1
ต้องใจ
“โอ๊ะ!!” เสียงร้องของ เฟอร์ทรีซ คาลิฟา อัจมาน มหาเศรษฐีน้ำมัน เจ้าของโรงพยาบาลและผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายแรกในดูไบวัยสามสิบสี่ ตวัดนัยน์ตาคมกริบสีอินทผลัมจ้องพยาบาลสาวหน้าหวานที่ยืนหน้าซีด มือสั่น เพราะแผ่นยางหนีบวัดความดันรัดท้องแขนล่ำของผู้ป่วยรูปหล่อคมเข้มจน
ห้อเลือด ทั้งที่ผิวของเขาเป็นสีแทนก็ยังมีรอยช้ำให้เห็นได้ชัด
หญิงสาวหน้าตาตื่นตกใจกับการกระทำผิดพลาดครั้งแรกในอาชีพพยาบาลที่แสนภาคภูมิใจ
“ขะ...ขอ ขอโทษค่ะ” คำขอโทษเปล่งออกจากปากจิ้มลิ้มอมชมพูของ ทอฟ้า พิริยา พยาบาลสาววัยยี่สิบสี่ เธอได้รางวัลพยาบาลดีเด่นสามปีซ้อน จากทำงานในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งนี้ ที่มีทั้งคนไทย และชาวตะวันออกกลางมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพราะราคาไม่แพงและเครื่องมือแพทย์ทันสมัย
สำหรับสาเหตุที่เฟอร์ทรีซต้องมานอนโรงพยาบาลแห่งนี้ ซึ่งมี ศศิวัฒน์ กุลณวัฒน์โชติ หรือ ซีน เป็นเจ้าของและผู้อำนวยการ รวมถึงยังเป็นแพทย์ศัลยกรรมมือหนึ่งของโรงพยาบาล ทั้งยังพ่วงตำแหน่งน้องเขยของมหาเศรษฐีดูไบอย่างเขาด้วย เนื่องจากคุณหมอหล่อและแสนใจดีได้เข้าพิธีแต่งงานกับ เมร่าห์ คาลิฟา อัจมาน น้องสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขา
ทว่าสาเหตุของอุบัติเหตุก็เพราะว่า...
มหาเศรษฐีหนุ่มมาดขรึม หน้าเข้มประสบอุบัติเหตุขณะชื่นชมความวิจิตรงดงามในวัดไทยแห่งหนึ่ง ด้วยความไม่ทันระวังทำให้เขาลื่นล้มเพราะพื้นเป็นหินอ่อนขัดเงาวาววับ แต่โชคดีที่มีสติจึงเอาตัวด้านขวาลงแทนที่จะเป็นศีรษะซึ่งอาจทำให้ได้รับผลกระทบที่หนักกว่า
ผลเอกซเรย์ออกมาว่าข้อมือขวาร้าว ต้องเข้าเฝือกเป็นเวลาหลายสัปดาห์ หนุ่มใหญ่มาดเข้มเกิดอาการเซ็งชีวิตขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เมื่อต้องพาตัวเองมานอนโรงพยาบาลแทนที่จะไปเที่ยวภูเก็ตตามที่ตั้งใจไว้
แต่กระนั้น เขาก็ดันไปสะดุดตาพยาบาลสาวหน้าหวานขณะที่เธอกำลังเข็นรถคนไข้วีไอพีมาสูดอากาศตรงระเบียง ที่ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับผู้ป่วยไม่หนักได้พักผ่อนหย่อนใจ ไม่ต้องหมกตัวอยู่แต่ในห้อง
