ตอนที่ 5
“อ้าวทามมานานแล้วเหรอ” พี่อี๊ดทักทาย
“ครับ” ทามขานรับสั้นๆ ในห้องประชุมมีแค่เขาที่นั่งอยู่ พี่อี๊ดเห็นว่ายังไม่ถึงเวลานัดหมายก็ไม่ได้แปลกใจที่จะไม่มีใครมา แต่เมื่อพิจารณาดีๆ เธอก็เห็นแววความกังวลชายหนุ่มอนาคตไกลคนนี้อีกแล้ว
“มีเรื่องไม่สบายใจอีกแล้วเหรอ” ทามไม่ได้ตอบรับหรือปฎิเสธ เรื่องส่วนตัวของเขา เขาไม่เคยให้ใครรู้แม้แต่พี่อี๊ดที่เป็นผู้จัดการให้เขามาตลอดสองปีกว่านี้
พี่อี๊ดก็เอ่ยไปเช่นนั้น ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นเมื่อไหร่ แต่ทามไม่เคยปริปากบอก และเขาก็ไม่เคยเอาปัญหาส่วนตัวมาส่งผลกระทบต่องาน เธอจึงต้องเคารพในการตัดสินใจของเขา สิ่งที่เธอทำได้แค่อยู่เงียบๆ เหมือนอย่างเคย แค่แสดงออกให้เขารู้ว่าเขาแสดงออกมาจนเธอดูออกนะ เขาก็จะระวังตัวมากขึ้นหากมีคนอื่นอยู่ด้วย
พี่อี๊ดเคยเตือนเขาว่าถ้าเขาไม่จัดการปัญหาหรือปลดปล่อยออกมาบ้าง เธอเกรงว่าเขาจะมีอาการผิดปกติทางอารมณ์หรือที่กำลังฮิตกันนั่นก็คือโรคซึมเศร้า ตอนนั้นทามแค่ตอบรับสั้นๆ บอกเธอว่าเขาจะไม่ทำให้เป็นปัญหาอย่างแน่นอน
“เรามาคุยเรื่องงานกันหน่อยดีกว่า” เมื่อปล่อยความเงียบให้ทามได้สงบใจสักพัก พี่อี๊ดก็เอ่ยขึ้นหลังดื่มน้ำไปครึ่งขวด เมื่อสิ้นเสียงของเธอ ทามก็ขานรับสั้นๆคำเดียว เหมือนเดิมเสมอ
“ละครเรื่องใหม่นี้ ได้รับทุนการสร้างจากผู้สนับสนุนร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาระบุว่าทามต้องเป็นพระเอก นางเอกหน้าใหม่คนนี้ยังไม่เคยมีผลงานใดมา พี่เลยว่าจะให้เธอได้ลองเล่นโฆษณาสักตัวคู่กับทาม เมื่อเช้าทางไอริสยินดีที่จะปรับเปลี่ยนแผนโฆษณาน้ำดื่มตัวใหม่ ทางเจ้าของผลิตภัฑฑ์ก็ไม่ขัดข้องเพราะเขาไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มและรูปแบบก็ยังถูกใจเขาเช่นเดิม” ทามพยักหน้ารับรู้ การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเจอ ธุรกิจก็เป็นแบบนี้ต้องปรับเปลี่ยนได้ตามเหตุการณ์
ทามเลิกคิ้วมองพี่อี๊ด ทำไมเขารู้สึกว่าเหมือนพี่อี๊ดมีบางอย่างปิดบังเขา แต่ทามไม่ใช่คนมีนิสัยคาดคั้น เมื่อพี่อี๊ดไม่พูดต่อเขาก็เบนสายตาไปมองบทละครในมือ
ละครทุกเรื่องปกติเขาจะร่วมตัดสินใจด้วยว่าต้องการรับเล่นมั้ยหากเงื่อนไขรายรับอยู่ในอัตราที่เขาตกลงไว้ แต่สำหรับเรื่องนี้ ส่วนแบ่งของเขาสูงถึงสองเท่า ค่าตัวเขาสูงขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปี ตามความนิยมที่มากขึ้น
