หนี - 25
ผมลุกตัวลงนอนอย่างเจ็บปวดและเห็นอีเมียมันเดินตรงไปทางประตูห้องและยังหันกลับมามองผมก่อนจะยักคิ้วกวนตีนส่งมาให้ผม
โอ้ยย!! มันน่าจะโดนกระแทกในตายคาอกผมไปเลย
ผมได้แต่มองยัยตัวแสบอย่างคับแค้นใจและพยายามลองพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งแต่ก็ไม่สามารถทำได้ จึงตัดใจนอนรอจนกว่าร่างกายจะเริ่มรู้สึกหายเจ็บ
ผมนอนนับรอเวลาให้ร่างกายเป็นปกติ แต่มันก็ดีขึ้นบางเล็กน้อย ขอย้ำว่าเล็กน้อยพอรอขยับขาปวดขึ้นมาทันที
"โอ้ยย!! คืนนี้ล่ะกูจะจัดการยัยตัวแสบให้ได้!!" ผมที่นอนตัวงอเป็นกุ้งพยายามพยุงร่างกายที่เหมือนสมประกอบแต่มันกับไม่สมประกอบเลย
"ก่อนที่มึงจะมาจัดการกู มึงช่วยลุกขึ้นมาให้ได้ก่อนไหม" ฉันที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความหิวและเดินเข้ามาดูนายแม็ททิวด้วย
พอเดินเข้ามาก็เห็นเขาบ่นว่าจะจัดการฉันและทำท่าจะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนแต่มันก็ไม่สำเร็จ
"มึงยืนรอกูตอนนั้นแปบ!!" ผมที่ตอนนี้ไม่สามารถขยับร่างกายเฉพาะส่วนล่างได้ ยิ่งขยับยิ่งเจ็บ
"พยายามเข้า!! แม็ททิวสู้ๆ แม็ททิวสู้ตาย แม็ททิวสู้ๆ" ฉันได้แต่ยกยิ้มก่อนจะแกล้งยืนรอเขาและยังพยายามส่งเสียงเชียร์ให้เขาลุกขึ้น
"รอกูอยู่ตรงนั้นห้ามไปไหมนะเว้ย" ผมไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ ได้แต่คลานเข่าและเงยหน้าขึ้นไปมองยัยตัวแสบที่ยืนหัวเราะอยู่
"ฮ่าๆๆๆ ตรงไหน??" ฉันหัวเราะออกมาเสียงดังที่เห็นสถาพของเขาไม่ได้ต่างจากสุนัขเลย ฉันจึงแกล้งเดินถอยหลังออกไปเรื่อยๆ
"มึงจะถอยออกไปไกลทำไมว่ะ โอ้ยย!!" ผมหยุดคลานเข่าและเงยหน้าขึ้นมองหน้าของเธออย่างไม่พอใจที่เธอเอาแต่ถอยหลัง
"กูว่ามึงหยุดเถอะ!!" ฉันที่ยืนกอดอกดูสภาพน่าอนาถแท้และรีบบอกเขาให้หยุดเขยิบร่างกายซักทีถ้ามันเจ็บและปวดก็ควรหยุด
"ทำไม!?? ไม่รู้เว้ยกูจะต้องจัดการมึงให้ได้" ผมหยุดคลานและลุกตัวลงนอนก็จะหันไปมองหน้าแอปเปิ้ลอย่างไม่เข้าใจ
"เฮ้อ!! จัดการกูโดยไม่ได้ดูสังขารตัวเองว่ามันพร้อมใช้งานไม" ฉันได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงเป็นนิสัยปัญญาอ่อนของเขา
ฉันล่ะไม่เข้าใจเขาเลยว่าจะพยายามให้ตัวเองเจ็บทำไม พอเธอเหลือบตรงเป้ากางเกงก็รู้สึกว่ามันดูบวมๆและใหญ่ผิดปกติ
"มึงพากูไปหาหมอหน่อย ทำไมมันยังไม่หายปวดอีกว่ะ" ผมเห็นอีเมียมันเหลือบตามองเป้ากางเกงทำให้ผมลองก้มไปมองก็เห็นว่าไอ้ลูกชายสุดที่รักของผมมันเริ่มบวมๆใหญ่
ผมจนรีบหันไปมองอีเมียมันที่ตอนนี้เลิกสนใจไอ้ลูกรักของผมและยืนกอดอกมองดูผมว่า ’มึงจะเอาไงต่อ??’ อะไรแบบนี้
"เฮ้อ!! จับกูมาทำไม ลำบากกูตลอดรอแปบกูทานข้าวก่อน เดี๋ยวพาไป!!?" ฉันถอนหายใจอย่างรำคาญชีวิต
จับกูมาขันเสือกต้องใช้กูให้ไปดูแลและยังต้องแบกแม่งลงไปข้างล่างอีก กูนี่!! มันจะโคตรซวยอะไรแบบนี้ว่ะ
หิว ก็หิวข้าว ถ้ารู้ว่าทำแล้วต้องมาเป็นภาระกูแบบนี้ยอมให้นายนั้นมันเอาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ไม่ต้องมาลำบากแบบนี้
เฮ้อ!! เหนื่อยใจจริง!!??