ครั้นเฟอร์ทรีซเห็นรอยยิ้มหวานของทอฟ้า เขาก็ตกหลุมเสน่ห์แห่งรอยยิ้มหวานอบอุ่น และจริงใจของเธออย่างจัง มหาเศรษฐีดูไบสั่งแกมบังคับศศิวัฒน์ให้เซ็นอนุมัติให้ทอฟ้าที่ดูแลผู้ป่วยชั้นวีไอพีขึ้นมาดูแลเขาที่พักอยู่บนชั้นพรีเมี่ยม
แต่ความประหม่าเมื่อพยาบาลสาวหน้าหวานที่เพิ่งขึ้นมาทำงานกับเขาเป็นวันแรกถูกดวงตาคมสีอินทผลัมจับจ้องเอาไม่วางตา ทำให้วัดความดันผิดพลาดจนเขาถึงกับโอดโอย
“อุ๊ย!!” เสียงร้องอู้อี้ในลำคออย่างตกใจ ตาสีนิลของทอฟ้าตื่นตระหนกเบิกกว้างเมื่อถูกคนไข้ตัวโตจู่โจมด้วยจูบจาบจ้วงดุดัน
ร่างบอบบางดิ้นขัดขืนต่อต้านการกระทำหยาบคายไม่ให้เกียรติของคนไข้หื่นเต็มกำลัง แขนข้างซ้ายที่มีสายน้ำเกลือไม่ใช่อุปสรรคของเขาที่โอบรัดรั้งเอวคอดจนแนบแน่นแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันกับร่างหนา
ริมฝีปากหยักหนาบดขยี้จูบปากบางรุนแรงจนทอฟ้าน้ำตาเล็ด มือที่หมายจะทุบตีถูกรวบไว้ด้วยมือที่ไม่ได้เข้าเฝือกของคนตัวโตเอาแต่ใจอย่างง่ายดาย ไร้ทางสู้
ก๊อก ๆ ๆ
เหมือนระฆังช่วยชีวิตให้ทอฟ้าหลุดจากจูบกระชากวิญญาณนั้นมาได้อย่างฉิวเฉียด ใบหน้าสวยหวานแดงก่ำเป็นแอปเปิ้ลสุก ร่างบอบบางในชุดพยาบาลหอบแฮกอัดอากาศเข้าปอดอย่างต่อเนื่อง จ้องนัยน์ตาสีอินทผลัมที่ส่อแววกรุ้มกริ่มเย้ยหยันด้วยน้ำตาคลอ ดวงตาของทั้งสองผละจากกันเมื่อเสียงอ่อนนุ่มดังแทรกขึ้น
“วันนี้มีไข้ไหมคะ พี่...” เสียงถามไถ่หยุดชะงัก เพราะบรรยากาศในห้องดูแปลก ๆ หญิงสาวที่ก้าวเข้ามาใหม่เห็นหน้าของทอฟ้าแดงก่ำ จึงเอ่ยถามให้คลายสงสัย
“พยาบาลทอฟ้าไม่สบายหรือคะ หน้าแดงจัง” เมร่าห์ คาลิฟา กุลณวัฒน์โชติ ที่จดทะเบียนใช้นามสกุลของสามีสุดที่รักเอ่ยถาม
เมร่าห์จ้องหน้าทอฟ้าอย่างเป็นห่วง เธอย้ายจากโรงพยาบาลดูไบมาประจำที่โรงพยาบาลของสามี ในฐานะแพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมกระดูกและข้อ และพี่ชายสุดหล่อก็มาเป็นคนไข้รายแรกให้เธอรักษา
“เปล่าหรอก พยาบาลทอฟ้าตกใจที่วัดความดันจนแขนพี่ห้อเลือด” เป็นเฟอร์ทรีซที่ตอบแทน พร้อมยกแขนข้างที่มีรอยจ้ำเขียวให้น้องสาวดู
“ดิฉันขอโทษอีกครั้งค่ะ ขอตัวนะคะ” เธอก้มหน้าตอบ
คนตัวโตเจ้าเล่ห์มีรอยยิ้มกวน ๆ มุมปาก พยาบาลสาวหน้าหวานรีบรวบเก็บอุปกรณ์วัดความดันแล้วพาตัวเองออกจากห้องอย่างรวดเร็ว ปล่อยสองพี่น้องเสวนากันลำพัง
