บทที่ 10   1/    
已经是第一章了
บทที่ 10
“ฉันไม่สนใจว่าแฟนเธอจะทำยังไง ท่าไหนกับเธอ ตราบใดที่เธออยู่กับฉัน เธอห้ามยุ่งกับผู้ชายหน้าไหนเด็ดขาด ถ้าฉันรู้ฉันจะฆ่ามันแล้วก็จะจองล้างจองผลาญตระกูลของเธอทุกคนจำไว้ แล้วถ้าเธอไม่ยอมฉันดีๆ รับรองได้เลยว่าพรุ่งนี้ ญาติโกโหติกาของเธอจะอยู่ในอุ้งมือของฉัน” พูดจบมือหนาก็กระชากกางเกงผ้ายืดสีดำสีสวยของเธออย่างแรงหลายครั้งจนมันขาดติดมือ ตามด้วยอันเดอร์แวร์สีฟ้าอ่อนที่ถูกกระชากเพียงครั้งเดียว ณิชาไร้เรี่ยวแรงต่อสู้เมื่อได้ยินคำพูดของเขา มันเป็นคำพูดที่กรีดลึกลงไปในหัวใจ เจ็บร้าวระบมจนเธออยากจะกลั้นใจตาย ตั้งแต่นี้ต่อไปสามปีมีเพียงคำพูดเดียวที่เธอต้องจำให้ขึ้นใจ คือทนกับทนเท่านั้น เรียวขางามถูกแยกออกด้วยขาอันแข็งแกร่งของเขา ก่อนจะสอดแทรกความเป็นตัวตนของเขาเข้าหาใจกลางร่างกายเธออย่างแรง โดยไม่สนใจว่าร่างสาวจะพร้อมสำหรับกามกิจหรือไม่ ดันครั้งเดียวจนสุดความรู้สึกของรัฐกฤตญ์เหมือนอยู่ท่ามกลางแรงรัดที่มีพลังอย่างมหาศาล ทั้งบีบรัดจนเขารู้สึกเจ็บไปหมด ความฟิตแน่นและเยื่อพรหมจรรย์ที่เขาเพิ่งกระชากขาดทำให้รัฐกฤตญ์รู้ว่า...เธอบริสุทธิ์ “กรี๊ดดดดดดด” เสียงกรีดร้องแสดงความเจ็บปวดของณิชาเปล่งออกมาพร้อมกับน้ำตาที่รินไหล หลังจากที่สูญเสียสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตสาวให้กับคนที่ไม่มีหัวใจอย่างเขา หยาดน้ำตาของณิชาไม่ได้ทำให้เขาชะงักการกระทำอันป่าเถื่อนของเขาเลย “ฉันถามเธอแล้วนะ เธอดันตอบคำถามโง่ๆ ออกมาเองเพราะฉะนั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องอ่อนโยนกับเธอ” คำพูดที่ไม่แสดงความรู้สึกผิดของรัฐกฤตญ์ ทำให้หัวใจของเธอร้าวราน รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองสูญเสียไปรำพันอยู่ในใจว่า ‘พี่พล...ณิชาขอโทษ’ แรงเคลื่อนไหวและแรงถาโถมของรัฐกฤตญ์สร้างความเจ็บปวดมากกว่าสุขสมให้กับณิชา ร่างของเธอแทบแยกออกจากกันเป็นเสี่ยงๆ แรงกระแทกเข้ามาจะรุนแรงมากเป็นสองเท่าทุกครั้งที่ขยับการเข้าและออก รัฐกฤตญ์ไม่สนใจว่าคนที่อยู่ใต้ร่างจะเจ็บปวดมากแค่ไหนเขาต้องการสั่งสอนคนที่กล้าลองดีกับเขา ให้รับรู้และจดจำไว้ว่าคิดผิดที่คิดจะมาท้าทายคนอย่างรัฐกฤตญ์ เวลาผ่านไปสักครู่ความเจ็บปวดคราแรกจางหาย ความรู้สึกใหม่ที่เขามาทดแทนเริ่มตีขึ้นมาเป็นระลอกคลื่น ยิ่งเขาอ้าอมปลายถันและไล้เลียด้วยลิ้นสาก ความสยิวซ่านประดังเข้ามาดั่งสายน้ำที่เชี่ยวกราก วนว่ายเข้าสู่ร่างสาวอย่างต่อเนื่อง “อา...อืม” เธอยังคงปล่อยเสียงครางที่อัดแน่นไปด้วยความซ่านเสียวและความเจ็บปวดที่ควบคู่กันมาตลอดระยะเวลาที่เขาออกแรงโยกกาย ถาโถมเข้าสาดซัดไม่สนใจว่าเธอยังใหม่กับกิจกรรมที่เขากำลังบรรเลงอยู่ “โอว...