หนี - 42   1/    
已经是第一章了
หนี - 42
​ หลังจากที่ฉันถูกนายแม็ททิวอุ้มพาดบ่าและไหนจะยังถูกเขาจับยัดใส่รถเข้ามาอีก ตลอดทางที่เขาขับรถออกมาจากตรงที่ไอ้โมนี่และผู้ชายคนนั้นที่น่าจะเป็นเพื่อนของเขา ฉันและเขาก็ไม่ได้มีการพูดคุยกันอีกเลย และรู้สึกว่าบรรยากาศภายในรถก็กลับมาสู่โหมดเงียบจนน่าอึดอัดอีกครั้ง ฉันที่เหลือบตามองดูเขาเป็นระยะๆ ก่อนจะเลิกสนใจเขาหันกลับมามองดูวิวด้านนอกกระจก จนรู้สึกว่าตัวเองเริ่มง่วงนอนและเผลอหลับไปทันที ผมที่จ่ายเงินค่าอาหารเสร็จกำลังจะเดินตามแอปดปิ้ลที่เดินออกไปรออยู่ด้านนอจแล้ว พอผมจะเดินตามไปยังไม่ทันจะถึงประตูร้าน ก็มีผู้หญิงขี้เมาเดินเข้ามาเกาะแกะแขนของผมและไหนจะทำพูดคำจาเหมือนคนรู้จักกัน แต่ความเป็นจริงก็คือผมกับผู้หญิงคนนี้เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ผมก็พยายามแกะมือของเธอออกแต่พอหลุดออกมาได้ ผู้หญิงขี้เมาคนนั้นก็โวยวายเสียงด่าและไหนจะคำด่าที่มาว่าำๆผมนอกใจเธออีก และไหนจะผู้คนในร้านที่ต่างพากันหันมามองกันอย่างสงสัย แต่พอจะพูดปฏิเสธผู้หญิงคนนั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นแอปเปิ้ลมันยืนมองมาที่ผม ด้วยสายตางวยงงปนสงสัย และพอมันเหลือบตามาสบตากับผมเท่านั้นล่ะ แอปเปิ้ลมันก็หันหลังกลับและวิ่งหนีออกไปทันที ผมก็พยายามเดินและวิ่งตามแอปเปิ้ลออกไป แต่มันก็ติดอยู่กับผู้หญิงขี้เมาคนนี้ กว่าจะหลุดจากเธอได้ก็ต้องรอให้คนรู้จักของผู้หญิงคนนั้นเข้ามารับไป ผมจึงรีบวิ่งตรงไปที่รถเฟอร์รารี่สีดำที่จอดอยู่ตรงลานจอดรถ และเปิดประตูรถใงคนขับก่อนจะเข้าไปข้างในและขับรถออกมาทันที ผมขับรถตามหาตลอดทางก่อนจะเห็นร่างบางแสนคุ้นเคยกำลัง ยืนมองไปที่ร้านอาหารฝั่งตรงข้าม ผมจึงใช้โอกาสนี้รีบขับรถมาจอดตรงหน้าเลยจากที่เธอยืนอยู่เล็กน้อย และเปิดประตูรถก้าวขาลงมาและรีบเดินตรงไปแอปเปิ้ลที่ทำท่าจะข้ามถนน ผมจึงเอื้อมมือไปจับแขนให้แอปเปิ้ลหันกลับมาทางผม พอแอปเปิ้ลมันเห็นหน้าของผมเท่านั้นล่ะครับ มันก็พยายามดิ้นไปมาและแกะมือของผมที่จับแขนมันออกจากกัน ผมจึงออกแรงบีบและลากให้แอปเปิ้ลมันเดินตามมาที่รถที่จอดรออยู่ เราสองคนต่างไม่ยอมกันยื้อแย่งไปมา จึงได้ยินเสียงของคนเข้ามาใหม่ พอผมและแอปเปิ้ลหันไปมองก็เจอไอ้เหี้ยสเวนและผู้หญิงที่น่าจะเป็นเพื่อนของแอปเปิ้ล