7
พ่อบุญทุ่ม
ดวงตากลมโตหวานกวาดมองห้องสี่เหลี่ยมกว้างกว่าอพาร์ตเมนต์ของเธอมากนัก ซึ่งภายในห้องผนังทาสีครีมราวลูกกวาดจับให้ห้องสว่างตา ผ้าม่านสีฟ้าอ่อนพัดพลิ้วตามแรงลมที่พัดผ่านเข้ามาให้ไอเย็นยามค่ำ อากาศที่นี่เวลากลางคืนจะเย็นถึงขั้นหนาว ทอฟ้าละจากผ้าม่านหันมองกระจกที่กั้นระหว่างระเบียงมีโซฟาตัวยาวใหญ่สีครีมตั้งห่างออกมาจากเตียงนอนที่ปูผ้าลายหวานละมุนและน่านอนยิ่งนัก และความคิดของทอฟ้าต้องสะดุดลงกับห้องนอนหรูหราเมื่อได้ยินเสียงทุ้มห้าวเอ่ยถาม
“ชอบห้องนี้ไหมทอฟ้า”
“เป็นห้องที่สวยมากค่ะ จริง ๆ ทอฟ้านอนกับน้องรักก็ได้ ปกติเราสองแม่ลูกก็นอนด้วยกันอยู่แล้ว” ด้วยความเกรงใจเฟอร์ทรีซต้องมาสิ้นเปลืองจึงตอบออกไปแบบนั้น
‘ถ้าให้คุณนอนกับลูก ผมก็อดชิมความหอมหวานของตัวคุณสิ’
คนมีจุดประสงค์วาบหวามแอบแฝงเอ่ยในใจ
“นอนคนละห้องดีแล้ว คิดถึงก็แค่เดินผ่านประตูนั้นไปหาน้องรัก” นิ้วของเฟอร์ทรีซชี้ไปที่ประตูเชื่อมระหว่างห้องนอนของเธอกับลูกชาย
มีแรงดึงดูดบางอย่างดึงให้สายตาสองคู่ประสานกันนิ่งงันราวถูกสะกด แล้วมนตร์ทะเลทรายก็สั่งให้ดวงหน้าคมเข้มของเฟอร์ทรีซโน้มเข้าหาทอฟ้าที่นิ่งมอง ก่อนพริ้มตาหลับอย่างเคลิ้มไหว เรียวปากของทั้งสองเคลื่อนเข้าหากันทีละนิด ๆ กำลังจะแตะสัมผัส พลันเสียงหนึ่งดังขึ้นขัดอย่างตื่นเต้น
“ว้าว! ห้องแม่ฟ้าใหญ่และสวยจังเลยครับ” เป็นเสียงของเด็กชาย
สุดที่รักโพล่งออกมา ยืนกวาดตาชื่นชมความสวย เรียบหรูของห้องนอนคนเป็นแม่ด้วยแววตาเต้นระริก
“คุณลุงเฟอร์ทรีซใจดีจัง ให้เราสองคนมีห้องนอนใหญ่เบ้อเริ่มด้วย” สองมือเล็กกางออกทำท่าให้เฟอร์ทรีซเห็นว่าห้องนอนใหญ่ขนาดไหน
ทอฟ้ายังหน้าแดงเขินอายไม่หาย เกือบจูบกับเฟอร์ทรีซแล้วไหมล่ะ จะเพราะบรรยากาศพาไปบวกความใจดีมีน้ำใจของเขาที่มีต่อเธอและลูกหรืออย่างไร ทอฟ้าแก้เขินและปิดไม่ให้เฟอร์ทรีซได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงของเธอด้วยการโอบกอดลูกชายกลบเกลื่อน เอ่ยชวนเด็กชายสุดที่รักนอนด้วยกัน