แน่นสุดๆ” รัฐกฤตญ์ปล่อยเสียงครางด้วยความเสียวทุกครั้งที่เขาขยับกายเข้าใส่สาวใต้ร่าง เสือกกายด้วยความรุนแรงและหนักหน่วง บางครั้งบี้บดจุดที่เชื่อมต่อ สร้างลาวาแห่งความกระสันให้เกิดขึ้นได้อย่างไม่ยาก ปากหนากลืนกินเม็ดถันที่สวยถูกใจ ณิชารู้สึกเหมือนว่าตนเองกลายเป็นพลุไฟที่ถูกจุดให้ขึ้นไปบนฟากฟ้า ก่อนที่จะแตกกระจายเป็นสะเก็ดไฟสว่างไสวสวยงามเต้มฟ้าแล้วจากนั้นก็ล่วงลงสู่พื้นดิน เสียวสะท้านยามที่ลอยละลิ่วพุ่งดิ่งลงสู่ธรณีเบื้องล่าง ณิชาบิดตัวส่ายสะบัด สะโพกงามค่อยๆ ขยับสูง รับแรงจังหวะที่เขาอัดเข้าใส่ “อืม...อ๊า กรี๊ดดดดด” เสียงครางยาวดังมาก่อน ก่อนที่เสียงกรีดร้องจะตามมา ระบายความกระสันที่เธอค้นพบ...ค้นพบกับความสุขที่เขาเป็นผู้หยิบยื่นให้ แรงตอดรัดภายในกลีบดอกไม้สดทำให้ความอดทนและอดกลั้นของรัฐกฤตญ์พังทลายลง เขาเพิ่มแรงกระแทกเข้าหาร่างของเธอสามสี่ครั้ง พร้อมทั้งส่งเสียงครางดังลั่นห้องแยกไม่ออกว่าเป็นเสียงใคร “โอว...อา” ร่างของเขาสั่นเทิ้มอยู่บนร่างของณิชาปลดปล่อยสายธารน้ำอุ่นๆ เข้าใส่ร่างของเธอจนหมดสิ้น ใบหน้าซุกซบอยู่ที่ทรวงอกของชื้นเหงื่อของเธอ ลมหายใจของทั้งคู่หอบระรัวเหมือนดั่งคนวิ่งร้อยเมตร เขาผงกศีรษะมองใบหน้าหวานสวยที่บวมช้ำด้วยฝีมือของเขาเอง ใช้ฝ่ามือลูบไล้ไปที่หน้าอกของเธอเบาๆ เสมือนสิ่งที่เขากำลังจับต้องเป็นของเล่นชิ้นใหม่ที่ถูกใจก็ไม่ปาน “เธอคงไม่มีอะไรเหลือไว้ให้ไอ้พลอีกแล้วแหละ” คำพูดเชือดเฉือนของรัฐกฤตญ์ทำให้ดวงตาคู่สวยของเธอเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาและไหลรินลงมาเงียบๆ ที่หางตา “พี่พลเขาไม่สนใจหรอกว่าฉันจะเหลือหรือไม่เหลืออะไรให้เขา...เขารักฉันเพราะฉันเป็นฉัน...ไม่ได้รักในสิ่งที่คุณพรากมันไป” ณิชาพูดออกไปยังไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่า ธนาพลจะยอมรับในตัวเธอได้ไหม แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้สึกได้ในตอนนี้ก็คือ เธอคงแบกหน้าไปหาธนาพลไม่ได้อีกแล้ว คาวราคีที่เปดเปื้อนตกข้างอยู่ในเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนให้ณิชาได้รู้ว่า ธนาพลกับเธอจะไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว รัฐกฤตญ์มองหน้าณิชาด้วยดวงตาที่ดุกร้าว แค้นเคืองผู้หญิงคนนี้ที่ไม่เคยอ่อนให้เขาเลย ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การกระทำ ต้องต่อล้อต่อเถียงกับเขาตลอดเวลา ตั้งแต่เกิดมาจนเขาอายุสามสิบห้าปี ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าทำกับเขาอย่างนี้มาก่อน “งั้นเหรอ ก็ดีที่เธอคิดได้แบบนี้เพราะเธอต้องถูกใช้งานนานถึงสามปี...