ตอนที่ 4
“พี่คะ.. เรื่องนั้น พี่จะจัดการยังไงคะ”
“รอเวลาก่อนฮาน่า ตอนนี้เรายังคงทำอะไรไม่ได้หรอก ต้องรอให้วิศวกรที่คุมแท่นขุดเจาะนั้นเข้ามาแจ้งแผนและความคืบหน้าของการวางท่อน้ำมันก่อน พี่ถึงจะเตรียมการทำอะไรได้ เพราะคงต้องอาศัยความร่วมมือจากเขามากๆ เพราะเป้าหมายตอนนี้ที่ต้องระวังไม่ใช่เราแต่เป็นเขา และพี่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะรู้เรื่องปัญหาภายในอารันดาแค่ไหน”
“อ้าว! อย่างนี้เราก็ทำอะไรไม่ได้เลยสิคะ ต้องรอเขาอย่างเดียว”
หน้างามง้ำลงไม่พอใจที่ทำไมต้องรอคอยคนคนนั้นด้วย ทั้งที่ชี้คฟีรอสน่าจะเร่งรีบดำเนินการเพื่อตัดไฟเสียแต่ต้นลม
“พรุ่งนี้เขาจะเข้ามา เห็นว่าเป็นไข้แดดน่ะ คนต่างที่ต่างถิ่นมาอยู่บ้านเราก็ย่อมจะไม่ชิน ยิ่งอากาศกลางทะเลทรายนั่นสูงกว่า 50 องศา ปรับตัวได้ไวแบบนี้ก็นับว่าอึดแล้ว”
“เชอะ! ผู้ชายเสียเปล่าเป็นไข้ได้ไง จะมาทำงานที่นี่ก็ต้องศึกษาเรื่องของอารันดามาแล้วสิคะ เขาก็น่าจะรู้ว่าบ้านเราน่ะร้อน มาถึงก็ไม่สบายแล้วยังงี้จะทนอยู่ไหวหรือคะ มีหวังเราจะแห้วน่ะสิ”
ชี้คฟีรอสขยี้เรือนผมนุ่มของน้องสาวช่างเจรจาไปมา เอ็นดูกับความช่างพูดช่างเปรียบเปรย ป่านนี้คนที่หญิงสาวกล่าวหามิจับไข้ยิ่งกว่าเดิมรึ ชายหนุ่มที่มาจากเมืองไทยนั่น “มิสเตอร์วิริยากิจบริบูลย์” รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากบอบบาง หากมิสเตอร์และมิสซิสวิริยากิจบริบูลย์ได้มาเจอกันอะไรจะเกิดขึ้น
“หึ หึ หึ..”
เสียงหัวเราะกับความคิดในตนเอง ทำให้เจ้าของดวงตาหวานตวัดพรึบมองมายังพี่ชายตัวโต พร้อมทั้งบ่นงุบว่าพี่ชายไม่ฟังแล้วยังมาหัวเราะเยาะความคิดของเธออีก
...ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ร่างสูงใหญ่ในชุดองครักษ์แห่งอารันดาจะก้าวเข้ามาและเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานตัวโตภายในห้องสมุดขนาดใหญ่ที่จุหนังสือมากมายเสมือนประหนึ่งเป็นหอสมุดแห่งชาติขนาดย่อม ร่างสูงสง่าผิวเข้มตามแบบฉบับคนพื้นเมืองแต่ทว่าใบหน้านั้นกลับคมเข้มหล่อเหลาไม่แพ้ผู้เป็นนาย ร่างสูงก้มศีรษะลงมือขวาแนบไว้ที่หน้าอกแสดงความเคารพเจ้าชีวิตแห่งตนก่อนที่จะยืดตัวขึ้นเต็มความสูงกว่า 180 เซนติเมตร
“มาแล้วรึ.. อืม..ไปเชิญมาพบเราที่นี่”
คนร่างสูงที่นั่งประจำโต๊ะทำงานตัวใหญ่นั้นเพียงตวัดสายตามองแล้วก้มอ่านหนังสือตรงหน้าต่อไปอย่างไม่ตื่นเต้นหรือยินดีกับการมาของใครบางคน พร้อมทั้งสั่งงานองครักษ์ประจำตัวชี้คแห่งอารันดา
“ธาธี ทำตามที่เราสั่งให้ครบทุกอย่าง”
ดวงตาคมกล้าภายใต้แพขนตางอนหวานแบบอิสตรีนั้นตวัดขึ้นเมียงมองไปยังองครักษ์ประจำกายแห่งตน
“ขอรับชี้ค ทุกอย่างไม่มีบกพร่อง” ร่างสูงก้มคำนับดุจคราที่เข้ามา
“นั่งสิ”
ชายร่างสูงใหญ่ในความสูงระดับไล่เลี่ยยืนเผชิญหน้ากัน ใบหน้าหนึ่งดูสงบไม่แปลกใจอย่างไร แต่อีกใบหน้าหนึ่งสับสนงุนงงกับสิ่งที่พบเจอ เจ้าบ้านหย่อนตัวลงนั่งประจำที่ที่คุ้นเคยพร้อมกับเผยมือให้อีกฝ่ายนั่งในที่ฝั่งตรงข้ามตน
“นี่นาย.. นายกำลังทำอะไรฟีรอส นายมาอยู่ที่นี่ได้ไง ก็ไหนว่านายกลับไปอยู่ประเทศของนาย...”