ที่ยืนมองพวกเราสองคนด้วยสายตาสงสัย ผมจึงใช้จังหวะที่ทุกคนกำลังอึ้งรวบตัวของแอปเปิ้ลขึ้นบ่าและพามาที่รถ เสียงร้องโวยวายของแอปเปิ้ลดังขึ้นทำให้เพื่อนของเธอได้สติรีบวิ่งตามมา ผมจึงรีบเดินและจับมันยัดใส่รถก่อนจะขับรถออกไปทันที กลับมาปัจจุบันตอนนี้บรรยากาศในรถก็เงียบจนน่าอึดอัด ผมจึง้หลือบตาไปมองแอปเปิ้ลที่ตอนนี้เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ผมจึงขับรถชิดข้างทสงและหันไปปรับเบาะ เพื่อให้แอปเปิ้ลมันจะได้นอนสบาย พอผมจัดการปรับเบาะให้แอปเปิ้ลมันเสร็จ ก้อนหันกลับมาขับรถต่อ เพื่อกลับกรุงเทพผมขับรถไปเรื่อยๆ จนตอนนี้เริ่มจะดึกค่ำแล้ว และจำได้ได้แถวนี้มันมีบ้านของไอ้ฟิวเวอร์อยู่ และอีกอย่างผมก็รู้สึกเริ่มเหนื่อยล้ากับการขับรถนานๆไม่ไหวแล้ว ผมจึงเปลี่ยนเส้นทางกลับคอนโดของตัวเอง เปลี่ยนไปบ้านไอ้เหี้ยฟิวเวอร์มัน ผมพยายามควบคุมสติและรีบขับรถเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทางให้เร็วที่สุด ไม่นานผมก็ขับรถมาถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ และคุณลุงยามที่เห็นรถของผมก็เดินมาเปิดประตูรั่วให้ เพราะพวกผมเวลาเดินทางมาเหนื่อยๆมักจะแวะมาบ้านไอ้เหี้ยฟิวเสอร์มันตลอด "ที่นี้ที่ไหน?? แล้วทำไมมึงไม่พากูกลับคอนโด" ฉันที่เผลอนอนหลับไปตลอดทางก็รู้สึกตัวตื่น และก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นและหันกลับไปถามนายแม็ททิวที่นั่งอยู่ข้างๆ "บ้านเพื่อนกูเอง" ผมที่เลี้ยวรถเข้ามาจอดที่โรงรถบ้านของไอ้ฟิวเวอร์มันเสร็จ ก็ดับเครื่องยนต์และเตรียมตัวจะลงจากรถเพื่อไปพักผ่อน แต่ก็ต้องชะงักและหันกลับไปตอบแอปเปิ้ลมัน "บ้านเพื่อนมึง!!...แล้วพากูมาทำไมว่ะ" ฉันที่กำลังงงและสงสัยก่นจะรู้ว่าเขาพาเธอมาที่บ้านของเพื่อนเขา เธอจึงหันกลับไปมองรอบมันเป็นบ้านที่ใหญ่มาก ไม่ใช่ดิ่แบบนี้เขาไม่เรียกว่าบ้าน แต่มันเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ "กูง่วงนอนและเมื่อยตูด" ผมที่ตอบคำถามแอปเปิ้ลมันเสร็ตก็หันกลับมาที่ระตูรถ เพื่อจะเปิดออกเพราะตอนนี้ร่างกายของมต้องการเตียงนอนมาก แต่ก็ไม่สามารถไปไหนได้เพราะเสียงเรียกของมัน "ก็กลับไปนอนที่บ้านดิ่" พอนายแม็ททิวตอบคำถามของฉันเสร็จ มันทำให้ฉันไม่ค่อยจะเข้าใจเลยว่า ทำไมเขาถึงไม่ยอมกลับไปนอนที่บ้านตัวเอง "ไม่!! กูขับรถกลับไม่ไหว" ผมที่รู้สึกเหนื่อยแต่ก็ต้องมานั่งตอบคำถามของแอปเปิ้ลมัน ตอนนี้ใบหน้าและดวงตาของผม มันล้าและจะเปลือกตาก็กำลังจะปิดลง "พูดจริง!!??" ฉันถามขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่นายแม็ททิวตอบ แต่พอดูใบหน้าที่อ่อนล้าและดวงตาที่กำลังจะปิดอยู่แล้ว มันทำให้รู้เลยว่าตอนนี้เขาคงขับรถกลับไม่ไหวแล้ว "เออดิ่...ถ้าไม่ติดว่ากูขับรถมาทั้งวันและเหนื่อย....กูไม่แวะบ้านมันหรอ" "นั้นก็กลับบ้านมึงและไปส่งกูด้วย" ฉันก็บอกให้เขาพาฉันไปส่งและเขาจะได้กลับบ้านไปพักผ่อน "กูบอกว่าไม่ไหวไง!!....มึงนี้พูดไม่รู้เรื่องหรอ" "ไม่เป็นไร...เดี๋ยวกูขับรถเอง" เขาก็ยืนยันเหมือนเดิมว่าตอนนี้เขาไม่ไหวและไม่สามารถขับรถไปส่งฉันได้ เธอจึงหาวิธีและบอกให้เขาเปลี่ยนที่นั่งกับเธอ เพราะฉันจะเป็นคนขับรถเอง พอฉันหาทางออกและบอกเขาเสร็จ ฉันและเขาก็เปิดประตูรถและก้าวขาออกมา พอเธอเห็นนายแม็ททิวออกมาจากรถ ฉันจึงเดินตรงไปหาเขา แต่พอเดินตรงไปที่รถและเอื้อมมือจะเปิดประตูรถ แต่ถูกเขากระชากให้หันกลับไปหาเขา ฉันที่ถูกเขาจับให้หันกลับมามองเขาอย่างงงและสงสัย พอแอปเปิ้ลมันพูดเสร็จสรรและเปิดประตูรถออกมาเพื่อจะมาเปลี่ยนที่นั่งกับผม ผมก็เลยเปิดประตูรถและออกมายืนอยู่ข้างๆรถ ก็เห็นแอปเปิ้ลเดินตรงมาหาผมและทำท่าจะเอื้อมมือไปเปิดประตู ผมจึงหันกลับไปกระชากแขนให้มันหันกลับมา แอปเปิ้ลที่ถูกกระชากให้หันกลับมาก็มองผมด้วยสายตางวยงงและสงสัย ผมไม่พูดอะไรแต่ลากตัวแอปเปิ้ลให้เดินตามผมมา "นี่!!...จะไปไหน...ปล่อยนะเว้ย!!" ฉันที่กำลังงวยงงและสงสัยว่าทำไมเขาถึงมากระชากแขนเธอแบบนี้ นายแม็ททิวไม่พูดอะไรแต่กับลากแขนฉันให้เดินตามเขามาที่บ้านของเพื่อนเขา ฉันที่ถูกเขาลากให้เดินตามเข้ามาในบ้าน ฉันก็เริ่มถามและโวยวายเสียงดังขึ้นมาและพยายามยื้อร่างกาย ไม่ให้เดินไปตามแรงที่เขาลาก "เข้าบ้าน!!" ผมที่เดินเข้ามาในบ้านของไอ้ฟิวเวอร์มัน และมือที่จับแขนของแอปเปิ้ลก็พยายามลากให้เดินตามมา "ไม่ไป....ปล่อยกูดิ่" "อย่าดิ้นดิ่....และเดินตามมาดีๆดิ่" "มันก็ปล่อยกูดิ่....กูจะกลับคอนโด!!" "เดี๋ยวไปส่ง..คืนนี้เราสองคนพักที่นี่ก่อน" "ไม่!!...กูจะกลับคอนโด..คนยิ่งง่วงนอนอยู่" "กูก็ง่วงนอนเหมือนกัน...