บทที่ 4. ไม่รู้ว่าใครต้องแคร์ใคร   1/    
已经是第一章了
บทที่ 4. ไม่รู้ว่าใครต้องแคร์ใคร
ภูริมองประตูห้องแล้วมองนาฬิกาข้อมืออย่างหงุดหงิดที่ป่านนี้คนที่เขาไม่ชอบหน้ายังไม่เอาข้าวกล่องมาให้เสียที มันบ่ายสองแล้ว และเขาก็หิวมาก.. เสียงประตูห้องดังขึ้นทำให้รอยยิ้มบางๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรแต่ภูริรีบปรับสีหน้าให้เคร่งขรึมก่อนจะเอ่ยปากอนุญาต “เข้ามา..” “ไฮ.. ทำอะไรอยู่คะที่รัก..” ภูริแอบถอนใจเบาๆ แล้วเงยหน้ามองเพียงฟ้าก่อนจะยิ้มให้บางๆ “หวัดดีครับ..” “เลขาภูบอกว่าภูยังไม่ได้ออกไปกินข้าว เราไปหาอะไรกินกันดีกว่าค่ะ” เพียงฟ้าเอ่ยชวน “ผมยังไม่ค่อยหิว..” ความจริงแล้วเขาหิวแทบไส้ขาดเลยทีเดียว “แต่นี่มันบ่ายสองกว่าแล้วนะคะ ไปเถอะน่า ฟ้าเป็นเจ้ามือเองก็ได้” หญิงสาวบอกอย่างใจป้ำ “ผมไม่ให้คุณเลี้ยงหรอกน่า” “ไปเถอะค่ะ วันนี้ฟ้าอยากให้คุณไปกับฟ้าเพราะฟ้ามีอะไรจะอวด” หญิงสาวบอกยิ้มๆ ภูริไม่ปฏิเสธว่าเพียงฟ้าสวยสง่าเพียบพร้อมและใครหลายๆ คนกำลังจับตามองเขากับเธอ บางครั้งก็มักจะมีภาพหลุดของเขากับเพียงฟ้าในสื่อต่างๆ บ้างก็จับคู่เขากับเธอเป็นคู่จิ้นคู่รักกัน แต่สำหรับภูริเพียงฟ้าคือเพื่อนที่เขาให้ความสนิทสนมด้วยเพราะนิสัยใจคอที่คล้ายกัน รสนิยมคล้ายๆ กัน “ไปก็ไปครับ” เพียงฟ้ายิ้มกว้างอย่างยินดีแล้วเข้ามาเกาะเขาเดินออกไปพร้อมกัน.. “ผมไม่กลับเข้ามานะคุณลักษณ์ มีอะไรด่วนก็โทร. หาผมแล้วกัน..” “ค่ะบอส..” นงลักษณ์รับคำแล้วมองตามทั้งคู่ไปอย่างครุ่นคิด ก่อนจะทำงานของตัวเองต่อ... “หนังสนุกจังเลยนะคะคุณพ่อ.. ขวัญไม่ได้ดูหนังสนุกๆ แบบนี้มานานแล้วค่ะ” ขวัญพิมลยิ้มเริงร่าเมื่อออกจากโรงภาพยนตร์ “นั่นสิ ไม่คิดว่าหนังจะสนุกแบบนี้ ถ้าแม่มาด้วยก็คงชอบเหมือนกัน” “ป่านนี้คงอิ่มบุญแล้วมั้งคะ” คุณริสานั้นเดินทางไปทำบุญกับเพื่อนๆ ซึ่งมารับกันถึงบ้านอย่างไม่บอกกล่าว แต่คุณริสากับพยายาลพิเศษก็ไปทำบุญด้วยกันและจะกลับมาในตอนเย็น “เราไปหาซื้อของกันดีกว่านะ วันนี้ทำอะไรอร่อยๆ กินกันที่บ้านดีกว่า หนูขวัญว่าเราจะทำอะไรกันดี” “ขวัญว่าเราทำบาบีคิว ซีฟู๊ดปิ้งย่างกันดีมั้ยคะ ไม่ได้ทำกินกันนานแล้ว” “ดีๆ เปลี่ยนบรรยากาศมั่ง ทำเหมือนเราไปปิคนิกกันก็ดีเหมือนกันนะ ไว้ว่างๆ พร้อมกันเราค่อยไปเที่ยวกันสักวันสองวัน” พ่อสามีกับลูกสะใภ้คุยกันถูกคอแล้วพากันเดินไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตแต่ระหว่างที่เดินไปก็เจอกับปุริมพอดี “สวัสดีครับคุณลุง น้องขวัญ” “สวัสดีค่ะพี่ปุ๊มาเดินเล่นหรือคะ” “พี่มาธุรแถวนี้น่ะ แต่เสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะ แล้วนี่กำลังจะไปไหนกันหรือครับ หรือจะกลับแล้ว..” “เรากำลังจะไปซื้อของทำบาบีคิวกันเย็นนี้ค่ะ” “ไปด้วยกันไหมล่ะพ่อปุ๊..” คุณภาณุเอ่ยชวนแม้รู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าคิดกับลูกสะใภ้ของตนอย่างไร แต่เขาก็อยากให้โอกาสทั้งสองได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นเผื่อว่าหากขวัญพิมลทำใจเลิกรักและหย่ากับลูกชายของตนได้แล้วจะได้มองปุริมบ้าง ปุริมเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีผิวขาวสะอาดแบบคนที่มีเชื้อสายจีนรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มอยู่เสมออย่างคนที่มีจิตใจร่าเริงน่ามองน่าคบหา การงานก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ เป็นถึงผู้จัดการฝ่ายบริหารของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง หากขวัญพิมลได้แต่งงานอยู่กันกับปุริมก็คงไม่ลำบากเพราะจากสายตาคนที่ผ่านโลกมามากก็มั่นใจได้เลยว่าปุริมสามารถเลี้ยงดู ดูแลขวัญพิมลได้อย่างดีแน่นอน “นั่นสิคะพี่ปุ๊ ไปกินข้าวเย็นด้วยกันนะคะ” “ยินดีมากเลยครับน้องขวัญ” “งั้นเราไปซื้อของกันดีกว่า” แล้วทั้งสามก็เดินคุยกันอย่างถูกคอไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ต ภาพความสนิทสนมของคนทั้งสามโดยเฉพาะขวัญพิมลกับปุริมที่พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ดูทั้งคู่ยิ้มหัวให้กันอย่างมีความสุขมันทำให้คนที่เห็นรู้สึกร้อนรุ่มในใจอย่างบอกไม่ถูก... แบบนี้นี่เองขวัญพิมลถึงอยากหย่ากับเขา เสนห์แรงจริงๆ แม่คุณ ทั้งเจ้าของร้านกาแฟ ทั้งผู้จัดการโรงแรมแวะเวียนมาไม่ว่างเว้น.. ภูริคิดอย่างเข่นเขี้ยวในใจ “มองอะไรคะ” เสียงหวานๆ ของเพียงฟ้าทำให้เขาถอนสายตาจากภาพที่เห็น “เปล่าครับ..” ภูริตอบสั้นๆ “เราไปต่อกันนะคะ คืนนี้เพื่อนๆ ของฟ้าจัดปาร์ตี้ที่บ้าน” “ผมไม่ว่างน่ะ เอาเป็นว่าเราแยกกันตรงนี้เลยนะฟ้า พอดีว่าผมมีธุระนิดหน่อย..” เพียงฟ้านิ่งงันไปเล็กน้อยแต่เพียงชั่วครู่เธอก็ยิ้มหวานให้เขา “โอเคค่ะ ไว้วันหลังก็ได้” “งั้นแยกกันตรงนี้ละกันนะครับ” “ค่ะ..” เพียงฟ้ายิ้มหวานแต่ในใจนั้นรู้สึกร้อนรุ่มด้วยความไม่พอใจอยู่บ้าง เธอไม่เคยถูกผู้ชายทิ้งกลางทางแบบนี้ หญิงสาวได้แต่ยืนมองคนที่เดินห่างออกไปด้วยความหงุดหงิดใจไม่น้อย...
已经是最新一章了
加载中