ตอนที่ 6 ความหวัง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 6 ความหวัง
ตอนที่ 6 ความหวัง “อืม วันที่เขามาพวกเรากำลังออกไปฉลองกับรุ่นพี่กลุ่มหนึ่ง อีกอย่างถึงแม้ฉันกับเขาจะไม่ได้อยู่แผนกเดียวกัน แต่ก็อยู่โรงพยาบาลเดียวกัน แล้วเจอกันในห้องผ่าตัดเป็นบางครั้ง” ไต้หยูนถิงเล่าความจริงออกมา “ที่ไม่บอกฉัน กลัวว่าฉันจะคิดมากเหรอ” ไต้หยูนถิงยกมือสองข้างขึ้นไปโดยปริยาย เสี่ยวหนานคิดหนักกว่าเดิม เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อย “ฉันไม่อยากให้เขารู้เรื่องของหยังหยัง” “คุณกลัวว่าแม่ของเขาจะรู้เรื่องเหรอ” “แม่ของเขาคงไม่ปล่อยหยังหยังไปง่ายๆ ไม่ เธอโหดร้ายขนาดนั้น เธอต้องการจะเอาชีวิตของหยังหยัง” เสี่ยวหนานไม่กล้าจินตนาการเลยว่าถ้าถูกเวินฉุนหรูรู้ว่าหลานคนนี้ยังมีชีวิตอยู่มันจะเกิดอะไรขึ้น “คุณวางใจได้ เขาจะไม่รู้เรื่องนี้” ไต้หยูนถิงตอบอย่างมั่นใจมาก เสี่ยวหนานเงยหน้าขึ้นมามองเธอ “เขารู้ว่าคุณแต่งงานแล้ว และถ้าเขาเห็นหยังหยังก็คงคิดว่าหยังหยังเป็นลูกของฉัน” เสี่ยวหนานตะลึงงัน ความจริงคือเธอแต่งงานแล้ว ก็คือผู้ชายคนนี้ที่อยู่ข้างๆในเวลานี้ แต่พวกเขาก็หย่าร้างกันแล้ว อีกอย่างพวกเขาก็ไม่เคยทำเรื่องสามีภรรยาแบบนั้นเลยสักครั้งเดียว เหตุผลที่แต่งงานก็เพื่อทำให้ครอบครัวสมบูรณ์แก่เสี่ยวเซี่ยงหยัง “จริงๆแล้วพอมาคิดดูอีกที การปรากฏของตัวของเขาไม่แน่อาจจะเป็นความหวังใหม่ให้แก่หยังหยังก็ได้” “คุณหมายถึง......” ทันใดนั้นเสี่ยวหนานก็มีสติกลับมา สายตาเปล่งประกาย “ใช่ เขาเป็นพ่อแท้ๆของหยังหยังไขกระดูกของเขาน่าจะเข้ากับเขาได้ดีกว่าคนแปลกหน้า นี่คืออีกความหวังหนึ่ง” สายตาของเสี่ยวหนานก็เผยแสงแห่งความหวังออกมา ลุกขึ้นยืนจะเดินไปด้วยความตื่นเต้น “ฉันจะไปหาเขา” ไต้หยูนถิงรีบดึงเธอไว้ “เสี่ยวหนานคุณใจเย็นก่อน ฟังฉันพูดให้จบก่อน” “อีกไม่กี่วันนี้โรงพยาบาลของเราจะมีการตรวจสุขภาพตามปกติของโรงพยาบาล ถึงตอนนั้นแผนกโลหิตวิทยาจะรับผิดชอบตรวจเลือดของหมอทุกคน หลังจากนั้นฉันจะเอาเลือดของเขามาใช้กับเลือดของหยังหยังถ้าหากมันเข้ากันคุณค่อยไปหาเขาก็ยังไม่สาย” “ใช่ ใช่ๆ ดีเลย งั้นก็ดีเลย” เสี่ยวหนานตื่นเต้นจนพูดลิ้นพันกัน เธอจับมือของไต้หยูนถิงไว้แล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “หยูนถิงขอบคุณนะ ขอบคุณคุณจริงๆ คุณช่วยฉันตลอดเลย” เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ และก็เป็นหมอทำการรักษาเสี่ยวเซี่ยงหยังด้วย ถ้าไม่ได้เขาช่วยแม่ของพวกเขาถึงสองครั้ง ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะได้ช่วยเหลือกันและกันมาจนถึงตอนนี้ไหม ไม่ว่าจะเรื่องอาการป่วยของหยังหยังหรือเรื่องสภาพจิตใจของเธอ ไต้หยูนถิงตบลงไปที่ไหล่ของเธอ “คนกันเอง ไม่ต้องเกรงใจหรอก ยิ่งไปกว่านั้น ฉันเพียงแค่ทำหน้าที่ในฐานะเพื่อนที่ควรจะทำเท่านั้นเอง” ………… หลังจากน้องสาวพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล เสี่ยวหนานก็ยุ่งมากกว่าเดิม พอถึงสุดสัปดาห์ก็ไม่มีเวลาไปทำงานเสริม วิ่งเข้าๆออกๆในโรงพยาบาลทั้งวัน ตอนเช้าดูแลน้องสาว ตอนบ่ายดูแลลูกชาย “พี่ คุณยังไม่ได้บอกฉันเลย ว่าสรุปแล้วคุณคิดว่าคุณหมอจิ่ง คนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง”หยีซีโร่กำลังนอนอยู่บนเตียงโดยที่กินไปด้วยแล้วก็ถามหยีเสี่ยวหนานไปด้วย เสี่ยวหนานมือที่กำลังปอกส้มก็ชะงักไปหนึ่งวินาที “อะไรคือเป็นยังไง” ท่าทางของเธอนิ่งเฉย “ก็ในฐานะที่คุณเป็นพี่สะใภ้ไง” เสี่ยวหนานเงยหน้าขึ้นมา มองน้องสาวที่ยังไร้เดียงสาเล็กน้อย “ก็เฉยๆ” “พี่......”หยีซีโร่ทำปากแบบไม่พอใจ “ซีโร่ คุณรู้จักเขาดีงั้นเหรอ” มือของหยีเสี่ยวหนานที่กำลังถือส้มอยู่นั้น ก็วางลงบนโต๊ะหัวเตียงข้างๆ “คุณรู้ไหมว่าเขาเป็นคนยังไง แล้วภูมิหลังครอบครัวของเขารู้จักแค่ไหน ความรักไม่ใช่เกมเด็กเล่นนะ และก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิดด้วย คนสองคนอยู่ด้วยกัน สิ่งที่จะทำให้ยืนยาวก็คือคนที่มีฐานะเท่ากัน” “พี่ คุณอย่าเอาเรื่องอดีตของคุณมาพูดสอนฉัน มันไม่เหมือนความสัมพันธ์ที่คุณเคยพบเจอมา”หยีซีโร่ได้ยินน้ำเสียงที่เย็นชาของพี่สาว ขณะนั้นก็รู้สึกโกรธเล็กน้อย ใบหน้าขาวของเสี่ยวหนานสูดลมหายใจอย่างติดขัดเล็กน้อย “หยีซีโร่ฉันไม่สนว่าคุณจะคิดยังไง แต่คุณจะไปชอบผู้ชายคนนั้นไม่ได้” เธอจะไม่ให้น้องสาวของตัวเองเดินบนเส้นทางเดิมของตัวเองเด็ดขาด “นี่มันเป็นเรื่องของฉัน ไม่ว่าจะใครฉันก็ไม่สนทั้งนั้น”หยีซีโร่พูดด้วยความที่มีทิฐิสูง ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น “ปึงๆๆ......” ตอนนั้นห้องพักผู้ป่วยก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา ก็เห็นจิ่งอี้เซวียน ก้าวเท้าสองข้าง เดินเข้ามา แสงแดดสีทองก็สาดส่องเข้ามาจากด้านหลังของเขา มีเงาแค่คนเดียว เขายืนอยู่ตรงนั้น ท่าทางเย็นชาและโดดเดี่ยว เหมือนจะทำให้คนห่างออกไปหลายพันไมล์ “คุณหมอจิ่ง คุณมาได้จังหวะพอดีเลย” พอเห็นจิ่งอี้เซวียน ใบหน้ารูปไข่ที่ยังโกรธของหยีซีโร่ก็ยิ้มกว้างขึ้นมาทันที “ถ้าคุณไม่ปรากฏตัวขึ้นมา ฉันคงจะถูกพี่สาวของฉันฆ่าตายไปแล้ว” สีหน้าที่เรียบนิ่งของจิ่งอี้เซวียน มองไปทางหยีซีโร่ที่อยู่บนเตียง สายตาไม่ได้มองไปที่เสี่ยวหนานที่อยู่ข้างๆเลยสักนิดเดียว “วันนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง” เขาหยิบรายการการตรวจของหยีซีโร่ขึ้นมา แล้วรีบเบี่ยงประเด็นอย่างรวดเร็ว “ก็เป็นแบบนั้น ยังรู้สึกไม่ค่อยดี”หยีซีโร่เงยหน้า แสร้งทำเป็นไม่สบาย สายตาของจิ่งอี้เซวียน จ้องมองไปที่เธอ แล้วนำรายงานการตรวจกลับไปวางไว้ที่เดิม “สมองของคุณหายดีแล้ว ตอนบ่ายฉันจะส่งต่อให้คุณหมอหลิวแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อให้คุณ” “ห๊ะ”หยีซีโร่ตกใจ ตัวเองใช้เวลาหลายวันในการพักฟื้นสมอง ยังไม่ทันได้สารภาพรักกับเขาเลย ก็ถูกส่งต่อเร็วขนาดนี้ งั้นความเจ็บของตัวเองก็ไร้ประโยชน์งั้นสิ”
已经是最新一章了
加载中