มึงก็เดินตามมาดีๆด้วย" "โอ้ยยย!! ทำไมมึงถึงไม่เข้าใจว่ะ" "ไม่ต้องพูดมาก...และหุบปากด้วย" "ไม่!!!" "เกรงใจเจ้าของบ้านหน่อย!!" "ไอ้สัส!! พวกมึงสองคนนั้นล่ะที่ต้องเกรงใจกู และมาทะเลาะเสียงดังทำไมที่บ้านกูว่ะ" เสียงไอ้ฟิวเวอร์ทักขึ้น หลังจากที่วันนี้เขาอุตสาห์มานอนที่บ้านและเข้านอนหลับไปแล้ว แต่ก็ต้องสะดุ้งตกใจตื่นเพราะเสียงทะเลาะของคนด้านล่างดังขึ้น มันทำให้เขาต้องลุกลงจากเตียงนอนออกมาดู พอเดินลงบันไดมาดูก็เห็นว่าคนที่ยืนเถียงทะเลาะเสียงดัง เป็นไอ้เหี้ยแม็ททิวกำลังยืนเถียงกับผู้หญิงคนหนึ่ง รู้สึกเหมือนคุ้นหน้าจังว่ะ "ขอโทษค่ะ" ฉันที่กำลังยืนเถียงกับนายแม็ททิวอยู่ในบ้านของเพื่อนของเขา พอนึกได้ว่านี่มันไม่ใช่บ้านของตัวเองก็ไม่ทันแล้ว เพราะเสียงเจ้าของดังขึ้นซะก่อน พอฉันและนายแม็ททิวหันกลับไปมองก็เห็นผู้ชายหน้าตาดีดูแล้วคงจะรุ่นเดียวกันหมอนี่ ฉันจึงรีบกล่าวขอโทษอย่างรู้สึกผิดที่มารบกวนเวลานอนของเขา "โทษทีว่ะ" ผมที่ยืนเถียงอยู่ในบ้านของไอ้ฟิวเวอร์ก็ต้องชะงักเสียงหงุดหงิด พอหันกลับไปมองก็เห็นไอ้ฟิวเสอร์ยืนมองมาที่ผมกับแอปเปิ้ล "แล้วตกลงมึงมาทำเหี้ยอะไรที่นี่ คงไม่ใช่มายืนเถียงกันเพื่อรบกวนการนอนของกูนะเว้ย" ฟิวเวอร์ที่เดินออกมาดูว่าใครมันมายืนเถียงกันในบ้านของตัวเอง พอรู้ว่าเป็นไอ้เพื่อนเหี้ยของตัวเอง เขาก็เดินลงบันไดตรงมาที่พวกเราสองคนและถามขึ้น "กูจะมานอนที่บ้านมึง ถ้าไม่ติดว่ากูขับรถไม่ไหว กูก็ไม่อยากจะแวะมาหรอ" ผมที่กล่าวขอโทษมันไปและเห็นมันเดินลงบันไดตรงมาที่ผมกับแอปเปิ้ลยืนอยู่ "ไอ้สัส!! พูดแบบนี้ มึงเดินออกไปจากบ้านกูเลย" พอนายแม็ททิวพูดเสร็จเสียงโวยวายและไล่ของผู้ชายที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็น เพื่อนของตานั่นยืนชี้นิ้วไล่นายแม็ททิวมัน "ไม่ไป!!" ผมที่ถูกไอ้ฟิวเวอร์ไบ่ออกจากบ้านของมัน คิดหรอว่าคนอย่างผมอุตสาห์ขับรถมาตั้งไกลเพื่อมาหาที่พักด้านหน้า และจะยอมออกไปง่ายๆงั้นหรอ ไม่มีทางเว้ย!! "ไอ้สัส!! แล้วนั่นมึงพาใครมาว่ะ" "ไม่เสือกดิ่" ไอ้ฟิวเวอร์ที่พูดขึ้นอย่างขัดใจที่ผมหน้าด้านไม่ยอมออกไปจากบ้านของมัน มันจึงหันมามองหน้าแอปเปิ้ลที่ยืนมองผมกับไอ้ฟิวเวอร์อยู่ ผมจึงเอื้อมมือไปจับแขนแอปเปิ้ลและจับให้มันมายืนหลบที่หลังของผม แอปเปิ้ลก็มองหน้าผมอย่างไม่เข้าใจ แต่มันก็ไม่พูดไม่โวยวาย "สวัสดีครับ พี่ชื่อ ฟิวเวอร์ เป็นเพื่อนสมัยเด็กของไอ้เหี้ยนี้มันครับ" ไอ้ฟิวเวอร์ที่มันถามผมแต่ผมเลือกที่จะไม่ตอบ มันก็ไม่สนใจคำพูดของผมเลยแม้แต่น้อย ฟิวเวอร์จึงแนะนำตัวเองให้แอปเปิ้ลได้รู้จักพร้อมกับชี้นิ้วมาที่ผมเพื่อบอกว่าผมกับมันรู้จักกัน "อ่อ...