หนี - 48
หลังจากที่ฉันปะทะอารมณ์กับคาร่าคู่หมั้นของนายแม็ททิว เธอก็เดินตรงมาที่รถเฟอร์รารี่สีดำของหมอนั่น วันนี้เธอตั้งใจว่าจะกลับไปอยู่คอนโดตัวเอง และตอนนี้ยังมีเรื่องของลูกในท้องของเธอที่จะต้องดูแลอีก
ฉันเปิดประตูรถและเข้าไปนั่งด้านใน ก่อนจะปิดประตูรถและขับออกไปทันที ฉันขับรถออกมาจากโรงพยาบาลขับรถออกมาเรื่อยๆ ก่อนจะแวะซุปเปอร์มาสเก็ต เพื่อซื้อของที่มีประโยนชต่อแม่และลูกในครรภ์
การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ มันเป็นพื้นฐานที่คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนควรปฏิบัติ อาหารที่คนตั้งครรภ์ทานได้มีอะไรบ้างนะ เพราะฉันไม่เคยตั้งครรภ์มาก่อน
ฉันจึงต้องหาข้อมูลต่างๆสำหรับเจ้าตัวเล็กที่อยู่ให้ท้อง เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋าก่อนจะเข้าไปที่กรูและหาข้อมูล
1. อยากให้ลูกฉลาด
นอกจากลูกน้อยที่มีสมบูรณ์ แข็งแรง และสมวัยแล้ว การมีพัฒนาการของสมองที่ดี ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรให้ความสำคัญ ซึ่งคุณแม่สามารถกระตุ้นการทำงานของสมองลูกน้องตั้งแต่อยู่ในครรภ์ด้วยอาหารเหล่านี้
กรดไขมันโอเมก้า 3
มีส่วนช่วยในการกระตุ้นสมอง กระตุ้นระบบประสาท บำรุงเซลล์สมอง เพิ่มประสิทธิภาพความทรงจำ ปริมาณกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่คุณแม่ควรได้รับคือ 300 มิลลิกรัม/วัน ในช่วงไตรมาศที่ 2 ของการตั้งครรภ์
กรดโฟลิก
เป็นอีกสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการเซลล์สมอง ระบบประสาท และไขสันหลังให้กับทารกในครรภ์มารดา ในกรณีที่ลูกได้รับกรดโฟลิกไม่เพียงพอต่อความต้องการ อาจส่งผลให้ทารกมีความพิการทางสมอง และเสี่ยงที่จะมีความผิดปกติของท่อประสาท ปริมาณกรดโฟลิก ที่คุณแม่ควรได้รับคือ 400-800 มิลลิกรัม/วัน ในช่วงไตรมาศแรกของการตั้งครรภ์
ไอโอดีน
มีส่วนช่วยในการพัฒนาสมอง ระบบประสาท ความทรงจำของลูกน้อย ถ้าคุณแม่ได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอต่อความต้องการ จะเกิดอาการคอพอก และส่งผลต่อทารกในครรภ์ ให้เสี่ยงต่อการมีร่างกายแคระแกร็น พัฒนาการทางสมองช้า สำหรับปริมาณไอโอดีนที่คุณแม่ควรได้รับคือ 175-200 มิลลิกรัม/วัน ในช่วงไตรมาศที่ 2-3 ของการตั้งครรภ์ เนื่องจากในช่วงนี้ต่อมไทรอยด์จะทำงานหนักขึ้น ทำให้ร่างกายต้องการไอโอดีนเพิ่มขึ้นค่ะ
เมนูเด็ดบำรุงสมองลูกน้อย
ปลานึ่ง โดยเฉพาะปลาทะเล เพราะอุดมด้วยโอเมก้า 3 และการนึ่งก็ยังคงรักษาสารอาหารไว้อย่างครบถ้วน
ยำบล็อกโคลี่ ยอดคะน้า อาหารทะเล ผักใบเขียวอุดมไปด้วยกรดโฟลิก พร้อมกับอาหารทะเลที่มีไอโอดีน ครบถ้วนตามความต้องการในการบำรุงสมอง
2. อยากให้ลูกร่างกายแข็งแรง
