แอบมองเธออยู่นะจ้ะ แต่เธอไม่รู้เลย
1/
แอบมองเธออยู่นะจ้ะ แต่เธอไม่รู้เลย
ดั่งฤทัยปราบมารร้าย
(
)
已经是第一章了
แอบมองเธออยู่นะจ้ะ แต่เธอไม่รู้เลย
ชายหนุ่มร่างใหญ่จ้องมองร้านขนาดปานกลางไม่ใหญ่เกิน ไม่แคบเกินไป ในสภาพที่แต่งกายเรียบร้อยในลุคหัวหน้าพนักงานออฟฟิตที่มีอายุจริงและอายุงานมากที่สุดของบริษัทในเครือวิลเลี่ยม ริวเดล หนุ่มนักธุรกิจสีเทาที่จะไม่ค่อยเข้าไปทำงานสักเท่าไหร่ เพราะมีคนคอยดูแลให้อยู่นามว่า ราฟ วิลเลี่ยม พี่ชายสุดที่รักของเขา ชายหนุ่มในลุคหนุ่มใหญ่เดินเข้ามาในร้านาหารของสายที่เขาสนใจเมื่อสองปีก่อน "ริวเดล" ชายหนุ่มในร่างของหนุ่มใหญ่ทรงผมแถบขาวมีหนวดเคราที่ถูกตัดแต่งเป็นระเบียบด้วยฝีมือของ เวดดิ้ง เพื่อนเกย์ที่จ้องจะกินพี่ชายของเขาตลอดเจ็ดปีจนต้องอกหักเมื่อเจอ หนูนา พี่สะใภ้ตัดหน้าไป "ไงลุง วันนี้อู้งานหรอครับ" กะทะ เด็กหนุ่มหน้าใสพนักงานของร้านถามคุณออฟฟิตที่เข้ามาทานอาหารร้านทุกวัน "อืม" ริวเดลตอบไปแค่นั้น เขาไม่คิดที่จะพูดคุยอะไรมากมาย แต่สายตาจ้องมองแต่คนที่อยู่ในห้องทำงานของร้าน ร้านของหนูเล็กถูกเปิดขึ้นใหม่อีกร้านนึง เป็นร้านที่สร้างขึ้นเองกับมือ เนื่องจากหนูนาเจ้สาวสุดรัก(เจ้นา)ไม่ยอมย้ายไปอยู่ที่อิตาลีกับราฟ จึงทำให้ราฟย้ายมาอยู่ที่ไทยถาวร แต่บริษัทแม่ที่อยู่ที่อิตาลีถ้าเป็นเอกสารสำคัญมากเขาถึงจะบินไปด้วยเครื่องบินส่วนตัว ร้านทั้งสองของหนูนา ร้านที่เปิดช่วงเช้าหนูนาเป็นคนดูแลเองส่วนร้านที่เปิดกลางคืนตอนนี้ถูกปรับแต่งให้เป็นบาร์ไปแล้วโดยมีหุ้นส่วนใหญ่คือริวเดลที่อยากมีส่วนรวมกับชีวิตพี่สะใภ้แต่หนูนาก็ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตาของน้องเขยสักที คาดกันไปคาดกันมาอยู่ร้ำไป "คอยดูเถอะผมจะฟ้องเจ้าของบริษัทให้ดู" "รู้จักไง" "ผมก็ฝากเฮียผมไง ผมรู้จักแฟนของผู้บริหารที่ลุงทำงานด้วยนะ" "เฮียของนายไม่ทำงานไง" "ทำสิลุง เฮียผมทำเอกสารอยู่ในห้องนั้นไง" เด็กหนุ่มบอกกับชายชรา เขาพยักหน้าน้อยๆเธอคงจะไม่ออกมาจริงๆสินะ "ลุงมีไรเปล่า" "เห็นร้านใหญ่ดี พอดีฉันมีหลาน หลานฉันกำลังหางานอยู่ ที่นี้รับคนอยู่เปล่า" "เดียวผมถามเฮียให้ ลุงกินไรล่ะหรือว่าเหมือนเดิม" "เหมือนเดิม" "โอเคลุง รอแปป" เด็กหนุ่มเดินออกไปยัง แพน สาวคนสนืทของหนูเล็ก "พี่แพน โต๊ะลุง ข้าวผัดไส้กรอก" "เคเค" แพนรับออเดอร์จากกะทะแล้วไปให้ห้องครัวทำหน้าที่ต่อทันที "พี่แพน เฮียทำไรอะ" "บัญชีจ้ะ" ยังไม่ทันขาดคำ หนูเล็กก็เดินออกมาจากห้องทำงานมายืดเส้นยืดสาย "เฮีย มีคนมาขอฝากงานให้หลาน" "ใครว่ะ" กะทะจึงชี้ลุงออฟฟิตให้หนูนาดู สายตาของริวเดลและหนูเล็กทั้งสองคนสบสายตากัน ริวเดลจ้องมองดวงตากลมโตไม่ละสายตาทำให้หนูละสายตาด้วยตนเองทันที "ไปบอกเขา ถ้าหลานเขาพร้อมมาที่ร้านได้เลย" หนูเล็กบอกกับกะทะ ยังไงหนูเล็กก็กะว่าจะติดประกาศรับสมัครอยู่เธอเลยไม่คิดเยอะอะไร ขอเป็นคนดีก็พอ กะทะเดินไปบอกลุงออฟฟิตทันทีพร้อมขู่ว่า อยู่ร้านนี้ต้องอึด ทึก ทน ไม่บ่น ไม่ขี้เกียจเดียวโดนเฮียเล็กด่า ริวเดลยกยิ้มเล็กๆขึ้นมาจะได้เริ่มแผนแล้ว วัยรุ่นจอมป่วนที่ถูกลากถูจากบ้านมาสู่มหาลัยที่เธอแสนจะขี้เกียจมา มหาลัยที่มีแต่คนใส่หน้ากาก ถึงเธอจะสวย รวย มีชาติตระกูล เธอก็ไม่ได้แฮปปี้กับชีวิตที่เติมแต่งสักเท่าไร เธออยู่กับป๊าของเธอไม่สบายใจเท่ากับได้อยู่กับคุณลุงอันเดรกับคุณป้าจีพ่อแม่ของพี่ราฟและริวเดลที่เคยได้เกือบเป็นคู่หมั้นกัน เธอสบ่ยใจที่ได้อยู่กับสองงท่าน พวกท่านทำให้เธอกล้าที่จะระบายความในใจทุกอย่างจนท่านเป็นฝ่ายขอถอนหมั้นโดยบอกกับป๊าของเธอว่าราฟมีเมียแล้ว ริวเดลไม่ชอบผู้หญิง มันเลยทำให้เธอเป็นอิสระ แต่เธอต้องเอาตัวรอดจากการคลุมฝูงชนแต่ราฟได้ให้ความช่วยเหลือโดยส่งรามัตณ์บอดี้การ์ดฝีมือดี มีดีกรีทายาทของตระกูลราชวาร ลูกชายของโธม ราชวาร เพื่อนคนไทยที่เป็นคนที่เขาไว้ใจที่สุดที่ป๊าอยากได้มานาน แต่ของตกลงคือบอดี้คนนี้จะคุ้มครองแมรี่เป็นหลัก เธอไปไหนเขาไปด้วยแลกกับการที่เธอต้องหาแฟนให้ได้ภายในหนึ่งปี แมรี่ถูกย้ายให้มาเรียนที่ไทยเนื่องจากว่าแม่ของเธอกับป๊าทะเลาะกันเรื่องใหญ่โตทำให้แม่รับไม่ได้หนีไปบวชชีตลอดชีวิต เธอจึงขอร้องตามมาอยู่กับแมีที่ไทยระหว่างที่เธอเรียน แต่ถ้าเธอเรียนจบก็ย้ายกลับสเปนตามเดิม ช่วงเรียนภาคเช้าที่แสนนานทำให้แมรี่ไม่มีจิตใจที่จะพร้อมเรียน