หนี - 11
ฉันตกใจจึงผลักเขาล้มลงไปกองกับพื้น เธอหันกับไปกดปุ่มเรียกลิฟท์กดย้ำๆและหันกลับไปมองเขา เมื่อเห็นว่าเขากำลังทำท่าจะลุกขึ้นยืน
ไม่นานประตูลิฟท์ก็เปิดออก ฉันจึงรีบวิ่งเข้าไปในลิฟท์และกดปุ่มปิดประตูลิฟท์ย้ำๆ
(กดย้ำๆมันจะปิดให้เร็วขึ้นรึไง : หนวดแมว) ไม่เร็วหรอ !!?? ก็เห็นคนที่เร่งรีบเขาชอบทำกัน นึกว่ามันจะรีบปิด : แอปเปิ้ล (คนอ่านอย่าทำเป็นเยี่ยงอย่างนะค่ะ มันจะทำให้ตัวลิฟท์มีปัญหาได้นะค่ะ : หนวดแมว)
ฉันเห็นเขาเดินตรงมาที่ลิฟท์แต่ก็สายเกินไปเพราะประตูได้ปิดลง ฉันยืนกุมหน้าอกอวบใหญ่ด้วยหัวใจเต้นแรง
ทำไงดีว่ะ!! เขามาเจอฉันที่นี่ได้ไง!!??
แต่เขาคงไม่รู้หรอว่า ฉันพักอยู่ชั้นไหน ห้องไหน
ไม่ได้!!?? ไม่ช้าก็เร็วเขาคงรู้ อีกอย่างเขามีรูปฉันด้วย ถ้าเขาใช้รูปและบอกเป็นคนรู้จักฉัน
โอ้ยๆๆ ปวดหัวเว้ย!!??
ฉันขยี้หัวตัวเองไปมาอย่างคนจิตตก เพราะในหัวมันกำลังตีกันไปมา ไม่นานประตูลิฟท์ก็เปิดออก ฉันจึงรีบเดินออกไปและเดินตรงไปที่ห้องของตัวเอง
ฉันแตะคีย์การ์ดและเปิดประตูห้องเดินเข้าไปข้างใน ฉันเดินตรงไปที่โซฟาและล้มตัวลงนั่งอย่างคนหมดแรง
ในเมื่อเขาเจอฉันแล้ว ฉันคงต้องหาทางหนีเขา
ตั้งแต่ผมเจอแอปเปิ้ลโดยบังเอิญ เธออยู่ในชุดนักศึกษาแต่ถ้าเป็นชุดที่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขา ผมคงจะไม่โมโหจนเลือดขึ้นหน้าแบบนั้น
ผมอยากจะเดินเข้าไปกระชากมือเธอให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่ความเป็นจริงมันทำไม่ได้ไงครับกว่าผมจะหาเธอเจอไม่ใช่เรื่องง่าย
ดีที่ไอ้เหี้ยบอลมันแอบถ่ายรูปของเธอไว้และบังเอิญผมเดินเข้าไปเห็นพอดีเลยถามมัน กว่าไอ้เหี้ยบอลมันจะยอมตอบ
ต้องเอาของมาเซ่นไหว้มัน ปากหนักซิบ
(นี้คนหรือเจ้าที่ มีเซ่นไหว้ด้วย : หนวดแมว) มันก็คนนี้ล่ะ ถ้าอยากได้คำตอบต้องมีของไปให้มัน : แม็ททิว
ผมจึงพยายามสงบใจและรีบเดินกลับเข้าห้องทันที ถ้าขืนอยู่นานมีหวังผมคงจับเธอขังไม่ให้ออกไปไหนได้เลย
ผมจึงรีบเดินเข้าห้องและปิดประตู ผมเดินตรงไปที่ห้องนอนหยิบผ้าขนหนูและเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำ ไม่นานผมก็อาบน้ำเสร็จ
ผมเดินออกมาแต่งตัวที่ตู้เสื้อผ้าและเดินกลับไปที่เตียงนอนและล้มตัวลงนอน และหลับไปทันที
20:00 น.
ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาและหันไปที่โต๊ะข้างเตียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว ผมลงจากเตียงและเดินไปล้างหน้าล้างตา
และเดินออกมาจากห้องน้ำและเดินตรงไปที่ประตูห้องและออกจากห้องก่อนจะเดินตรงไปที่ลิฟท์
ผมจะหันไปมองประตูห้องตรงข้ามที่ปิดสนิทแปลว่า เจ้าของห้องยังไม่กลับ ผมจึงเดินตรงไปที่ลิฟท์และกดปุ่มเรียก
ไม่นานลิฟท์ก็เปิดออกผมจึงเดินเข้าไปและกดลงข้างล่าง ไม่นานลิฟท์ก็เปิดออกผมจึนเดินออกมาจากลิฟท์เดินออกมาจากคอนโด
ผมเดินออกคอนโนเพื่อไปหาอะไรทานลงท้อง ตั้งแต่กลับมายังไม่ได้ทานอะไรเลย ผมยืนอยู่หน้าคอนโน เห็นร้านอาหารตามสั่งที่อยู่ตรงข้าม
ผมมองซ้ายมองขวาว่ามีรถไหมและเดินข้ามถนนไปที่ร้านที่มีลูกค้ายืนรอกันอยู่ ผมเดินตรงไปที่ผู้หญิงที่ยืนถือสมุดจดเมนูอยู่
"เอาอะไรค่ะ"
"ข้าวผัดกุ้ง" ผมบอกเธอและเดินมานั่งรอที่เก้าอี้ว่าง ไม่นานเธอก็ถือจานข้าวผัดกุ้งมาวางไว้ที่โต๊ะพร้อมกับเศษกระดาษอะไรไม่รู้
ผมก็ก้มหน้าก้มตาทานข้าวจนเสร็จ และลุกขึ้นยืนเดินไปที่บริการน้ำดื่ม ผมหยิบแก้วน้ำและเปิดกระติกน้ำและตักขึ้นดื่ม
ผมวางแก้วน้ำที่กระป๋องใส่แก้วใช้แล้วและเดินไปจ่ายเงินค่าข้าวเสร็จ ก็เดินกลับเข้าคอนโดทันที
ในระหว่างที่ผมกำลังจะเดินเข้ามาในคอนโดก็เห็นรถของแอปเปิ้ลเลี้ยวเข้ามาพอดี ผมจึงรีบเดินตรงไปที่ลานจอดรถ
และเห็นเธอลงมาพร้อมชุดนักศึกษาที่แบบช่างมันเถอะ ทำไม!! พึ่งกลับมาว่ะ ผมยืนมองเธอเดินตรงไปที่ลิฟท์
ผมจึงเดินตามเธอและเผลอทักเธอขึ้นมา พอเธอหันมาเห็นผมก็ตกใจและก็ค่แปบเดียวก็จะหันไปสนใจลิฟท์
ผมก็เลยปากเสียพูดจาไม่เข้าหูเธอจึงเธอโกรธผมและผลักผมล้มลงกองกับพื้น พอผมพยุงตัวเองขึ้นมาประตูลิฟท์ก็ปิดไปแล้ว
ผมยืนรอจึงกว่าเธอจะถึงชั้นที่เธออยู่ ผมจึงกดเรียกลิฟท์ไม่รีบร้อนอะไร เพราะเราอยู่ชั้นเดียวกัน ไม่นานลิฟท์ก็เปิดออกผมจึงเดินเข้า
และกดปุ่มไม่นานลิฟท์ก็เปิดออก ผมจึงเดินออกมาจากลิฟท์ เดินตรงไปที่ห้องตัวเอง ก่อนจะเดินเข้าห้องผมจึงหันไปมองห้องตรงข้าม
และเดินเข้าห้องไป สงสัยผมคงต้องหาทางทำอะไรซะอย่างกับเธอแล้ว ปล่อยไว้นานๆไม่ได้แล้ว
07:00 น.
ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมานั่งบิดขี้เกียจก่อนและหันไปมองนาฬิกาตรงผนังกำแพง ว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว ฉันจึงก้าวลงจากเตียงและตรงไปที่ห้องน้ำ
ไม่นานฉันก็อาบน้ำเสร็จและเดินออกมาแต่งตัว ฉันแต่งตัวสบายๆชิวๆ เสื้อยืดกางเกงขาสั้นและเดินไปหยิบหมวกมาใส่
วันนี้ฉันมีเรียนบ่าย และวันนี้ฉันว่าจะไปซื้ออุปกรณ์สำหรับปลอมตัว ฉันเดินมาใส่รองเท้าผ้าใบที่หน้าประตู
และเปิดประตูห้องเดินออกไป ฉันเดินตรงไปที่ลิฟท์และกดเรียกลิฟท์ ไม่นานลิฟท์ก็เปิดออก ฉันจึงเดินเข้าไปกดลงข้างล่าง
ไม่นานลิฟท์ก็เปิดออกฉันจึงเดินออกมาตรงไปที่รถและขับออกไปทันที
ห้างสรรพสินค้าKJ
ฉันขับรถออกมาจากคอนโดไม่นานก็ขับมาถึงห้างดังแห่งหนึ่งและเลี้ยวเข้าไป ฉันขับรถวนหาที่จอดรถอยู่นานพอสมควร
ไม่นานก็เจอที่ว่าง ฉันจึงเลี้ยวเข้าไปจอดและลงจากรถและเดินเข้าห้างสรรพสินค้า ฉันเดินขึ้นบันไดเรื่อยเพื่อจะไปซื้อชุดนักศึกษาตัวใหม่
พอซื้อเสร็จก็เดินลงบันไดเรื่อยไปโซนเครื่องสำอาง ฉันเลือกซื้อสำอางเล็กน้อยและเดินไปร้านเสริมสวย เพื่อทำผิวสีแทน
ไม่นานฉันก็ได้ผิวสีแทนและเดินไปที่ร้านขายแว่นตา ฉันเดินดูแว่นกรอบใหญ่มันจะได้บังหน้าบังตาฉัน ฉันเลือกดูอยู่นานพอสมควร
ก็ได้แว่นตาที่ถูกใจแถมกรอบใหญ่มากกกก ฉันเดินไปจ่ายเงินค่าแว่นและเดินออกมาจากร้าน และดูของเล็กน้อยและกลับคอนโดทันที
ฉันเดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าเดินตรงไปที่รถ เปิดประตูข้างคนขับและวางของที่ซื้อมาไว้ที่เบาะและปิดประตูรถ
ฉันเดินกับไปที่ฝั่งคนขับและเปิดเข้าไปนั่งและลองหยิบแว่นมาลองใส่ดูและหยิบกระจกขึ้นมาดูว่าเป็นไงบ้าง
ไอ้เหี้ย!!! นี่เฉิ่มหน้าดำนี้ใครว่ะ แว่นก็ใหญ่บังหน้าบังตาซะมิด จึงไม่รู้ว่าคนที่อยู่ในกระจกเป็นใคร
ฉันพอใจกันการปลอมตัวในครั้งนี้และขับรถออกจากห้างไปทันที เพราะได้เวลาไปมหาลัยแล้วด้วย
12:05 น.
