บทที่ 6   1/    
已经是第一章了
บทที่ 6
ตอนแรกอัทธวีร์คิดแค่จะจูบสั่งสอนเธอเท่านั้น แต่เมื่อได้สัมผัสกับริมฝีปากที่อ่อนนุ่มและเย้ายวน กลับทำให้เขากระหายอยากจูบเธอมากขึ้นกว่าเดิม จากการลงทัณฑ์กลายเป็นความหฤหรรษ์จนเขาไม่อยากที่จะหยุดมัน นอกจากไม่หยุดการกระทำนั้นแล้วเขายังบังคับให้เธอเผยอริมฝีปาก เพื่อเปิดทางให้เขาแทรกลิ้นอุ่นเข้าไปลิ้มรสความหวานจากร่างบางตรงหน้า เขาทำให้เธอเข่าอ่อนแทบทรุดลงกับพื้น เพราะความเร่าร้อนจากจุมพิตลงทัณฑ์ที่เขามอบให้ ศิศิราหายใจหอบถี่ทั้งโกรธทั้งอาย เธอผลักอกเขาเต็มแรงก่อนที่จะวิ่งออกไปจากที่นั่น อัทธวีร์เซไปเล็กน้อยจากแรงผลักนั้น เขาลูบไล้ริมฝีปากของตัวเองก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็เดินกลับไปที่โต๊ะ พร้อมกับนั่งดื่มแอลกอฮอล์ดีกรีแรงอย่างคนอารมณ์ดี ไม่หลงเหลืออารมณ์ขุ่นมัวที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ “อัทธ์หายไปไหนมาคะปล่อยให้แองจี้นั่งเหงาอยู่ตั้งนาน” คู่ควงคนใหม่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ เธอนั่งเบียดกระแซะเขาซะจนเกือบจะเกยขึ้นไปนั่งบนตักโดยไม่แคร์สายตาใคร ทั้งที่เพื่อนรักของเขาก็นั่งดื่มอยู่ตรงนั้นด้วย แต่สิงหนาทไม่ได้คิดอะไร เพราะเคยเห็นภาพแบบนี้ของเพื่อนจนชินตา “พอดีผมเจอคนรู้จักก็เลยแวะไปทักทาย” “ใครเหรอคะ!” “อย่าสนใจเลย เพราะถึงผมบอกไปคุณก็ไม่รู้จักอยู่ดี เรามาดื่มกันดีกว่า” อัทธวีร์นั่งดื่มเหล้าเคล้านารีต่อกันอีกพักใหญ่สิงหนาทก็หันไปบอกกับเพื่อนรัก “เรากลับกันเถอะ พรุ่งนี้ฉันมีคิวถ่ายละครตอนเช้า” “ก็ดีเหมือนกัน” จากนั้นเขาหันไปชักชวนหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างกาย “เรากลับไปหาความสุขร่วมกันต่อที่คอนโดของผมกันดีกว่านะที่รัก” “ตกลงค่ะ” อัทธวีร์จงใจโอบกอดคู่เดทเดินผ่านศิศิรา ซึ่งเป็นช่วงจังหวะที่เธอหันกลับมามอง ทั้งคู่จึงสบตากันเข้าอย่างจัง อัทธวีร์ยักคิ้วให้เธอก่อนจะเดินจากไป “ไม่สบายหรือเปล่าซิน” “ทำไมคิมถึงถามซินแบบนั้น” “ก็หน้าของซินแดงก่ำหรือว่าจะเป็นไข้” คิมหันต์เอ่ยพร้อมกับวางมือที่หน้าผากของเพื่อนเพื่อวัดไข้ “ซินไม่ได้เป็นอะไร ปกติดีทุกอย่าง” “แน่ใจนะ” “แน่ใจสิ” “เขาทำอะไรซินหรือเปล่า” “คิมหมายถึงใคร!” “ก็ว่าที่เจ้าบ่าวของซินไง” “ไม่มีอะไรหรอก อย่าใส่ใจเลยนะคิม เรารีบทำงานต่อให้เสร็จเร็วๆ กันดีกว่าจะได้กลับกันซะที