บทที่ 4
หลังจากที่วีนัสเดินออกมาจากบริษัทของลูกค้า เธอก็โทรศัพท์ไปหาคุณนัทเพื่อที่จะแจ้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เขาทราบ
“คุณนัทคะวีเองนะคะ”
“คุณวีว่าไงพรีเซ้นท์งานเป็นยังไงบ้าง ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม” แต่ลูกน้องของเขาตอบกลับมาว่า
“ก็นี่ล่ะค่ะคือสาเหตุที่ทำให้วีโทรมาหาบอส วีจะไม่ทำงานนี้แล้วนะคะ วีจะไม่ทนทำงานกะนายขี้แอ๊คเป็นเด็ดขาด” วีนัสบอกเจ้านายของตนเองด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดไม่หาย นัทรับฟังลูกน้องของเขาด้วยความงุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก ปกติหญิงสาวไม่ใช่คนแบบนี้ถึงเธอจะเป็นคนใจร้อน แต่เธอไม่ใช่คนที่จะใช้อารมณ์ในการทำงาน เขาได้แต่บอกเธอให้ใจเย็น ๆ มีอะไรให้กลับมาคุยกันที่บริษัทก่อน อย่าเพิ่งใจร้อนแต่เธอปฏิเสธ
“บ่ายนี้วีจะไม่เข้าบริษัทนะคะ แล้วพรุ่งนี้วีจะเข้าไปรายงานให้บอสทราบเรื่องราวทั้งหมดเองค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะสวัสดีค่ะ” แล้วเธอก็วางสายสร้างความงุนงงให้กับคุณนัทบอสใหญ่ของเธอมิใช่น้อย หลังจากที่วีนัสวางสายเธอก็ใช้เวลาตลอดบ่าย ให้หมดไปกับการเดินเล่นบนถนนใจกลางเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ก่อนที่จะแวะเข้าไปดูหนังเพียงคนเดียวในห้างสรรพสินค้าแห่งนั้น เป็นการแก้เซ็งกับเหตุการณ์ที่เธอเจอมาเมื่อเช้านี้
“บ้าที่สุดเลยนายจองมิน นายมีสิทธิอะไรมาวิจารณ์งานของฉันว่ามันไม่ได้เรื่อง หวังว่าฉันคงจะไม่ต้องเจอะเจอกับคนอย่างนายอีกเลยตลอดทั้งชาติ” เมื่อหญิงสาวดูหนังจบเธอก็โทรศัพท์ไปชวนนภผู้ช่วยมือขวาออกมาเที่ยวผับหรูชื่อดังย่านสุขุมวิท
วีนัสเรียกลูกน้องของเธอเมื่อมองเห็นเขาเดินเข้ามาในผับ “นภทางนี้วันนี้วันศุกร์คนเยอะเป็นบ้าเลย” หนุ่มรุ่นน้องเดินมานั่งตรงข้าม
“จะดื่มอะไรก็สั่งนะเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” นภหันไปสั่งเครื่องดื่มที่เขาต้องการ แล้วก็หันมานั่งจ้องหน้าวีนัส
“จ้องหน้าพี่ทำไม” เธอถามเขา
“ก็พี่วีน่ะสิวันนี้ดูแปลก ๆ อยู่นะที่ชวนผมมาดื่ม ปกติพี่วีไม่ค่อยจะชอบเที่ยวในสถานที่แบบนี้ไม่ใช่เหรอ”
“วันนี้มันเซ็งเพราะเจอแต่คนน่าเบื่อ” เธอตอบหลังจากนั้นก็หันไปดื่มเครื่องดื่มของตนเอง
“จริงสิพี่วีงานวันนี้เป็นไงเรียบร้อยดีใช่ไหม ผมไม่น่าถามคำถามนี้กับพี่เลยนะฝีมือพี่วีซะอย่าง”
“อย่าพูดเรื่องนี้ได้ไหมออกไปเต้นรำกันดีกว่า” เธอหันไปชวนหนุ่มรุ่นน้องแต่เขากลับส่ายหน้าปฏิเสธ