“แค่นั้นจริง ๆ หรือคะ พี่ชาย” แววตาจับผิดของเมร่าห์ค้นหาความจริงจากเฟอร์ทรีซที่ล้มตัวนอนเหยียดยาว ยิ้มพราวพรายสบายใจที่ได้จูบพยาบาลสาว รสหวานยังติดปากจนอยากลิ้มลองอีก
“ดูพี่มีความสุขนะคะ ตั้งแต่พยาบาลทอฟ้ามาดูแล น้องว่าจะถามว่า พี่ไปเจอเธอได้ยังไง พี่ซีนบอกพี่บังคับให้พยาบาลทอฟ้าที่ปกติประจำชั้น
วีไอพีให้มาดูแลพี่ พี่ปิ๊งเธอหรือคะ” น้ำเสียงเมร่าห์แซวหยอกเย้าพี่ชายสุดหล่อระคนต้องการคำตอบไปด้วย
“แค่ถูกชะตา” คนเป็นพี่ยิ้มบาง ๆ ยอมรับว่าต้องตาพยาบาลทอฟ้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเธอเข็นรถคนไข้ไปพักผ่อนตรงระเบียงของอาคารพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล
“พี่ซีนบอกว่า คนไข้ชื่นชมพยาบาลทอฟ้าเกือบทุกคน เพราะเธอเป็นพยาบาลที่เอาใจใส่คนไข้เป็นอย่างดี ทั้งใจดีและยิ้มสวย พี่ชอบตรงไหนของเธอคะ” คนเป็นน้องยังไม่หยุดถามพี่ชายที่นอนเผยยิ้มกับจูบหอมหวานของทอฟ้าที่ติดใจมิคลาย
“ทุกอย่าง ยิ่งปากหอมหวานมาก” เพ้อออกมาอย่างลืมตัว คุณหมอคนสวยตาโต โพล่งถามพี่ชาย
“นี่อย่าบอกนะที่พยาบาลทอฟ้าหน้าแดงเพราะพี่จูบเธอ!”
ไม่มีคำตอบ
คุณหมอคนสวยเห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มถูกใจของพี่ชายก็อยากจะฟาดสักผลัวะ นี่ขนาดเมืองไทยพี่ชายเธอยังทำรุ่มร่ามได้ขนาดนี้
“พี่ชายไม่ควรทำแบบนี้นะคะ ถ้าเกิดพยาบาลทอฟ้าไปฟ้องพี่ซีน แล้วขอย้าย...”
“ลองน้องเขยกล้าย้ายพยาบาลทอฟ้าสิ พี่จะพาเรากลับดูไบ”
เป็นไงล่ะ ถ้าน้องเขยกล้าย้ายทอฟ้ากลับชั้นผู้ป่วยวีไอพีเขาก็จะพาน้องสาวกลับดูไบ โทษฐานไม่เชื่อฟังคำสั่งพี่เมีย
“พี่ชายทำตัวเป็นเด็กไปได้ น้องไม่เคยเห็นพี่ไม่มีเหตุผลแบบนี้เลย น้องขอ พี่อย่าทำให้พยาบาลทอฟ้ากลัวอีกนะคะ”
“พี่ไม่รับปาก”
น้ำเสียงเข้มห้วนอย่างคนที่ไม่เคยถูกใครบังคับและไม่ชอบคนขัดใจ ทำให้เมร่าห์อ่อนใจจะค้าน จึงหยิบชาร์ตประวัติคนไข้ของพี่ชายมาอ่าน
“ไข้ไม่มี ความดันดี พี่ปวดมือไหมคะ” คุณหมอสาวเงยหน้าจากชาร์ตประวัติอาการบาดเจ็บของพี่ชายที่พยาบาลลงบันทึกเอาไว้ขึ้นมาถามพี่ชาย
“ยังปวดอยู่” เขาตอบเรียบ ๆ ไม่มองหน้าน้องสาวที่กำลังสอบถามอาการตามหน้าที่ของแพทย์