วันนี้เธอตั้งใจแล้วว่าโดดเรียนสะเลย ชีวิตตอนนี้ไม่ต่างอะไรราวกับนักโทษที่โดนคุมตัว กระดิกหางนิดเดียวเสือมันก็ตื่นแล้ว เธอส่องสายตาไปยังนอกหน้าต่าง หืม มีช่องว่างข้างๆมหาลัย ดีล่ะวันนี้ขออิสระสักวันนะ พอเรียนจบวิชา หญิงสาวเร่งฝีเท้าไปยังข้างมหาลัย สาวน้อยพยายามยัดตัวเองเข้าไปในช่องกำแพงนั้น ร่างกายของเธอพ้นจากช่องมหาภัยแล้วยกเว้นข้อขาที่ติดอยู่กับลวดเหล็กที่ขาของเธอรอดไม่พ้น หญิงสาวพยายามบิดข้อขาเพื่อให้มันพ้นจากเหล็กออกมาแต่ทำอย่างไรก็ไม่ได้สักทีเพราะเธอไม่ถนัดด้วยกับการจัดทรงเพื่อให้ขาพ้นออกมา ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวที่กำลังพยายาม เอาข้อขาของตัวเองออกจากลวดหนาให้ได้ เขามองดูเธอตั้งแต่เธอเดินมาที่ด้านข้างของมหาลัย สายตาคมมองตามไปอย่างร่างบางที่กำลังเอาตัวเข้าไปในกำแพงนั้นแต่เขาก็ไม่เข้าไปห้ามแล้วพาตัวของเธอออกมา เขากลับจ้องมองเธอโดยอยากจะรู้ว่าเธอจะทำยังไงต่อไปร่วม 1 ชั่วโมงที่เธอพยายามเอาเขาออกจากลวดนั้นจนเธอหมดปัญญาทำได้แต่นั่งนิ่งนิ่งแล้วควานหาโทรศัพท์ของตัวเองในกระเป๋าเพื่อโทรหาผู้ชายที่จะช่วยเหลือเธอได้ "รามคุณอยู่ไหนเมื่อ "สายที่เธอโทรหารับขึ้นมาเธอก็แทบจะดีใจกระโดดโลดเต้น "ผมก็รอคุณอยู่ที่เดิมไง ทำไมคุณถามผมแบบนี้ ตอนนี้คุณอยู่ไหน คุณไม่ได้อยู่ในห้องหรอ"รามพูดปลดออกมา ในขณะที่เขาเองก็ยังคงจ้องมองเธออยู่ "คือว่า..." "ฉันคุณโดดเรียนใช่ไหม" "ไม่ได้เรียกว่าโดดเรียนนะเรียกว่ามาขอพักผ่อนสมองช่วงกลางวัน" "แต่นี่บ่ายแล้วคุณควรที่จะอยู่ในห้องเรียน"ชายหนุ่มเดินออกจากที่เขานั่งหลบเธอ ขึ้นทำไมเขาอยู่ตรงนี้ทั้งๆ ที่เธอยังไม่ได้วางสาย "นายโกหกฉันหรอ" "ก็ช่วยไม่ได้คุณเป็นคนหาเรื่องเอง" "แล้วไง ฉันไม่อยากเรียนตอนนี้นี่ ไงจะห้ามฉันหรอ" "ผมก็ไม่ห้ามคุณนี้ แต่คุณจะออกจากตรงนั้นได้ไหม" "ถ้าฉันออกได้ฉันจะโทรหานายทำไมกันล่ะ" "นึกว่าเก่งแต่ปาก" "ฉันได้ยินนะ" "ผมพูดให้ได้ยิน" ชายหนูเดินเข้าไปหาหญิงสาวใกล้ๆ มือใหญ่จับเขาที่ข้อขาของเธอที่ติดอยู่แล้วบิดข้อขาเธอจนพ้นรวดหนานั้น ทำไมเขาทำได้ล่ะ กว่าเธอจะทำได้ราวๆ เกือบชั่วโมง ไม่ใช่สิ เธอทำไม่ได้ต่างหาก