บทที่3
รัญชิดากลับถึงบ้านเวลาบ่ายสองโมงกว่า เมื่อก้าวเข้ามาในบ้านก็เห็นว่าธนดลกำลังอุ้มบุตรชายอยู่ เจ้าตัวเล็กร้องไห้งอแงจนหน้าแดง เจ้าหล่อนจึงรีบเอาของไปเก็บและจัดการล้างไม้ล้างมือให้เรียบร้อย เพื่อที่จะออกมาอุ้มลูกน้อย แต่เมื่อออกมาก็เห็นว่าเจ้าตัวเล็กนั้นเงียบและหลับปุ๋ยไปแล้ว
ธนดลค่อยๆวางลูกน้อยไว้ในเปลเด็ก ก่อนจะหันมาทางแม่ของลูก
"ไปไหนมา!"
เขาถามเสียงขรึม เจ้าหล่อนเลือกที่จะเมินคำถามนั้นแล้วเดินเข้าไปหาลูกน้อย แต่กลับโดนมือหนากระชากแขนเต็มแรง เขาลากหล่อนให้ออกมาจากห้องของลูกก่อนจะต่อว่าหล่อน
"ผมถามไม่ได้ยินหรือไง"
"ธุระส่วนตัวค่ะ"
หล่อนตอบพร้อมกับสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเขาแต่ไม่เป็นผล
"ธุระกงการอะไร มันสำคัญกว่าลูกหรือไง ห๊ะ"
"ฉันก็ไม่ได้ทิ้งลูกไว้คนเดียวนี่คะ"
หล่อนเถียงกลับ
"แต่คุณฝากป้าแก้ว ลำพังแค่งานบ้านก็เยอะเกินพออยู่แล้วแต่คุณก็เลือกที่จะทิ้งหน้าที่ตัวเองให้ป้าแก้วแล้วตัวเองออกไปเที่ยวระรื่นหาความสุขให้ตัวเอง ทำตัวให้สมกับเป็นแม่คนหน่อยเถอะ!"
มือที่อยากจะยกขึ้นไปตบคนตรงหน้าได้แต่กำเข้าหากันแน่น เจ้าหล่อนรีบหมุนตัวหนีก่อนที่น้ำตาเม็ดโตจะร่วงลงมาประจานความอ้อนแอของตัวเอง
เสียงสมาร์ทโฟนของธนดลดังขึ้น เหมือนเสียงสวรรค์ที่ช่วยชีวิตหล่อนไว้ เพราะแน่นอนว่าเขาต้องเดินออกจากห้องนี้เพื่อรับมัน
"ว่าไงอร"
เขาเปลี่ยนน้ำเสียงดุขรึมเมื่อครู่เป็นสุขุมเมื่อต้องพูดกับใครอีกคน
ได้ยินเพียงแค่นี้ก่อนเสียงสนทนาจะค่อยๆเงียบไป
"ฉันว่าแล้วว่าต้องโดนคุณธันย์เอ็ด"
นางหวานว่าอย่างสะใจ
"ทำสำออยร้องไห้ คิดว่าตัวเองเล่นเป็นนางเอกMVอยู่หรือไงวะ ฮ่าฮ่าฮ่า"
สิ้นประโยคของจันทร์ เสียงหัวเราะของคนทั้งคู่ก็ดังขึ้น
"คุยอะไรกันอยู่ ฮึ"
"ก็คุยเรื่อง...ค..คุณผู้หญิง"
จันทร์กับหวานหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าใครที่เอ่ยถามเมื่อครู่
"นินทาเจ้านายเหรอแกสองคน เดี๋ยวเถอะ!"
คุณหญิงธัญญาเรศชี้หน้าสาวใช้ทั้งสองอย่างคาดโทษ ก่อนจะเดินเข้าไปหาลูกสะใภ้
"ตาธามหลับแล้วเหรอ"
รัญชิดารีบปาดน้ำตาออกจากใบหน้างามก่อนจะหันมายกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่า
"สวัสดีค่ะ หลับไปเมื่อครู่เองค่ะ"
คุณหญิงธัญญาเรศทำแค่เพียงพยักหน้ารับ
"ตาธันย์ล่ะ"
"ออกไปรับโทรศัพท์น่ะค่ะ"
หล่อนตอบ
"แล้วยังไงเรื่องหลานคนที่สองของฉัน หรือจะต้องให้ทำกิ๊ฟเหมือนคนแรกอีก"
คำถามของคุณหญิงธัญญาเรศทำให้รัญชิดาถึงกับน้ำท่วมปาก หล่อนก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงเหมือนกัน ความสัมพันธ์ของเขากับหล่อนตอนนี้คือแทบจะมองหน้ากันไม่ติด หล่อนมองไม่เห็นเลยว่าจะมีวิธีไหนดีไปกว่าการทำกิ๊ฟ
"ร..รุ้งยังไม่ได้คิดเรื่องนั้นค่ะ เพราะตาธามก็เพิ่งจะสามเดือนเอง"
หล่อนยกเอาเรื่องลูกมาอ้าง
"อืม คนที่สองน่ะฉันไม่อยากให้อายุห่าง
ตาธามมากเท่าไหร่ ไล่เลี่ยกันยิ่งดี เด็กๆจะได้ไม่เหงา"
เจ้าหล่อนก้มหน้าลงไม่ได้ตอบท่านอีก
"แล้วเธอคิดว่าไง"
"ก็ดีค่ะ"
หล่อนตอบเสียงเบา
คุณหญิงธัญญาเรศพยักหน้าตามความคิดเห็นของลูกสะใภ้ ก่อนจะเดินออกไป จริงๆนางก็ไม่ได้อยากได้รัญชิดามาเป็นลูกสะใภ้สักเท่าไหร่ เพราะรัญชิดานั้นเป็นคนที่ค่อนข้างหยิ่งทะนง งานบ้านงานเรือนไม่ได้เรื่อง ไม่มีคุณสมบัติของลูกสะใภ้ที่นางต้องการเลยสักนิด แต่เมื่อให้สัญญากับบิดาหล่อนไว้แล้วนางก็จะทำให้ได้ และมันคงจะดีกว่าผู้หญิงอีกคนที่บุตรชายนางหมายปองไว้ เมื่อเจ็ดปีก่อน เกิดวิกฤตใหญ่ เศรษฐกิจซบเซา ทำให้บริษัทหลายแห่งต้องปิดตัวลง และบริษัทนางกับสามีที่ช่วยกันก่อตั้งขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของคนทั้งคู่ก็เกือบจะต้องปิดตัวลง แต่ได้มือของบิดาเจ้าหล่อนเข้ามาช่วยดึงไว้ จึงยังทรงตัวได้และขยายกิจการจนเป็นที่รู้จักและขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน และข้อตอบแทนข้อเดียวที่บิดาของหล่อนขอคือให้ธนดลแต่งงานกับรัญชิดาและช่วยดูแลรัญชิดาต่อจากเขา