8
คืนสู่อาณาจักร
เฟอร์ทรีซใช้ความช่ำชองกว่ากล่อมด้วยจูบและลูบไล้เรือนร่างของหญิงสาวที่ตึงแน่น ฝ่ามือนุ่มร้อนไต่เรื่อยจากลำคอระหงมาอ้อยอิ่งที่ลาดไหล่ จากนั้นวกกลับขึ้นไปประคองใบหน้าเรียวรูปไข่ให้แหงนเงยรับลิ้นหนาอุ่นซ่านเข้ากอดรัดลิ้นเล็กที่ไร้เดียงสา ขณะคนตัวสูงหล่อเหลาปรนเปรอความ
แปลกใหม่ทั้งจูบ ลูบไล้ ซุกไซ้ทุกส่วนอย่างนุ่มนวลทะนุถนอมจนทอฟ้าเคลิ้มตามความรัญจวนหวามไหว
ฝ่ามือหนานุ่มไต่เลื้อยอย่างมีชั้นเชิงมาหยุดนวดทรวงอวบแน่น กด บีบ คลึงเบา ๆ ไม่ให้ทอฟ้าตื่นตกใจ ก่อนเพิ่มน้ำหนักจนเจ้าของอกสล้างเกิดความเสียวซ่าน
“อ่า...” ทอฟ้าครางแผ่วอย่างเสียการควบคุม โดนเล้าโลมจากฝ่ามือหนาร้อนที่ขยี้ขยำหน้าอกเธออย่างเพลิดเพลินเพราะเห็นเจ้าของสติเตลิด
“แม่ฟ้า! แม่ฟ้า!” เสียงเรียกของเด็กชายสุดที่รักดังมาจากอุปกรณ์ที่เป็นลำโพงไม่ใหญ่มากพกพาได้สะดวก อุปกรณ์ชิ้นนี้จะมีติดไว้ในบ้านที่มี
เด็กเล็กเวลาตื่นขึ้นมาร้องกลางดึก ซึ่งทอฟ้ารอบคอบพกใส่กระเป๋ากางเกงมาด้วย
ครั้นได้ยินเสียงเด็กชายสุดที่รักสติของทอฟ้าก็กลับคืนมา ผละจากจูบร้อนแรงของเฟอร์ทรีซที่อารมณ์สำราญต้องชะงักค้างคา
“น้องรักตื่น ทอฟ้าขอไปดูลูกนะคะ” บอกน้ำเสียงร้อนรน กำลังจะหมุนตัวทว่าเสียงทรงอำนาจทัดทานไว้
“เธอกลับไม่ถูกหรอกไปพร้อมกัน” มือหนาดันประตูปิดสนิท คว้าข้อมือเล็กที่สั่นน้อย ๆ คงตื่นตระหนกกับสิ่งที่ทำกับเขาเมื่อครู่
คนนำทางกิตติมศักดิ์ใช้เวลาไม่นานก็พาทอฟ้าเข้ามาลงนั่งบนเตียงของเด็กชายสุดที่รักที่หลับสนิท ทอฟ้าลูบผมลูกชายเบา ๆ สีหน้าห่วงใย เอ่ยเรียกชื่อเด็กน้อยข้างหูราวกระซิบ
“น้องรักเป็นอะไรครับ”
ทอฟ้าหันมองเฟอร์ทรีซที่ยืนมองอยู่พอดี ตอนนี้เขาคลายความปวดหนึบทรมานตรงหว่างขาลงนิดหน่อย มองหน้าทอฟ้าที่บอกน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างเกรงใจ
“สงสัยน้องรักละเมอค่ะ”
“ละเมอ” ชายหนุ่มครางอย่างกรุ่นนิด ๆ
ถูกขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มด้วยการละเมอเนี่ยนะ!!!