โปรตีนมีคุณสมบัติในการเสริมสร้างร่างกาย และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทั้งยังมีความสำคัญต่อการสร้างเซลล์ของทารกในครรภ์ มีความจำเป็นในการสร้างเซลล์สมอง ถ้าลูกน้อยได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ นอกจากจะมีร่างกายที่ไม่แข็งแรงแล้ว ยังอาจจะทำให้สมองมีขนาดเล็กผิดปกติ ส่งผลต่อการเรียนรู้ในอนาคต สำหรับปริมาณโปรตีนที่คุณแม่ควรได้รับคือ 60 กรัม/วัน ในช่วงทุกไตรมาศ ตลอดการตั้งครรภ์ เพราะโปรตีนเป็นสารอาหารหลักในการสร้างและเพิ่มขนาดของเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ สร้างน้ำย่อย เลือด และเสริมภูมิคุ้มกันด้วยค่ะ
เมนูที่อุดมไปด้วยโปรตีน
ไข่ต้มสุก แหล่งโปรตีนที่หาง่ายและมีประโยชน์
นม โดยเพิ่มความหลาย อาทิ นมวัว นมแพะ นมถั่วเหลือง
เนื้อสัตว์ อาทิ เนื้อปลา หมู หรือไก่ ไม่แนะนำเนื้อวัวเพราะย่อยยาก จะทำให้มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้
3. การบำรุงเลือดคุณแม่ก็สำคัญ
คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์จะมีความต้องการธาตุเหล็กเพิ่มมากขึ้นถึง 2 เท่า เพราะเหล็กช่วยเสริมการทำงานของเฮโมโกลบิน ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง ในการลำเลียงออกซิเจนไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย และยังเป็นบำรุงเลือดไม่ให้เกิดภาวะโลหิตจาง ซึ่งจะทำให้มีโอกาสคลอดก่อนกำหนด ทารกน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ หรือทารกมาภาวะโลหิตจาง ซึ่งไม่เป็นผลดีในระยะยาว ปริมาณธาตุเหล็ก ที่คุณแม่ควรได้รับคือ 30 มิลลิกรัม/วัน ในช่วงไตรมาศที่ 2-3 ของการตั้งครรภ์
เมนูแนะนำในการบำรุงเลือด
ตับผัดพริกหวาน ตับและพริกหวานที่มีธาตุเหล็กสูง เหมาะกับการบำรุงเลือด
ธัญพืชต้ม ลูกเดือย ถั่วต่างๆ สามารถเป็นอาหารเช้าอุ่นๆ บำรุงเลือดได้ดี
4. อาหารปราบแพ้ท้อง
อาการแพ้ท้องเป็นอีกหนึ่งอาการที่พบมากในคุณแม่ที่เริ่มตั้งครรภ์ โดยจะมีอาการเวียนศีรษะ อาเจียน คลื่นไส้ ซึ่งในแต่ละคนก็จะมีอาการไม่เหมือนกัน นอกจากการดื่มน้ำอุ่นๆ มีขนมข้างกายรองท้องอยู่ตลอดเวลาแล้ว อาหารที่มีส่วนประกอบของวิตามินบี 6 ยังมีส่วนช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ดีอีกด้วย ปริมาณวิตามินบี ที่คุณแม่ควรได้รับคือ 2.2 มิลลิกรัม/วัน ในช่วงไตรมาศแรกของการตั้งครรภ์
เมนูปราบอาการแพ้ท้อง
ข้าวต้มข้าวโอ๊ต อุดมไปด้วยวิตามินบี 6 เป็นอาหารเช้าอุ่นๆ ช่วยลดอาการคลื่นไส้ และเวียนหัวได้อีกด้วย
แซนวิชกล้วย อะโวคาโด ของว่างระหว่างวันที่ไม่ให้ท้องว่างจนเกินไป และมีวิตามินบี 6
5. กินแก้ท้องผูก
