บทที่1 คนงานใหม่ (4)   1/    
已经是第一章了
บทที่1 คนงานใหม่ (4)
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในห้องทำงานเงียบสงบและเย็นสบายเพราะเครื่องปรับอากาศนั้น มีผลต่อใบหน้าสวยจัดที่กำลังคร่ำเคร่งกับบัญชีค่าแรงลูกน้อง หญิงสาวขมวดคิ้วยุ่งก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ “ค่ะเตี่ย” สุชีรากรอกเสียงเนิบ ๆ ลงไป “มีแขกมาหา กลับมาบ้านหน่อยสิอาขม” คำสั่งของเถ้าแก่ใหญ่ทำให้คิ้วโก่งรับกับโครงหน้าหวานย่นเข้าหากัน “สำคัญหรือเปล่าคะ?” “คิดว่าสำคัญนะ” พรทวีตอบไม่เต็มเสียงนัก และบุตรสาวก็จับอารมณ์ที่แฝงในน้ำเสียงนั้นได้ “ถ้าไม่สำคัญอะไรมากเตี่ยรับเรื่องไว้เลย ขมยังมีงานที่ต้องจัดการให้เสร็จอีกเยอะ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังแล้วดีดลูกคิดไปมาเพื่อให้เสียงกระทบของลูกไม้ดังเข้าไปในโทรศัพท์ “ไม่ได้นะอาขม คุณทศพลเขาบอกว่าต้องอยู่คุยกับเราให้ได้ เห็นว่าเป็นธุระสำคัญเรื่องทะเบียนเรือที่เรายื่นเอกสารไว้นั่นล่ะ” สุชีรารับฟังและเงียบไปอึดใจ ก่อนคว้ากาแฟหอมกรุ่นขึ้นมาจิบ “งั้นให้รอไปก่อน เดี๋ยวขมจัดการธุระทางนี้เสร็จแล้วจะรีบไป” “อย่าช้าล่ะ เดี๋ยวเตี่ยต้องรีบไปทำธุระข้างนอก” พรทวีไม่วายกำชับ “ค่ะ” สุชีรารับคำอย่างเซ็ง ๆ แล้วตัดสายทิ้งก่อนลุกขึ้นมาเดินยืดเส้นยืดสายหลังจากนั่งอยู่กับเก้าอี้ทำงานร่วมสองชั่วโมง เธอสาวเท้ามาหยุดที่กรอบหน้าต่างที่มีตู้ปลาทองตั้งอยู่ จากนั้นจึงกวาดสายตาคมเฉี่ยวไปยังบ้านไม้ซึ่งตั้งห่างจากตัวออฟฟิศที่ประกอบขึ้นจากตู้คอนเทนเนอร์พอสมควร บ้านไม้ทาสีน้ำมันสองชั้นยกใต้ถุนสูงเพื่อเก็บอุปกรณ์ช่างและเครื่องมือสำหรับใช้ต่อเรือยังเด่นเป็นสง่าแม้จะผ่านอายุการใช้งานมาร่วมสิบปี รอบ ๆ บริเวณร่มรื่นเพราะโอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย ทั้งกินได้และให้ความสวยงาม บางต้นที่ยืนหยัดคู่กับอู่ต่อเรือแห่งนี้มีอายุมากกว่าเธอด้วยซ้ำ และต้นไม้ที่ให้ร่มเงาในบ้านนี่เองที่บดบังทัศนียภาพรอบบ้านไว้เกือบหมด เธอจึงไม่เห็นผู้มาเยือน เยื้องจากบริเวณบ้านมาประมาณสามร้อยเมตร ทุกอย่างอยู่ในสภาพตรงกันข้ามกับตัวบ้านโดยสิ้นเชิง ลานกว้างโล่งเตียนปราศจากต้นไม้ พื้นทางเดินเต็มไปด้วยเศษขี้เลื่อย คราบสีที่หยดเป็นดวง ๆ เศษไม้ท่อนเล็กท่อนน้อยที่ถูกตัดทิ้งจากการต่อเรือ มุมหนึ่งซึ่งอยู่ชิดกับริมรั้วมีกระป๋องสีจัดเรียงไว้จนสูง ถัดจากตรงนั้นไปเล็กน้อยเป็นบ้านพักคนงานซึ่งถูกปลูกสร้างให้เป็นห้องแถวอยู่ติดคลอง ถัดมาเป็นโรงเก็บไม้รวมทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายใต้หลังคายกสูงกินพื้นที่หลายร้อยตารางเมตรมีโครงเรือประมงขนาดใหญ่ยักษ์ตั้งอยู่หลายลำ ที่นั่นเป็นจุดกำเนิดเรือประมง และตอนนี้ภายในอาคารไม้นั้นเต็มไปด้วยความวุ่นวาย คนงานของเธอกำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้น หญิงสาวยกมุมปากขึ้นเมื่อความไร้ระเบียบถูกเธอจัดการให้เข้าที่เข้าทาง จากนั้นจึงเดินกลับมาทิ้งสะโพกกลมบนเก้าอี้ตัวนุ่มแล้วนั่งทำงานของตัวเองต่อ สิบนาทีถัดมาเสียงโทรศัพท์มือถือจึงดังขึ้นอีกครั้ง สุชีรากดปุ่มรับแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูโดยไม่พูดอะไร “อาขม คุณทศพลรอนานแล้วนา