“น้องจะสั่งยาฉีดและยากิน ถ้าพี่ปวดก็บอกพยาบาลนะคะ พี่พักผ่อนเยอะ ๆ น้องจะไปตรวจคนไข้ห้องอื่น แล้วเย็น ๆ ก่อนออกเวรจะมาเยี่ยมพี่พร้อมพี่ซีนค่ะ จุ๊บ” คุณหมอคนสวยโน้มตัวมาหอมแก้มพี่ชายสุดที่รักเหมือนทุกครั้งที่ทำกันตั้งแต่เด็ก บ่งบอกความรักระหว่างพี่น้องที่แน่นแฟ้นและไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แม้เธอกลายมาเป็นสะใภ้กุลณวัฒน์โชติแล้ว
“เมร่าห์ตามทารีฟมาพบพี่”
“พี่อยากได้อะไรหรือคะ” เธอถามอย่างใคร่รู้ ปกติพี่ชายไม่น่ามีเหตุต้องเรียกใช้ทารีฟ เลขาส่วนตัวและน้องชายต่างแม่กับเธอ
“พี่อยากกินสาลี่ จะให้ทารีฟไปซื้อ”
“งั้นเดี๋ยวน้องไปบอกพี่ทารีฟให้ค่ะ” เธออาสาไปบอกทารีฟเอง ก่อนออกจากห้องไม่ลืมยิ้มนุ่มนวลให้พี่ชายที่นั่งหน้าเคร่งขรึมบนเตียงคนป่วย
คล้อยหลังน้องสาวคนสวยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์มุมปากของเฟอร์ทรีซก็
ผุดพรายด้วยมีความคิดบางอย่างในใจ
“มาแล้วครับสาลี่ลูกโต ๆ” ทารีฟ คาลิฟา อัจมาน น้องชายต่างมารดาของเฟอร์ทรีซชูถุงสาลี่ที่ไปซื้อมาตามคำบอกของเมร่าห์
ทารีฟถอดแบบความหล่อคมคายจากพี่ชาย แต่ขี้เล่นกว่าเฟอร์ทรีซที่หล่อเหลาคมเข้มดุ น่าเกรงขาม ทว่าดวงตาของสามพี่น้องสีเดียวกัน ทารีฟอายุน้อยกว่าเฟอร์ทรีซสามปี มากกว่าเมร่าห์หนึ่งปี
ตั้งแต่บิดามารดาของพวกเขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ชายหนุ่มก็ได้รับความไว้วางใจจากเฟอร์ทรีซให้มาเป็นเลขาส่วนตัว ช่วงที่มหาเศรษฐีดูไบรักษาตัวในโรงพยาบาล ทารีฟคอยประสานงานกับเลขาของเขาที่ดูไบ เพื่อรายงานให้เฟอร์ทรีซทราบเรื่องธุรกิจทางโน้นอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
“คุณเฟอร์ทรีซจะทานเลยไหม ผมปอกให้ครับ”
“ทารีฟ...” น้ำเสียงเข้มติดดุ ทารีฟเงยหน้าจากถุงสาลี่สบนัยน์ตาสีเดียวกันอย่างรู้ความผิด
“ผมขอโทษ ผมลืมครับ พี่จะทานสาลี่เลยไหม ผมปอกให้ครับ”
ทารีฟลืมคำสั่งของเฟอร์ทรีซว่า เวลาอยู่กันตามลำพังให้เรียกเขา ‘พี่’ แทนคำว่า ‘คุณ’ ทารีฟนึกได้รีบขอโทษพี่ชายต่างมารดา
“ถ้าคราวหน้านายลืมอีก พี่จะยึดลูกชายนาย”
‘ลูกชาย’ คือลัมโบร์กินีสีเหลืองคันโปรดที่จอดอยู่ในคฤหาสน์หลังงามที่ดูไบ ของขวัญวันเกิดจากเฟอร์ทรีซ
“ครับ” ทารีฟรับคำเสียงอ่อยเมื่อถูกขู่ด้วยเรื่องนี้
“นายวางสาลี่ไว้ เดี๋ยวจะมีคนมาปอก” บอกจบ ก็หันไปกดออดที่อยู่ข้างเตียงคนไข้ จนมีเสียงหวานจากพยาบาลด้านนอกตอบรับ เพราะทราบว่าคนป่วยต้องการความช่วยเหลือ
