บทที่ 5
ศิรินทราออกมาหน้าร้านอีกครั้ง ก็พบเพียงบุตรสาวนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารแต่เพียงลำพัง เธอจึงเดินไปนั่งข้างตัวศิศิรา
“คุณอัทธ์กลับไปแล้วเหรอลูก”
“กลับไปแล้วค่ะ”
“เขามาคุยอะไรกับซิน”
“ก็เป็นไปอย่างที่เราคาดไว้นั่นล่ะค่ะ เขามาขอให้ซินยกเลิกการแต่งงาน”
“แล้วลูกตอบคุณอัทธ์ไปว่ายังไง”
“ก็ตอบไปว่าถ้าเขาไม่อยากแต่งงานกับซินก็ให้เขาไปบอกกับผู้ใหญ่เอง เขาก็เลยโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงกลับไปค่ะ”
ศิรินทรายิ้มอย่างอ่อนโยน เมื่อนึกถึงท่าทางของอัทธวีร์ยามเมื่อเขาโดนขัดใจ
“มันจะไปกันรอดเหรอคะแม่ ในเมื่อเราสองคนจำใจต้องแต่งงานทั้งที่ไม่ได้รักกัน”
“ความรักเพียงอย่างเดียวไม่สามารถประคับประคองชีวิตคู่ ให้อยู่กันอย่างราบรื่นตลอดรอดฝั่งได้หรอกซิน ความเข้าใจและการให้อภัย รวมถึงการร่วมทุกข์ร่วมสุขของสามีภรรยาต่างหาก ที่จะทำให้ชีวิตคู่อยู่กันได้อย่างมีความสุข เชื่อแม่นะสุดท้ายแล้วความผูกพันจะทำให้ซินรักคุณอัทธ์ได้ไม่ยาก”
“แม่เชื่อแบบนั้นจริงๆ เหรอคะ”
“ใช่”
“ซินไม่มั่นใจเลยว่าจะอยู่ร่วมกับเขาได้อย่างมีความสุข โดยไม่ฆ่าฟันกันตายไปข้างหนึ่งได้อย่างไร”
“คุณอัทธ์ไม่ใช่คนเลวร้าย เขาเกิดและเติบโตมาท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่น ฉะนั้นแล้วแม่มั่นใจว่าเขาจะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีได้”
“มันคงเป็นอย่างที่แม่พูดถ้าเขาเต็มใจที่จะแต่งงาน ไม่ใช่ถูกบังคับให้แต่ง ซินค่อนข้างมั่นใจว่าเราจะไปกันไม่รอด เพราะซินไม่ได้รักเขาและเขาก็ไม่ได้รักซิน เขาไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับซินด้วยซ้ำ แถมยังประกาศชัดเจนว่าไม่อยากได้ซินเป็นเมีย”
“ถ้าได้แต่งงานกับคนที่เรารักก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่นั่นไม่ได้มีอะไรมาการันตีว่าชีวิตคู่จะไปกันได้ด้วยดีเสมอไป มีตัวอย่างให้เห็นตั้งหลายคู่ว่าแต่งงานเพราะความรักสุกงอม แต่อยู่ด้วยกันได้ไม่นานก็ต้องเลิกรากัน”
“จริงของแม่ค่ะ”
บทที่ 3
หลังจากวันนั้นอัทธวีร์ก็เริ่มต้นควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า คู่เดทของเขาแต่ละคนล้วนแล้วแต่มีความสวยที่โดดเด่น มีทั้งนางแบบ นางงาม ไม่เว้นแม้แต่นางเอกที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ เขาเที่ยวหัวราน้ำโดยไม่เกรงใจศิศิรา เพื่อให้อีกฝ่ายเกิดความเอือมระอาในตัวเขาจนเป็นเหตุให้เธอไปขอยกเลิกการแต่งงาน
แต่เธอกลับไม่สะทกสะท้านและยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิมตามปกติ
และนั่นยิ่งทำให้อัทธวีร์ทำตัวเสเพลหนักขึ้นไปอีก เขาออกเที่ยวแทบทุกคืนและเปลี่ยนคู่ควงบ่อยราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า
คืนนี้ก็เช่นกัน!!
