บทที่ 7
เย็นวันนั้นอัทธวีร์ขับรถมารอรับศิศิราที่มหาวิทยาลัยก่อนเวลา เพื่อกันไม่ให้เธอชิ่งหนีไป ทันทีที่เห็นหญิงสาวเดินออกมาหน้าตึก เขาก็บีบแตรเพื่อส่งสัญญาณให้เธอรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ ศิศิราจำใจต้องเดินมาขึ้นรถเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“คุณจะพาฉันไปไหน”
“โรงแรม”
“อะไรนะ!”
“ไม่ต้องตกใจผมไม่พาคุณเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูดหรอก แต่จะพาคุณไปดินเนอร์ร้านอาหารในโรงแรมเท่านั้น คิดมากไปได้”
“คงจะพาผู้หญิงเข้าม่านรูดบ่อยๆ ล่ะสิ”
“ระดับผมจะมีอะไรกับผู้หญิงทั้งทีอย่างน้อยๆ ก็ต้องโรงแรมห้าดาว ผมไม่พาพวกเธอไปในสถานที่กระจอกๆ แบบนั้นหรอก เพราะคู่ควงของผมแต่ละคนโพรไฟล์ไม่ธรรมดา ที่ถามเพราะหึงใช่ไหม”
“ไม่เคยมีความคิดเหล่านั้นอยู่ในหัวฉัน ฉะนั้นอย่าหลงตัวเอง แล้วไหนคุณบอกว่าคุณย่าจะไปกับเราด้วย”
“พอดีมีเพื่อนมาหาคุณย่าที่บ้าน ท่านก็เลยบอกให้เราไปกันแค่สองคน จะได้ไม่มีก้างขวางคอ”
ศิศิราหันไปจ้องมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ แต่อัทธวีร์ก็ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้าน ฉับพลันสายตาของหญิงสาวก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างหล่นอยู่ใต้เบาะ ด้วยความสงสัยจึงหยิบมันขึ้นมาดู
“นี่ชิ้นส่วนอะไร...ของใคร!”
อัทธวีร์หันมามองบราเซียรสีหวานในมือหญิงสาวอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้าน เขายิ้มกรุ้มกริ่มที่มุมปากก่อนที่จะตอบคำถาม
“เมื่อคืนนี้ผมกับคู่ควงเปลี่ยนบรรยากาศมาสนุกกันในรถ เธอคงเผลอทำตกไว้ หรือไม่ก็กะจะให้ผมเป็นที่ระลึก”
“ทำแบบนี้บ่อยล่ะสิ”
“ก็แค่เปลี่ยนบรรยากาศ ไว้เราลองดูบ้างไหม แม้สถานที่จะไม่สะดวกนักแต่รับรองว่าสนุก”
“ฝันไปเถอะ ฉันไม่มีวันทำอะไรอย่างที่คุณพูดแน่”
“ถ้าอยากก็บอกได้นะ ผมยินดีบริการคุณเสมอ”
ศิศิราตวัดสายตาไปมองเขาด้วยแววตาขุ่นบ่งบอกถึงความไม่พอใจ อัทธวีร์หัวเราะเบาๆ เขารู้สึกมีความสุขที่ได้แกล้งเธอ
ค่ำคืนนั้นเขาทำหน้าที่ของสุภาพบุรุษคอยดูแลเอาอกเอาใจ ตักอาหารให้เธอ ชวนพูดคุย แต่ศิศิราไม่สนใจ บางครั้งก็แสร้งทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินที่เขาพูด ทั้งที่นั่งใกล้ชิดกันอยู่แค่นี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องได้ยิน เธอก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าให้มันเสร็จๆ ไปจะได้ทางใครทางมัน หลังอาหารมื้อค่ำเขาขับรถไปส่งเธอที่บ้านและจอดซุ่มดูอยู่แถวนั้นสักพัก
หลังจากนั้นไม่นานก็มีรถคันหนึ่งขับมารับหญิงสาว อัทธวีร์จดจำใบหน้าไอ้ผู้ชายคนนั้นเป็นอย่างดี เพราะเป็นผู้ชายที่เขาเห็นศิศิราควงคู่ไปเที่ยวผับด้วยกันอยู่บ่อยๆ
เขาขับรถตามไปจนรู้ว่าทั้งคู่มาเที่ยวที่ผับแห่งหนึ่งย่านเอกมัย
“เหมือนที่คิดไว้ไม่ผิด”