พี่อี๊ดตอบรับข้อเสนอนี้ให้เขาเพราะเธอได้อ่านบทแล้วก็เห็นว่าบทใช้ได้ พี่อี๊ดรู้ว่าทามขยันขันแข็งเพราะต้องการเงินจำนวนมาก และเงินมากมายสองปีกว่ามานี้เขาเอาไปไหนทำอะไรเธอไม่เคยรู้
ประตูถูกผลักเปิดอีกครั้ง และฝีเท้าผู้คนทยอยเดินเข้ามา ผู้กำกับ ผู้ช่วยผู้กำกับ เจ้าของบทประพันธ์ นักแสดงหลักรวมถึงนางเอกของเรื่องที่ปรากฎตัวเป็นคนสุดท้าย
เธอเป็นหน้าใหม่จริงๆ อายุเธอสักสิบแปดเห็นจะได้ เธอสวยน่ารักสมวัย สายตาเธอมองไปที่ทามทันทีที่เห็นเขานั่งอยู่เก้าอี้ตัวแรกทางขวาของหัวโต๊ะ
ทามไม่ได้มองผู้คนเหล่านั้นมากเกินพิเศษ ทีมงานสร้างนี้เขาล้วนเคยร่วมงานมาแล้ว ทามทำความเคารพพวกเขา มีคนแปลกหน้าเพียงไม่กี่คน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนทางด้านผู้ลงทุนและนักแสดงหน้าใหม่
เมื่อทุกคนที่มาพร้อมหน้าทักทายกันแล้ว ผู้กำกับก็แนะนำนางเอกหน้าใหม่ให้กับทามได้รู้จัก “ทาม น้องบี เธอจะมาแสดงเป็นนางเอกของทาม” ทามหันไปมองตามคำชี้แนะนั้น เขาเป็นสุภาพบุรุษทักทายกลับ
“สวัสดีครับน้องบี” เธอนั่งตรงข้ามเยื้องไปนิดหน่อย เพราะคนที่นั่งตรงข้ามกับเขาเป็นหญิงสาวที่แต่งตัวเรียบร้อย คงเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอ
หญิงสาวที่ได้รับการทักทายดวงตากระจ่างใส “สวัสดีค่ะพี่ทาม” ทามเบือนหน้าไปทางผู้กำกับต่อทันที ทำให้ดวงตากระจ่างใสหม่นแสงลงทันที สองมือที่วางไว้บนต้นขากำแน่นอย่างอดกลั้น
“ใจเย็นๆ” หญิงสาวที่แต่งตัวเรียบร้อยกระซิบเตือน ก่อนเข้ามาเธอก็พยายามเตือนหลายครั้งแล้วว่าให้เด็กสาวอยู่ในบทสาวน่ารักใสซื่อ
ทามฟังการทำงานของละครเรื่องใหม่อย่างตั้งใจ “ในช่วงแรกทางทีมงานจะถ่ายในส่วนของนักแสดงท่านอื่นก่อน เพราะทามยังติดถ่ายละครอยู่ เนื่องจากคาแรคเตอร์ต่างกันมาก ผมต้องการให้เวลากับทาม” ในห้องประชุมไม่มีทีมงานคนไหนคัดค้าน มีคนอยากคัดค้านก็ถูกขัดขวางไว้ทันท่วงที
“นานแค่ไหนคะ” ผู้จัดการส่วนตัวของนางเอกเอ่ยถาม
“หนึ่งเดือน” พี่อี๊ดผู้จัดการส่วนตัวของทามเป็นผู้ตอบ “แต่พวกเขาจะมีผลงานโฆษณาน้ำดื่มร่วมกัน เพื่อสร้างกระแส” พี่อี๊ดส่งสตอรี่บอร์ดที่ยังไม่ผ่านการอนุมัติให้อีกฝ่ายดูคร่าวๆ “ที่ยังไม่ได้แจ้งให้ทางพวกคุณทราบ เพราะรอคำอนุมัติจากผู้ใหญ่ให้เรียบร้อยก่อน จึงได้แต่ขอนำแบบร่างมาให้พวกคุณดูก่อนสักนิดหนึ่ง” ผู้จัดการของน้องบีรับมาและนำไปเปิดดูพร้อมกับน้องบี น้องบีได้ดูแล้วถึงกับยิ้มอย่างพอใจ