“พี่วีก็รู้ว่าผมไม่ชอบออกไปเต้นแร้งเต้นกา ผมขอนั่งดื่มตรงนี้จะดีกว่า”
“ตามใจเธอฉันออกไปเต้นคนเดียวก็ได้” ตลอดเวลาที่วีนัสออกไปวาดลวดลายการเต้นอยู่นั้นกลับมีชายหนุ่มอีกคนนั่งมองเธออย่างไม่วางตา ยองซูสะกิดจองมินให้ดูสาวที่เต้นอยู่ที่ฟอร์เต้นรำอย่างสนุกสนานว่าจะใช่คนเดียวกับวีนัสหรือเปล่า เขาเพ่งสายตามองไปยังทิศทางที่พี่ยองซูบอกก่อนจะตอบ
“ใช่เต้นเก่งเหมือนกันนะ...เดี๋ยวผมมา” พูดจบเขาก็เดินตรงไปเต้นใกล้ ๆ วีนัส เขาเต้นแบบถึงเนื้อถึงตัว ตอนแรกเธอเองก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่าคืนนี้คนเยอะก็เลยมีการชนกันบ้าง แต่เอ๊ะ!!! ทำไมถึงชนบ่อยขนาดนี้ ทำให้วีนัสหันกลับไปมองและเธอก็พบจองมินเข้าพอดี ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรกัน ดีเจก็เปลี่ยนจังหวะของเพลงมาเป็นเพลงจังหวะสโลว์ ชายหนุ่มใช้ความไวดึงตัวเธอเข้ามาเต้นคู่กับเขาอย่างแนบชิด ชนิดที่ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปฏิเสธ
“นี่คุณทำอะไรปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” เขาพูดกับเธอด้วยรอยยิ้มนัยน์ตาแพรวพราว
“ก็เต้นรำไงไม่เห็นต้องถามเลย” นอกจากเขาจะไม่ปล่อยเธอแล้ว เขายังกอดเธอซะแน่นไม่ให้เธอดิ้นหลุดไปได้อีกด้วย
“ฉันบอกให้ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”วีนัสพูดออกมาด้วยความโกรธ
“ผมไม่ปล่อย” เมื่อหญิงสาวได้ยินเช่นนั้นก็เหยียบเท้าของเขาอย่างแรง ทำให้เขาสะดุ้งปล่อยมือจากเอวของอีกฝ่าย วีนัสรีบเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะตามเดิม เมื่อกลับไปที่โต๊ะนภบอกกับเธอว่าเขาขอตัวกลับก่อน เพราะแฟนของเขาโทรมาบอกว่าไม่ค่อยสบาย อีกทั้งยังชักชวนให้เธอกลับพร้อมกันแต่หญิงสาวปฏิเสธ
“นายกลับไปก่อนละกันพี่จะอยู่ต่ออีกหน่อย อีกสักพักก็จะกลับเหมือนกันแล้วเจอกันที่บริษัท”
“ผมขอตัวก่อนนะครับ...พี่วีเองก็เหมือนกันอย่าดื่มให้มากนัก เพราะพี่ดื่มไม่เก่งและเมาง่ายกลับบ้าน
ดี ๆ นะครับ ระวังตัวด้วยมีอะไรก็โทรหาผมนะ”
“อืมนายไม่ต้องเป็นห่วงพี่จะระวังตัว” เธอนั่งดื่มคนเดียวด้วยความเซ็ง ในขณะที่จองมินเองก็เดินขากระเผลกกลับมาที่โต๊ะ ยองซูหัวเราะท่าเดินของจองมิน
“นั่นไปโดนใครทำอะไรมาล่ะถึงได้เดินกระเผลกกลับมาแบบนี้”
“จะเป็นฝีมือใครถ้าไม่ใช่วีนัสสาวสวยฝีปากกล้าคนนั้น หึหึ...พิษสงเยอะจริง...ดีแบบนี้ค่อยน่าสนใจหน่อย” จากนั้นพวกเขาก็ดื่มกันต่อ แต่จองมินยังคงมองไปที่วีนัสไม่วางตา เพราะตอนนี้เธอนั่งดื่มอยู่เพียงลำพังและท่าทางเธอคงจะเริ่มเมาแล้ว แถมยังมีผู้ชายมาเกาะแกะแทะโลมเธออีกด้วย เขาเห็นดังนั้นก็หันไปบอกให้พี่ยองซูรีบชำระเงินรวมโต๊ะของวีนัสด้วย และให้ไปเตรียมรถไว้เดี๋ยวเขาจะตามออกไป จากนั้นเขาก็เดินไปที่โต๊ะที่วีนัสนั่งอยู่ โดยมีผู้ชายอีกสองคนที่เข้ามาเกาะแกะเธอนั่งอยู่ด้วยในขณะนั้น
