บทที่ 1 นี่แค่การถ่ายละครเท่านั้น   1/    
已经是第一章了
บทที่ 1 นี่แค่การถ่ายละครเท่านั้น
ดวงจันทร์เย็นยะเยือกหนึ่งดวงแขวนอยู่บนฟากฟ้าอย่างโดดเดี่ยว บางเวลาก็มีฝนดาวสองสามดวงตกเพียงชั่วพริบตาเดียว ในจวนที่เคล้าด้วยกลิ่นอายโบราณ ในสวนนอกจากมีพืชพันธุ์ที่เขียวขจีตลอดปีแล้ว พืชพันธุ์ดอกไม้อื่นๆ ก็เหี่ยวฉาวลง ใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองกำลังถูกลมพัดโชย บนพื้นหินสีนิลมีหญิงสาวผู้หนึ่งที่สวมใส่ชุดผ้าบางกำลังคุกเข่าอยู่ เธอหันหน้าเข้าหาเรือนที่พัก เสื้อผ้าบนเรือนร่างเป็นสีขาวที่ดูเยือกเย็นราวกับดวงจันทรา ริมฝีปากสองกลีบเม้มเป็นเส้นตรง ดวงหน้าเรียวเล็กดูดื้อดึง ทว่าท้ายที่สุดก็ทนไม่ไหวกับความทุกข์ทรมานในค่ำคืนที่แสนเหน็บหนาวนี้ ดวงหน้าซีดเซียว ริมฝีปากสั่นงันงดอย่างอดมิได้ "เยี่ย.......เยี่ยเซียนเย่ว์ ข้าขอสาปแช่งเจ้า........" แววตาลุกโชนด้วยไฟแห่งความเคืองแค้น ตอนที่นางเบ่งอก สองมือกลับอยากจะโอบกอดเรือนร่างที่ยิ่งอยู่ยิ่งหนาวสะท้าน มีเสียงแคร่กดังขึ้น เหมือนกำลังตอบกลับหญิงสาวคนนี้ ประตูตรงหน้าเปิดออก ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าประตู ชายผู้นี้หน้าตาหล่อเหลาไม่ธรรมดา แค่มุมปากกระตุกรอยยิ้มคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม แล้วกำลังมองความเจ็บปวดของหญิงสาวด้วยความเงียบงัน ผมอันยุ่งเหยิงร่ายรำไปตามทิศลม ชุดคลุมสีเรียบ เปิดส่วนหน้าไว้ แผงอกของเขาขึ้นลงเล็กน้อยไปตามจังหวะการหายใจของเขา "ท่านพี่........ท่านช่างน่าเกลียดนัก อากาศเหน็บหนาวปานนี้ ไยท่านพี่ถึงปล่อยให้คนอื่นออกมาด้านนอกตามลำพังด้วยเล่า?" เสียงพร่ำบ่นทุ้มต่ำอันอันเสนาะหูดังขึ้น จากนั้นด้านหลังชายคนนั้นมีหญิงสาวที่สวมใส่เสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบปรากฎ ผ้าชีฟองผืนบางสีชมพูบดบังเรือนร่างที่น่าดึงดูดไว้ แล้วกำลังเอนกายพิงอยู่ข้างร่างชาย มือเล็กอ่อนโยนราวกับไร้กระดูก แล้วกำลังจับแผงอกของชายอย่างเบาแรง หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่นๆ นัยน์ตาของเธอ คล้ายกับน้ำแข็ง และคล้ายเป็นไฟ พร้อมจับจ้องชายอย่างไม่คลาดสายตา "เหอะ......." เสียงหัวเราะอันสาแก่ใจดังขึ้น ชายเอ่ยพูดเสียที