"ไม่!!" ผมที่นอนมองอีเมียถอนหายใจสองสามรอบ ผมคิดว่ามันจะเดินมาช่วยผมให้ไปหาหมดและเปล่าเลยมันกลับเดินออกไปจากห้องเพื่อไปหาอะไรทาน อย่างที่มันบอก
"แอปเปิ้ล!!!"
"เร็วๆนะ กูเจ็บไข่!!"
ฉันเดินตรงไปที่ห้องครัวตรงไปที่ตู้เย็นและเปิดออกหยิบกล่องอาหารแช่แข็งออกมาและเอาไปเวฟซะสามนาที
ไม่นานเกินรออาหารในไมโครเวฟก็ส่งเสียงเตือนเป็นสัญญาณว่าอุ่นอาหารเสร็จ เธอจึงเปิดไมโครเวฟและหยิบกล่องอาหารแช่แข็งออกมา
ฉันเดินไปหยิบจานออกมาสองใบและหยิบกล่องอาหารแช่แข็งที่เวฟแล้วเทใส่จาน ใบหนึ่ง สปาเก็ตตี้ และอีกใบ สปาเก็ตตี้ขี้เมา
ฉันเดินถือจานสองใบเดินออกมาจากห้องครัวตรงไปที่ห้องนอนที่ตอนนี้มีนายแม็ททิวนอนหมดอะไรตายอยากอยู่ที่พื้น
เธอเดินตรงไปที่นายแม็ททิวนอนอยู่และนายนั่นก็นอนมองเธอเดินตรงมาหาเขา เธอนั่งลงตรงหน้าเขาก่อนจะจับหัวของเขามาหนุนตัก
"เดี๋ยวป้อน จะกินอะไร สปาเก็ตตี้ กับ ขี้เมาเอาแบบไหม" ฉันก้มลงมองเขาและถามนายแม็ททิวว่าเขาจะกินอะไร
"ขี้เมา"
"อื้มรีบกินจะได้ไปหาหมด" ฉันบอกและหยิบจานสปาเก็ตตี้ขี้เมามาวางไว้ข้างตัวและใช้ส้อมกับช้อน เธอใช้ส้อมตักเส้นสปาเก็ตตี้และมาม้วนกับช้อน
ฉันนั่งม้วนเส้นสปาเก็ตตี้ส่งเข้าปากเขาคำแล้วคำเล่าจึงหมด เธอจึงยกหัวนายแม็ททิวออกจากตักตัวเองและลุกขึ้นยืนเดินหยิบจานออกไปเก็บ
ฉันเดินถือจานของเขามาใส่ที่ชิงค์ล้างจานและเดินตรงไปที่ตู้เย็นเปิดออกมาหยิบขวดน้ำกับหลอดดูดและเดินกลับเข้าห้องนอน
ฉันเปิดฝาและใส่หลอดดูดน้ำจ่อหลอดตรงปากของเขาให้ดูดน้ำ พอนายแม็ททิวดูดน้ำจึงพอใจเธอก็หยิบจานสปาเก็ตตี้ออกไปทานข้างนอก
"เดี๋ยวมาช่วยแต่งตัว" ก่อนที่จะเดินออกจากห้อง ฉันก็หันไปบอกนายแม็ททิวเขา และเดินออกมาจากห้องตรงไปที่เก้าอี้โต๊ะกินข้าว
ฉันวางจานและขวดน้ำบนโต๊ะกินข้าวลงมือทานอาหารในจาน ไม่นานเธอก็ทานเสร็จดื่มน้ำและลุกขึ้นยืนเดินถือจานไปวางไว้ที่ชิงค์ล้างจาน
เธอลงมือล้างจานทำความสะอาดในครัวจนเสร็จและเดินออกมาจากครัว เดินตรงไปที่ห้องนอนและนั่งคุกเข่าช่วยพยุงเขาขึ้นยืน
"โอ้ยยยเบาๆหน่อย เจ็บไข่" ผมที่ตอนนี้มีอีเมียมันช่วยพยุงลุกขึ้นยืนเจ็บมากเลยครับ ยิ่งตรงยืนนี้ทั้งเจ็บทั้งปวดไปหมด