“น้องรักนอนกับแม่ฟ้านะครับ”
“น้องรักไม่ชอบห้องที่ลุงให้เหรอ” คนเจ้าเล่ห์รีบแย้ง เพราะกลัว
ทอฟ้ากล่อมจนเด็กชายสุดที่รักนอนด้วย ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาก็เข้าหาเธอไม่ได้สิ
“ชอบครับ แต่น้องรักกลัวแม่ฟ้าเหงาที่ต้องนอนคนเดียวครับ” เสียงของเด็กชายตัวน้อยตอบเจื้อยแจ้วซื่อ ๆ พลอยให้คนเป็นแม่อมยิ้ม กระชับกอดร่างน้อยอย่างทะนุถนอมแสนรัก
“งั้นเราก็นอนด้วยกันเหมือนเคยนะครับน้องรัก”
“คุณควรให้น้องรักหัดนอนคนเดียวนะทอฟ้า เขาจะได้เข้มแข็งและมีวินัย ห้องของคุณกับลูกก็ไม่ได้ไกลกัน คิดถึงหรืออยากเล่านิทานก็เปิดประตูเข้าไปหากันได้” คนตัวโตมีแผนร้ายเกลี้ยกล่อม แล้วลุ้นว่าสองแม่ลูกจะเชื่อฟังเขาหรือไม่
“น้องรักอยากเข้มแข็ง จะได้ดูแลแม่ฟ้า ถ้าวันไหนแม่ฟ้านอนไม่หลับก็มานอนกับน้องรักได้ครับ” เด็กชายสุดที่รักคล้อยตามคำพูดของคนมีแผนการ
เฟอร์ทรีซลอบยิ้มอย่างมีเลศนัย
“เอาแบบนั้นก็ได้จ้ะ” หญิงสาวโอบกอดลูกชาย อ้อมกอดของทอฟ้าถ่ายทอดความรัก ความอบอุ่นให้เด็กชายสุดที่รักรับรู้
เฟอร์ทรีซอยากเข้าไปโอบกอดสองแม่ลูกด้วย แต่ต้องยืนดูเฉย ๆ เขาเห็นความรักยิ่งใหญ่ของคนเป็นแม่ที่ยอมเหนื่อย ยอมอด ยอมเป็นหนี้เพื่อลูก เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เข้มแข็งในสายตาเขา นี่แหละอาจเป็นแรงดึงดูดให้เขาสนใจผู้หญิงอ่อนหวานที่ซ่อนความเย้ายวนใจอย่างทอฟ้า
“พักผ่อนเถอะ ที่นี่อาหารเย็นตั้งโต๊ะหนึ่งทุ่ม ผมจะให้เด็กมาตามเมื่อถึงเวลา” บอกจบร่างสูงสง่าก็หมุนตัวออกจากห้องทอฟ้าที่อยู่กับลูกชายตามลำพัง
เมื่อบานประตูปิดสนิท เสียงหัวเราะของสองแม่ลูกดังแว่วออกมาเฟอร์ทรีซเดาได้ว่าทั้งสองกำลังมีความสุขกับชีวิตที่เขาขีดเส้น ต่อไปนี้ทอฟ้าจะเปลี่ยนจากทำหน้าที่พยาบาลพิเศษเลื่อนมาทำหน้าที่บนเตียงเวลาเขาต้องการ และกล่อมให้เธอยินยอมโดยไม่มีการบังคับหรือขืนใจ เธอจะได้ว่าเขา
ไม่ได้ว่าละเมิดสัญญา