รับรองฝีมือเธอดีไม่แพ้โสเภณีมืออาชีพแน่นอนเพราะได้ครูดีอย่างฉัน” รัฐกฤตญ์ประกบริมฝีปากของณิชาทันทีที่พูดจบ โดยที่เธอไม่สามารถขัดขืนได้เลยแม้แต่น้อยเพราะคำพูดที่เขากระซิบที่ข้างหู มันย้ำให้เธอต้องทนและจำยอม ‘ถ้าเธอขัดใจฉันไม่ยอมทำตามที่ฉันต้องการ ต่อล้อต่อเถียงกับฉัน รับรองเธอได้เห็นพ่อกับน้องสาวของเธอตายทั้งเป็นแน่นอน’ ณิชาปล่อยให้รัฐกฤตญ์หาความสุขจากร่างกายของเธอตามแต่ใจเขาปรารถนา เขาไม่หยุดไม่พักและกระทำต่อเธอด้วยความรุนแรง โดยไม่นึกถึงจิตใจและร่างกายของเธอ จนกระทั่งลำแสงของรุ่งอรุณโผล่พ้นขอบฟ้า เขาถึงยอมผละจากร่างสาวบอบช้ำ มือหนาแกะเนคไทที่พันธนาการเธอไว้ให้เป็นอิสระแล้วเดินออกไปจากห้องโดยไม่หันหลังกลับมามองเธอเลยสักนิดเดียว ณิชานอนร้องไห้เงียบๆ หลังจากที่เจ้าของห้องชุดเดินออกไปจากห้อง ความโหดร้ายที่เขากระทำต่อเธอมันฝังแน่นในจิตใจ มือบางกำผ้าห่มที่ใช้คลุมร่างกายเอาไว้แน่น นึกรังเกียจตัวเองที่แปดเปื้อน เป็นผู้หญิงสกปรกนอนกับผู้ชายที่ไม่เคยรู้จัก ไม่นึกรังเกียจสัมผัสของเขายามที่เขาแตะต้องร่างสาว ปากและใจบอกว่าไม่ต้องการ ทว่าร่างกายกลับทรยศตอบสนองเขาโดยที่เธอไม่รู้ตัว ณิชายอมรับว่าเขาทำให้เธอได้พบกับความสุขที่เธอไม่รู้จัก ความสุขที่ไม่เคยมีชายคนไหนสามารถพาเธอเดินทางไปถึงได้ แม้แต่ธนาพลคนรักของเธอเพราะบางครั้งความรู้สึกบางอย่างก็วิ่งเข้ามาในจิตใจบอกกับเธอเสมอว่า ธนาพลไม่ใช่บทสรุปของชีวิตคู่ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อธนาพลคืออะไร ความผู้พัน ความดีหรือว่าความรัก สักวันหนึ่งคงจะได้พบคำตอบนั้นก็เป็นได้ ธนาพลเดินออกมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากที่สะสางงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จก่อนกำหนด เขาตั้งใจเดินทางกลับมาเงียบๆ โดยไม่บอกใครเพราะต้องการจะให้ณิชาคนรักของเขาแปลกใจ ชายคนเดิมเดินทางกลับมาที่บ้านพักของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อเก็บสัมภาระ ก่อนจะขับรถยนต์คันเก่งไปหาณิชาที่คุ้มพระจันทร์ ระหว่างทางที่ขับรถไปตามท้องถนนนั้น ธนาพลพยายามติดต่อณิชาทางโทรศัพท์ แต่ไม่มีใครรับสาย ‘ณิชาทำอะไรอยู่นะทำไมถึงไม่รับสาย’ ธนาพลพึมพำในใจแต่คิดในทางที่ดีว่า คนที่เขาโทรไปหาอาจจะลืมโทรศัพท์ไว้ในห้องไม่ได้พกติดตัวไปด้วย แต่หารู้ไม่ว่าโทรศัพท์ของณิชาไปอยู่ในมือของคนที่ไม่ควรอยู่ เวลาเดียวกันแต่แตกต่างกันที่สถานที่ รัฐกฤตญ์มองดูโทรศัพท์เครื่องเล็กของณิชาที่เขาหยิบติดมือมาด้วย หลังจากที่เจอมันในห้องนอนของเธอ สายตาดุๆ มองดูชื่อที่ติดต่อเข้ามาหาแล้วทำหน้าเบ้ ไม่คิดที่จะหยิบมันขึ้นมาแล้วกดรับสาย แต่เลือกที่จะปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้น นับคร่าวๆ ก็ร่วมสามสิบครั้ง ‘โทรให้มือหงิกนิ้วกุด...ณิชาก็ไม่มีวันรับโทรศัพท์ของมึงหรอก’ รัฐกฤตญ์พูดกับโทรศัพท์ที่ยังคงมีสายเรียกเข้าอยู่ และเดินออกไปจากห้องทำงานเพื่อเข้าประชุมใหญ่ประจำปีโดยไม่สนใจโทรศัพท์เครื่องนั้นอีกเลย
已经是最新一章了
加载中