พอใจแล้ว และรู้ดีว่าบริเวณรอบๆก็ไม่ใช่ใครที่จะสามารถเข้าได้ง่ายๆ “ไม่เป็นไร!” เฉินเกอหัวเราะ แม้ว่าพี่สาวจะเป็นคนเปิดวิลล่าแห่งนี้ แต่เขาก็ใช้บัตรประชาชนของเขา เป็นเรื่องธรรมดาที่จะผ่อนคลายในตอนนี้ และจากพื้นที่รอบนอกไปยังพื้นที่ข้างในจะต้องผ่านสะพานเล็กๆที่ดูแปลกตา ตอนที่เฉินเกอและเพื่อนๆเดินเข้ามาก็เห็นพวกจ้าวยีฟานกำลังถ่ายรูปกันอยู่ “พวกเธอดูนั่น นั่นมันพวกเฉินเกอนี่! พวกเขาเข้ามาได้อย่างไรกัน?” พอหลินเจียวเห็นก็เดินเข้ามาหาเฉินเกอและเพื่อนๆ ทั้งยังพูดด้วยความประหลาดใจ และในขณะนั้นจ้าวยีฟานกำลังสนทนากับจวงเฉียง เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเจียว เธอก็ถึงกับขมวดคิ้วและมองไปทางเฉินเกอกับเพื่อนๆ เป็นพวกเขาตามที่คาดไว้จริงๆ “พวกเขาเข้ามาได้อย่างไร?” จ้าวยีฟานตกใจเล็กน้อย
已经是最新一章了
加载中