“เอาละคะ ตอนนี้ฉันต้องขอโทษทุกท่านด้วย ทามต้องเดินทางไปกองถ่ายแล้ว เดี๋ยวรายละเอียดที่เหลือฉันจะอยู่ประชุมกับพวกคุณเองค่ะ” พี่อี๊ดดูเวลาแล้วจึงเอ่ยขึ้น
ควับ! ทามลุกขึ้นและโค้งให้กับทุกคนในห้องประชุม ไม่มีใครได้รับอะไรเป็นพิเศษจากเขา น้องบีมองตามแผ่นหลังสูงโปร่งด้วยแววตาละห้อยเหี่ยวอย่างชัดเจน
เธออุตส่าห์พยายามแต่หน้าแต่ตัวมาให้เขาได้ประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ทุกท่วงท่าการเดินการยิ้มเธอซ้อมมาอย่างหนัก แต่กลับได้แค่คำว่าสวัสดีครับน้องบี กับสายตาที่มองมาเพียงสองสามวินาทีเท่านั้น
พรึ่บ! จู่ๆนางเอกสาวก็ลุกพรวด “หนูขอไปห้องน้ำนะคะ” เธอเอ่ยขึ้น น้ำเสียงเปลี่ยนจากก่อนห้านี้อย่างสิ้นเชิง แต่ไม่มีใครในห้องถือสา เพราะนอกจากทามแล้วไม่มีใครไม่รู้ว่า นางเอกของละครเรื่องนี้คือบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของผู้สนับสนุนเงินลงทุนของละครเรื่องนี้
แต่ที่ทุกคนไม่รู้คือความหลงใหลที่น้องบีมีต่อทาม จนต้องรบเร้าพ่อของตนให้จัดการเรื่องนี้ให้ กว่าวันนี้จะได้มาไม่ง่ายเลย ครอบครัวเธอปิดเรื่องน่าขายหน้านี้ไว้ ว่าในตอนแรกพ่อของเธอไม่ยินยอม น้องบีที่เป็นบุตรสาวคนเดียวที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจจนเสียคนไปแล้ว อะไรที่เธออยากได้เธอต้องได้ เธอทำเรื่องไว้มากจนพ่อเธอยินยอมก่อนที่จะสายเกินไป
สำหรับความคิดของผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อน ย่อมเข้าใจไปในทิศทางว่าความลุ่มหลงชั่วครั้งชั่วคราว ทว่าไม่นานถ้าบุตรสาวที่รักได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ก็จะเบื่อเอง รักษาชีวิตลูกสาวเพียงคนเดียวไว้ดีกว่า เงินทองไม่กี่สิบล้านไม่นานก็หาใหม่ได้
อื้มมมม น้องบี นางเองที่วางมาดสาวใสไร้เดียงสาก็ปิดปากกรีดร้องผ่านฝ่ามือออกมาอย่างไม่อาจอดกลั้นไว้ในห้องน้ำที่ตนขอออกมา เฮ่อ เฮ่อ “พี่ทาม พี่จะต้องเป็นของฉัน” เธอครางออกมา แววตาเปลี่ยนไปเป็นริษยาชั่วร้าย
ทามไม่มีข่าวเรื่องผู้หญิงเลย เพราะฉะนั้นเขาจะหลงรักเธอได้ไม่ยาก เพราะเธอทั้งสวยและรวยมาก น้องบีคิดอย่างกระหยิ่มในใจโดยที่ไม่รู้เลยว่าเรื่องที่เธอเป็นบุตรสาวเจ้าของทุนถูกปิดไว้ เพราะถ้าทามรู้เรื่องนี้เขาต้องปฎิเสธไม่รับเล่นละครเรื่องนี้แน่ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่มีผู้ชายดีๆที่ไหนยอมแน่ๆ