ไม่นานฉันก็ขับรถมาถึงคอนโดและรีบลงจากรถเดินตรงไปที่ลิฟท์และกดปุ่มเรียกลิฟท์ ไม่นานลิฟท์ก็เปิดออก ฉันจึงรีบเดินเข้าไป
และกดปุ่มชั้นที่ต้องการไม่นานลิฟท์ก็เปิดออก ฉันรีบเดินออกไปและเดินตรงไปที่ห้องของตัวเองและเปิดประตูเข้าไปในห้อง
ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนและจัดการแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาที่ใส่เป็นประจำ ฉันหยิบเสื้อและกระโปรงทรงเอมาใส่
และรีบเดินออกจากห้องและเดินตรงไปที่ลิฟท์และกดลงชั้นล่าง ไม่นานประตูลิฟท์ก็เปิดออก ฉันจึงรีบเดินออกมาตรงไปที่รถ
และขับออกไปทันที ฉันต้องขับรถไปรับอีรีซี่ที่คอนโดของมัน ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
อีรีซี่คนสวย
(อยู่ไหนค่ะ อีชะนี)
ฉันกดรับสายและเปิดลำโพงโทรศัพท์
"ใกล้ถึงแล้ว ออกมารอเลย"
(เออ!!)
พูดเสร็จมันก็กดวางสายไปทันที ไม่นานฉันก็เลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าคอนโดอีรีซี่และมันก็เปิดประตูรถเข้ามานั่ง
"กว่าจะมาได้นะมึง เฮ้ยย!!!" พอมันขึ้นมานั่งในรถและบ่นเรื่องมาช้าของฉัน พอมันหันมามองฉันถึงกับร้องตกใจเสียงดัง
"มึงไปทำอะไรมาว่ะ!!??"
"อะไร!!??" ฉันถามกลับอย่างไม่ใส่ใจและขับรถออกจากคอนโดมันทันที เดี๋ยวจะไปมหาลัยไม่ทันเข้าเรียน
"ไปทำอะไรกับผิวมาว่ะ และใส่แว่นเชี้ยอะไรขแงมึง" มันยังไม่เลิกที่จะถามฉันเรื่องผิวและแว่นกรอบใหญ่ที่บังหน้าตา
"กูก็แค่อยากลองเป็นคนเฉิ่ม" ฉันบอกและขับรถโดยไม่ได้หันไปมองมันเลย
ตกใจอะไรว่ะ แค่อยากจะเปลี่ยนสีผิวแค่นั้นเอง
มหาลัยKU
คณะนิเทศ
ไม่นานฉันก็ขับรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถตึกนิเทศและฉันกับอีรีซี่ก็ลงจากรถและรีบเดินขึ้นตึกเพื่อไปเรียนหนังสือ
พอฉันและอีรีซี่เดินเข้ามาในห้องที่ตอนนี้มีนักศึกษาเข้ามารออาจารย์กันเต็ม ฉันเดินตามหลังอีรีซี่ พวกเพื่อนฉันต่างพากันหันมามองฉัน
ฉันไม่สนใจเดินมานั่งที่เก้าอี้ว่างติดหน้าต่างและอีรีซี่ก็นั่งลงข้างๆฉัน
ไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องและพวกเพื่อนก็เลิกสนใจฉันและพากันหันไปมองข้างหน้า แต่ก็จะมีเหลือบมองกันบ้างเล็กน้อย
-----------------------------------------
งานหนีก็ทำแล้ว นับประสาอะไรกับงานปลอมตัว.......