สวัสดีค่ะ หนูแอปเปิ้ลนะคะ ขอโทษนะคะที่เสียงดัง" ฉันที่ถูกนายแม็ททิวจับให้มายืนหลบด้านหลังของเขา แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของเขาไม่ได้สนใจว่าตานั่นมันจะตอบคำถามไหม มันทำให้ฉันได้รู้จักเพื่อนของเขา พี่เขาชื่อฟิวเวอร์ ตามมารยาทถ้าเค้าแนะนำตัวกับเรา เราก็ต้องแนะนำตัวกลับบ้าง ด้วยที่เขาอายุมากกว่าฉันกว่าปี ฉันจึงบอกชื่อตัวเองและแทนตัวด้วยคำว่า หนู เป็นพี่เขาไป "ชื่อน่ากินจัง...ไม่เป็นไรครับ" "อยากตายหรอมึง!!??" ผมที่ยืนฟังไอ้ฟิวเวอร์และแอปเปิ้ลกำลังแนะนำตัวกันอยู่ แต่มันก็ต้องทำให้ผมหงุดหงิด เพราะตลอดเวลาที่ผมกับแอปเปิ้ลคุยกัน มันไม่เคย ไม่ใช่ดิ่ ไม่แม้แต่จะพูดดีกับผมเลย จากหงุดหงิดอยู่แล้วมันก็ต้องโมโห เมื่อไอ้เหี้ยฟิวเวอร์มันพูดจากูไม่ว่าแต่สายตาที่มันมองแอปเปิ้ลอย่างจะกลืนกิน "อะไรครับคุณเพื่อน!! แล้วนี้มึงพาน้องแอปเปิ้ลมาที่บ้านกูทำไมครับ" ฟิวเวอร์ที่แกล้งแหย่แม็ททิวและเห็นท่าทางหึงหวงของเพื่อนแล้ว อยากจะอัพคลิปและส่งไปให้ไอ้สเวน คาเรน และเปเปอร์ดูจังเลย "กูก็บอกว่ากูง่วง กูเลยพาเมียกูมานอนพักที่บ้านมึงไง" ผมจึงยกยิ้มและบอกไอ้เหี้ยฟิวเวอร์ ก่อนจะจับตัวแอปเปิ้ลที่ตอนแรกยืนหลบอยู่ด้านหลังของผม ให้มายืนอยู่ข้างๆก่อนจะโอบกอดมันและพูดสถานะของแอปเปิ้ลมัน "เมีย??" ฟิวเวอร์ที่ได้ยินสิ่งที่แม็ททิวพูดแล้วเขาไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่ไม่ค่อยสนใจใคร จะยอมรับและกล้าบอกว่าผู้หญิงคนนี้คือเมีย "เออเมียกู!!" ผมที่เห็นท่าทางตกอกตกใจของไอ้เหี้ยฟิวเวอร์มัน ผมก็ยกยิ้มอย่างเหนือความและก็ต้องหุบยิ้มทันที "ไอ้บ้า!! ใครเมียมึงว่ะ...พูดเหี้ยอะไรก็ไม่รู้" ฉันที่ถูกนายแม็ททิวจับให้มายืนอยู่ข้างๆ พร้อมกับโอบบ่าเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ แค่มันโอบไหล่ฉัน เธอก็โมโหอยู่แล้ว แต่นี้มันเสือกเรียกเธอว่า ’เมีย’ "กูพูดผิดตรงไหน..