อาการท้องผูกในคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุแล้วต่างกันไปในแต่ละไตรมาศของการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมน ขนาดของมดลูกที่ขยายขึ้นเบียดทับลำไส้ทำให้เกิดการสะสมของของเสีย พฤติกรรมการกินไม่เหมาะสม โดยคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการท้องผูกมากในระหว่างช่วงตั้งครรภ์ มักจะเป็นคนที่มีปัญหาท้องผูกมาก่อนการตั้งครรภ์อยู่แล้ว และถ้ารุนแรงอาจทำให้เป็นริดสีดวงทวารได้ค่ะ
เมนูลดอาการท้องผูก
แกงเลียงใส่ผักหลากชนิด ความเผ็ดร้อนของแกงเลียงช่วงทำให้ลำไส้มีการขยับช่วยในการขับถ่าย
สลัดผัก อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ช่วยในการขับถ่าย
กุ้งลวกสุกราดมะนาว คุณแม่สามารถกินอาหารรสเปรี้ยวในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นการขับถ่ายได้
6. เมนูแก้ตะคริว
อาการตะคริวขณะตั้งครรภ์ถือเป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น การกดทับในบริเวณอุ้งเชิงกรานของมดลูก กล้ามเนื้อที่ฝืดเนื่องจากไม่ค่อยได้ขยับร่างกาย หรือแม้แต่การขาดแคลเซียมในช่วงไตรมาศสุดท้าย เนื่องจากทารกดึงแคลเซียมไปใช้ในการสร้ากระดูกและฟัน เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดตะคริว โดยคุณแม่สามารถเสริมแคลเซียมได้ จากเมนูอาหารดังนี้
เมนูแก้ตะคริว
ปลาตัวเล็กทอดกรอบ อุดมไปด้วยแคลเซียม เคี้ยวเล่นระหว่างวันก็เป็นตัวเลือกที่ดี
ยำถั่วพู เนื่องจากถั่วพูนั้นเป็นแหล่งแคลเซียมชั้นดี
นมสด สามารถดื่มได้ทุกวัน แต่ควรเป็นนมที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ ฆ่าเชื้อโรคแล้ว
ข้อมูลสำคัญต่างขึ้นมาให้ฉันเลือกดูเลือกอ่าน พอได้ข้อมลูที่เป็นประโชยน์ ฉันจนเดินเลือกดูผัก เนื้อสัตว์ นม และของใช้สำคัญต่างๆ ไม่นานฉันก็ได้ของใช้และอาหารสำหรับแม่และเด็กเรียบร้อย ก่อนจะเดินไปจ่ายเงินพอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย
ฉันทำธุระจ่ายเงินเสร็จเรียบรเอยแล้วก็เดินเข็นรถออกมาจากซุปเปอร์มาสเก็ต มาที่รถของแม็ททิวมันฉันจัดการยักของใส่รถซุปเปอร์คาร์ ก่อนจะเดินตรงไปที่ฝั่งคนขับและขับรถออกไปทันที
คอนโดแอปเปิ้ล
ฉันขับรถของเขามาที่คอนโดของตัวเอง และเลี้ยวรถเข้าไปจอดข้างๆรถBMW I8 สีขาวของเธอที่จอดอยู่ ฉันเปิดประตูรถลงมา ก่อนจะเดินตรงไปที่รถของตัวเองว่ามันสภาพอยู่ดีหรือเปล่า
ฉันเดินดูรถที่จอดทิ้งไว้นานมากแล้วและเดินกลับไปที่รถของนายแม็ททิวที่ขับออกมา ฉันจึงขนของลงจากรถและเดินตรงไปที่ลิฟต์ ก่อนจะกดชั้นที่ตัวเองจะขึ้น ฉันยืนรอไม่นานลิฟต์ก็เปิดออก
ฉันจึงก้าวเท้าเดินออกจากลิฟต์ตรงไปที่ห้องของตัวเองและเปิดประตูห้องและเดินเข้าไปด้านใน ฉันเดินมาที่โต๊ะกินข้าวและวางของที่ซื้อมาลง ส่วนพวกผักเนื้อสัตว์และนม เดินไปใส่ไว้ในตู้เย็นและเดินตรงไปที่ห้องนอน เพราะตอนนี้รู้สึกง่วงนอนมาก ฉันจึงลกตัวลงนอนและหลับไป
17:00น.