เธอต้องรอให้เขามาช่วยทั้งๆ ที่เธอกำลังจะได้โบยบิน "ยังไงครับคุณหนูแมรี่จะไปไหนดีกันล่ะ" รามพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเธอทำท่าจะเดินหนี้ไปอีกฝั่งนึง ชายหนุ่มจึงกระโดดข้ามกำแพงโดยใช้มือยันที่กำแพงด้านบนแล้วก็ตวัดขาข้ามมาอีกฝั่งอย่างชำนาญ หญิงสาวมองอย่างอึ้งๆ คนบ้าอะไรทำได้ขนาดนี้เลยหรอหรือว่าเขาจะเป็นแรมโบ้กลับชาติมาเกิดกันแน่ ชายหนุ่มไม่ได้ต่อว่าหญิงสาวอะไรเลย เขาทำหน้าที่เป็นสารถีให้เธอได้นั่ง พาเธอไปในสถานที่ที่หนึ่งที่เขาเคยได้มาดูแลและเคยได้อยู่ที่นั่นมาก่อน ก่อนที่เขาจะมาเป็นแบบนี้ถึงแม้ชีวิตของเขาจะไม่เหมือนคนพวกนั้นที่อยู่ในสถานที่นั้น เขาก็ไม่ลืมบุญคุณของสถานที่นั้นเลยเพราะสถานที่นั้นปลูกฝังให้เขาเป็นคนดีและทำให้เขาเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น มากกว่าที่เขาต้องอยู่กับชายคนนั้น "บ้านเด็กกำพร้า"แมรี่พูดออกมาเสียงเบาแล้วหันไปหาชายหนุ่มทันที "ให้พาฉันมาที่นี่ทำไม" "ผมอยากให้คุณดูอะไร"ใช้หนุ่มพาหญิงสาวเข้าไปในบ้านเด็กกำพร้าที่มีแต่เด็กตาดำๆ บางคนไม่มีโอกาสได้เรียนต้องเรียนกับครูอาสาเท่านั้นถึงจะมีวิชาความรู้ติดตัว หญิงสาวมองเห็นภาพต่างๆ นึกสงสารเด็กตัวน้อยที่ไม่มีโอกาสได้ร่ำเรียนเธอเดินเข้าไปหาเด็กๆ พร้อมกับถุงขนมที่รามแวะซื้อขนมมากมายก่อนเข้ามาที่บ้านเด็กกำพร้า ตอนแรกเธอก็นึกเอะใจว่าทำไมรามถึงซื้อแต่ของไร้ประโยชน์แต่พอมาเห็นก็ถึงได้รู้ว่าเป็นเพราะแบบนี้นี่เองเธอเข้าไปพูดคุยกับเด็กๆ เข้าไปเล่นกับน้องๆ เด็กพวกนี้แทบจะไม่มีของเล่นเลยมีแต่ของเล่นเก่าๆ ที่เขาบริจาคให้ เสื้อผ้า ของเล่น ที่เลิกแล้วที่สภาพดี ของเล่นเก่าๆ ที่ถูกทิ้งไว้ตามถังขยะ "เด็กๆน่าสงสารจริงๆ นะเนี่ย"หญิงสาวพูดออกมาเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า "แล้วคุณรู้หรือยังว่าทำไมพ่อแม่ของคุณถึงอยากให้คุณเรียน" "ฉันก็รู้อยู่หรอกนะ แต่ที่นั่นมันไม่ใช่ที่ของฉันนี่ ที่ของฉันอยู่ที่สเปนนายลืมไปแล้วหรอ นายคงลืมไปแล้วสินะ ฉันย้ายมาที่นี่เพราะอะไร" "ผมไม่ลืม