ตอนที่ 16 ฉันต้องการเอาของของฉันคืน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 16 ฉันต้องการเอาของของฉันคืน
ตอนที่ 16 ฉันต้องการเอาของของฉันคืน “อืม คุณไปเถอะ วางใจได้ หยังหยังเป็นเด็กดีเชื่อฟังมาก มีอะไรจะเรียกพี่พยาบาลเป็นคนแรกเลย” เซี่ยงหยังแสดงความเป็นเด็กดีเชื่อฟัง เพราะเขารู้ว่าต่างหูนั่นมันสำคัญกับแม่มาก “ดีมาก.......” เสี่ยวหนานจูบไปที่หัวของหยังหยัง“ขอโทษนะ แม่จะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด” “ไปเถอะ” เสี่ยวเซี่ยงหยังขโมยจูบที่ริมฝีปากของแม่ เสี่ยวหนานพอออกมาจากโรงพยาบาล ก็ตรงไปที่ร้านอาหารเมื่อตอนเย็นนั่นทันที ยังดีตอนที่รีบไปถึงร้านยังไม่ได้ปิด “ขอโทษนะคะ เห็นต่างหูเพชรตกอยู่ที่ร้านอาหารของพวกคุณบ้างไหมคะ” เสี่ยวหนานยืนถามพนักงานเสิร์ฟอยู่ตรงเคาน์เตอร์ด้านหน้า “คุณ ใช่อันที่ใหญ่เท่านี้ไหม สีน้ำเงิน เหมือนสีของน้ำทะเล ใช่ไหม” พนักงานเสิร์ฟทำท่าเปรียบเทียบให้เสี่ยวหนาน “ใช่ๆๆๆ” เสี่ยวหนานยังมีความหวัง “อันนั้นแหละค่ะ อันนั้นแหละ เอามาคืนฉันหน่อยได้ไหมคะ มันสำคัญสำหรับฉันมาก” “แต่ว่า......” พนักงานเสิร์ฟรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย “ฉันเอาต่างหูนั่นของคุณไปให้คุณผู้ชายที่มาพร้อมกันกับคุณวันนี้ตอนบ่ายแล้ว เขาไม่ได้ติดต่อคุณเหรอ” เสี่ยวหนานตะลึงงัน รู้สึกแปลกๆเล็กน้อย “แบบนี้.....” “งั้น.....งั้นไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” เสี่ยวหนานออกมาจากร้านอาหาร สติยังคงอยู่ในภวังค์เล็กน้อย ลังเลอยู่นานว่าจะโทรหาจิ่งอี้เซวียน ดีไหม ทำไมต่างหูต้องถูกเขาเก็บไปด้วย แบบนี้เหมือนจะดีนะเสี่ยวหนานเกาหัวจนยุ่งไปหมด เธอเดินไปด้วย และก็ยังคงคิดว่าจะติดต่อเขาดีไหมไปด้วย พอเงยหน้ากลับพบว่าตัวเองนั้นไม่รู้ตัวเลย เดินมาถึงข้างล่างคอนโดของเขาแล้วเรียบร้อย เสี่ยวหนานหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดปุ่มหมายเลขทีละตัว จนถึงหลักสิบเอ็ด ตอนที่จะกดโทรออก ก็ถูกเธอลบไปหมด แล้วก็กดหมายเลขใหม่ แล้วก็ลบอีก “ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ” เสี่ยวหนานย่ำเท้าอย่างเศร้าใจ เธอกำลังคิดว่าตัวเองควรจะเลิกรู้สึกยึดติดดีไหม ตอนที่กำลังจะยอมแพ้ให้กับต่างหูนี้ จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้นมา เป็นสายของจิ่งอี้เซวียน ที่โทรเข้ามา เสี่ยวหนานตกใจ รีบหายใจให้สบายๆ แล้วถึงรับสาย “คุณมาทำอะไรอยู่ข้างล่างคอนโดของฉัน” จิ่งอี้เซวียน กดหน้าลงมองแล้วถามเธอ เสี่ยวหนานตะลึงงัน เงยหน้าขึ้นไปมอง ตามที่คิดไว้ ก็เห็นเงาของคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ริมหน้าต่างอยู่บนชั้นสอง ถึงแม้เธอจะเห็นใบหน้าของเขาไม่ชัดเจน แต่กลับรู้สึกถึงสายตากำลังจ้องมองเธออยู่ตลอด “ฉัน.....