บทที่ 2 ต่อ..
บทที่ 2.ต่อ
หงุดหงิด..
นั่นคือสิ่งที่ภูริรู้สึก วันนี้ขวัญพิมลหายไปไหนนะ.. ชายหนุ่มเดินไปเดินมาทั่วบ้านเพื่อตามหาขวัญพิมลทั้งในสวนทั้งในครัวที่คิดว่าเธออยู่ที่นั่นก็ไร้เงาของขวัญพิมล โดยไม่รู้ว่าถูกจับตามองอยู่...
ภูรินั่งทอดอารมณ์อยู่ในสวนมองดอกไม้ชนิดต่างๆ ที่กำลังออกดอกแข่งกันพลางนึกถึงคนที่ปลูกอย่างอดไม่ได้ แล้วก็เกิดภาพซ้อนของขวัญพิมลเข้ามาในความคิด ขวัญพิมลเป็นหญิงสาวร่างเล็กอรชรสมส่วนไม่ได้ดูผอมหรืออ้วนเกินไปนั้นกำลังพรวนดินรดน้ำต้นไม้อย่างเพลิดเพลิน เธอเดินไปมาหยิบจับข้าวของคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง เสียงหวานใสเอ่ยด้วยถ้อยคำนุ่มนวลพร้อมกับรอยยิ้มหวานให้กับทุกคนที่กำลังช่วยกันทำงาน...
ทุกคนในบ้านรักและชื่นชมขวัญพิมลมาก ยิ่งบรรดาสาวใช้ในบ้านนี้แทบจะทำงานถวายหัวให้ขวัญพิมลเลยทีเดียว เขาเคยได้ยินสาวๆ พูดคุยถึงขวัญพิมลด้วยความชื่นชมบ่อยๆ และยังพูดถึงเขาด้วย
“คุณขวัญเธอแสนดีน่ารักเป็นแม่บ้านแม่เรือน ทั้งใจดี มีน้ำใจ ฉันไม่เคยเห็นคุณขวัญโกรธใครสักครั้ง หน้าบึ้งหน้าตึงขึ้นเสียงใส่ใครก็ไม่เคย.. คุณภูนี่ถ้าไม่โง่ก็โดนของ ถึงไม่สนใจคุณขวัญของฉัน”
“ใช่ๆ ถ้าคนดีๆ อย่างคุณขวัญคุณภูไม่เอา ก็ถือว่าโง่ยิ่งกว่าโง่อีกนะฉันว่า”
“ว่าไปปปป นังบัวผัน คุณภูเธออาจจะยังไม่รู้ใจตัวเอง หรือเล่นตัวอยู่ แบบว่า รู้ว่าคุณขวัญรักก็เลยเห็นเป็นของตายจะทำไงก็ได้ยังไงคุณขวัญก็รักอะไรแบบนี้ แต่สักวันเถ้อออ.. คุณขวัญทนไม่ไหว หมดรักขึ้นมาเมื่อไหร่ขอหย่าแล้วไปหาผัวใหม่ ฉันจะดีใจมากยินดีกับคุณขวัญด้วยที่ได้เจอคนดีๆ และมีความสุขเสียที”
“ใช่เธอ ฉันล่ะสงสารคุณขวัญของฉันมาก เหมือนจะยิ้มรับทุกอย่างแต่ในใจคงเจ็บปวดน่าดู..”
เมื่อนึกถึงคำพูดของเหล่าสาวใช้แฟนคลับของขวัญพิมลพูดถึงเขา ภูริก็อดจะรู้สึกร้อนรุ่มในใจและอยากโกรธพวกเจ้าหล่อนนักที่บังอาจนินทาเขา แต่เมื่อคิดตามคำพูดของสาวๆ พวกนั้นแล้วก็ต้องยอมรับว่ามีส่วนถูก...