แต่ทำไงได้คนเป็นแม่พอได้ยินเสียงลูก ก็คงหมดอารมณ์สนุกแล้ว เธอถึงรีบมาหา และลืมไปว่าทำเขาอารมณ์ค้างเติ่ง
“คุณเฟอร์ทรีซคะ ถ้าไม่ว่าอะไรทอฟ้าขอนอนเป็นเพื่อนน้องรักคืนนี้ กลัวลูกตื่นมาตอนดึกแล้วไม่ชินสถานที่จะงอแงน่ะค่ะ”
เรียวปากสวยเกินผู้หญิงของเฟอร์ทรีซเม้มเข้าหากัน จริง ๆ อยากสานต่อความรู้สึกที่ค้างไว้ พอได้ยินทอฟ้าพูดแบบนี้ ใจและกายที่ร่ำ ๆ อยากกอดรัดฟัดหญิงสาวจำต้องปล่อยวางก่อน ยังมีเวลาให้เขาได้กินเธออีกนาน วันนี้ถือว่าปล่อยเหยื่อสาวเนื้อหอมหวานได้ปรับตัวแล้วกัน
“พรุ่งนี้คุณต้องไปบริษัทกับผม ส่วนน้องรักจะให้มาร่าดูแลไปก่อนจนกว่าจะหาพี่เลี้ยงได้”
“ขอบคุณเรื่องพี่เลี้ยงค่ะ” ทอฟ้ายิ้มอ่อนให้เฟอร์ทรีซที่กำลังจะหมุนตัวออกจากห้อง ก่อนที่เขาจะนึกบางอย่างได้ แล้วเร่งเดินตรงไปหาทอฟ้า ดึงเธอขึ้นมายืนประจันหน้า ก้มตัวลงประทับจูบราตรีสวัสดิ์ให้หญิงสาวใจสั่นอย่างเนิบช้า และไม่อยากผละออกมาเลย เนิ่นนานกว่าจะยอมถอนจูบหวานซ่าน พร้อมถอนหายใจเฮือกอย่างตัดใจ
“กู๊ดไนต์นะทอฟ้า”
“กุ๊ด…กู๊ดไนต์ค่ะคุณเฟอร์ทรีซ”
เสียงตอบสั่นรัวถูกเขาจูบพาใจสาวสะท้านสั่นไหวเกือบเตลิดตามเขาอีกแล้ว ถ้าเฟอร์ทรีซไม่หยุดเสียก่อน มิเช่นนั้นทอฟ้าอาจโน้มคอเขาลงมาบดจูบแนบแน่นและคงได้เลยเถิดกว่าจูบไปไกลแน่
มือเล็กนุ่มของทอฟ้าแตะกลีบปากช้ำที่เฟอร์ทรีซฝากสัมผัสร้อนรุ่มไว้พร้อมหน้าสวยหวานแดงซ่านร้อนผ่าวถึงในทรวง อยู่ ๆ ทอฟ้าก็คิดเรื่องหน้าไม่อายอยากให้เฟอร์ทรีซทำมากกว่าจูบ
เธอรีบสะบัดศีรษะไล่ความคิดเลยเถิดทิ้ง สูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ ท่องไว้ ‘อย่าเผลอไผล ๆ’ ไม่เช่นนั้นเธอนั่นแหละที่จะเจ็บปวด เขาแค่ทำดีไม่ได้หมายความว่าจะยกย่องเธอมากกว่าลูกจ้างเสียเมื่อไหร่
ส่วนคนอารมณ์ค้างเข้าห้องนอนมาก็รีบปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจนหมด ก้าวยาว ๆ เข้าห้องน้ำ ใช้น้ำเย็นราดรดดับความร้อนรุ่มกระหายที่สุมกายแกร่ง ยิ่งตรงส่วนหว่างขาตึงแน่นขยายใหญ่โต ชี้ชัดว่าต้องการฝากรักในตัวของทอฟ้าเต็มที่ ถ้าไม่ติดว่ามีเหตุต้องหยุดกลางคันส่งให้เขาหน้าหงิก
อย่างนี้
ไม่เคยสักครั้งที่ฝ่ามือร้อนจะต้องช่วยคลายความเครียดให้ตัวเองที่ขยายเต็มลำท่ามกลางสายน้ำฝักบัวเย็นฉ่ำช่วยลดทอนความร้อนในกายหนาอีกระดับ
เก้าโมงของวันใหม่ เฟอร์ทรีซในสูทสีเทาเข้มของแบรนด์ดัง สีหน้าบอกบุญไม่รับเพราะนอนไม่หลับ การช่วยตัวเองเป็นแค่การปลดปล่อยให้คลายความทรมานแต่ไม่ได้สร้างสุขเหมือนร่วมรักจริง ๆ