ซินอยากกลับบ้านเต็มทีละ” แม้เพื่อนจะบอกว่าไม่มีอะไร แต่คิมหันต์มั่นใจว่าจะต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น ระหว่างศิศิราและว่าที่เจ้าบ่าวของเธอแน่นอน เพราะปฏิกิริยาของหญิงสาวเปลี่ยนไป เพียงแต่เธอไม่อยากเล่าให้เขาฟัง ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้เซ้าซี้ถาม เช้าวันต่อมา... “อรุณสวัสดิ์ครับพ่อ” อนวัชยิ้มรับคำทักทายของบุตรชาย “เช้านี้มีอะไรกินบ้างครับแม่” เขาสวมกอดมารดาไว้ในอ้อมแขนจากทางด้านหลัง “ข้าวต้มทะเล...อัทธ์จะเอาด้วยไหมลูกหรือจะเอาอาหารเช้าแบบฝรั่ง แม่จะได้สั่งให้เขาทำให้” “ข้าวต้มก็ได้ครับ คุณย่าล่ะครับ” “เดี๋ยวก็คงจะลงมา” พูดไม่ทันขาดคำอัมพกาก็เดินเข้ามาในห้องอาหาร “ว่าไงพ่อตัวดี ทำไมวันนี้ถึงได้ลงมากินมื้อเช้าพร้อมกันได้” “เพราะผมรู้ว่าคุณย่าคิดถึงผมไงครับ” “มาก็ดีละย่ามีเรื่องจะคุยด้วย” “เรื่องอะไรครับ” “ย่าจะปลูกเรือนหอให้อัทธ์กับหนูซิน ก็เลยอยากให้อัทธ์เป็นคนเลือกแบบบ้าน” “ทำไมต้องเสียเงินเสียทองสร้างบ้านหลังใหม่ด้วยล่ะครับคุณย่า ใช้ห้องของผมเป็นเรือนหอก็ได้นี่ครับ” ”ย่าเคยตั้งใจไว้แล้วว่าอัทธ์แต่งงานมีครอบครัวเมื่อไรย่าจะปลูกเรือนหอให้” “แต่ผมว่า...” “ไม่มีคำว่าแต่” อัมพกาตอบหลานชายด้วยเสียงทรงอำนาจ น้ำเสียงแบบนี้ใครเลยจะกล้าขัด “แล้วไหนล่ะครับแบบบ้านที่จะให้ผมเลือก” เด็กรับใช้นำแฟ้มงานที่ประมุขของบ้านได้จัดเตรียมไว้มามอบให้ชายหนุ่ม เขารับมาเปิดดู “ชอบแบบไหนก็บอกมาพ่อจะได้ดำเนินการให้” “นี่เป็นแบบบ้านใหม่ของเราเหรอครับ สวยดีนะครับผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมเลือกอันนี้ครับ” อัทธวีร์ตอบพร้อมกับยื่นแบบบ้านที่เขาต้องการให้คุณย่าดู “วัชช่วยไปจัดการเรื่องนี้แทนแม่ทีนะ ติดขัดอะไรตรงไหนก็ค่อยมาคุยกัน” “ครับคุณแม่” “เรื่องของเราไปถึงไหนแล้วตาอัทธ์” “หมายถึงเรื่องอะไรครับคุณย่า” “ก็เรื่องของอัทธ์กับหนูซินน่ะสิ ย่าหาฤกษ์แต่งงานให้เลยดีไหม” “ใจเย็นๆ ก่อนสิครับคุณย่า ผมกับหนูซินของคุณย่ากำลังสานสัมพันธ์กันอยู่ครับ” “สานสัมพันธ์หรือตัดสัมพันธ์กันแน่” โดนผู้เป็นย่าพูดดักคอไว้แบบนี้อัทธวีร์ก็รู้สึกร้อนตัวขึ้นมาทันที “ทำไมคุณย่าถึงพูดแบบนั้นล่ะครับ” “ก็ดูความประพฤติตัวของเราสิ วันๆ ไม่ทำอะไร เอาแต่เที่ยวเมาหัวราน้ำ กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ แทบทุกคืน เสเพลแบบนี้ผู้หญิงที่ไหนเขาจะชอบ” “ว่าแต่ผม