“พวกคุณปล่อยมือจากแฟนผมเดี๋ยวนี้”
“มีแฟนแล้วก็ไม่บอกนึกว่ามาคนเดียวซะอีกน่าเสียดาย” พูดจบพวกเขาก็เดินจากไป จองมินหันมามองหญิงสาวที่ตนพึงพอใจแล้วก็ส่ายหน้า
“ดูสภาพเข้าสิเมาจนจะประคองสติไม่อยู่ ดื่มไม่เป็นแล้วยังจะริดื่ม” วีนัสลุกขึ้นยืนโงนเงนตรงหน้าเขา “ครายยบอกนายว่าฉันมาววฉันยังดื่มได้อีกเยอะ อีกอย่างฉันจะเมาไม่มาววมันก็เรื่องของฉันนายมาเกี่ยวอะไรด้วยห๊า...ออกไปห่าง ๆ เลย ไม่รู้หรือไงว่าฉันเบื่อและเกลียดขี้หน้านายจะตายอยู่แล้ว” เธอพูดพร้อมกะผลักเขาด้วยแรงทั้งหมดที่เธอมีอยู่ในขณะนั้น แต่มันกลับกลายเป็นว่าเธอตกไปอยู่ในวงแขนแข็งแรงของเขาแทน จากนั้นเขาก็ทั้งดึงทั้งโอบร่างบางออกไปขึ้นรถที่พี่ยองซูเอามาจอดรอ จองมินจับเธอขึ้นไปนั่งบนรถก่อนที่เขาจะตามขึ้นไปนั่งข้างตัวเธอ วีนัสโวยวายเสียงดังใส่เขา
“นายจะพาฉันไปไหนปล่อยฉันลงไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะจัดการนายให้สาสมเลย”
“คุณจัดการตัวคุณเองให้รอดซะก่อนเถอะ เมาจนพูดจากันไม่รู้เรื่องจะเอาแรงที่ไหนมาจัดการผม ดื่มไม่เก่งแล้วยังจะริดื่มเข้าไปอีก” พูดจบเขาก็หันไปมองว่าทำไมเสียงเธอถึงเงียบไป ที่แท้ก็หลับไปแล้วนั่นเอง เขาเอามือไปปัดผมที่หล่นลงมาปรกที่หน้าของเธอ ยองซูชะโงกหน้าเข้ามาถามจองมิน
“ทีนี้จะเอายังไงหลับไปซะละ” เขาใช้ความคิดอยู่สักครู่ก็ตัดสินใจบอกกลับไปว่า
“กลับไปที่โรงแรมก่อนละกัน”
“นายอย่าบอกนะว่าจะเอาเธอไปที่ห้องของนาย นักข่าวเยอะแยะไปหมดนายคิดที่จะทำอะไรของนายกันแน่” จองมินไม่สนใจคำเตือนของอีกฝ่าย และยังคงดึงดันที่จะเอาหญิงสาวขึ้นไปบนห้องพักด้วย อีกทั้งยังขอความร่วมมือจากพี่ยองซู
“แล้วพี่จะให้ผมทำยังไงจะให้ทิ้งเธอไว้ที่นี่น่ะเหรอ เมื่อกี้ถ้าผมเข้าไปช่วยไว้ไม่ทันคงโดนไอ้สองคนนั่นพาขึ้นสวรรค์ไปแล้ว มาถึงขั้นนี้แล้วพี่ก็ช่วยกันหน่อยละกัน ถือซะว่าเห็นแก่ผู้หญิงคนหนึ่ง” ยองซูถอนหายใจ
“เออดีนายทำแต่เรื่องดี ๆ ทั้งนั้นเลย แล้วอย่าลืมเตือนตัวเองด้วยก็ละกันว่าคุณวีเขาไม่ใช่ผู้หญิง ที่เสือผู้หญิงอย่างนายควรจะเข้าไปยุ่งเข้าใจไว้ด้วย แล้วเดี๋ยวฉันจะช่วยกันนักข่าวไว้ให้ก็ละกัน ส่วนนายก็พาเธอขึ้นไปตรงทางที่เราออกมาเมื่อตอนเย็น”
“ขอบคุณครับพี่ยองซู” จองมินยิ้มอย่างพอใจ หลังจากนั้นเขาก็พาวีนัสขึ้นไปบนห้องพักของเขา