บทที่ 1 จบตอน
“พี่ภูจอดตรงนี้ล่ะค่ะ เดี๋ยวขวัญเดินเข้าไปเอง”
บ้านของพิมพ์ประภาเป็นบ้านสวน และมีทางเดินเข้าไปได้อย่างสะดวกสบายและข้างๆ ทางก็มีต้นไม้ใบหญ้าให้ชื่นชม เธออยากจะเดินชมนกชมไม้ไปตามประสา
“จะไปก็รีบไปสิ..” ขวัญพิมลรีบลงไปแล้วเปิดประตูด้านหลังหยิบของที่นำมาแล้วเดินจ้ำอ้าวเข้าไปในบ้านของปุริมทันทีโดยไม่เหลียวหลังหันมามองภูริเลย...
“อ้าวขวัญมาถึงเร็วจังแล้วจอดรถไว้ที่ไหนล่ะไม่ขี่เข้ามา”
พิมพ์ประภาร้องทักเพื่อนรักรีบวางสายยางที่ตนกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่มารับของในมือเพื่อน ก่อนจะชะงักแล้วยกมือไหว้
“ไหว้ขวัญทำไมยายคนนี้ ทำตัวพิลึกเชียวไม่ต้องประจบออกนอกหน้าขนาดนั้นก็ได้ย่ะ..” ขวัญพิมลเย้าเพื่อนอย่างขบขัน ร้อยวันพันปีไม่เคยมีมารยาทงามขนาดจะต้องไหว้ขอบคุณที่เธอเอาของมาฝาก วันนี้ผีอะไรเข้าสิงถึงมารยาทดีขนาดนี้
“ไม่ได้ไหวเธอ พิมพ์ไหว้พี่ภู..” พิมพ์ประภาพูดเบาๆ แล้วส่งยิ้มทักทายผู้ที่ยืนอยู่ข้างหลังเพื่อนรัก ขวัญพิมลตาโตรีบหันไปมองก็พบว่าภูริยืนอยู่ตรงจริงๆ
“พี่ภู.. เอ่อ.. ไม่ไปทำงานหรือคะ”
“ไป.. แค่จะมาบอกว่า อย่าพากันขี่รถเที่ยวจนเพลินและอย่าประมาท.. แต่ทางที่ดีไม่ควรขี่รถตะลอนๆ ไปเที่ยวกันเพียงลำพัง ผู้หญิงสองคนจะไปขี่รถเที่ยวกันแบบนั้นมันอันตราย”
ขวัญพิมลกับพิมพ์ประภาหันมองหน้ากันแล้วมองหน้าภูริตาโตเหมือนไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“พี่ภูคะ คือว่า..”
“พี่จะไปทำงานแล้ว ตอนเย็นจะแวะมารับ” ขวัญพิมลกำลังจะเอ่ยค้านแต่ภูริหันหลังเดินกลับไปเสียก่อน
“ผีเข้าพี่ภูคนดีของแกรึเปล่าอะขวัญ..” พิมพ์ประภาเกาหัวแรกๆ ทำหน้ายุ่ง
“คงอย่างนั้น แต่แบบนี้ขวัญว่ามันไม่ดีเท่าไหร่.. กลัวจะมีพายุลูกใหญ่ตามมาน่ะสิ”
“ก็ว่าไป..” พิมพ์ประภาลากเสียงยาวแล้วหัวเราะขบขัน แต่ก็อดสงสารเพื่อนรักไม่ได้ เธอรู้ดีว่าขวัญพิมลนั้นรักภูริมากแค่ไหน และต้องอยู่ในสถานะที่เจ็บช้ำเพียงใด
เรื่องที่ขวัญพิมลได้จดทะเบียนสมรสกับภูรินั้น ขวัญพิมลไม่ได้บอกเธอตรงๆ แต่เพราะเธอสังเกตเห็นท่าทางแปลกๆ ของขวัญพิมลจึงถามออกไปว่าเกิดอะไรขึ้น ขวัญพิมลหลุดปากออกมาเธอจึงได้รู้ ขวัญพิมลกำชับให้เธอเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับห้ามบอกใครแม้แต่ปุริมพี่ชายของตน พิมพ์ประภาสงสารพี่ชายไม่น้อยที่แอบรักขวัญพิมล เธออยากจะบอกพี่ชายอยู่หลายครั้งเพื่อให้ปุริมตัดอกตัดใจเสีย แต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่แอบสงสารพี่ชายอยู่เงียบๆ และคอยบอกปุริมเป็นนัยๆ ว่าขวัญพิมลมีเจ้าของแล้วเพื่อไม่ใช่พี่ชายของตนถลำตัวไปมากกว่านี้...