“พี่จะใช้เธอปอกสาลี่หรือ ผมว่าง ผมปอกให้ครับ” ทารีฟอาสา เพราะเกรงใจทอฟ้า มันไม่ใช่หน้าที่ของพยาบาล
“นายปอกสาลี่เค็มหมด” ตำหนิตรง ๆ ไม่อยากกินสาลี่ฝีมือทารีฟ เพราะเขามีคนที่ตั้งใจจะให้ปอกให้กินอยู่แล้ว
“เอ่อ...คุณเฟอร์ทรีซต้องการอะไรคะ” พยาบาลทอฟ้าเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าเตียงถามเสียงนุ่มสุภาพ ทว่าไม่กล้าสบนัยน์ตาคู่สวยคมกริบของเฟอร์ทรีซตรง ๆ
“ช่วยปอกสาลี่ให้หน่อย” คำพูดแกมสั่ง ขณะจ้องทอฟ้าตาไม่กะพริบ
จู่ ๆ ริมฝีปากหยักลึกของมหาเศรษฐีดูไบกระตุกยิ้ม เมื่อมองกลีบปากอมชมพูของทอฟ้าที่เขาลิ้มลองเมื่อเช้าพาหัวใจแข็งแกร่งเต้นเร็วผิดปกติ เฟอร์ทรีซไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร เขากอดจูบผู้หญิงมานับไม่ถ้วน แต่พอได้กอดจูบทอฟ้ากลับเกิดความผิดปกติในร่างกาย โดยเฉพาะหัวใจเต้นรัวกว่า
ทุกครั้ง
แต่เขาก็ยังจะไม่หาคำตอบตอนนี้ เพราะเขาเอาแต่มองทอฟ้าเห็นเธออ้าปากค้าง ตกใจกับคำสั่งของเขา
“แต่ถ้าคุณไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไร” เฟอร์ทรีซประชด พอเห็นสีหน้าของทอฟ้าเหมือนขัดใจเขา
ครั้นเจอคำพูดประชดประชันของคนกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงคนป่วยเข้า ทอฟ้าก็จำต้องคว้าถุงสาลี่เดินหายเข้าไปมุมครัว ที่มีไมโครเวฟ ตู้ทำน้ำร้อนน้ำเย็น ซิงก์ล้างจาน และตู้ติดผนังสำหรับเก็บถ้วยชามอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
เธอล้างสาลี่จนสะอาดก็นำใส่จานแล้วเดินออกมา หันซ้ายหันขวาหาที่เหมาะนั่งปอกสาลี่ให้คนป่วยวางอำนาจ เฟอร์ทรีซที่ย้ายตัวเองลงจากเตียงมานั่งบนโซฟาก่อน ตบโซฟาที่ว่างข้าง ๆ เชิงสั่งให้ทอฟ้ามานั่งใกล้ ๆ เขา
“มานั่งปอกตรงนี้”
ทอฟ้ายืนชั่งใจชั่วครู่
ทารีฟมองการกระทำของพี่ชายต่างมารดาเงียบ ๆ คล้ายจะเข้าใจบางอย่างถ่องแท้ จากตอนแรกรู้สึกแปลกใจว่า เหตุไฉนพี่ชายถึงระบุอยากได้ทอฟ้ามาดูแล
ที่แท้ก็แบบนี้เอง สนใจพยาบาลหน้าหวานเข้าแล้วสิพี่เรา
พยาบาลสาวหน้าหวานจำต้องเดินช้า ๆ ไปลงนั่งโซฟาเดียวกับ เฟอร์ทรีซที่เอาแต่มองจนเธอประหม่า ทอฟ้าเป็นพยาบาลมานานไม่เคยประหม่าเหมือนเวลาอยู่ต่อหน้าคนไข้ตัวโตคนนี้ เธอมักทำอะไรผิดพลาดราวพยาบาลฝึกหัดยามถูกสายตาคมกริบของเขาจ้องมอง