.........RRRRRRR..........
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นฉันที่นอนหลับอยู่บนเตียงก็รู้สึกตัวตื่นและค่อยๆพยุงร่างกายลุกขึ้นนั่ง แต่พอลองนั่งฟังเสียงโทรศัพท์ก็นึกขึ้นได้ว่ามันไม่ใช่เสียงโทรศัพท์ของเธอ ฉันมองหาว่าเสียงมันดังมาจากตรงไหน
ฉันจึงเดินออกมาจากห้องนอนเสียงมันก็เงียบไปและดังขึ้นมาอีก ฉันเดินดูแบะตามหาเสียงที่ดังจึงมาถึงกระเป๋าของเธอ และเปิดกระเป๋าออกมาดูก็รู้ว่ามันดัง ฉันจึงเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา แต่พอดูมันกับเป็นโทรศัพทของเธอเอง
มันทำให้เธอสงสัยว่าใครมันมาเปลี่ยนเสียงเรีนกเข้าของเธอและก้มลงมองดูเบอร์แปลกที่โทรมาตั้งแต่ตอนบ่ายจึงถึงตอนนี้มากกว่า20 สาย มันทำให้ฉันต้องกดรับสาย
"ฮัลโห....." พอรับสายเสร็จยังไม่ทันจะพูดฮัลโหลเสร็จเลย เสียงของปลายสายก็ดังขึ้นมาสักก่อน และมันทำให้เธองง
(อยู่ไหน!!! ทำไมไม่รับสายว่ะ!!!)
"ค่ะ!!....ใครค่ะ??" ฉันที่กำลังตกใจและงงว่าใครว่ะ รับสายก็โวยวายเสียงดัง มันทำให้เธอต้องถามคนในสาย
(ผัวมึงไง!!)
"นาย!!" พอคนในสายมันตอบมาเท่านั้นล่ะครับ ฉันอยากจะวางสายเขาทันที จะเป็นใครไปไม่ได้ ที่ชอบยัดเยียดความเป็นผัว
(กูเอง!! มึงอยู่ไหน!!ทำไม......)
"แค่นี้ล่ะ!!" ฉันไม่สนใจเสียงของเขาและพูดขัดขึ้น โดยไม่สนว่าเขาจะพูดอะไรก่อนจะกดวางสายทันที พอฉันวางสายของนายแม็ททิวเสร็จ
โครกคราก!!!