ขณะที่เขากำลังนั่งดื่มสายตาก็หันไปเห็นใครบางคนที่หน้าตาคล้ายกับศิศิรา ตอนแรกก็คิดว่าคนหน้าเหมือนแต่มองให้ชัดอีกครั้งถึงรู้ว่าเป็นว่าที่เจ้าสาวของเขาจริงๆ ค่ำนี้เธอแต่งตัวเปรี้ยวดูเซ็กซี่เย้ายวนตา และควงมาพร้อมกับชายหนุ่มหน้าตาดี ทั้งคู่ดูสนิทสนมกันมาก ที่จริงเขาไม่ควรสนใจหรือใส่ใจในตัวเธอ แต่ความสวยของเธอมันโดดเด่นสะดุดตา
คงต้องยอมรับว่าศิศิราเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม และมีบุคลิกที่โฉบเฉี่ยวสะกดทุกสายตา
“มองใครอยู่เหรอคะ” คู่ควงคนใหม่เอ่ยถาม
“อย่าสนใจเลยแค่คนรู้จัก”
“มาดื่มกันดีกว่าค่ะ”
อัทธวีร์ดื่มเหล้าเคล้านารีที่เข้ามาคลอเคลียไม่ห่าง สายตาก็จ้องมองไปที่คู่ปรับเก่า
“นั่นใช่ว่าที่เจ้าบ่าวของซินหรือเปล่า”
ศิศิราแค่ปรายตาไปมองก่อนจะหันมาตอบคิมหันต์
“ใช่แล้วคิม...แต่เราอย่าไปสนใจเขาเลยนะ”
หญิงสาวทำตามที่ปากพูด เธอไม่ได้ให้ความสนใจในตัวอัทธวีร์อีกเลย เขาจะดื่มหรือคลอเคลียกับผู้หญิงคนไหน หรือกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับใครก็เป็นเรื่องของเขา
ผิดกับอัทธวีร์ที่คอยแต่เฝ้ามองเธอไม่วางตา
มีผู้ชายหลากหลายคนเดินเข้ามาพูดคุยกับศิศิราอย่างสนิทสนม มีการกระซิบกระซาบข้างหู แถมยังหัวเราะกันอย่างมีความสุข
“มีความสุขมากเลยนะ”
“หมายถึงใคร” สิงหนาทเอ่ยถาม
อัทธวีร์รีบพูดตัดบทว่าไม่มีอะไร ก่อนจะหันไปจ้องจับผิดว่าที่เจ้าสาวในอนาคตของตัวเอง
เขาสังเกตเห็นเธอยื่นโทรศัพท์มือถือของเธอให้ผู้ชายทุกคนที่เดินเข้ามาคุยด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคงจะขอเบอร์ติดต่อหรือไม่ก็แลกไลน์ไอดี เธอทำเช่นนั้นกับผู้ชายคนแล้วคนเล่าจนอัทธวีร์เผลอแสดงความรู้สึกไม่พอใจออกมา
“เป็นอะไรไป ทำไมนายถึงดูหงุดหงิดแบบนี้”
อัทธวีร์ชี้ให้เพื่อนรักดูพฤติกรรมว่าที่เจ้าสาวของเขา ที่ดูเหมือนจะเลียนแบบพฤติกรรมของตนเอง เพื่อที่จะเรียกร้องความสนใจ ในช่วงจังหวะที่อยู่กับเพื่อนรักตามลำพัง เพราะคู่เดทขอตัวไปทักทายเพื่อนที่บังเอิญเจอกัน อัทธวีร์ตัดสินใจถ่ายรูปและถ่ายคลิปตอนที่เธอพูดคุยกับผู้ชายอย่างสนิทสนม โดยเฉพาะผู้ชายที่เธอควงมาด้วย
“นายถ่ายคลิปเก็บไว้ทำไม”
“ก็เก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้ให้คุณย่าดูพฤติกรรมหนูซินคนดีของคุณย่า ว่าเวลาที่อยู่ลับหลังผู้ใหญ่นั้นทำตัวเหลวแหลกขนาดไหน”
“ยังแค้นไม่หายอีกเหรอที่เธอไม่ยอมทำตามความต้องการของนาย ฉันก็เคยบอกนายแล้วว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด”
“ฉันจะเอาคลิปที่ถ่ายวันนี้กลับไปให้คุณย่าดู คุณย่าจะได้เปลี่ยนใจไม่บังคับให้ฉันต้องแต่งงานกับเธอ”
“ว่าที่เจ้าสาวของนายทั้งสวยและเซ็กซี่ขนาดนี้ ถ้าเป็นฉันจะไม่ปฏิเสธความต้องการของผู้ใหญ่เลย”
“ฉันไม่ชอบให้ใครมาบังคับ”
“พนันกันได้เลยว่านายหนีไม่พ้นหรอก สุดท้ายแล้วนายก็ต้องแต่งงานกับเธอตามความต้องการของคุณย่า”
“ก็ไม่แน่นักหรอก”
นั่งดื่มกันมาได้สักพักอัทธวีร์ก็เอ่ยปาก
“เดี๋ยวผมมา”
“คุณจะไปไหนคะ”
เขาไม่ตอบแต่เลือกที่จะหันไปจูบแก้มเธอก่อนจะลุกจากโต๊ะไป
อัทธวีร์มายืนรอคู่ปรับเก่าอยู่แถวทางไปห้องน้ำ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินออกมาเขาก็ใช้คำพูดโจมตีเธอทันที
“คืนนี้คุณกะจะล่อผู้ชายทุกคนที่ผ่านเข้ามาในสายตาเลยหรือไง”
ศิศิราหันมองไปยังทิศทางของเสียงนั้น ไม่แปลกใจเลยที่เห็นว่าเป็นเขา
“หมายความว่ายังไง!”