มึงอ่ะเมียกู" ผมที่ถูกแอปเปิ้ลปฏิเสธเรื่องมันเป็นเมียของผม และไหนจะสายตาเยอะเย้ยของไอ้เหี้ยฟิวเวอร์มันอีก "ไม่ใช่!!" ฉันรีบปฏิเสธเขาเสียงแข็งถึงมันจะเป็นเรื่องจริงที่ฉันกับเขามีอะไรกัน แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันเป็นเมียของเขา ขนาดฉันยังไม่เรียกเขาว่าผัวเลย "หรือมึงอยากจะให้กูบอกไอ้ฟิวเวอร์ไหมว่าจัดท่าไหนกับมึงบ้าง" ผมที่เห็นแอปเปิ้ลพยายามปฏิเสธไม่ยอมรับความจริงที่มันเป็นเมียของผม มันทำให้ผมต้องขู่แอปเปิ้ลด้วยกรบอกว่าจะบอกเรื่องบนเตียงให้คนอื่นรู้ "ไอ้บ้า!!! ไอ้โรคจิต!!" ฉันหันกลับไปมองเขาอย่างไม่พอใจที่เขาพูดจาน่าเกียจแบบนี้ และไหนจะสายตาอยากรู้ของพี่ฟิวเวอร์อีก "หึหึ" ผมที่เห็นท่าทางไม่พอใจของแอปเปิ้ลก็หังเราะออกมาเบา ผมกับแอปเปิ้ลก็ยืนจ้องหน้ากันอย่างไม่ลดละ และไม่มีใครยอมใครเลย "ตกลงมึงจัดท่าไหนบ้างว่ะ กูอยากรู้ว่ะ!!" เสียงของไอ้ฟิเวอร์ดังขึ้นอย่าขัดจังหวะการเล่นจ้องตาของผมและแอปเปิ้ล และไหนจะคำถามของมันที่ทำให้ผมกับแอปเปิ้ลต้องหันกลับไปมองมันทันที "ไม่เสือกดิ่!!!" ผมที่จ้องมองแอปเปิ้ลก็หันกลับไปมองไอ้เหี้ยฟิวเวอร์ที่ถามเหี้ยอะไรไม่รู้ ก่อนที่เสียงประสานจองผมกับแอปเปิ้ลจะพูดขึ้นมาพร้อมกัน "เอ้า!! ไอ้สัส พูดให้กูอยากรู้และก็ทิ้งแบบนี้ได้ไงว่ะ!!!" ฟิวเวอร์ที่โดนปฏิเสธจนโวยวายขึ้นมาอย่างกับเด็ก และดูเหมือนจะโวยวายไม่จริงจังเท่าไร "มึงไม่ต้องรู้เรื่องของกูกับเมียกูหรอ ไอ้ห่า!!" ผมที่เห็นท่าทางปัญญาอ่อนของไอ้ฟิวเวอร์ก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา "ไอ้สัส!!!" "ตกลงกูกับเมียจะได้ไปนอนได้ยัง!!??" ผมไม่สนใจไอ้ฟิวเวอร์และถามมัน เพราะตอนนี้ร่างกายของผมต้องการ การพักผ่อนมากยิ่งเหนื่อยกับการทะเลาะและเถียงกับแอปเปิ้ล และไหนตอนนี้ยังต้องมาพูดมาคุยกับไอ้เหี้ยฟิวเวอร์อีก ผมจึงบอกจุดประสงค์มันไป "เออ!! ห้องรับแขกฝั่งขวามือ" พอเสียงอนุญาติของไอ้ฟิวเวอร์ดังขึ้น ผมจึงจับมือแอปเปิ้ล และลากมันให้เดินตามไปที่ห้องรับแขกบ้านไอ้ฟิวเวอร์ ผมเดินขึ้นบันไดอย่างเร่งรีบโดยไม่ได้สนใจคนที่ถูกลากว่าจะเดินตามมาทันไหม เสียงโวยวายของแอปเปิ้ลดังขึ้นมา มันทำให้ผมต้องหยุดและหันกลับไปมอง "หยุดลากกูสักที!!! โอ้ยยยย" ฉันที่ถูกนายแม็ททิวลากให้เดินขึ้นบันไดตามเขาและดูเหมือนเขาจะเร่งรีบแบบ กลัวว่าจะไม่ได้นอนงั้นล่ะ ฉันที่เกิดมาตัวเล็กและยังเท้าสั้นมันทำให้ฉันโวยวายเสียงดังก่อนจะ สะดุดขาตัวเองล้มลงไปนั่งกับพื้น และมันก็ทำให้นายแม็ททิวหยุดลากและหันกลับมามองเธอ "ไปนั่งทำอะไร??" ผมรู้ว่าที่มันลงไปนั่งเพราะผมลากแอปเปิ้ลจนมันเผลอสะดุดขาตัวเองล้มไปนั่งแบบนั้น ผมก็เลยแกล้งถามมันไปแบบนั้นล่ะ "ไอ้สัส!!! ก็เพราะมึงไงที่ทำให้กูต้องมานั่งแบบนี้ ไม่รู้จะรีบไปไหน" ฉันที่ถูกเขาลากจนสะดุดขาตัวเองล้มลง ก็หันไปโวยวายกับนายแม็ททิว "หึหึ มาลุกไหวไหม!!??" ผมที่เห็นท่าทางไม่พอใจของแอปเปิ้ลก็หัวเราะอย่างชอบใจ ก่อนจะก้มลงไปช่วยพยุงมันขึ้นมา "ไม่ต้องเลย!! กูลุกเองได้" ฉันที่กำลังจะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นก็ต้องชะงัก ที่เห็นเขาพยายามจะช่วยฉันพยุงขึ้น เธอจึงตอบปฏิเสธเขาไปและพยายามลุกด้วยตัวเอง "ตามใจ" ผมที่ถูกแอปเปิ้ลปฏิเสธความช่วยเหลือ ผมก็เลยปล่อยให้มันช่วยเหลือตัวเอง ผมก็ยืนดูคนเก่งอย่างเงียบ "เชอะ!!" "โอ้ยยย!!" ฉันที่พยายามลุกและล้มลงไปอีกครั้ง ก่อนจะร้องขึ้นมาอย่างเจ็บที่บริเวณข้อเท้า "เป็นไง ทำเป็นเก่ง" ผมที่ยืนมองอยู่ก็ต้องรีบเข้าไปช่วยแอปเปิ้ลที่มันร้องออกมาอย่างเจ็บที่บริเวณข้อเท้า ก่อนจะอุ้มแอปเปิ้ลขึ้นมา "นี่!! ปล่อยนะเว้ย!!!" ฉันที่กำลังนั่งจับข้อเท้าก็ต้องสะดุ้งตกใจที่ถูกนายแม็ททิว จับอุ้มขึ้นด้วยท่าเจ้าสาว มันทำให้เธอต้องโวยวายขึ้น "อย่าดิ้งดิ่!! เดี๋ยวก็ตกหรอ" "มึงก็ปล่อยกูดิ่!!" "ไม่" "ปล่อย!!" "กูบอกว่าไม่ไง!!" "กูก็บอกว่าปล่อยไงว่ะ!!" "ไอ้สัส!!! พวกมึงยังไม่หยุดเถียงกันอีกหรอว่ะ ไอ้ห่า!!" ฟิวเวอร์ที่เดินตามขึ้นมาทีหลังก็เห็นว่าผมกับแอปเปิ้ลกันยืนเถียงกันอยู่ "เออ" ผมกับแอปเปิ้ลเงียบลงหรือมีเสียงของเจ้าของบ้านพูดขึ้น "ไปนอนกันได้แล้ว รบกวนเวลานอนกูจริงๆเลย" "เพราะมึงคนเดียวเลย!!" ผมที่เห็นว่าฟิวเวอร์มันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ผมจึงก้มลงไปโทษแอปเปิ้ลที่เป็นคนผิด "มึงนั้นล่ะ" "เพราะมึงนั้นล่ะ" "ถ้ายังไม่หยุดกูไล่ออกจากบ้านแน่!!" ฟิวเวอร์ที่เข้าไปในห้องของตัวเอง ก็ต้องเปิดประตูห้องออกมาให้ผมกับแอปเปิ้ลหยุดเถียงกันได้แล้ว ถ้าไม่หยุดมันคงได้ไล่ผมกับแอปเปิ้ลออกจากบ้านของมันแน่นอน ปัง!! --------------------------------------------
已经是最新一章了
加载中