และภาพความทรงจำเก่าๆ นับตั้งแต่ที่เขากลับมาเหยียบแผ่นดินไทยอีกครั้งก็วนๆ เข้ามาในหัว นั่นก็คือ ภาพเด็กสาววัยใสที่คอยส่งยิ้มหวานให้เขาเสมอ ทั้งยังคอยตามเหมือนเงา
“พี่ภูขากินขนมไหมคะ ขวัญทำเองนะคะ เพื่อพี่ภูคนเดียว” ใบหน้าใสๆ โผล่มาพร้อมกับขนมหน้าตาน่ากิน
“พี่ภูขา วันนี้ขวัญทำน้ำฝรั่งปั่นไว้รอพี่ภูนะคะ”
เด็กสาวในชุดนักเรียนถักเปียสองข้างน่ารักสดใสยิ้มให้พร้อมกับน้ำฝรั่งปั่นเย็นฉ่ำเป็นเกล็ดหิมะเย็นชื่นใจ น้ำฝรั่งคือของโปรดของเขา
“พี่ภูเหนื่อยไหมคะ ขวัญนวดให้เอามั้ย ขวัญนวดเก่งนะ คุณป้ากับคุณลุงยังชมเลยค่ะ”
“พี่ภูวันนี้กินอะไรดีคะ ขวัญจะทำให้กิน ขวัญทำอาหารอร่อยนะ”
เสียงหวานที่เอื้อนเอ่ยอย่างเอาใจกับรอยยิ้มน่ารักสดใสของขวัญพิมลกำลังลอยวนอยู่ในหัว อีกหลายๆ สิ่งที่เธอคอยทำเพื่อเอาใจเขาแต่ในตอนนั้นเขากลับรู้สึกไม่ชอบใจและรำคาญยายเด็กใจแตกที่ริอ่านบอกว่ารักเขาทั้งที่ตัวเองยังเรียนอยู่แค่ชั้นมัธยมปลาย
“ขวัญรักพี่ภูนะคะทุกอย่างที่ขวัญทำก็เพราะขวัญรักพี่ภู พี่ภูยังไม่ต้องรักขวัญก็ได้ค่ะ แต่ขวัญจะทำให้พี่ภูรักขวัญให้ได้”
นั่นคือคำพูดอันหนักแน่นของขวัญพิมลในวันที่สารภาพว่ารัก และที่ทำทุกอย่างให้นั้นก็เพราะว่าเธอรักเขา.. เขาต่อว่าเธอและยังเย้ยหยันว่ามันเป็นแค่ความรู้สึกฉาบฉวยของเด็กสาวที่เพิ่งเริ่มแตกเนื้อสาว เขายังจำแววตาที่ฉายแววเจ็บปวดและน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนวลใสของเธอได้ดี
“ขวัญไม่ยอมแพ้หรอกค่ะ สักวันพี่ภูต้องรักขวัญ..” เธอบอกพร้อมกับวิ่งหนีไปทั้งน้ำตา
เธอยังเด็ก.. เขาบอกตัวเองอย่างนั้นและพยายามทำให้ขวัญพิมลเลิกวุ่นวายหรือคิดเกินเลยกับเขา เพราะไม่อยากให้เด็กสาวที่อนาคตสดใสอย่างเธอต้องมาหมดอนาคตเพียงเพราะหลงรูปลักษณ์ภายนอกของเขา
แน่นอนว่าภูริไม่ปฏิเสธว่าตัวนั้นรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา อีกทั้งฐานะทางสังคมความร่ำรวยของเขาก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่นเป็นที่สนใจ หญิงสาวมากมายอยากเป็นคู่ควง อยากเป็นคนรักของเขา และแน่นอนว่าเขาก็เป็นเหมือนชายหนุ่มคนอื่นๆ ที่ยังอยากใช้ชีวิตอิสระ อยากใช้ชีวิตโสดให้คุ้มค่าไม่ได้อยากมีคนรักเป็นตัวเป็นตนหรืออยากแต่งงานมีครอบครัว ดังนั้นเขาจึงโกรธมากที่ขวัญพิมลวางแผนจับเขาเป็นสามีด้วยวิธีสกปรก เขาไม่พอใจ เสียใจผิดหวังที่คนอย่างขวัญพิมลที่ดูเป็นเด็กสาวสดใสเรียบร้อยน่ารักจะทำเรื่องน่าละอายแบบนั้นได้