คุณย้ายมาที่นี่เพราะแม่ของคุณ" "งั้นฉันอุปการะเด็กที่นี่ได้ไหม" "ถ้าคุณคิดจะอุปการะคุณทำเป็นมูลนิธิช่วยเหลือดีกว่ายังจะมีประโยชน์อีก" "มูลนิธิก็ต้องใช้เงินมากนะสิ อีกอย่างฉันยังไม่อยากออกสังคมตอนนี้ เดี๋ยวฉันจะโดนหาว่าทำบุญเอาหน้าเดี๋ยว นายก็ด่าฉันอีก" "ผมไม่ว่าอะไรคุณหรอกนะ ถ้าคุณคิดทำดี"หญิงสาวมองหน้ารามที่เขาพูดออกมา มันก็จริงถ้าเป็นเรื่องที่มีสาระเขาแทบจะไม่ห้ามอะไรเธอเลยปล่อยให้เธอทำเต็มที่ แต่เมื่อใดเธอออกนอกลู่นอกทางเขาก็จะจิกกัดเธอเหมือนหมาบ้า "คุณก็อย่าเอาเรื่องสังคมเข้ามาสิ คุณก็ทำด้วยใจของคุณก็แค่นั้น"รามพูดต่อหลังจากที่หญิงสาวมองหน้าของเขายังพิจารณา "นายก็ทำเรื่องแบบนี้เป็นหรอ" "ผมเกิดมาจากที่นี่ " "อะไรกัน นายเป็นลูกของลุงโธมไม่ใช่หรอ"ชายหนุ่มเริ่มนิ่งขึ้นเมื่อได้ยินชื่อของผู้ชายคนนั้น "เขาไม่รับผมเป็นลูกตั้งแต่ที่เมียของเขาจากไปแล้ว"ชายหนุ่มพูดเสียงแข็ง เมียของเขา เมียที่เป็นแม่ของเขา เขาเกิดมาเพื่อให้แม่ของเขาตาย นั่นคือสิ่งที่ใช้คนนั้นบอกเขามาโดยตลอด "แล้วฉันต้องทำไงละคุณ " "ก็ถ้าตั้งมูลนิธิโครงการแบบนี้ที่มหาวิทยาลัยคุณแล้วสิ่งของหรือเงินบริจาคก็โอนให้บ้านเด็กกำพร้าโดยตรง แค่มีคุณเป็นสื่อกลางและคุณก็เป็นต้นแบบให้เพื่อนๆ ของคุณน้องๆ ของคุณในมหาลัย" "ฉันจะทำได้หรอ" "แล้วผมสมัครงานจะได้สัมภาษณ์เลยไหมครับ" "เดี๋ยวฉันบอกเฮียให้"หนูเล็กเดินออกมาเมื่อได้ยินเสียงดังชอบใจลูกน้องของเธอ "นายเข้ามาสัมภาษณ์งานได้เลย "ชายหนุ่มเดินตามหนูเล็กเข้าไปในห้องทำงาน ส่วนมากเธอก็ถามแค่ประวัติส่วนตัวซึ่งประวัติส่วนตัวของเขาถูกแปรงประวัติมาทั้งหมดและเขาก็ปลอมตัวและพร้อมที่อยู่หลักฐานได้อย่างแนบเนียนหนูเล็กไม่ได้สะกิดใจอะไรเพราะเห็นชายหนุ่มหน้าตาซื่อๆ แถมยังเป็นลูกครึ่งอีกด้วย " ชื่อบิวสินะ งั้นเริ่มทำงานวันพรุ่งนี้ได้เลย" "ผมขอเริ่มงานวันนี้ได้เลยเลยได้ไหมครับ" "ก็ได้แล้วแต่นาย" เธอให้เขาเริ่มงานทำวันพรุ่งนี้แต่เขาพร้อมที่จะเริ่มงานทำในวันนี้เลยเธอจึงให้เขาได้เริ่มงานทำที่ร้านโดยเป็นเด็กเสิร์ฟอาหารทันที
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
แอบมองเธออยู่นะจ้ะ แต่เธอไม่รู้เลย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A