เขาผลักสตรีข้างกายออก แล้วเดินมาตรงหน้าหญิงสาวที่คุกเข่าบนพื้นหินสีนิลทีละก้าว ตอนใกล้ถึง เขาถึงจะนั่งยองๆ ลงอย่างเช้าๆ นิ้วมือของเรียวยาวเชยคางของหญิงสาวขึ้นอย่างออแรง "เป็นไยไป? แค่เท่านี้ เจ้าก็ทนไม่ไหวแล้วหรือ" "เยี่ยเชียนเย่ว์ เจ้ามันสารเลว!" หญิงสาวกัดฟันกรอด แทบอยากจะกลืนกินชายตรงหน้าเป็นคำๆ จวนจะขาดใจ ทว่าภายในใจของนางกำลังก่นด่าผู้ที่กำกับละครเรื่องนี้ แค่ฉากๆนี้ก็ใช้ซ้ำๆไปไม่เพียงแต่สามสี่สิบรอบแล้ว เขาไม่รำคาญหรือไง! "เธอ.......เธอ......คุณหนูอวี๋ คุณหนูอวี๋ที่ชอบเล่นตัว เธอโง่หรือไร? เธอเกลียดเยี่ยเชียนเย่ว์ เธออยากจะสับเขาเป็นหมื่นครั้งจวนใจจะขาด อยากฆ่าพ่อของเขา ขายแม่ของเขา......เธอๆๆ.......เมื่อครู่เธอร้องยังไงนะ! เสียงเบาไร้เรี่ยวแรงแบบนี้ พึมพำหรือร้องครางกันแน่?" "ขอบโทษค่ะ ผู้กำกับ ฉัน......." หญิงสาวชุดขาวที่มีแซ่ว่าอวี๋และชื่อว่าหนาน ต่อให้ถูกผู้กำกับตรงหน้าเหยียบหยามแค่ไหน เธอก็ต้องกับตัวเองว่าต้องอดทน! เธอมีฐานะต่ำต้อย จะไม่ก้มหัวได้ยังไง ยิ่งไปกว่านั้น เธอรู้ความสามารถของตนเองดี ก็แค่เป็นดาราที่ตกอับไปแล้ว ทว่าสิ่งที่ทำให้เธอโกรธที่สุดก็คือนักแสดงชายเมื่อครู่ที่แสดงกับเธอ.......ต่งฮ้าว ผู้ชายเป็นแฟนเก่าของเธอ กลายเป็นดาราชายที่ดังที่สุดในตอนนี้ ข่าวด้านลบที่เขามีมือที่สาม แทบจะทำลายฝีมือการแสดงของเธอ พอสังเกตเห็นว่าเธอกำลังจับจ้องเขา ดาราชายคนนี้กับแสดงละครตบตาโดยการยิ้มให้เธออย่างไร้เดียงสา นี่.......นี่นับว่าเป็นอะไร? คุณทำลายฉัน แค่ยิ้มทุกอย่างก็ปล่อยมันไปงั้นหรอ? อวี๋หนานกดกลั้นอารมณ์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แล้วยิ้มยังฝืนทนเพื่อขอร้องให้เริ่มอีกรอบ รับรองว่าจะไม่เกิดข้อผิดพลาดอีก ทว่าไม่รู้ว่าทำไม เธอเหมือนจะถูกครอบด้วยกระสอบ....... ณ สวนไห่ย่วน ตอนนี้ ในห้องโถงใหญ่เรือนข้างแออัดไปด้วยผู้คน ทั้งสาวใช้ ขันที ทหารรักษาการณ์ และหัวหน้า มีทั้งท่านคางโหวที่ไม่ได้เกรี้ยวกราด ทว่าสีหน้ากลับเคร่งขรึมนัก อีกทั้งยังมีพระชายาเอกคางอ๋องที่ร้องห่มร้องไห้ไม่หยุด "ฮือๆ ท่านอ๋องเพคะ.......