ร่างสูงสง่าตีหน้าตึงขรึม นั่งเก้าอี้ที่ประจำในห้องอาหาร ถัดไปเป็น
ทารีฟในสูทสีควันบุหรี่ที่ความหล่อคมเข้มต่างจากพี่ชาย ทอฟ้าสวมเดรส
สีชมพูมิดชิดยาวคุมเข่าประคองเด็กชายสุดที่รักลงนั่งข้างกัน
พยาบาลพิเศษหน้าสวยหวานไม่ทันเห็นนัยน์ตาคมกริบสีสวยที่กำลังลอบมองอย่างชื่นชมความสดใสน่ารักเมื่อเธอสลัดคราบนางฟ้าชุดขาว
หากคนตาดีอย่างทารีฟก็อมยิ้มขำสายตาของพี่ชายที่เฝ้ามองทอฟ้าจนลืมว่ามีเขาแอบมองอยู่เงียบ ๆ
แล้วเหมือนคนตัวโตหล่อคมเข้มดุจะรู้ตัวว่าถูกเจ้าน้องชายตัวดีมองอยู่ จึงตวัดสายตาคมกริบหันไปเอาเรื่อง ทารีฟที่สะดุ้งโหยง รีบเบนสายตามาสนใจอาหารเช้าตรงหน้าเพราะยำเกรงนัยน์ตาคมกริบสีเดียวกัน
เฟอร์ทรีซไม่ได้พูดอะไรกับทารีฟ เพราะเกรงทอฟ้ารู้ตัวว่าอยู่ในสายตาเขาตลอด เจ้าของคฤหาสน์หลังโตเปลี่ยนเป็นเรียกแม่บ้านร่างท้วมมาสั่งความ
“มาร่าดูแลน้องรักให้ดี รู้ใช่ไหมถ้าน้องรักเกิดมีอาการให้กดตามหมอทันที”
“รับทราบค่ะคุณเฟอร์ทรีซ” แม่บ้านร่างท้วมตอบน้ำเสียงหนักแน่นให้ประมุขของบ้านเชื่อใจ
“ฝากน้องรักด้วยนะคะ” ทอฟ้ายิ้มอ่อนหวานขณะฝากลูกน้อยไว้กับมาร่าที่แย้มยิ้มส่อแววเอ็นดูลูกชายของเธอ
จากนั้นทุกคนก็รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกันเบรกฟาสต์ เนื่องจากเฟอร์ทรีซและทารีฟไปเรียนเมืองนอกมานานจึงติดอาหารสไตล์นี้เป็น
มื้อเช้า ทอฟ้าป้อนไส้กรอกคำเล็กให้ลูกชายพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนทุกครั้งที่ออกไปทำงาน
“น้องรักครับ แม่ฟ้าต้องไปดูแลคุณลุงเฟอร์ทรีซ น้องรักอยู่กับป้า
มาร่าอย่าซนนะครับ ตอนเย็นเราเจอกันนะครับ”
“น้องรักจะไม่ดื้อ ไม่ซนครับ จุ๊บ”
สองแม่ลูกจูบกันเหมือนทุกครั้งเล่นเอาหน้าหล่อ ๆ ของเฟอร์ทรีซแดงถึงหูกับภาพการแสดงความรักตามประสาแม่ลูก อยากให้ปากเด็กน้อยเป็นปากของเขาจัง เฟอร์ทรีซเผลอคิดอิจฉาเด็กชายสุดที่รักเข้า
“คุณเฟอร์ทรีซไม่สบายหรือคะ หน้าแดงเชียว”
คนทำหน้าที่พยาบาลพิเศษเหลียวมาเห็นหน้าของเฟอร์ทรีซที่แดงราวจับไข้ มือเล็กนุ่มถือวิสาสะยกขึ้นอังหน้าผากมหาเศรษฐีดูไบที่นั่งตัวแข็งทื่อ ตกตะลึงการกระทำอ่อนโยนนุ่มนวลของทอฟ้าจนพูดไม่ออก
“ตัวก็ไม่ร้อน แต่ทานยาแก้ไข้กันไว้ก่อนดีกว่าอาจเป็นเพราะร่างกายเพิ่งปรับตัวค่ะ” สรุปอาการด้วยเหตุผลเสร็จสรรพ ทอฟ้าหันไปคว้ากระเป๋าสะพายที่พกยาแก้ไข้ติดตัวเสมอออกมา แกะจากแผงส่งให้เฟอร์ทรีซด้วยแววตาห่วงใย