“อย่าทำเป็นคนอ่อนใสไร้เดียงสาหน่อยเลย เพราะมันขัดกับพฤติกรรมที่คุณทำอยู่”
“ฉันทำอะไร”
“ก็ให้ท่าไง อ่อยผู้ชายเก่งเหมือนกันนี่คุณ ทำแบบนี้บ่อยล่ะสิถึงได้ดูชำนาญ โดยเฉพาะกับพวกเด็กหนุ่มๆ”
“อย่าเอาตัวเองมาเป็นบรรทัดฐานในการวัดว่าคนอื่นจะต้องมีพฤติกรรมเหมือนคุณ”
อัทธวีร์คว้าร่างบางเข้ามาในอ้อมแขนและกอดเธอไว้แน่น ยิ่งเธอพยายามดิ้นรนขัดขืนมากเท่าไร เขาก็ยิ่งรัดร่างของเธอแน่นขึ้นเท่านั้น ไม่ต่างอะไรกับงูเหลือมเวลาที่รัดเหยื่ออันโอชะ
“ผมเป็นผู้ชายทำอะไรก็ไม่เสียหาย แต่คุณเป็นผู้หญิง ไม่คิดบ้างเหรอว่าสิ่งที่ทำอยู่มันลดคุณค่าในตัวคุณ คุณย่าจะรู้ไหมว่าหนูซินคนดีของคุณย่า ยามเมื่ออยู่ลับหลังผู้ใหญ่มีพฤติกรรมชอบอ่อยเด็กหนุ่มๆ ไม่เลือกหน้าแบบนี้”
“ปล่อยนะ! ฉันไม่เคยทำอย่างที่คุณพูด”
“แล้วไอ้อาการกระซิบกระซาบข้างหู หัวเราะต่อกระซิก จับมือถือแขนกันอย่างสนิทสนมที่คุณทำอยู่ และก็ไอ้ชุดที่คุณใส่นี่อีก ถ้าไม่ให้เรียกว่าอ่อยแล้วจะให้เรียกว่าอะไร”
ศิศิราพยายามดิ้นรนจนสามารถหลุดออกมาจากอ้อมแขนแข็งแรงนั่นได้เป็นผลสำเร็จ เธอจ้องมองเขาด้วยแววตาวาวโรจน์ ก่อนจะโต้ตอบกลับไปอย่างเผ็ดร้อน ใบหน้าเธอปรากฏรอยยิ้มเยาะหยัน
“คนอย่างคุณคงคิดได้แต่เรื่องต่ำๆ แบบนี้ และคอยแต่จะจ้องจับผิดคนอื่น โดยไม่เคยมองย้อนกลับไปดูตัวเอง”
อัทธวีร์ตาลุกวาวด้วยความโกรธ เมื่อได้ยินคำพูดและได้เห็นรอยยิ้มเยาะจากใบหน้าสวยคมของเธอ
ทำให้เขาบันดาลโทสะ ตรงเข้าไปกระชากตัวเธอเข้ามาในอ้อมกอดโดยที่เธอไม่ทันได้ระวังตัวอีกครั้ง และยังไม่ทันที่จะได้ส่งเสียงร้อง ริมฝีปากของเขาก็แนบลงไปบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างหนักหน่วง เหมือนจงใจที่จะลงโทษเธอที่บังอาจมาวิจารณ์เขาด้วยสีหน้าเยาะหยันเช่นนี้ ศิศิราพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะเป็นอิสระจากเขาแต่ก็ไม่สำเร็จ