อย่าเสียมารยาทสิ” พอโดนตามตัวรอบสองและกระตุ้นด้วยน้ำเสียงเข้มงวดกว่าเก่า หญิงสาวจึงเม้มปากเป็นเส้นตรงจนเห็นรอยบุ๋มที่ข้างแก้มแล้วกรอกเสียงเอื่อย ๆ ลงไป “ไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ” วางโทรศัพท์ลงสุชีราจึงคว้าหมวกปีกกว้างมาสวม จากนั้นจึงล็อคออฟฟิศแล้วเดินลงมาเอารถมอเตอร์ไซค์คันเก่าคู่ใจ ทว่าเสียบลูกกุญแจและยังไม่ทันได้ใช้งานเพื่อนคู่ใจ เธอจึงพบกับปัญหาใหม่ที่ชวนให้ปวดหัวและทำให้แก้มกระตุกขึ้นทันที “กล้าดียังไงถึงมาปล่อยยางลมรถมอเตอร์ไซค์ฉัน!” หญิงสาวขบฟันบนริมฝีปากล่างด้วยฟันกระต่ายคู่หน้าแล้วกวาดสายตาไปทั่วบริเวณเพื่อหา ‘ตัวการ’ เธอไม่พบใครสักคนนอกจากความเงียบ อีกอย่างตอนนี้เป็นช่วงใกล้พักกลางวัน คนงานบางส่วนที่ไม่ออกไปกินข้าวข้างนอกจึงทะยอยไปรวมตัวกันอยู่ที่โรงครัว พอทำอะไรไม่ได้สุชีราจึงจำใจต้องพึ่งสองเท้าของตน หญิงสาวกลับขึ้นออฟฟิศเพื่อไปเอาร่ม จากนั้นจึงกลับลงมาเอาลูกกุญแจที่เสียบไว้คารถมอเตอร์ไซค์ ระหว่างดึงลูกกุญแจเก็บเข้ากระเป๋า หญิงสาวถึงกับสะดุ้งเมื่อใครบางคนเข้ามาใกล้จนเกือบประชิดตัวโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง “อุ้ย!” ไม่อุทานอย่างเดียว สัญชาตญาณป้องกันตัวทำให้เธอหันไปฟาดร่มใส่คนงานที่ทำให้ตกใจแบบไม่ยั้ง และบรรไดเสียงร้องโอดโอยเหมือนจะแกล้งให้เธอหัวเสียเล่นมากกว่าจริงจังนั้น จึงทำให้สุชีราหยุดมือ “โอ๊ย” ผู้ย่องเข้ามาเงียบ ๆ ที่เอามือป้องกันตัวเองโดยไม่คิดต่อสู้ส่งเสียงร้อง เมื่อรู้ว่าหญิงสาวหยุดมือแล้วจึงร้องโอ๊ย ๆ อีกครั้งเป็นการทิ้งท้ายแล้วยิ้มทะเล้นให้ “ทำไมคนงามใจร้ายจังเลยครับ” ผู้เจอฤทธิ์แม่เสือสาวเข้าไปเต็ม ๆ อย่างชนินทร์สะบัดมือห้อยต่องแต่ง แต่ไม่วายฉีกยิ้มฟันขาวให้หญิงสาว “เพื่อนเล่นนายเหรอ!!” สุชีราแว้ดเสียงเขียว “แล้วใครใช้ให้นายมาอยู่ที่นี่ ยังอยู่ในเวลางานไม่ใช่เหรอ?” “พักกลางวันแล้วครับเจ้านาย” ชนินทร์ตอบไม่วายส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ยมาให้ สายตานั้นก็ทำให้สุชีราหายใจไม่ทั่วท้อง เธอไม่เคยปล่อยให้คนงานเข้าใกล้อย่างนี้มาก่อน โดยเฉพาะคนงานต่างด้าวและพวกขี้คุกที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเหมือนนายคนนี้! หญิงสาวสูดอากาศเข้าปอดเพื่อสงบอารมณ์ของตัวเอง “พักกลางวันแล้ว ก็ไปหาข้าวหาปลาที่โรงครัวกินสิ” “ผมอิ่มแล้วครับ” ชายหนุ่มยิ้มแฉ่งขณะตอบ “อิ่มแล้วก็กลับไปทำงานซะ!!” หญิงสาวตวาดไล่แล้วเป็นฝ่ายจ้ำเท้าหนีมา ทว่าชนินทร์ก็ก้าวยาว ๆ เพียงไม่กี่ก้าวมาดักหน้าเอาไว้ ความสูงของเขาข่มให้เธอตัวเล็กจ้อยลงไปถนัดตา และกิริยาอวดดีนั่นก็สร้างความไม่พอใจให้สุชีรามากกว่าเดิม หญิงสาวปิดเปลือกตาลงแล้วนับหนึ่ง นับสอบ นับสาม นับสี่ นับห้าในใจ ก่อนลืมตาขึ้นสบกับดวงตาคมคายเจ้าชู้ของอีกฝ่าย “ถอยไป!” หญิงสาวเค้นเสียงเย็น สายตาดุราวนางเสือวาววับขณะจับจ้องที่ใบหน้าสีทองแดงยียวนกวนประสาท ยิ่งเห็นหนวดเครารุงรังและทรงผมหยิกหย็องเหมือนฝอยขัดหม้อ สุชีรายิ่งนึกรังเกียจ ทว่าคนล้อเลียนกลับกอดอกเอียงคอยกคิ้วขึ้นสูง “ถอยหน้า หรือถอยหลังครับเจ้านายคนสวย?” “บ้าเอ๊ย!” หญิงสาวสบถหัวเสียเมื่อโดนท้าทายซึ่ง ๆ หน้าก่อนตวาดไล่ “จะถอยไปตายเลยก็ได้!”
已经是最新一章了
加载中