คนมีแผนร้ายยิ้มมุมปากเมื่อเห็นชัยชนะอยู่ข้างหน้า เฟอร์ทรีซผละจากตรงนั้น เดินไปห้องนอนของตนเองที่อยู่อีกด้าน
เมื่อถึงเวลาหนึ่งทุ่มตรง ทุกคนมารวมกันที่โต๊ะอาหารที่มีเก้าอี้วางเรียงเอาไว้สิบกว่าที่นั่ง เฟอร์ทรีซลงนั่งก่อนเป็นคนแรกที่หัวโต๊ะ ทารีฟนั่งที่ประจำด้านขวามือของพี่ชายต่างมารดา ด้านซ้ายทอฟ้ากับลูกชายลงนั่งตาม ก่อนเจ้าของคฤหาสน์จะลงมือรับประทานอาหาร เฟอร์ทรีซหันไปหาแม่บ้านร่างท้วมที่รับใช้กันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ยืนอยู่ไม่ห่างรอรับคำสั่ง
“มาร่า นี่คุณทอฟ้า เธอจะมาเป็นพยาบาลพิเศษของผม”
ทอฟ้าหันไปยิ้ม แล้วประนมมือไหว้ด้วยวัยของแม่บ้านร่างท้วมที่อายุมากกว่าอย่างไม่ถือตัว มาร่าค้อมศีรษะรับ พร้อมยิ้มให้อย่างจริงใจ
“ทารีฟพี่อยากให้หาพี่เลี้ยงมาดูแลน้องรัก เพราะทอฟ้าต้องไปบริษัทกับพี่ทุกวัน”
“ผมจะจัดการให้ครับ” คนเป็นน้องรับคำขันแข็งทำตามคำสั่งโดย
ไม่มีคำถาม
“งั้นกินอาหารเถอะ เดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อย มีอาหารไทยด้วย พอดีโทร.ไปสั่งเชฟที่โรงแรม คิดว่าคุณกับลูกยังไม่ชินอาหารของที่นี่” น้ำเสียงทุ้มบอกราบเรียบ ทว่าคนฟังตื้นตันใจที่เฟอร์ทรีซเผื่อแผ่น้ำใจให้เธอและลูกตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาคฤหาสน์หลังใหญ่โตนี้
“ขอบคุณค่ะ” ทอฟ้าขอบคุณด้วยรอยยิ้มนุ่มละมุน เจ้าของคฤหาสน์หัวใจเต้นตึกตักกับรอยยิ้มตรึงใจเขาตั้งแต่แรกเห็นทอฟ้าที่โรงพยาบาล
ด้านคนสังเกตพฤติกรรมเปลี่ยนไปของพี่ชายต่างมารดาเห็นสายตาของเฟอร์ทรีซบางครั้งเหลือบมองทอฟ้าที่มัวสนใจลูกชายอย่างใกล้ชิดคงกลัวทำมารยาทไม่ดีบนโต๊ะอาหาร รอยยิ้มของทารีฟกระตุก ไม่อยากจะเชื่อว่าเฟอร์ทรีซ คาลิฟา อัจมาน สนใจผู้หญิงที่ไม่ใช่ตัวเปล่า
แต่ถ้าพยาบาลหน้าหวานไม่เล่นด้วย พี่ชายของเขาก็เหมือนตบมือข้างเดียว หากแต่ก็ไม่เคยมีผู้หญิงนางใดไม่หวั่นไหวต่อเสน่ห์ของพี่ชายเขาได้
ทารีฟเฝ้าดูเงียบ ๆ ต่อไปว่า ทั้งคู่จะจบเหมือนคู่นอนชั่วคราวที่ผ่าน ๆ มาของเฟอร์ทรีซหรือเปล่า?