หนูซินของคุณย่าก็ใช่ย่อยอยู่นะครับ พฤติกรรมของเธอยามอยู่ลับหลังผู้ใหญ่ก็ไม่ต่างจากผมนักหรอก” “หมายความว่ายังไง พูดให้ชัดเจนหน่อยซิ” “คุณย่าคงจะยังไม่รู้ว่าซินก็ชอบเที่ยวกลางคืนเหมือนผม” “แล้วเรารู้ได้ยังไง” “ผมเคยเจอซินไปเที่ยวสถานเริงรมย์ที่เดียวกับผมอยู่บ่อยครั้ง และในแต่ละครั้งก็มักจะมีผู้ชายไม่ซ้ำหน้าล้อมรอบตัวเธอเสมอ” “จริงเหรอลูก” “จริงสิครับแม่ ผมมีหลักฐานด้วยนะ” “หลักฐานอะไร! เอามาให้ย่าดูหน่อยซิ” อัทธวีร์เปิดภาพและคลิปที่เขาถ่ายเก็บไว้เมื่อคืนให้ทุกคนดู “หนูซินก็แค่ไปเที่ยวผับกับเพื่อนๆ บ้างเป็นบางครั้งแล้วมันแปลกตรงไหน” “ก็แปลกตรงที่ผู้หญิงไม่ควรทำตัวแบบนี้ไงล่ะครับคุณย่า” แต่เขากลับถูกอัมพกาพูดตอกหน้ากลับไปว่าตัวเขาเองก็มีพฤติกรรมที่ไม่แตกต่าง “มันเหมือนกันที่ไหนล่ะครับ” “ในเมื่ออัทธ์ยังทำได้ก็ไม่ควรไปกล่าวตำหนิคนอื่น” “ผมเป็นผู้ชายเที่ยวหัวราน้ำแค่ไหนก็ไม่เสียหาย แต่ซินเป็นผู้หญิงนะครับ ไม่มีผู้หญิงดีดีที่ไหนเขาเที่ยวผับทุกคืนแบบนี้กันหรอกครับ” “ย่าว่าการที่หนูซินไปเที่ยวผับก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ตราบใดที่เธอยังไม่ได้ทำตัวเสื่อมเสียชื่อเสียงจริงไหม” “คุณย่าพูดเหมือนเห็นดีเห็นงามกับพฤติกรรมของซินที่สนิทสนมกับผู้ชายจนเกินงาม” “ดูจากคลิปที่ถ่ายมาพ่อก็ไม่เห็นว่าหนูซินจะทำอะไรที่เกินงามเลยนะอัทธ์” “นั่นสิ...แม่เห็นด้วยกับวัช” อัมพกาเอ่ย อัทธวีร์หันไปสบตามารดา อณิมายิ้มให้บุตรชายก่อนที่จะเอ่ยออกมาตามความคิดของตนเอง “แม่ว่าอัทธ์คิดมากเกินไปนะ หนูซินก็แค่ไปเที่ยวผับซึ่งใครๆ ก็ทำกัน” อัทธวีร์รู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรงกับความคิดเห็นของทุกคน ตอนแรกเขาคิดว่าเมื่อคุณย่าเห็นพฤติกรรมหนูซินคนดีของคุณย่าแล้วจะโกรธจนยกเลิกการแต่งงาน แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่คิด ทำให้ชายหนุ่มยิ่งมีอคติกับว่าที่เจ้าสาวของตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม เธอมีดีอะไรถึงได้รับคะแนนนิยมจากคุณย่าและพ่อแม่ของเขามากถึงเพียงนี้ “ย่าว่าอัทธ์ควรพาหนูซินไปดูหนัง ฟังเพลง หรือไม่ก็ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง จะได้สนิทสนมกันมากขึ้น” “ผมกำลังคิดจะไปรับซินและพาไปกินมื้อค่ำสุดโรแมนติกด้วยกันอยู่เลยครับ” ว่าแล้วเขาก็โทรเข้ามือถือของศิศิรา เพื่อบอกว่าเขาจะขับรถไปรับเธอไปดินเนอร์ด้วยกัน