“นี่ค่ะยา”
ฝ่ามือใหญ่รับยาแก้ไข้สองเม็ดจากมือทอฟ้ามารับประทานอย่างไม่อิดออด ก็ไม่กล้าบอกว่า ที่หน้าของเขาขึ้นสีแดงซ่านเพราะเห็นเธอจูบกับ
ลูกชาย พูดออกไปคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน มีหวังได้อายทารีฟ มาร่าและทอฟ้าที่มองเขารับประทานยาตาแป๊วซื่อ
“ทุกคนทานเสร็จแล้วก็ไปทำงานกัน”
ครั้นทานยาแล้ว และเห็นทุกคนทานอาหารเสร็จพอดี ประมุขของคฤหาสน์ก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงบวกความสง่าผ่าเผย ก้าวออกจากห้องตรงไปด้านหน้าคฤหาสน์เพื่อขึ้นรถคันหรูราคาหลายล้านที่จอดรออยู่
“บ๊ายบายครับแม่ฟ้า บ๊ายบายครับคุณลุงเฟอร์ทรีซ คุณอาทารีฟ” เสียงเด็กชายสุดที่รักโบกมือลาทุกคนด้วยรอยยิ้มน่ารักน่าเอ็นดูจนคนเป็นแม่ต้องก้มลงกอด หอมแก้มนุ่มอย่างรักสุดใจ
“เจอกันตอนเย็นน้องรัก” เป็นเฟอร์ทรีซบอกเด็กชายตัวน้อยที่ยืนอยู่ข้างมาร่า ฉีกยิ้มแฉ่งส่งให้ทุกคนที่พากันขึ้นรถลีมูซีนสีดำคันยาวมันปลาบออกจากคฤหาสน์หลังงาม
ใช้เวลาไม่นานรถหรูวิ่งเข้าสู่ถนนหลัก ดวงตากลมหวานกวาดมองถนนหนทางที่เจริญรุ่งเรืองไปด้วยตึกหลากหลายรูปทรงทันสมัย ทั้งรถที่วิ่งล้วนราคาแพง ๆ ทั้งนั้น แม้แต่รถของตำรวจที่ดูจะสวยเวอร์ต่างจากบ้านเมืองของเธอ
“เคยมาดูไบไหม” เสียงทุ่มทรงอำนาจถามเรียกความสนใจของ
ทอฟ้าหันกลับมาสบตาเขา ก่อนตอบน้ำเสียงอ่อนนุ่มเจียมตัว
“ไม่เคยค่ะ เมืองนี้ดูทันสมัยทุกอย่างเลยนะคะ ขนาดรถตำรวจยังใช้รถแพงเลย” แม้ทอฟ้าจะไม่เชี่ยวชาญเรื่องรถยนต์ เธอก็พอดูออกว่ารถที่ตำรวจใช้ไม่ใช่รถญี่ปุ่นเหมือนที่บ้านเมืองเธอ
“ตำรวจต้องใช้รถซูเปอร์คาร์จะได้ไล่กวดคนร้ายและพวกเศรษฐีทั้งหลายที่ชอบฝ่าฝืนกฎหมายได้ทันไง” เฟอร์ทรีซอธิบายสิ่งที่ทอฟ้าพยักหน้ารับอย่างเข้าใจไม่ถามต่อ
และแล้วรถลีมูซีนคันยาวเฟื้อยก็จอดสนิท คนขับรถในชุดสูทสีดำลงมาเปิดประตูให้เฟอร์ทรีซก้าวลงมาก่อน มีทอฟ้าตามลงมายืนข้างกายแกร่ง โดยมีทารีฟประกบอยู่เสมือนเงาตามตัวพี่ชายในฐานะเลขาส่วนตัว
ข้อมือขวาของเฟอร์ทรีซมีเฝือกพันไว้เหมือนเดิม ซึ่งไม่อาจลดทอนความหล่อเหลาคมเข้ม สมาร์ทชวนมองของเจ้าของบริษัท อัจมาน กรุ๊ป ลงได้ ทอฟ้าเงยหน้ามองตึกระฟ้าสูงหลายชั้นตั้งตระหง่านตรงหน้าอย่างทึ่งกับความยิ่งใหญ่และร่ำรวยของเฟอร์ทรีซเงียบ ๆ