หลังจบมื้ออาหารค่ำ ทุกคนลุกจากที่นั่ง ทารีฟทำท่าจะตามพี่ชายต่างมารดาไปเผื่อว่ามีอะไรจะสั่งเพิ่มเติมนอกจากให้หาพี่เลี้ยง
“นายไปพักเถอะพี่ไม่มีอะไรจะสั่งแล้ว”
“ถ้างั้นกู๊ดไนต์ครับพี่ชาย กู๊ดไนต์ครับคุณทอฟ้า”
“กู๊ดไนต์ค่ะคุณทารีฟ”
คนบอกกู๊ดไนต์หันไปเจอสายตาคมดุ ๆ ของพี่ชายที่ส่อแววหึงจนหน้าหล่อเหลาเข้มตึง ทารีฟหน้าเจื่อนลง ไม่อยากมีปัญหากับเฟอร์ทรีซเรื่องผู้หญิง จึงยิ้มแห้งผละไปห้องนอนของตนที่อยู่อีกตึกของคฤหาสน์ ทว่าเชื่อมถึงกันได้
เฟอร์ทรีซหันมองทอฟ้าจูงมือลูกชายเดินกลับขึ้นห้อง เจ้าของคฤหาสน์เร่งฝีเท้าตามไปคว้ามือนุ่มของนางพยาบาลสาวหน้าหวานมากุมไว้ ซึ่งทอฟ้าไม่กล้าสะบัดมือออกกลัวเป็นจุดสนใจของลูกชาย
เธอยอมให้เฟอร์ทรีซจูงมือพาขึ้นลิฟต์ไปชั้นห้องนอนของเขาและเธอที่อยู่ชั้นเดียวกัน ขณะอยู่ในลิฟต์คนตัวสูงไม่ได้ปล่อยมือเธอ ทอฟ้าลอบมองมือตัวเองที่อยู่ในอุ้งมือหนาอุ่นด้วยหัวใจเต้นแรงเร็ว
เฟอร์ทรีซก้าวตามเข้ามาในห้อง ทอฟ้าหันมาจะเอ่ยถามว่าเขาไม่กลับห้องตัวเองหรือ เหมือนคนตัวโตหล่อเหลาจะเดาใจหญิงสาวออก จึงตอบออกมาเสียงราบเรียบ
“ผมมีบางอย่างให้คุณดู รอน้องรักหลับก่อน ผมจะไปรอที่ห้องของคุณ" บอกจุดประสงค์จบก็ผละไปที่ประตูเชื่อมระหว่างห้องนอนของเด็กชายสุดที่รักกับห้องนอนของทอฟ้า
“ค่ะ” ทอฟ้ารับคำสั้น ๆ ทรุดลงนั่งบนเตียงกับเด็กชายสุดรักที่สวมชุดนอนเรียบร้อย
คุณแม่คนสวยหน้าหวานหยิบหนังสือนิทานที่พกมาด้วยเปิดอ่านให้ลูกชายที่นอนฟังตาแป๋ว ไม่บ่อยที่สองแม่ลูกจะมีเวลาอยู่ด้วยกันแบบนี้ ส่วนใหญ่ทอฟ้าต้องทำงานหาเงินมาเป็นค่ารักษาเด็กชายสุดที่รัก วันนี้ในรอบกี่วันทอฟ้าจำไม่ได้ที่เธอมีโอกาสเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกน้อยที่ตาเริ่มจะปรือปิด
ผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาที เด็กชายสุดที่รักก็หลับพริ้มจากการฟังเสียงหวานของทอฟ้าเล่านิทานกล่อมนอน
ทอฟ้าอมยิ้ม ก้มลงหอมหน้าผากนูนเกลี้ยงของลูกชายเบา ๆ ก่อนจะตลบผ้านวมลายการ์ตูนแอนิเมชั่นรถแข่งสีแดงห่มบนอกลูกชายที่หลับสนิท แล้วลุกจากเตียงเพื่อกลับไปห้องนอนของตัวเอง
เสียงเปิดปิดประตู ดึงสายตาของเฟอร์ทรีซจากทิวทัศน์ด้านนอกที่ประดับดวงไฟเพิ่มความสว่างไสวยามค่ำคืนที่เขาไม่ได้เห็นมาหลายวัน ดวงตาคมกริบสีสวยหันมามองทอฟ้าที่เดินมาหยุดยืนตรงหน้า ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเปรียบเทียบกับเธอแค่อกของเขา
“น้องรักหลับเร็วจัง”
“คงเพลียจากเดินทางค่ะ”
“เดี๋ยวผมจะพาคุณไปดูบางอย่างที่เตรียมไว้”
มือหนาใหญ่อุ่นรวบมือเล็กของทอฟ้าพาจูงเดินออกจากห้องเหมือนกลัวหญิงสาวจะหลงทาง เขามุ่งหน้าไปยังจุดหมายที่มีบางอย่างอยากอวดเธอ ซึ่งสิ่งนั้นก็คืองานที่เขาสั่งทารีฟให้จัดการตอนอยู่โรงพยาบาล รวมถึงห้องนอนของเด็กชายสุดที่รักและทอฟ้าด้วย หนำซ้ำก่อนหน้านี้เจ้าของคฤหาสน์ได้ไปตรวจความเรียบร้อยพร้อมทารีฟก่อนไปรับประทานอาหารค่ำ
เฟอร์ทรีซพาทอฟ้าขึ้นลิฟต์ลงมาชั้นสอง โดยคฤหาสน์หลังใหญ่โตนี้มีด้วยกันสามชั้น ไม่รวมที่พักของทารีฟและที่พักคนงาน อีกทั้งทะเลสาบใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจกับกิจกรรมพายเรือเล่น
อยู่ ๆ ทอฟ้าโพล่งถามสิ่งที่ค้างคาใจ “คุณเฟอร์ทรีซพูดภาษาไทยได้เหรอคะ?”
เฟอร์ทรีซหันมองทอฟ้านิ่ง ก่อนตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เมร่าห์สอน ซึ่งซีนสอนเธอแล้วเธอเลยมาสอนผมกับทารีฟ” คำตอบของเฟอร์ทรีซทำให้คนถามพยักหน้ารับอย่างเข้าใจไม่ซักไซ้ต่อ
หนุ่มสาวจูงมือกันเดินลัดเลาะภายในอาคารจนมาหยุดยืนหน้าประตูเลื่อนบานใหญ่สีน้ำตาล มือหนาปล่อยมือทอฟ้าก่อนเลื่อนบานเปิดประตูกว้างออกช้า ๆ
ดวงตากลมโตหวานเบิกกว้างฉับพลันกับภาพตรงหน้า ตวัดสายตาหันมองคนตัวโตหล่อเหลาคมคร้ามข้าง ๆ ด้วยดวงหน้าฉงน
เฟอร์ทรีซรีบแถลงข้อข้องใจของทอฟ้าโดยไม่รอเธอถาม
“ผมสั่งทารีฟให้จัดเตรียมห้องพักฟื้นนี้ไว้ เวลาน้องรักมีอาการ ยาพ่นเอาไม่อยู่ก็ไม่ต้องไปโรงพยาบาล ผมได้เตรียมหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและอุปกรณ์ไว้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ฉะนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของน้องรักเลย”
ทอฟ้าอึ้งจนพูดไม่ออก ซาบซึ้งกับการเอาใจใส่ของเฟอร์ทรีซ โดยเฉพาะเรื่องที่เขาเตรียมห้องพักฟื้นไว้เวลาเด็กชายสุดที่รักมีอาการหอบหืดกำเริบมากจนต้องนอนโรงพยาบาลอย่างที่เคยเป็น เฟอร์ทรีซได้เตรียมห้องกว้างสีขาวสะอาดตามีกลิ่นอ่อน ๆ ของยาฆ่าเชื้อในโรงพยาบาล ถ้าเธอไม่คิดว่านี่คือบ้าน คงคิดว่าเป็นโรงพยาบาลระดับหลายดาว ก็ทุกพื้นที่ในห้องกว้างขวาง รวมทั้งหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ที่ประกอบกันอยู่ในห้องนี้ ทั้งเครื่องมือแพทย์ครบครันทันสมัยจนน่าทึ่ง!