แต่หญิงสาวปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่ามีงานต้องทำ “ถึงจะมีงานที่ต้องทำแต่ก็ควรมีเวลาพักบ้าง เอาเป็นว่าคุณเตรียมตัวไว้นะเย็นนี้ผมจะไปรับ ผมจะพาคุณย่าไปกินมื้อค่ำกับเราด้วย” เพราะเขาเอาย่ามาอ้างทำให้ศิศิราไม่กล้าปฏิเสธ และจำใจต้องทำตามความต้องการของเขา “ย่าไม่ได้บอกว่าจะไปด้วยนะ” “ผมแค่อ้างชื่อคุณย่าเพื่อไม่ให้เธอปฏิเสธนัดของผมต่างหากครับ ไม่ได้จะขอให้คุณย่าไปจริงๆ” “ดูแลหนูซินให้ดีล่ะตาอัทธ์ ห้ามทำรุ่มร่ามเด็ดขาดเข้าใจไหม” “ทราบแล้วครับ รับรองว่าผมจะดูแลหนูซินคนดีของคุณย่าเป็นอย่างดี ทั้งกอดทั้งจูบวนๆ ไปเลยดีไหมครับ” “ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ” “ผมล้อเล่นครับ ซินเขาไม่ยอมให้ผมทำแบบนั้นหรอกครับ แม้ว่าผมจะอยากทำก็ตาม หลานสะใภ้ที่คุณย่าหามาให้ผม ทั้งสวยและหุ่นแซ่บน่ากินซะขนาดนั้น ผมแทบจะอดใจไม่ไหวรวบรัดกินหัวกินหาง กินกลางตลอดตัววันละหลายๆ รอบ” “ไม่ได้เด็ดขาด!” “ประสานเสียงกันอย่างพร้อมเพรียงแบบนี้แล้วใครจะกล้าล่ะครับ” “ก็เราไงล่ะตาอัทธ์ ไม่รู้ว่าไปเอานิสัยเจ้าชู้เพลย์บอยนี้มาจากใคร” “เฮ้อ! ผมกลายเป็นคนแย่ๆ ในสายตาของคุณแม่ไปซะแล้ว นี่ขนาดยังไม่ได้แต่งงานกับซินผมยังตกกระป๋อง แล้วถ้าแต่งงานกันจริงๆ ผมไม่กลายเป็นหมาหัวเน่าเลยเหรอครับ ในเมื่อทุกคนพร้อมใจที่จะอยู่ข้างเดียวกับหนูซินคนดีของคุณย่า” “ปากดีนักนะเรา” อัทธวีร์เดินเข้าไปกอดอัมพกา “ผมรักคุณย่ามากนะครับ” “ไม่ต้องมาพูดจาหวานหูกับย่าเลย ย่ารู้ทันหรอกน่ะ” “รู้ทันเรื่องอะไรครับ” “ก็เรื่องที่อัทธ์กำลังหาวิธีที่จะล้มเลิกการแต่งงานกับหนูซินน่ะสิ” “คุณย่าไปฟังเรื่องนี้มาจากไหน ใครมาฟ้องคุณย่าครับ” “ไม่ต้องให้ใครมาฟ้องย่าหรอก ย่ารู้จักนิสัยของอัทธ์ดีกว่าใคร” “ถึงยังไงผมก็ต้องแต่งงานกับซินตามความต้องการของผู้ใหญ่อยู่ดี แต่ขอเวลาให้เราทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้หน่อยนะครับคุณย่า ผมขอตัวก่อนนะครับ” “จะรีบไปไหน” “ผมมีนัดกับสาวครับ” “สาวที่ไหน!” “ก็นัดกับหนูซินคนดีของคุณย่าไงครับ ไปก่อนนะครับ” “อัทธ์นัดจะไปรับหนูซินตอนเย็นไม่ใช่เหรอคะ” อณิมาเอ่ยขึ้น “คงนัดกับสาวอื่นเพื่อเป็นการฆ่าเวลาน่ะสิ กะล่อนนักนะ” อัมพกาตอบ “แบบนี้นี่เอง แปลกนะคะคุณวัช คุณเองก็ไม่เคยมีนิสัยเจ้าชู้ ไม่รู้ว่าลูกของเราไปเอานิสัยนี้มาจากใคร” “หล่อเลือกได้ก็แบบนี้ล่ะ”
已经是最新一章了
加载中