"เป็นผู้ชายก็อดทนหน่อยแล้วกัน" ฉันหันไปโวยวายเสียงดังที่นายแม็ททิวมันหันมาขึ้นเสียงใส่เธอ รู้ว่าเจ็บก็อดทนหน่อย
"ทำไม!!?? เป็นผู้ชายเจ็บปวดไม่ได้หรือไง หรือเจ็บปวดได้แค่ผู้หญิงคนเดียว" ผมแกล้งโวยวายเสียงดังเหมือนคนนอกเนื้อนอกใจ แต่ก็ไม่ได้จริงจังเท่าไรนัก
"เถียงแบบนี้แปลว่า ไม่ต้องให้กูช่วยแล้วมั้ง" ฉันที่ยืนฟังเสียงบ่นเสียงโวยวายและยังมีหน้ามาเถียงฉันอีก เธอจึงปล่อยมือและทำท่าจะเดินออกไปข้างนอกห้อง
"ใจเย็นใจร่มอย่าวู่วาม มาช่วยผมก่อนครับ" ผมที่เห็นแอปเปิ้ลปล่อยมือออกจากตัวของผมและยังทำท่าจะไม่ช่วยผมแล้ว
"ดี!! เก็บปากเก็บคำไว้ด้วย" ฉันที่หันไปตามแรงดึงของคนข้างหลังให้หันกับไปมองก็เห็นนายแม็ททิวส่งสายตาออดอ้อนและสำนักผิด
"ผู้หญิงอะไรว่ะ ดุยิ่งกว่าหมาอีก!!" ผมที่เห็นเธอยอมหันกลับมาช่วยผมอีกครั้ง ผมก็บ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะเหลือบมองคนที่ช่วยอย่างมีความสุข
"ไอ้แม็ททิว!! กูได้ยิน!!"
"จ้า!! ขอโทษจ้า!!"
ฉันพยุงร่างกายที่ใหญ่และหนักให้เดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า ตลอดทางเสียงนายแม็ททิวจะร้องโอดโอ้ยตลอด
"อย่าเดินชิดเท้าซิ่ว่ะ พอๆหยุด"
"โอ้ยย ก็คนมันเจ็บนี้เวลาเดิน"
ฉันปล่อยมืออกจากตัวของเขาเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาและเอามาพันรอบเอวนายแม็ททิว เชาก็จ้องมองผ้าตรงเอวกับหน้าของเธอ
"ถอนกางเกงออก" ฉันบอกให้เขาถอนกางเกงออก จะได้ไม่คับมากและการเสียดสีระหว่างเดินด้วย
"บ้าหรอ!! มาอยากอะไรตอนนี้ว่ะ ไอ้ลูกชายกูยังไม่พร้อม!!??" ผมร้องขึ้นมาตกใจที่กูร่างกายพร้อมใช้งานไม่มาอยากนี้ร่างกายกูไม่พร้อม
อีเมียจะหื่นอะไรก็โปรดดูสังขารของผัวมึงดิ่นึงนะ
(ถ้าอีน้องมัน หื่น มึงก็ คุกคามทางเพศแล้ว : หนวดแมว) หนวดก็พูดโอเวอร์ไป : แม็ททิว (พูดน้อยไปมากกว่า : หนวดแมว) เอาทีี่หนวดสบายใจเลยครับบ : แม็ททิว
"เฮ้อ!! อย่าปัญญาอ่อนได้ไหม ถอนออกมา!!!" ฉันถอนหายใจอย่างปลงจิต สมองเขามันคิดได้แค่นี้หรือไงว่ะ กูอยากจะเปิดกระโหลออกมาดูจริงๆ
"ถอนทำไม?? กูไม่พร้อมใช้งานนะเว้ย!!"