ฉันมาหาคุณเพื่อจะเอาของของฉันคืน” ตอนที่เสี่ยวหนานพูดอยู่นั้น ก็ยังคงมีความรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย “อะไร” จิ่งอี้เซวียน ถามอย่างเฉยเมย และเสียงก็เรียบนิ่ง เสี่ยวหนานสูดหายใจเข้าไปลึกๆ “ต่างหูของฉัน” “อันไหน” ในสาย น้ำเสียงของเขาเหมือนจะนิ่งขึ้นกว่าเดิม เสี่ยวหนานรู้ว่าเขาแกล้งทำเป็นโง่ “ก็อันที่พนักงานร้านอาหารยื่นให้คุณ” “สิ่งที่คุณพูดคืออันที่ฉันเคยให้คุณไว้ใช่ไหม” เสียงน่าหลงใหลของจิ่งอี้เซวียน ก็เข้มขึ้นมา แต่กลับยังคงทำให้เสี่ยวหนานฟังไม่ออกว่าอารมณ์ไหน “……” เสี่ยวหนานเงียบ มันคือความจริง ต่างหูนั่นเขาให้มา และก็เป็นของขวัญชิ้นแรกที่เขาให้ เสี่ยวหนานไม่รู้ว่าตัวเองทำไมยังมองของขวัญชิ้นนั้นสำคัญอยู่ เธอคิดว่าบางทีเป็นเพราะแค่มันติดตัวมาหลายปี ประมาณเพียงแค่ว่าเสียดาย ทิ้งมันไม่ลง “ถูกเมิ่งซีหยิบไปแล้ว” ทันใดนั้นเขาก็พูดออกมา เสี่ยวหนานตะลึงงัน เพียงครู่เดียวก็รู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย “ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ ของชิ้นนั้นมันเป็นของฉัน” เขามีสิทธิ์อะไรถึงเอาไปให้คนอื่นได้อย่างง่ายดายแบบนี้ เขาเคยถามความคิดเห็นของหยีเสี่ยวหนานบ้างไหม ตั้งแต่ครั้งแรกที่จิ่งอี้เซวียนเอาต่างหูชิ้นนั้นให้เธอ เธอก็เป็นเจ้าของของต่างหูนั้นแล้ว จิ่งอี้เซวียนไม่มีสิทธิ์ที่จะสิ่งของของเธอไปให้คนโน่นที คนนี้ที “เป็นฉันที่ให้คุณ” จิ่งอี้เซวียนพูดแก้ไขให้เธอ เสี่ยวหนานขมวดคิ้ว พยายามพูดให้เหตุผลกับเขา “คุณจิ่งในเมื่อคุณก็ให้ฉันแล้ว มันก็น่าจะชัดเจนมากอยู่แล้ว ว่าฉันเป็นเจ้าของต่างหูนั่น ดังนั้น คุณมีสิทธิ์อะไรถึงเอาสิ่งของของฉันไปให้คนอื่น คุณไม่คิดว่าที่คุณทำแบบนี้มันไม่ดูใจร้ายไปหน่อยเหรอ” “หยีเสี่ยวหนานในฐานะผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว คุณคิดว่าการแสดงออกที่ยึดติดกับต่างหูของคุณในตอนนี้มันดีแล้วเหรอ” จิ่งอี้เซวียน เหน็บแนมโดยที่ไม่แสดงความอ่อนแอออกมา การเผชิญหน้ากับคำถามที่เหน็บแหนมของเขา เสี่ยวหนานก็ไม่รู้ว่าควรตอบว่าอะไร “ของชิ้นนั้นมันมีมูลค่าสินะ คุณถึงได้ยังสนใจมันอยู่” จิ่งอี้เซวียน ถามขึ้นมาอีก น้ำเสียงดูเฉยเมยอยู่ไม่น้อย เพียงครู่เดียว อากาศก็เหมือนกับเต็มไปด้วยความรู้สึกอ้างว้างที่พูดไม่ออก กลืนกินหัวใจของเสี่ยวหนานเข้าไปทีละนิด ทีละนิด เธอเงียบอยู่นานมาก สุดท้ายจึงพูดขึ้นมาว่า “มันไม่ใช่เรื่องเงิน” ใช่ ต่างหูชิ้นนี้ บางทีอาจจะไม่มีค่าสำหรับเขาก็ได้ ตอนที่เขาให้เธอ เขาเคยบอกเธอว่า นี่คืออัญมณีที่เลือกมาจากเคาน์เตอร์แบรนด์ของ Swarovski มันเล็กมาก ดังนั้นจริงๆแล้วก็ไม่มีค่าอะไรมาก สองร้อยหยวนเท่านั้น “เพราะมันติดกับหูของฉันมาตลอด หกปี จนถึงตอนนี้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งที่งอกออกมาจากร่างกายของฉัน ถ้ามันหล่นหายไป ฉันก็จะรู้สึกไม่สบายใจ อีกอย่าง คงจะรู้สึกยากที่จะปรับตัว และรู้สึกเสียใจมาก......” เสี่ยวหนานก้มหน้า ถือโทรศัพท์มือถืออยู่ พูดจบก็ผ่านไปอย่างเงียบๆ
已经是最新一章了
加载中