ไยสาวใช้คนนี้ถึงจะโหดเหี้ยมปานนี้? ไยต้อบสาปแช่งเยี่ยเอ๋อร์ของตระกูลพวกเราด้วย........" "ใครก็ได้ ดึงกระสอบออกที" "พ่ะย่ะค่ะ" หลังจากคำสั่งของท่านคางอ๋องจบลง ขันทีคนหนึ่งพลันเดินไปข้างเตียงสลักบุษบา คนนั้นที่ทั้งถูกมัดหลายเงื่อน ทั้งยังครอบด้วยกระสอบสีนิล แล้วยังร้องอื้มๆ ไม่หยุด เชือกเพิ่งจะถูกแกะออก หมัดข้างหนึ่งที่เต็มล้นด้วยความโมโหพุ่งทะยานไปยังใบหน้าของขันที........ "โอ๊ย........" "ถุย!" อวี๋หนานคลายเศษในปากออก นัยน์ตาอันสุดแสนจะโมโหจับจ้องคนที่อยู่ทั่วเรือน "ไป! ไปเรียกไอ้ผู้กำกับที่สมควรตายคนนั้นมา ไม่รู้จักจบจักสิ้นหรือไง? ฉันบอกแล้วไงว่าจะแสดงดีๆ เขายังคิดจะหลอกลวงฉันแบบนี้อีก?!" "เยี่ยนเอ๋อร์ อย่าคิดบังอาจ! เยี่ยเอ๋อร์ไม่เป็นเช่นไรก็แล้วไป หากเยี่ยเอ๋อร์เกิดเรื่องขึ้นมา เปิ่นกงไม่ยอมปล่อยเจ้าไปแน่นอน!" พอเห็นหญิงสาวคนนี้ยากที่จะสั่งสอน ท้ายที่สุดท่านคางอ๋องก็ทำแววตาโมโห เขาที่มีอายุสามสิบ กลับมีบุตรชายเพียงคนเดียว นึกไม่ถึงว่าเกิดมาก็เด็กเอ๋อ สองวันก่อนไข้ยังขึ้นสูง ภายใต้สถานการณ์ที่ประม่า จำต้องสู่ขอสตรีกลับมาเพื่อบุตรชายด้วยความเร่งรีบ กลับไม่อยากฟังคำรายงานในบ่าวไพร่ นางกลับสวมใส่ชุดสีขาวพลางก่นด่าเยี่ยเอ๋อร์กลางสวน! "ฮือๆ ท่านอ๋อง ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับเยี่ยเอ๋อร์......." ขณะที่พูด พระชายาเอกท่านคางอ๋องจึงเอาผ้าซับน้ำตาอีกครั้ง ท่านคางอ๋องเอาแส้ทองโยนทิ้งบนพื้น แม้กระทั่งหินต้าหลี่ที่ปูบนพื้นยังอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน จู่ๆเขากลับกดหัวคิ้วให้ลึก "เยี่ยเอ๋อร์ เจ้าทำอะไร?" "ฮือๆ ท่านพ่อ อย่าตีภรรยาของลูก เยี่ยเอ๋อร์.......เยี่ยเอ๋อร์กลัวๆ" ชายรูปงามอ้าปากเล็กๆพูดพลางปกป้องอวี๋หนานให้อยู่ด้านหลัง แค่เห็นร่างกายของเขาสวมใส่แต่ชุดตัวในผืนบาง เส้นผมยุ่งเหยิง ท่าทางค่อนข้างน่าเกลียดน่าชัง ค่อนข้างไร้เดียงสา อวี๋หนานที่ถูกเขาปกป้องขมวดคิ้วทันที แม้นคนๆนี้จะคล้ายคลึงกับต่งห้าว ทว่าเพียงแวบตาเดียวก็มองออกว่าเขาไม่ใช่ไอ้สารเลวนั่น! ผู้หญิงหนอ! มีดเป็นของจริง แส้เป็นทองคำ แม้กระทั่งแขว่งลงบนพื้นยังทิ้งรอยไว้....... อวี๋หนานจะโง่แค่ไหน เธอก็ยังสังเกตเห็นว่าตรงไหนไม่เหมือนกัน! สคริปต์นี้ ผิดแปลกจริงๆ! ต่อให้ผู้กำกับอยากจะกลั่นแกล้งเธอ ก็คงไม่ต้องทำงานหนักและใช้กำลังคนมากมายขนาดนี้!
已经是最新一章了
加载中