"จะถอนเองหรือจะให้กูเป็นคนถอน!!!" ฉันเริ่มจะหงุดหงิดเป็นความปัญญาอ่อนของเขาเต็มทน
"ถอนเอง"
"ก็แค่นั้น!! จะพูดมากทำสันตีนอะไรไม่รู้" ฉันที่เห็นว่าเขาจัดการถอนกางเกงออกและส่งกางเกงมาให้เธอ
"จะทำอะไรก็รีบทำให้เสร็จ จะได้พากูไปหาหมอซักที"
"ไปหาหมอกัน!!" ฉันพันผ้าขนหนูให้แน่นไม่ให้หลุดและหยิบกางเกงเดินมาใส่ตะกร้าผ้าหน้าห้องน้ำ
"ไม่ทำ!!?? แล้วให้ถอนกางเกงทำไม" ผมถามอยากสงสัยผมคิดว่าเธอคงอยากมีอะไรกับผมแต่พอผมถอนตามที่บอก แอปเปิ้ลก็ไม่เห็นจะทำอะไรเลย
"ไปหาหมอมึงก็ต้องถอนกางเกงให้หมอเค้าดู!!" ฉันหันกลับไปมองเขาที่ยืนทำหน้าทำตาสงสัย เธอจึงบอกและอธิบายให้เขาเข้าใจ
"เอ้าหรอ!!??"
"ไปได้แล้ว!!"
ฉันพยุงร่างกายของเขาให้เดินออกมาจากห้องและเดินตรงไปที่ลิฟท์ฉันเอื้อมมือไปกดปุ่มลงข้างล่าง ยืนรอจึงลิฟท์เปิดและเดินออกไปที่ลานจอดรถ
"รถนายอยู่ไหน??" ฉันหันไปถามนายแม็ททิวและเขาชี้ไปที่เฟอร์รารี่สีดำที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก เธอพยักหน้าและเดินตรงไปที่รถ
"ขับไหวป่ะ!!??" เธอพยุงเขามาที่รถและหันไปถามเขาเผื่อเขาอยากจะขับรถเอง ถ้าไม่ไหวฉันจะได้ขับพาเขาไปโรงพยาบาล
"พอไหวอยู่"
"ไม่ไหวก็บอกจะขับให้" ในเมื่อเขาบอกว่าขับไหวฉันก็ไม่เซ้าซี้ให้มากความแต่ก็ยังหันไปบอกย้ำเขาอีกรอบเผื่อเขาไม่ไหว
"ไม่เป็นไร"
ผมเปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างในและแอปเปิ้ลก็ประตูรถตามเข้ามาข้างใน ผมจึงขับรถออกจากคอนโนมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ไม่นานผมก็ขับรถมาถึงโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใช้เวลานานพอสมควรผมขับรถเข้ามาหาที่จอดรถวนหาอยู่ไม่นานเพราะเวลานี้ไม่ค่อยมีรถมาจอด
ผมเลี้ยวเข้าไปจอดและเปิดประตูก้าวเท้าออกมายืนนอกรถอย่างๆช้าและปิดประตูล็อครถ และแอปเปิ้ลก็เดินเข้ามาประคองผมไว้
"เดี๋ยว!! พันผ้าขนหนูดีๆเดี๋ยวมันหลุด" ฉันรีบบอกให้เขาหยุดเดินเพราะตอนนี้ผ้าขนหนูมันดูเหมือนจะหลุดลงมาได้ทุกเมื่อ
ผมจัดการพันผ้าขนหนูใหม่ให้แน่นและเดินตรงเข้าโรงพยาบาล จังหวะที่ผมก้าวเท้าเข้าไปบุรุษพยาบาลก็เดินมาถามว่าเป็นอะไรมา
"เจ็บนี้" ผมบอกบุรุษพยาบาลและใช้มือชี้ไปที่เป้าตัวเองและบุรุษพยาบาลก็ก้มลงมองตามมือที่ผมชี้และพยาบาลรับ
ก่อนจะช่วยอีเมียมาพยุงผมนั่งรถเข็นและเข็นไปที่จุดชักประวัติ ส่วนแอปเปิ้บก็เดินมาหาผมและชี้ไปที่เครื่องกดบัตรคิว
"เอาบัตรประชาชนมา" ฉันบอกให้เขาเอาบัตรประชาชนมาเพื่อไปกรอกประวัติ นายแม็ททิวก็ส่งมาทั้งกระเป๋าเงินฉันก็รับและเดินไปทำเรื่องรักษา
ฉันเดินไปกดเครื่องรับบัตรคิวและนั่งรอจะว่าจะถึงคิวตัวเอง ไม่นานก็ถึงคิวของฉัน เธอลุกขึ้นยืนและเดินตรงไปที่ช่องหนึ่ง