“มาดีๆ แบบนี้ไม่น่าไว้ใจนี่นา.. แล้วนี่พี่ปุ๊ไม่อยู่เหรอ”
“ทำไมจะไม่อยู่ล่ะ ตั้งตารอขวัญมาเลยล่ะ” ขวัญพิมลถอนใจเบาๆ พิมพ์ประภาตบบ่าเพื่อนรักอย่างเข้าอกเข้าใจ
“มันไม่ใช่ความผิดของเธอนะขวัญ.. ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ อีกอย่างเธอก็ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้น”
“ฮื่อ..” ขวัญพิมลพยักหน้าหงอยๆ
“เฮ้ย.. จะมาทำตัวเหงาเศร้าสร้อยทำไม นานๆ จะได้ออกมาที วันนี้ต้องสนุกสิ”
“ขอโทษนะพิมพ์ ขวัญทำเสียบรรยากาศหมดเลย”
“ไม่เป็นไรน่าคิดมาก ไหนดูสิวันนี้มีอะไรมากฝากบ้าง ลาภปากอีกแล้ว”
“เห็นแก่กินจริงๆ” ขวัญพิมลหัวเราะกับท่าทางตื่นเต้นกระดี๊กระด๊าของเพื่อนรัก
“น้องขวัญมานานแล้วเหรอครับ..” สาวสาวที่กำลังคุยกันอยู่หันไปมองคนที่เพิ่งเดินเข้ามา
ปุริมเป็นเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีหล่อเหลาไม่แพ้ภูริเลย รูปร่างสูงโปร่งไล่เลี่ยกับภูริ ไม่ว่าการศึกษาหรือฐานะก็ไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย แต่ทำไมนะเธอถึงไม่ชอบผู้ชายดีๆ ที่พร้อมจะรักและดูแลเธออย่างปุริม
เรื่องความรัก เรื่องความรู้สึก มันบังคับกันไม่ได้จริงๆ เธออยากจะเลิกรักภูริแล้วหันมารักปุริม แต่ก็ทำไม่ได้ ใจของเธอไม่สามารถมองเขามากเกินกว่าพี่ชาย
“มาสักพักแล้วค่ะ กำลังว่าจะไปขี่รถเล่นกัน รำลึกความหลังสมัยสาวๆ” พิมพ์ประภาพูดยิ้มๆ
“ไปยังไง ขี่มอเตอร์ไซค์นี่นะ”
“ใช่ค่ะ พี่ปุ๊ให้พิมพ์กับขวัญไปนะ สัญญาจะไม่ซิ่งไม่แว้น” ปุริมกอดอกมองน้องสาวหัวแก้วหัวแหวนแล้วส่ายหน้ายิ้มๆ ไม่เชื่อสักนิดที่เจ้าหล่อนพูดมา แต่เขาก็ไม่อยากขัดเพราะรู้ดีว่าขัดใจได้ที่ไหนกัน
“คำพูดนี่เชื่อไม่ได้เลย.. แต่เอาเถอะ อย่ากลับมาค่ำนักล่ะ”
“ค่า.. เราไปกันเถอะ” สองสาวยิ้มกว้างกระโดดดีใจเหมือนเด็กๆ
“แล้วพวกเราจะรีบกลับมานะคะ เดี๋ยวซื้อของมาทำกับข้าวตอนเย็นด้วย”
“ครับคุณผู้หญิง” ปุริมมองตามหลังสองสาวไป แล้วมองใบหน้างามของหญิงสาวที่ตนมีใจให้อย่างหลงใหล..
เขาจะต้องทำอย่างไรนะขวัญพิมลถึงจะมองเขามากกว่าพี่ชาย...