เสียงท้องดังขึ้นมันเป็นสัญญาณว่าลูกน้อยของเธอกำลังหิวและตัวเธอเองก็หิวแล้วเหมือนกัน วันนี้เธอจะทำปลาแซลมอนอบผักรวม และสลัดโรลล์ อกไก่ไร้แป้ง
วัตถุดิบ (สลัดโรลล์)
1. ผักสลัด 60 กรัม
2. อกไก่ต้ม 130 กรัม
3. แตงกวา 80 กรัม
4. แครอท 80 กรัม
5. แอปเปิ้ล ครึ่งผล
6. แครอท 1 หัว (สำหรับม้วน)
วัตถุดิบ (น้ำสลัด)
1. โยเกิร์ต 0% ถ้วย
2. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
3. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
4. พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
5. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
6. ผักชีลาว 1 ช้อนโต๊ะ
7. โหระพา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
STEP 1 : เตรียมเครื่องสำหรับทำเป็นไส้
- นำอกไก่ที่ต้มสุกแล้ว หั่นเป็นชิ้นยาว ๆ พอคำ ไม่ต้องหนามากนะคะ
- หั่นแครอท (สำหรับเป็นไส้) แตงกวา แอปเปิล เช่นเดียวกับอกไก่เลยค่ะ ขนาดเท่า ๆ กันค่ะ เวลาห่อจะได้ไม่ล้ำกันค่ะ
STEP 2 : ฝานแครอทสำหรับห่อ + ห่อ
- นำหัวแครอทมาปอกเปลือกออก หั่นครึ่งเลยค่ะ กะความยาวอย่าให้สั้นจนเกินไปค่ะ
- เสร็จแล้วนำที่ฝาน หรือมีดปอกผลไม้ก็ได้นะคะ ที่เราใช้ปอกมะม่วงทั่ว ๆ ไปค่ะ นำมาฝาน โดยใช้แรงกดหน่อยนะคะ แครอทจะได้ไม่ขาดค่ะ
Tip : แครอทที่จะใช้ห่อควรจะยาวนิดหนึ่งนะคะ เวลาห่อไส้จะได้ไม่หลุดง่ายค่ะ ถ้าสั้นเกินไปจะทำให้ห่อไม่อยู่ค่ะ
- นำแครอทที่ฝานเป็นชิ้นไว้แล้ววางลงบนจานหรือเขียงค่ะ ใส่ผักสลัดตามชอบเลยค่ะ ชอบผักมาก ๆ ใส่เยอะก็ได้นะคะ แล้วตามด้วย อกไก่ต้ม แครอท แตงกวา แอปเปิล เสร็จแล้วม้วนเลยค่ะ (ระหว่างม้วนไส้อาจหลุดออกมาได้ ต้องใจเย็นนิดหนึ่งนะคะ)
STEP 3 : ทำน้ำสลัด
- นำโยเกิร์ตไขมัน 0% ใส่ลงในโถเครื่องปั่นเลยค่ะ ตามด้วยกระเทียมสับ พริกไทยดำ น้ำมะนาว น้ำมันมะกอก ใบโหระพา และผักชีลาว ปั่นให้เข้ากันดีค่ะ ดูจนละเอียดได้ที่แล้ว ปิดเครื่องเลยค่ะ เทลงใส่ภาชนะที่เตรียมไว้
- นำสลัดโรลล์ที่ม้วนเตรียมไว้แล้วจัดใส่จานเลยค่ะ ตามด้วยน้ำสลัด ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ สวยงามพร้อมเสิร์ฟเลยค่า
ไม่นานสลัดโรลล์ก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉันก็หันกลับไปทำแซลมอนอบผักรวม
ส่วนผสม
1. ซูกินี 2 ลูกเล็ก
2. สควอชเหลือง (หั่นรูปเสี้ยวพระจันทร์) 2 ลูกเล็ก
3. หอมแดง (หั่นบาง) 1 ลูก
4. กระเทียม (สับละเอียด) 1 กลีบ
5. น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
7. เกลือป่น
8. พริกไทยดำป่น
9. น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
10. เนื้อปลาแซลมอน 4 ชิ้น (ชิ้นละประมาณ 150 กรัม)
11. มะเขือเทศท้อ (หั่นเต๋า) 2 ลูกใหญ่
12. หอมแดง (หั่นเต๋า) 1ลูก