ซีอีโอหนุ่มเดินผ่านพนักงานทุกระดับที่มารอต้อนรับการกลับมาของเจ้าของอาณาจักรด้วยสีหน้ายิ้มแย้มที่ผู้นำของตนกลับมาอย่างปลอดภัยหลังจากรู้ข่าวเฟอร์ทรีซประสบอุบัติเหตุ
ทอฟ้ามองภาพพนักงานค้อมศีรษะทำความเคารพนายใหญ่อย่างนอบน้อม ก็อดทึ่งกับความสามารถของเฟอร์ทรีซในเรื่องการบริหารงานจนบริษัทใหญ่โตไม่ได้ จากที่เธอเห็นภาพเขาในชุดคนไข้ก็ดูดีแล้วพอได้เห็นมาด
ซีอีโอหนุ่ม เฟอร์ทรีซน่าเกรงขามและดูยิ่งใหญ่มากจริง ๆ
ความคิดของทอฟ้าหยุดลงเมื่อเฟอร์ทรีซพาเธอเข้ามาในห้องทำงานโทนสีขรึม ตัวเขาลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานที่ห่างไปหลายวันด้วยท่าทางมุ่งมั่นและสง่างาม
ทารีฟเข้าเรื่องงานทันที
“นี่เป็นหนังสือสัญญาทั้งเรื่องลูกค้าซื้อน้ำมันและสั่งรถยนต์ไฟฟ้า เชิญท่านประธานตรวจสอบก่อนว่ามีอะไรต้องแก้ไขหรือเปล่าครับ”
“โอเค”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวครับ”
“นายไปทำงานเถอะ”
สิ้นเสียงเฟอร์ทรีซ ทารีฟหมุนตัวออกจากห้องไปที่ห้องทำงานของตนเอง ซึ่งอยู่คนละฝั่งกับห้องทำงานของพี่ชายต่างมารดา
ภายในห้องเงียบลงถนัดตา เฟอร์ทรีซก้มหน้าอ่านเอกสารสัญญาซื้อขายอย่างละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งเป็นนิสัยการเอางานเอาการของเขาอยู่แล้ว
ทอฟ้านั่งอยู่โซฟากว้างสีน้ำตาลอ่อนที่วางไว้มุมห้อง เผลอมองเฟอร์ทรีซที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเงียบ ๆ เวลาเขามุ่งมั่นกับงานก็ดูดีไปอีกแบบ ดูสุขุม น่าเกรงขาม แต่พอเวลาเขาสวมวิญญาณหื่นกับเธอกลับเหมือนเป็น
คนละคน
ครั้นคิดเรื่องนี้หน้าหวาน ๆ ของทอฟ้าก็แดงระเรื่อขึ้น เธอกลัว เฟอร์ทรีซเห็นจึงรีบเบือนหน้าไปทางอื่นกลบเกลื่อนร่องรอยความคิดน่าอายนั้น
“คิดเรื่องผมจูบคุณล่ะสิหน้าแดงเลย”
“คุณ!...” เถียงไม่ออกกับการเดาใจที่แม่นยำของคนตัวโตที่สบตาเธอด้วยแวววาวหวามไหว
จู่ ๆ เฟอร์ทรีซก็ลุกจากเก้าอี้ตรงดิ่งมารวบร่างบอบบางของทอฟ้าช้อนขึ้นมานั่งบนตักแข็งแกร่งของเขาหน้าตาเฉย
“ว้าย! คุณเฟอร์ทรีซปล่อยทอฟ้านะคะ เดี๋ยวใครเข้ามาเห็น มันไม่เหมาะค่ะ” เสียงรัวสั่น ทั้งอาย ทั้งเขินกับการกระทำอันถือวิสาสะของซีอีโอหนุ่มหล่อที่ฉวยโอกาสเอาเปรียบเธอไม่บอกกล่าว
“ไม่มีใครกล้าเข้ามาก่อนผมอนุญาต” บอกจบก็ฉกจูบปากสีชมพูเคลือบลิปกรอสอย่างดูดดื่มแรงร้อน เล่นเอาคนไม่ชิน ไม่ประสาเผลอจูบรับได้อย่างน่ารักจนคนนำจูบฮึมฮัมในลำคอด้วยความพออกพอใจ