เขาตัดสินใจเข้าไปในผับแห่งนั้นและเลือกที่นั่งที่จะมองเห็นศิศิราได้อย่างชัดเจน เขาเห็นเด็กหนุ่มๆ เวียนหน้าเข้ามาพูดคุยกับเธอ และสังเกตเห็นว่าศิศิราจะยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้ทุกคนที่เข้ามาคุยด้วยเสมอ อัทธวีร์เฝ้ามองการกระทำเหล่านั้นอยู่สักพักก็หมดความสนใจ เพราะมีบางอย่างที่น่าสนใจกว่าเข้ามาดึงความสนใจจากเขา
“ดื่มคนเดียวเหรอคะ ขอฉันนั่งด้วยคนนะคะ”
“ตามสบายครับ”
หลังจากนั่งดื่มกันมาได้พักใหญ่ หญิงสาวคนดังกล่าวก็หันมากอดเกยเขาเป็นพัลวัน พร้อมกับการจูบที่เร่าร้อนดูดดื่ม เขาก็ปล่อยให้เธอทำเช่นนั้น แถมยังตอบสนองหญิงสาวกลับไปด้วยจูบที่ดุดันก่อนจะชวนกันไปต่อที่อื่น
“เราไปสนุกกันต่อที่อื่นดีกว่านะครับ”
“ดีเหมือนกันค่ะ” เธอตอบพร้อมกับส่งสายตาเชิญชวน
อัทธวีร์ขับรถพาหญิงสาวซึ่งเขาจำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อของเธอ และไม่คิดว่าจะต้องจดจำ เพราะเขาเอาเธอมาเพื่อปลดเปลื้องความใคร่ของเขาในค่ำคืนนี้เท่านั้น เขาเคยชินกับการใช้ชีวิตกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ผ่านมาก็ผ่านไปไม่มีการผูกมัด ถูกใจก็คบต่อแต่ถ้าไม่ก็เลิกรากันไป โดยให้เงินพวกหล่อนเป็นค่าตอบแทน ครั้งนี้ก็เช่นกันไม่มีอะไรแตกต่าง เขาพาเธอขึ้นไปบนคอนโดหรูหราของเขาแทนที่จะพาไปที่บ้าน
เมื่อเข้าไปในห้องเขากระชากร่างเธอเข้ามาในอ้อมกอดอย่างแนบชิด ก่อนจะก้มลงแนบริมฝีปากลงบนริมฝีปากบางอย่างหนักหน่วงรุนแรง มือเรียวยาวของเขาเริ่มซุกซนลูบไล้ไปยังแผ่นหลังเนียนผ่านเสื้อตัวบาง และวกเข้าไปยังเนื้อนวลใต้เสื้อ ก่อนที่มือข้างเดิมจะไล้วนมายังด้านหน้าลูบไล้ผ่านทรวงอกทีละข้างอย่างช้าๆ ส่วนมืออีกข้างเริ่มไล้ลงบนสะโพกเนียน
อัทธวีร์พาเธอเข้าไปในห้องนอน มอมเมาด้วยจูบที่ร้อนแรงก่อนจะผลักให้อีกฝ่ายนอนลงบนเตียง และแนบร่างตามลงไปพร้อมกับแนบริมฝีปากลงบนริมฝีปากบาง จากนั้นบทรักร้อนแรงก็เริ่มต้นขึ้น โดยที่หญิงสาวเองก็ตอบสนองเป็นอย่างดี ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเร่าร้อนรุนแรง จนทั้งคู่ถึงจุดหมายปลายทางพร้อมกัน อัทธวีร์ซบหน้าลงบนซอกคอของหญิงสาวอย่างเหนื่อยอ่อน ค่ำคืนนั้นเขาพาเธอขึ้นสวรรค์หลายครั้งจนหมดแรงและหลับไปพร้อมกัน
ศิศิราขับรถมาที่คฤหาสน์ตระกูลนิธิพัฒน์โภคินในเช้าวันต่อมา เพื่อนำขนมไทยสูตรโบราณที่แม่ทำมามอบให้คุณย่า และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่อัมพกากำลังจะออกจากบ้าน หญิงสาวทำความเคารพผู้สูงวัย
“สวัสดีค่ะคุณย่า”
“ซินจะมาทำไมไม่โทรบอกย่าก่อนล่ะลูก ดีนะที่ย่ายังไม่ได้ออกไปข้างนอก ไม่งั้นล่ะก็ไม่ได้พบกันแน่ ว่าแต่มาหาย่ามีอะไรหรือเปล่าลูก”
“คุณแม่ทำขนมไทยสูตรโบราณที่คุณย่าชอบ และให้ซินนำมาให้คุณย่าค่ะ”
“ฝากขอบใจแม่ด้วยนะลูกที่ยังนึกถึงคนแก่ เอาของเข้าไปเก็บด้านใน”
อัมพกาหันไปสั่งเด็กรับใช้ให้มารับของจากศิศิราเข้าไปเก็บด้านใน
“คุณย่ากำลังจะไปไหนเหรอคะ”
“เมื่อคืนอัทธ์ไม่ได้กลับบ้าน สงสัยจะเที่ยวซะจนเมาหัวราน้ำขับรถกลับบ้านไม่ไหว นี่ย่าว่าจะไปดูที่คอนโดซินไปกับย่านะลูก”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวซินขับรถให้นะคะ”
“ก็ดีเหมือนกัน ไปกันเลยดีไหม”
“ค่ะ”