13. ใบไทม์สดสับ 1 ช้อนโต๊ะ (หรือใบไทม์แห้ง 1 ช้อนชา)
14. ออริกาโน่ 3/4 ช้อนชา
15. ใบมินต์แห้ง 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
- เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
- ใส่ซูกินี สควอชเหลือง หอมแดง กระเทียม น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ โรยเกลือและพริกไทยดำลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้วแบ่งใส่ลงไปตรงกลางกระดาษฟอยล์ทั้ง 4 แผ่น เตรียมไว้
- แบ่งน้ำมันมะกอกออกมา 1 ช้อนโต๊ะ นำมาทาเนื้อปลาแซลมอนให้ทั่วทั้ง 4 ชิ้น เสร็จแล้วโรยเกลือและพริกไทยดำให้ทั่ว นำมาจัดลงบนส่วนผสมผักที่ได้วางไว้บนฟอยล์ ใส่น้ำเลมอน โรยเกลือและพริกไทยดำลงไปด้านบนเนื้อปลาแซลมอน เตรียมไว้
- นำมะเขือเทศ หอมแดง ใบไทม์ ออริกาโน่ ใบมินต์ และน้ำมันมะกอกที่เหลือคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยดำ นำไปราดบนเนื้อปลาแซลมอนทั้ง 4 ชิ้น
- ห่อส่วนผสมด้วยกระดาษฟอยล์ เริ่มจากพับริมด้านยาวเข้ามาทั้ง 2 ด้าน ตามด้วยพับริมด้านกว้างทั้ง 2 ด้าน
- นำเข้าเตาอบ ประมาณ 25-30 นาที เปิดฟอยล์ออก พร้อมเสิร์ฟ
ตอนนี้ฉันได้อาหารเพื่อสุขภาพและมีประโยชน์ต่อร่างกาย และไม่ลืมที่จะหยิบนมและผลไม้สองสามอย่างออกมา วางไว้บนโต๊ะทานข้าวขนาดพอดีก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ และลงนั่งเพื่อจะรับประทานอาหารตรงหน้า
จังหวะที่จะลงมือทานอาหารตรงหน้า เสียงของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ มันทำให้ฉันที่กำลังอ้าปากต้องหุบลง และหันไปมองโทรศัพท์ที่ส่งเสียงร้อง
"เฮ้ออ!!" ฉันถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ก่อนจะตัดใจจากอาหารน่าทานตรงหน้า ฉันจึงค่อยๆลุกขึ้นยืนและเดินตรงไปที่โทรศัพท์
#0958684XXX
พอเห็นว่าเป็นเบอร์แปลกฉันก็ปิดเสียงและวางลงที่เก่า ’เบอร์แปลกไม่รับ’ พอจะเดินกลับไปที่โต๊ะอาหารเสัยงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีก
#0958684XXX
"โทรมาทำไมอีกว่ะ!!??" ฉันมองเบอร์แปลกที่โทรเข้ามาอีกครั้ง ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย
"ฮัลโห....."
(ถ้ามึงวางสายกูอีก กูเอามึงเดินไม่ได้แน่!!)
"อะไรอีกว่ะ!!??" เธอยังไม่ทันจะพูดฮัลโหลจบเสียงโมโหของคนปลายสายดังแซงเข้ามาก่อน มันทำให้รู้ได้ทันทีว่าตอนนี้คนในสายโมโหมากแค่ไหน
(อยู่ไหน??)
"คอนโด!!"
(กลับมาเดี๋ยวนี้!!)
"ไม่กลับ....จบไหม" ฉันตอบหน้าตายไม่สนใจและทำท่าจะกดวางสายเขา ก็ต้องชะงักเสียงขู่และน่ากลัวของเขา มันทำให้เธอเลิกคิดจะวางสายเขา
(จะกลับมาดีๆหรือจะให้กูไปลากมึงกลับมา บอกเลยรอบนี้มึงจะไม่มีโอกาสได้ออ.....)
"เออๆ!!! มารับด้วย"
(แค่นี้ล่ะจ้า เมียจ้า!!)
"ไอ้....."
-------------------------------------------