"ขอบัตรประชาชนด้วยค่ะ"
"นี่ค่ะ" ฉันส่งบัตรประชาชนของนายแม็ททิวไปให้นางพยาบาลและเดินตอบคำถามที่เขาถาม ส่วนมากจะถามอาการเบื่องต้น
พอถามเสร็จนางพลาบาลก็ส่งกระดาษพร้อมบัตรประชาชน เธอก็รับและเดินกลับไปหานายแม็ททิวที่นั่งรออยู่
ฉันเดินไปว่ากระดาษพร้อมบัตรโรงพยาบาลไว้ที่ตะกร้าเพื่อเรียกเข้าตรวจ เธอเดินกลับมานั่งรออยู่ข้างๆรถเข็นที่นายแม็ททิวนั่งอยู่
"คุณ ธีรธรรม ค่ะ"
"ชื่อมึงป่ะ??" เสียงนางพยาบาลเรียกชื่อและฉันไม่รู้ว่าเขาชื่อจริงว่าอะไรจึงหันไปถามเขาเผื่อทันเป็นชื่อของเขาจะได้เข้าห้องตรวจ
"เออ"
พอเขาตอบฉันก็ลุกขึ้นและเข็นรถไปที่ห้องตรวจ นางพยาบาลหันมาถามว่าคุณชื่ออะไรและนายแม็ททิวก็ตอบชื่อตัวเอง
นางพยาบาลพยักหน้ารับและส่งกระดาษมาให้นายแม็ททิวถือและฉันก็เข็นเข้าไปในห้องตรวจ
"สวัสดีครับ คุณ ธีรธรรม "
" คุณหมอที่ก้มลงอานประวัติคนไข้อยู่ก็เงยหน้าขึ้นมอง
"สวัสดีครับ"
"เป็นอะไรมาครับ??" คุณหมอถามอาการเบื่องต้นก่อนที่จะทำการตรวจและรักษา
"เจ็บไข่และมันก็บวมมากด้วย"
"ไปทำอะไรมาครับ??" คุณหมอก็พยักหน้ารับและพิมพ์อาการตามที่นายแม็ททิวมันบอก ส่วนฉันก็ยืนอยู่ข้างหลังรถเข็น
"เมียเตะครับ โอ้ยยเจ็บนะเว้ย!!!"พอหมอถามว่าไปทำอะไรมา ผมก็บอกตามความจริงว่าโดนอีเมียมันเตะและก็ต้องสะดุ้งตกใจ
"พูดให้มันดีๆหน่อย!!" ฉันตีไปที่บ่าของเขาจึงคนที่นั่งอยู่สะดุ้งตกใจหันมามองหน้าฉัน เธอก็จ้องตาเขม็งตาดุใส่เขาทันที
"กูพูดไม่ดีตรงไหนมึงอ่ะเมียกู!!??"
"อยากจะโดนซ้ำอีกรอบไหมว่ะ!!"
"ใจเย็นครับ!! อย่าพึ่งทะเลาะกันครับ" เสียงคุณหมอต้องรีบห้ามเพราะกลัวผัวเมียคู่นี้จะทะเลาะกันและเป็นห่วงอัณฑะของสามีมันจะเป็นหมัน
"ขอโทษค่ะ"
"ไหนขอหมอดูหน่อยนะครับ" คุณหมอจึงเริ่มลงมือตรวจอัณฑะของเขา คุณหมอมองดูอาการโดยรวมมันบวมและอักเสบ
"หมอตรวจดูแล้ว มันบวมและแดงช้ำๆน่าจะอักเสบจากการโดนกระแทกอย่างแรง"
"อีกนานใหมกว่าจะหายครับ" ผมถามหมอเรื่องการเป็นปกติและใช้เวลานานไหม
"หมอดูแล้ว 2-3 เดือนครับ แต่ถ้าอาการบวมมาลดลงหรือไม่หายก็กลับมาหาหมอใหม่นะครับ"
"โธ่!!หมอทำไมมันนานจังครับ" ผมร้องโอดโอ้ยที่รู้ว่ากว่าผมจะหายเป็นปกติคงลงแดงตายก่อนพอดี แถมยังไม่ได้เอาคืนคนทำเลย
"ทำไมครับ??"
"ผมจะปั้มลูก โอ้ยยย!!" ผมก็บอกเจตนาไปจริงๆไม่ได้อยากจะปั้มลูกแต่อยากจะเอาอีเมียมันมากกว่า
"มึงอยากตายหรอ ไอ้สัส!!" ฉันที่ยืนทนฟังเขาพูดเขาถามหมอมานานจนหมั่นไส้ตบหัวมันไปสองที จะได้เลิกบ้าซะที
"อ่อ หมอว่ารอให้หายก่อนดีกว่าครับ" หมอรีบบอกและส่งใบรับยาไปให้ภรรยาของคนไข้ และเข็นออกไปจากห้องตรวจทันที
------------------------------------------------
.... สังขารไม่สมประกอบยังมายงมาอยากอีกนะอีพี่ .......