น้ำเสียงดูจะถูกกลืนกินไปกับสิ่งที่สงสัย เจ้าของใบหน้าสวยหวานตามแบบสตรีนั้นกลับพยักหน้าตอบรับในสิ่งที่ชายหนุ่มตรงหน้านี้สงสัย
“ที่นี่คือ..อารันดา เราคือ.. ชี้คฟีรอส ผู้นำแห่งรัฐอารันดา ประเทศที่นายต้องมาอยู่นานถึง 3 เดือนยังไงล่ะ”
เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ในฝั่งตรงกันข้ามช่างแตกต่างไปจากคนที่เคยรู้จัก…
อารัทธามองชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หล่อเหลาตามแบบฉบับชายอาหรับหน้าหวานปานสตรีที่พกพาเสียงกรี๊ดกร๊าดไปด้วยทุกที่ยามเจ้าตัวแจกรอยยิ้มบาดใจให้กับสาวๆ แค่ฟีรอสโปรยยิ้มให้เท่านั้นพวกหล่อนก็พร้อมที่จะกระโดดขึ้นเตียงกับเขาอย่างง่ายดาย ยิ่งถ้าจับคู่กับเขาเข้าไปด้วย สาวๆ แทบจะตีกันตายเพราะแยกไม่ถูกว่าจะเลือกใครหรือจะให้ใครเลือกดี
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยกับชีวิตเพลย์บอยหนุ่มดูจะเข้ากันได้ดีเยี่ยม ทว่ายังไม่ทันจบการศึกษาฟีรอสก็ถูกเรียกตัวให้กลับประเทศด่วน! เพราะบิดาเสียชีวิตกะทันหันทำให้เขาต้องเข้ามาสืบทอดกิจการต่างๆ แทนบิดา สองเพื่อนซี้จึงต้องขาดการติดต่อกันโดยปริยาย
เพราะสถานการณ์ภายในประเทศและคดีการฆาตกรรมบิดาของเขาเป็นที่จับตามองของคนหลายกลุ่มฟีรอสจึงไม่อยากให้ใครรู้ความเคลื่อนไหวและไม่ต้องการติดต่อกับผู้ใดแม้แต่เพื่อนรัก แต่ก่อนจะจากกันนั้นฟีรอสได้ให้คำมั่นว่าเมื่อใดที่เขาพร้อมเขาจะติดต่อมาเอง ข้อมูลส่วนตัวที่เขาพอรู้ก็เพียงว่าฟีรอสเป็นบุตรชายคนโตของเศรษฐีคนหนึ่งในประเทศแถบตะวันออกกลางเท่านั้น ด้วยนิสัยอิสระเสรีพอๆ กันจึงไม่มีใครก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัวของกันและกัน
เมื่อเพื่อนรักกลับประเทศไปเขาก็ยังคงเชื่อมั่นในคำของเพื่อนสนิท เชื่อว่าสักวันหนึ่งฟีรอสจะเป็นฝ่ายติดต่อมาเอง จวบจนสองปีแล้วที่ไม่ได้พบไม่ได้ข่าวคราวซึ่งกันและกันเลย พบกันอีกทีครั้งนี้ อารัทธารู้สึกเหมือนเพื่อนรักเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปมากจริงๆ
“ตามสัญญาไงเอริท..เมื่อฉันพร้อมฉันจะเป็นฝ่ายติดต่อไปหานายเอง”