ดังนั้นเขาจึงลงโทษเธอด้วยความเย็นชาทำให้เธอเจ็บปวดด้วยการวางเธอไว้เพียงเมียในนามแล้วทำตัวเหมือนชายโสดดังเดิมไม่สนใจว่าเธอจะคิดหรือรู้สึกอย่างไร ขอแค่เพียงทำให้ขวัญพิมลเสียใจเจ็บปวดกับการที่เห็นเขาควงหญิงสาวมากหน้าหลายตา จากความเย็นชาของเขาเพียงเท่านั้นเขาก็พอใจแล้ว
เขาพอใจชอบใจที่เห็นขวัญพิมลเสียใจจริงหรือ.. ภูริถามตัวเอง ไม่ใช่แค่วันนี้ที่เขาเฝ้าถามตัวเองแบบนี้แต่เขาถามตัวเองทุกครั้งที่เห็นน้ำตาแห่งความเสียใจน้อยเนื้อต่ำใจของเธอ..
พลันใจของเขาก็เหมือนถูกบีบรัดจนเจ็บแปลบ ช่วงนี้รู้สึกแบบนี้บ่อยจัง มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่... ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร ไม่รู้สิ เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร...
“อุ๊ย.. คุณภู” เสียงของสาวใช้นามว่า บัวผัน ปลุกเขาตื่นจากภวังค์คิด ชายหนุ่มปรายตามองสาวใช้ร่างท้วมแต่ปราดเปรียวและพูดมากอย่างไม่ค่อยพอใจ
“มีอะไร..”
“คือ.. ไม่มีอะไรค่ะ บัวผันแค่จะไปตัดกุหลาบไว้รอคุณขวัญ”
ภูริเหลือบมองเวลาบนหน้าปัดนาฬิการยี่ห้องดังของตน ก็พบว่ามันจะสี่โมงเย็นแล้ว ขวัญพิมลไปไหนนะทั้งวัน.. แม้จะสงสัยแต่ด้วยความหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีภูริจึงกอดอกมองบัวผัวนิ่ง
“ก็ไปสิ.. แล้วทำไมเจ้านายคนเก่งของเธอไม่มาตัดเอง..” นี่ไง เขาสามารถถามอ้อมๆ ได้โดยไม่เสียฟอร์ม ชายหนุ่มคิดยิ้มย่องในใจ...
“คือคุณขวัญไม่ว่างน่ะค่ะ..” นี่ม่ใช่คำตอบที่เขาต้องการ... ภูริหน้าหงิก
“ธุระเยอะจริงนะคุณขวัญที่แสนดีของเธอนี่”
“ใช่ค่ะ.. ก็คุณขวัญเป็นคนขยันนี่คะ คุณขวัญทำอะไรก็ดีค่ะ พวกเราสนุกมากเวลาที่คุณขวัญพาทำนู่นทำนี่ เย็นนี้คุณขวัญจะพาทำชากุหลาบกับวุ้นกุหลาบค่ะคงอร่อยน่าดู บัวผันไปเก็บดอกกุหลาบก่อนนะคะ”
ภูริมองตามบัวผันไปอย่างไม่ค่อยชอบใจนักเพราะยังไม่ได้คำตอบที่อยากรู้ ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นอย่างหงุดหงิดเดินกลับเข้าบ้านไปด้วยสีหน้าบึ้งตึง ทุกคนในบ้านดูปกติดีไม่มีใครพูดถึงขวัญพิมล และไม่มีเงาของขวัญพิมลด้วย...
ขณะที่จะเดินเข้าบ้านเขาเดินผ่าน นายสม คนสวนและพ่วงตำแหน่งคนขับรถในบ้างครั้ง ชายหนุ่มยิ้มบางๆ อย่างพอใจ