ใช้เวลาไม่นานหญิงสาวก็ขับรถเลี้ยวเข้ามาในคอนโดมิเนียมระดับเวิลด์คลาส ที่ตั้งอยู่ระหว่างสะพานสาทรกับสะพานกรุงเทพฯ จากนั้นก็พาคุณย่าเดินขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่ต้องการ เมื่อไปถึงอัมพกาก็ใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปภายในห้องพัก
“สงสัยจะยังไม่ตื่น หรือไม่ก็ยังเมาไม่สร่าง ย่าว่าเราเข้าไปดูที่ห้องนอนกันดีกว่า”
ทันทีที่เปิดประตูห้องนอนเข้าไปสายตาก็เหลือบไปเห็นเสื้อผ้า ทั้งของผู้หญิงและผู้ชายหล่นเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น บนเตียงนอนปรากฏร่างของชายหญิงสองคนกำลังนอนกอดกัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทั้งคู่อยู่ในสภาพเปลือย
คงจะผ่านสมรภูมิรักกันมาจนหมดแรง ขนาดมีคนเข้ามาในห้องถึงสองคนก็ยังนอนไม่รู้สึกตัว
ศิศิรามองภาพเหล่านั้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึก ทั้งที่ความจริงแล้วเธอรู้สึกรังเกียจและขยะแขยงผู้ชายเจ้าชู้มากรักอย่างเขา
“ตาอัทธ์ทำไมถึงทำตัวเหลวไหลแบบนี้ ลุกขึ้นมาคุยกับย่าเดี๋ยวนี้เลยนะ”
อัทธวีร์ลุกขึ้นมานั่งในสภาพที่ยังไม่สร่างเมาดี
“คุณย่ามาทำอะไรที่นี่ครับ” เขาเอ่ยถามก่อนจะเหลือบไปเห็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังผู้เป็นย่า
“คุณมาที่นี่ทำไม”
“ก็แล้วทำไมหนูซินจะมาที่นี่ไม่ได้ ยังไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น รีบจัดการให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากที่นี่ ก่อนที่ย่าจะเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยมาลากตัวหล่อนออกไป จากนั้นค่อยมาคุยกัน เรามีเรื่องที่จะต้องคุยกันยาวเลยล่ะ”
งานเข้า!!
ขนาดเลี่ยงพาผู้หญิงมาหาความสำราญที่นี่แทนที่จะเป็นที่บ้าน แต่คุณย่าก็ตามมาเจอจนได้
อัทธวีร์รีบหันไปปลุกหญิงสาวที่นอนหลับอยู่ข้างตัวอย่างเร่งด่วน พร้อมกับบอกให้เธอรีบแต่งตัวแล้วออกไปจากที่นี่ก่อนที่จะเกิดเรื่อง เขารอจนหญิงสาวแต่งตัวออกมาจึงส่งเช็คให้เธอ เพื่อเป็นค่าตอบแทนสำหรับความสุขที่เธอมอบให้เขาอย่างเผ็ดร้อนในค่ำคืนที่ผ่านมา
“นี่ของคุณ รับไปสิ”
“อะไรคะ!”
หญิงสาวทำหน้างง อัทธวีร์หยิบเช็คที่เขาเตรียมไว้ใส่มือเธอ
“ค่าตอบแทนสำหรับความสนุกที่คุณมอบให้ผม”
อีกทั้งยังบอกยุติความสัมพันธ์เพียงชั่วข้ามคืน
หญิงสาวมองดูตัวเลขที่ระบุอยู่ในเช็คใบนั้น
หนึ่งแสนบาท
เขาจ่ายค่าตัวเธอแพงขนาดนี้เลยเหรอ
ถ้าไม่เอาก็โง่เต็มทีละ
“คุณย่ากับคู่หมั้นผมมาที่นี่ ฉะนั้นคุณควรรีบกลับไปก่อนที่จะมีเรื่อง”
“ฉันช่วยเคลียร์ให้เอาไหมคะ”
“ไม่จำเป็น ผมจัดการเองได้ ส่วนคุณก็รีบกลับไปซะ และอย่าลืมรูดซิปปากของคุณให้สนิทด้วยล่ะ”
“นี่นามบัตรฉันค่ะ อย่าลืมโทรหาฉันนะคะ เราจะได้มีความสุขร่วมกันอีก”
จากนั้นเธอก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนที่จบลงอย่างง่ายดาย
หลังจากคู่ควงคนล่าสุดกลับไป อัทธวีร์ก็โยนนามบัตรนั้นทิ้งไปอย่างไม่ไยดี ก่อนจะรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกมาพบคุณย่า