“ขอบคุณทุก ๆ สิ่งที่คุณทำให้เราสองแม่ลูกค่ะ” ทอฟ้าขอบคุณน้ำเสียงเครือพาให้น้ำตาไหลเอื่อย ซาบซึ้งการกระทำของเฟอร์ทรีซจนไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาขอบคุณมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งที่ทำทุกอย่างให้เธอและลูก
ด้านพ่อบุญทุ่ม ตั้งแต่รู้จักร่วมรักกับผู้หญิงมามากมาย ไม่เคยสักครั้งจะปลอบใจใคร ที่ผ่านมาก็ปลอบด้วยความเร่าร้อนบนเตียงเท่านั้น จู่ ๆ ฝ่ามืออุ่นก็รวบตัวทอฟ้ามาสวมกอดแนบอกแกร่ง ต่างซึมซับเสียงหัวใจของกันที่ดังรัวราวกลองรบ
ทอฟ้ายิ้มกับอกอุ่นกว้าง ซาบซึ้งคนตัวโตที่กอดเธอจนพูดไม่ออก ลืมขัดขืนไปเสียสนิท เพียงซุกหน้าหวานเนียนกับอกอุ่นนิ่งอย่างนั้น
เฟอร์ทรีซดันตัวทอฟ้าออกเล็กน้อย มือนุ่มอุ่นเชยคางมนหญิงสาวขึ้นมาสบตาคมกริบแวววาววิบวับนิ่งงัน มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อไม่เข้าใจตัวเองว่า ไฉนต้องทำมากมายขนาดนี้ ดูราวพ่อบุญทุ่มกับผู้หญิงตัวเล็กที่ไม่โสด ไม่ซิง หรือเพราะความอ่อนหวาน อ่อนโยน อบอุ่นเวลาอยู่ใกล้ทำให้หัวใจไม่เคยรักใครสั่นคลอนหวั่นไหว
ทว่าเฟอร์ทรีซก็โกหกตัวเองว่า ไม่ได้คิดขนาดเอาทอฟ้ามาเป็นเมียเชิดหน้าชูตา เขาคงหลงของแปลกใหม่ที่ไม่ได้ตัวเปล่าอย่างเธอ เลยอยากชิมว่า รสชาติจะละมุนลิ้นเหมือนผู้หญิงที่ผ่าน ๆ มาไหม
เฟอร์ทรีซบอกตัวเองให้คิดแบบนั้นตั้งแต่รู้ว่าทอฟ้ามีลูกแล้ว
แล้วมหาเศรษฐีหนุ่มก็หยุดความคิด โน้มหน้าลงมาหาใบหน้าเรียวเล็กของทอฟ้าที่สบตาเขาด้วยแววตาไหวระริกเมื่อหน้าคมเข้มโน้มลงมาใกล้ ดวงหน้าทอฟ้าอย่างเชื่องช้าจนริมฝีปากของเขาสัมผัสกลีบปากอิ่มสีชมพูนุ่มบดเบียดแช่มช้อย อ้อยอิ่ง หากแฝงความรัญจวนหวานหวาม
มือหนาสีแทนทั้งสองที่ไม่ผ่านงานหนักรวบร่างบอบบางเข้าแนบชิดอกแกร่งแน่นตึง ทรวงสล้างเบียดเสียดอย่างไม่ตั้งใจ เกิดกระแสความร้อนผ่าวแล่นผ่านสองกายที่เดินหน้าบดขยี้ริมฝีปากของกันและกันราวกับโหยกระหายกันเนิ่นนาน
ร่างบางถูกดันชิดผนังห้องสีขาว ขณะปากกระจับบดเคล้าจูบไม่ผละห่าง ซึมซับความหอมหวานซาบซ่าน ก่อเกิดเสียงอื้ออึงในลำคอคนทั้งสองที่ป้อนจูบหวานรัญจวนจากริมฝีปากกันอย่างอิ่มเอมใจ